ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – Chapter 97 : เจ้าเป็นคนต่อไป

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything ตอนที่ 97 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ในอนาคต คนอื่นคงไม่คิดว่าข้าได้เปลี่ยนกลายเป็นพวกสมบัติสวรรค์ที่มีชีวิตใช่ไหม?”

 

เฉินเฉินแอบกังวล

 

ในความเป็นจริงแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนกับเซียวฮวง เพียงแค่เลือดจำนวนเล็กน้อยของเขาก็เพียงพอต่อการใช้เป็นยารักษาแล้ว

 

เขาถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะหยิบดาบสังหารมังกรออกมาเฉือนแขนตัวเองอีกหนึ่งครั้ง ยังไงก็ตามครั้งนี้เขามองเห็นแผลตัวเองฟื้นตัวด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

“มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เลือดไหลเนี่ย…”

 

เฉินเฉินพูดไม่ออก เขากดดาบสังหารมังกรลงไปบนแผลของตัวเองจนทำให้เลือดไหลหยดมาบนตัวดาบและกดมันเข้าใส่ไข่เต่าดำ เมื่อทำแบบนี้แล้วเขารู้สึกแย่เหมือนกัน

 

หลังจากปลดเลือดไหลไปร้อยมิลลิลิตร เฉินเฉินก็วางดาบสังหารมังกรลง

 

ไข่เต่าดำที่วางอยู่ด้านหน้าเขาซึ่งถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดง เลือดส่องประกายออกมาก่อนที่มันจะดูเหมือนซึมเข้าไปในตัวไข่

 

ทันใดนั้น ไข่เต่าดำดูส่องประกายออกมาและพลังงานเลือดที่แน่นหนาก็ระเบิดออกมาจากด้านใน

 

บึ้ม!

 

พร้อมกับเสียงแตกหักเล็กน้อย รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนเปลือกไข่เต่าดำ

 

หลังจากนั้นมันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรต่อ

 

“ระบบ อะไรคือของล้ำค่าที่สุดในระยะ 30 เมตร?”

 

“มันคือไข่เต่าดำที่กำลังจะฟักอยู่ด้านหน้าเจ้าของค่ะ”

 

เฉินเฉินพึงพอใจกับคำตอบของระบบมาก

 

ไข่ที่เกือบตายกำลังจะฟักตัวออกมา ซึ่งมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มาก ยังไงก็ตามไข่ก็ยังจำเป็นต้องรับเลือดไปอีกจำนวนมาก ถ้ามันต้องการจะฟักออกมาเป็นตัว

 

เฉินเฉินไม่สามารถที่จะทำให้ตัวเองเลือดไหลไปมากกว่านี้ได้ เขาไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

 

หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เฉินเฉินได้หยดน้ำระฆังสวรรค์ออกไปไม่กี่หยดบนเปลือกไข่และเก็บไข่เต่าดำลงกระเป๋าสัตว์อสูร

 

….

 

ในเช้าวันต่อมา ผู้สืบทอดทั้ง 36 สำนักและสำนักเล็กอีก 16 สำนักได้รวมตัวกันอยู่ตรงหน้าสังเวียน

 

พวกเขาหลายคนได้หายไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักไปเมื่อวันก่อนและยังฟื้นตัวไม่ทัน

 

เมื่อฉงเย่เห็นหลินจินและคนอื่นที่ดูแข็งแรงดี เขาแสดงออกให้เห็นถึงความประหลาดใจในดวงตา

 

หลินจินและเย่หวู่เชิงถูกเขาทำร้ายไปเมื่อวันก่อน แต่พวกเขากลับสภาพเป็นปกติดีในวันนี้ มันเหมือนกับว่าสำนักพยัคฆ์ขาวและสำนักมังกรมรกตมีรากฐานที่ดีเยี่ยม

 

ยังไงก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำร้ายกลับอีกครั้งไม่ได้

 

ยังไงก็ตามหลังจากที่จ่ายราคาที่เจ็บปวดไปเมื่อคืนวาน สำนักแต่ละสำนักต่างได้รับบทเรียนกันหมดแล้ว เมื่อฉงเย่ท้าทายเย่หวู่เชิงอีกครั้งหนึ่ง เย่หวู่เชิงเลือกที่จะยอมแพ้ทันที แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ถูกตีตราว่าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อนจะต่อสู้

 

มันช่วยไม่ได้ ตั้งแต่ที่พวกเขาได้มอบเหรียญตราเจ้าสำนักไปเมื่อคืนวาน เขาไม่สามารถที่จะขายร่างกายตัวเองได้อีกแล้วในวันนี้

 

ในตอนนี้กลยุทธ์ของเขาคือการรักษาพลังงานเอาไว้และพยายามอย่างดีที่สุดในการต่อสู้ตอนกลางวันของวันรุ่งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นหนึ่งใน 36 สำนักก็ตาม พวกเขาจะต้องรับความรู้สึกนี้เอาไว้

 

ในยามนี้ เฉินเฉินกำลังนั่งอยู่บนเวทีสูง เขากำลังมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนและค้นพบว่ามันน่าเบื่อมาก ผู้สืบทอดแทบจะไม่ได้สู้กันและยอมแพ้กันทันทีที่เข้าไปในสังเวียน แล้วมันจะมีอะไรให้เขาดูอีกกันละเนี่ย?

 

ด้วยเหตุนี้นี่เขาจึงงีบหลับ ในตอนที่กำลังดูอยู่

 

ในตอนกลางวัน มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์

 

สำนักอย่างสำนักมังกรมรกตและสำนักวิหคสีชาดไม่เพียงแต่จะรักษาตำแหน่งของสำนักพวกเขาได้แล้ว พวกเขายังสามารถรักษาสถานะของสำนักพันธมิตรได้อีกด้วย

 

ยกตัวอย่างเช่น สำนักเทียนหยุนได้ช่วยสำนักโยวฉุย ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นพันธมิตรกันระหว่างพวกเขา

 

ด้วยเหตุนี้นี่เอง หลังจากที่ฉงเย่ใช้โอกาสของตนในการท้าทายคนอื่นแล้ว ผู้สืบทอดชั้นยอดจากสามสิบหกสำนักต่างเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง

 

ถึงแม้ว่ามันจะมีกลุ่มคนหลายคนที่เลือกที่จะท้าทายสำนักที่พ่ายแพ้วิชาการต่อสู้ของพวกเขาก็ตาม

 

สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถที่จะเอาชนะวิชาของแต่ละฝ่ายได้

 

ยังไงก็ตาม มันไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่สำหรับผู้สืบทอดหลายสำนักจาก 18 สำนักที่พ่ายแพ้ไป แม้แต่ผู้สืบทอดสำนักซวนปิ่ง ผู้สืบทอดสำนักที่อ่อนแออีกสำนักก็ท้าทายเย่หวู่เชิง ซึ่งผู้สืบทอดสำนักนั้นขอยอมแพ้อย่างรวดเร็วอย่างไม่คิด เขาถอยกลับไปและกลับมายึดครองตำแหน่งของพันธมิตรเขา

 

เซียวฮวงและคนอื่นเห็นดังนี้และต่างทำตาม เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น มันมีร่องรอยของความโกรธปรากฏขึ้นในดวงตาของฉงเย่

 

ไม่มีผู้สืบทอดคนไหนเป็นคนโง่เขลา เพื่อที่จะรั้งตำแหน่งสามสิบหกสำนักเอาไว้ พวกเขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำได้ พวกเขาจะไม่ทำอะไรจนกระทั่งพวกเขาได้ใช้โอกาสในการท้าชิงผู้อื่นไปแล้ว

 

ถ้ามันเป็นไปตามแผนของพวกเขาแล้ว สำนักมังกรมรกตและสำนักพยัคฆ์ขาวจะยังคงอยู่ในสามสิบหกสำนักต่อไป

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาหันกลับไปมองยังฉีปู่ฝาน

 

ฉีปู่ฝานพยักหน้ากลับเล็กน้อย

 

ในเวลานี้เอง หลินจินพึ่งจะเอาชนะผู้สืบทอดจากสิบแปดสำนัก เมื่อเห็นว่าสำนักพันธมิตรกำลังจะท้าชิงหลินจิน สีหน้าของฉีปู่ฝานหมองลงไปทันทีและเขาก็ส่งแรงกดดันมหาศาลที่มองไม่เห็นออกมายังผู้สืบทอดที่กำลังจะพูดขึ้น

 

ผู้สืบทอดที่อยู่เพียงขั้นท้ายของขั้นสร้างรากฐานไม่ได้ทันได้ตั้งตัว เขาโอดครวญออกมาโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น เขาหวาดกลัวเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมา

 

เมื่อเขากลับมาตั้งสติได้แล้ว ฉีปู่ฝานก็เดินเข้ามาในสังเวียนแล้ว

 

“หลินจิน เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ต้องการที่จะพักนี่นา เจ้าไม่ได้เสียใจกับการตัดสินใจของเจ้าไปใช่ไหม? ถ้าเจ้าไม่ได้คืนคำพูด มาประลองกับข้าสิ”

 

เมื่อเห็นฉีปู่ฝานเดินเข้ามาในสังเวียน หลินจินหงุดหงิดเล็กน้อย ความสามารถของฉีปู่ฝานไม่ได้แย่เท่าไหร่ ถ้าเขาประลองกับเขาตอนนี้ เขาจะไม่มีสภาพสมบูรณ์แบบในการต่อสู้วันรุ่งขึ้น

 

หลินจินดูลังเลใจ ฉีปู่ฝานจึงเยาะเย้ยเขาขึ้นมา “เจ้าพูดว่าวันนั้นนี่ว่าข้าไม่ได้เหมาะสมที่จะเป็นศิษย์พี่ของเจ้า เจ้าเลือกที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อข้าแล้วงั้นเหรอ?”

 

ตาของหลินจินจ้องเขม็งกลับไปทันที อย่างน้อยเขาก็เป็นอันดับสองของผู้ฝึกตนชั้นยอดและเป็นผู้สืบทอดของสำนักมังกรมรกต เขาจะทนต่อคำยั่วยุแบบนั้นได้อย่างไรกัน?

 

นอกจากนี้แล้ว ฉีปู่ฝานก็เป็นแค่คนที่เกาะคนอื่นไปทั่ว เขากล้าทำตัวเย่อหยิ่งแบบนั้นเนี่ยนะ?

 

เมื่อมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวตัวเองแล้ว หลินจินตอบกลับอย่างเย็นชา “เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว มาประมือกันดีกว่า มาให้ข้าดูดสิว่าสมาชิกของสำนักเล็กๆอย่างเจ้าจะเหมาะสมกับอันดับสามหรือเปล่า!”

 

หลังจากพูดจบ หลินจินคำรามขึ้นไปบนอากาศและแขนขวาของเขาขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา แขนขวาทั้งแขนของเขาได้หนาและใหญ่จนเหมือนกับเป็นกรงเล็บมังกร มันเต็มไปด้วยพลังงานที่มากมายในมือข้างนั้น

 

ด้วยแขนของเขาข้างนี้แล้ว ใบหน้าของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวไปครึ่งหน้า เมื่อเกล็ดมังกรเริ่มปรากฏตัวขึ้นบนใบหน้า

 

นี่มันเป็นครั้งแรกที่หลินจินเอาจริง ยามที่เขาเผชิญหน้ากับฉงเย่ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มีสภาพเช่นนี้เลยด้วยซ้ำ!

 

“มันมีข่าวลือว่าเจ้ามีสายเลือดของอสูร ฮ่า ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงสินะ คนอย่างเจ้ากล้าดียังไงที่เรียกตัวเองว่าผู้สืบทอดที่เป็นมนุษย์กัน!”

 

ฉีปู่ฝานมีปากคอที่เลาะร้ายมาก

 

ปัง!

 

ทันทีที่เขาพูดจบ หลินจินคำรามออกมาและคลื่นพลังมังกรก็ปกคลุมไปทั่วสังเวียน วินาทีต่อมากรงเล็บมังกรก็พุ่งเข้าใส่ฉีปู่ฝาน

 

ก่อนที่กรงเล็บมังกรจะมาถึงตัวของฉีปู่ฝาน สนามของสังเวียนก็เริ่มแตกหักไปแล้ว

 

พลังของแขนข้างนี้ของเขานั้นเกือบจะก้าวข้ามขั้นสูงของขั้นสร้างรากฐาน!

 

เมื่อเผชิญหน้ากับกรงเล็บที่เข้ามา ฉีปู่ฝานพึมพำ “เปลวเพลิงความสงบดับสิ้น”

 

ในชั่วพริบตา เปลวเพลิงสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากผืนดิน เปลวไฟมันแปลกประหลาดมากในสังเวียน ซึ่งมันลุกไหม้โดยที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออะไร ยังไงก็ตามเมื่อมันสัมผัสกับกรงเล็บมังกรของหลินจิน มันก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก

 

“ฮ่า คิดว่าข้าไม่รู้จักเจ้าหรือยังไง? เปลวเพลิงความสงบดับสิ้นนั้นเชี่ยวชาญในการเผาไหม้ลมปราณและสถานะของเจ้าตอนนี้มันใช้พลังปราณจำนวนไม่น้อยเลยสักนิด ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทนอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน!”

 

ฉี่ปู่ฝานหัวเราะอย่างเยือกเย็น ในเวลาเดียวกัน เปลวเพลิงดำลุกไหม้ขึ้นทั่วร่างของหลินจิน

 

ถ้าหลินจินเลิกใช้พลังปราณของตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้วเปลวเพลิงดำนี้ก็จะหายไปตามธรรมชาติ

 

ยังไงก็ตามการเลิกใช้พลังปราณก็ไม่ได้แตกต่างจากการยอมแพ้

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วสีหน้าของหลินจินดุดันขึ้นทันทีและพลังที่ไม่มีอะไรเทียบได้ระเบิดออกมาจากร่างบางๆของเขา

 

“ตาย!”

 

บึ้ม!

 

เปลวเพลิงดำยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง ยังไงก็ตามหลินจินไม่สนใจเลยสักนิด ในชั่วพริบตาเขาได้ใช้พลังปราณทั้งหมดจากร่างกายของเขาไปแล้ว เขาปลดปล่อยฝ่ามือที่มีพลังที่ไม่มีอะไรต้านทานได้ออกไป!

 

แรงระเบิดเกิดขึ้นในสังเวียนและฉี่ปู่ฝานที่อยู่ใจกลางก็ถูกส่งกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทก

 

เพียงแค่เขากำลังจะตกจากสังเวียน ฉี่ปู่ฝานก็ได้หยุดร่างกายไว้และหยุดตัวเองไว้ตรงขอบสังเวียน

 

ยังไงก็ตาม เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดไปแล้ว ด้วยเหตุนี้มันจึงเปิดเผยชุดที่ส่องประกายวิบวับออกมาด้านใน

 

ถุ้ย!

 

ฉีปู่ฝานพ่นเลือดออกมา สีผิวของเขาดูซีดขาวมาก ยังไงก็ตามปากของเขายังคงยิ้มขึ้นมา

 

เขาได้ป้องกันการโจมตีที่รุนแรงของหลินจิน

 

พร้อมกับความดุดันในดวงตาของเขา ฉีปู่ฝานมองไปที่หลินจินที่พลังปราณลดลงจากเปลวเพลิงดำ ซึ่งอยู่ใจกลางของสังเวียน เขาหยิบน้ำอมฤตออกมาจากกระเป๋าและกลืนมันลงไป

 

ทันทีที่เขากลืนยาลงไป แผลของเขาฟื้นตัวด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้สืบทอดก็มองไปที่ฉงเย่กันทั้งหมด

 

น้ำยาอมฤตที่สามารถฟื้นแผลได้เร็วขนาดนั้นจะต้องเป็นน้ำอมฤตไร้หัวใจของสำนักอู๋ซิ่น!

 

ยังไงก็ตาม น้ำอมฤตนี้ไม่มีทางที่คนนอกจะได้รับมันและตอนนี้ฉีปู่ฝานก็กลืนมันลงต่อสาธารณะแบบนี้แล้ว มันหมายความว่าเขาตั้งใจที่จะเปิดเผยว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับสำนักอู๋ซิ่น!

 

“ฮ่า ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าจะเอาชนะข้าเมื่อไม่กี่วันก่อนหรือไง? เป็นไงละ? เจ้าพ่ายแพ้แล้วไม่ใช่หรือไง? ผู้ที่เป็นอันดับสองของรัฐจิน มันดูไม่มีค่าอะไรเลยนี่นา!”

 

ฉีปู่ฝานเดินเข้าหาหลินจินและเยาะเย้ยเขาที่ใบหน้า เมื่อเขาเกือบจะทำเสร็จแล้ว เขาก็เตะขาของหลินจินไปสี่ครั้งเพื่อระบายความโกรธเคืองที่เขามี

 

ชั่วขณะต่อมา เขาเตะไปที่หลินจินอย่างแรงจนส่งเขากระเด็นออกไปนอกสังเวียน

 

พลังของการเตะนี้ถูกพบเห็นกันท่ามกลางฝูงชน ถ้าหลินจินไม่ได้เป็นครึ่งอสูรแล้ว การเตะนี้มันก็มากพอที่จะทำให้เขาตายได้เลย

 

ผู้สืบทอดที่เห็นมีสีหน้าที่ซับซ้อนมาก หลินจินผู้เป็นอันดับสองของรัฐจินและเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสามสิบหกสำนักพ่ายแพ้

 

‘การประลองจัดอันดับจะเป็นไปตามแผนไหมเนี่ย?’

 

‘พวกเราไม่สามารถจัดการกับฉงเย่ได้และนี่มีฉีปู่ฝานอีก’

 

ยิ่งแย่ไปกว่านั้น ฉีปู่ฝานยังเป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ หลินจินพึ่งจะต่อปากต่อคำกับเขาไป เขาตัดสินใจที่จะจัดการแล้ว

 

ผู้สืบทอดต่างตกใจกับการกระทำที่รุนแรงของฉีปู่ฝานและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นจากดวงตาของคนที่อยู่รอบข้างเขาแล้ว ฉีปู่ฝานก็พึงพอใจมาก ยังไงก็ตาม วินาทีต่อมามันก็มีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา เขามองไปยังอันดับที่สิบสี่ในสามสิบหกที่นั่ง

 

“เฉินเฉิน เจ้าดูเพลิดเพลินกับการประลองนี้ดีนะ? ข้ามีข่าวดีกับเจ้า เจ้าจะเป็นคนต่อไป ถ้าเจ้ามีความกล้ามากพอแล้วอย่ายอมแพ้ละ”

 

ผู้สืบทอดต่างมองไปที่เฉินเฉินที่นั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเงียบงัน มันมีร่องรอยของความสงสารปรากฏขึ้นในดวงตา

 

ฉีปู่ฝานเป็นคนที่เก็บความแค้นไว้นานมาก แม้ว่าจะตอนนี้ก็ตอนเขายังคงเก็บความแค้นที่เฉินเฉินได้ทำร้ายจูตี่ของสำนักโฮ่วตู่เอาไว้ได้ เมื่อเขาจัดการกับหลินจินเสร็จแล้ว เขาจึงเปลี่ยนความสนใจกลับไปยังเฉินเฉินอีกครั้งหนึ่ง

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด