Advent of the Archmage – Chapter 42: ผีของวิกเตอร์ 1

อ่านนิยายจีนเรื่อง Advent of the Archmage ตอนที่ 42 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ถ้าแห่งความเงียบ

 

วิกเตอร์ ยังคงฝังตัวเองอยู่กับงานตรวจสอบเอกสารของเขาในห้องสมุด เขาไม่สนใจเรื่องของผู้บุกรุกเลย

 

มีเอกสารจำนวนมากที่เขาจะต้องจัดการ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงินจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด

 

โอ้ว โบรวเวลค้างค่าเช่าคฤหาสน์มา2สัปดาห์แล้วหรอเนี่ย? ถึงเวลาที่จะสอนบทเรียนที่รุนแรงให้พวกมันแล้วหล่ะ! ต่อไปก็, คณะผู้ติดตามของเจ้าหญิง แอนนี่ จะเดินทางผ่านริเวอร์โควฟในเดือนหน้างั้นรึ? งั้นต้องไปบอกให้พวกพี่น้องของเราเก็บอาวุธไว้ก่อนดีกว่า พวกเราไม่อยากรบกวนการเดินทางของท่านหญิง ยังไงก็ตาม นับตั้งแต่เหตุการณ์ภัยพิบัติที่แกลดสโตนผู้คนจำนวนมากก็แห่กันไปทางใต้ ฮี่ฮี่ นับว่าเป็นโอกาสดีที่ข้าจะได้เหรียญทอง

 

วิกเตอร์ มีงานกองอยู่เยอะดังนั้นเขาจึงต้องจัดการกับเอกสารแต่ละฉบับอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เขาชอบความรู้สึกของอำนาจที่เขาได้รับ โดยการถือชะตากรรมของผู้อื่นไว้ในมือของเขา เขาไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อหรือไม่น่าสนใจเลย

 

เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ในตอนที่ได้ยินเสียงดังจากนอกห้องของเขา มันคือเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ

 

เสียงเท้าไม่มั่นคงเลย พวกมันคงกำลังกลัวอยู่สินะ วิกเตอร์ สรุปได้จากเสียงฝีเท้า

 

จากด้านนอกเสียงของ คอลลินส์ ผู้เป็นมือขวาของเขาพูดขึ้นมา “ท่านผู้นำเรามีปัญหาแล้วครับ!”

 

วิกเตอร์ ตกใจเขาไม่สามารถตอบสนองได้ เขาเริ่มทำการคิดไตร่ตรองกับตัวเองแล้ว แล้วเขาก็เชื่อมโยงปัญหาที่ คอลลินส์ เพิ่งกล่าวถึงเกี่ยวกับการบุกรุกในอ่าวเมื่อก่อนหน้านี้

 

จำนวนคนน้อยขนาดนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้ยังไงกัน? เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นนักรบเลเวล 6 แต่นักรบเวล 6 จะมีธุระอะไรกับแมลงตัวเล็ก ๆ อย่างเขากัน?

 

“พูดมา” ในที่สุด วิกเตอร์ ก็ตอบ

 

วิกเตอร์ วางเอกสารอย่างรวดเร็วและเปิดลิ้นชักในห้อง มันคือเกราะหนังสีดำบริสุทธิ์ น้ำหนักเบา คุณภาพพิเศษ พื้นผิวของมันปกคลุมด้วยหมอกสีดำ ตราบเท่าที่เขายังคงอยู่ในความมืดเขาก็จะหายไปจากสภาพแวดล้อมรอบๆและไม่สามารถหาตัวพบได้

 

มันคือเกราะหนังแมว เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เป็นของขวัญที่ได้รับมาจากท่านลอร์ดของเขา

 

วิกเตอร์ รีบถอดเสื้อผ้าธรรมดาที่เขาสวมไว้แล้วเริ่มใส่ชุดเกราะหนังแมวที่ทรงพลัง คอลลินส์ เดินเข้ามาในห้องแล้วพูดอย่างรีบร้อน “พวกมันมากันทั้งหมด 4 คน ตอนนี้ที่อ่าวไม่มีใครรอดกลับมาส่งข้อความได้เลยครับ แม้แต่ในถ้ำบอดี้การ์ดก็ค่อยๆโดนจัดการไปทีละคนๆ ไม่มีใครรอดชีวิตกลับมาได้เหมือนกันครับ “

 

“แล้ว กริ๊นซ์ อยู่ไหน?”

 

“กริ๊นซ์…เขาตายแล้วครับ มีนักเวทย์อยู่ในกลุ่มผู้บุกรุกด้วย” เสียงของ คอลลินส์ สั่นตอนที่เขาพูด

 

ผู้บุกรุกรวดเร็วเกินไป  จริง ๆ แล้วพวกเขาเร็วมากจนไม่มีใครรอดชีวิตเพื่อไปเตือนคนอื่นเลย แม้แต่ข้อความที่ คอลลินซ์ ได้รับมาก็ค่อนข้างคลุมเครือ

 

“อะไรนะ?นักเวทย์งั้นเหรอ?” วิกเตอร์ รู้สึกประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่คิดจะหลบหนีแทนที่จะอยู่เพื่อต่อสู้ นักเวทย์นั้นลึกลับเกินไป เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามแบบนั้น

 

เขาไม่รู้ว่าทำไมนักเวทย์ถึงมาหาเขา เขามักจะระมัดระวังพวกนักเวทย์เสมอ เขาไม่เคยไปยุ่งกับที่ดินของ สถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟเลย แล้วเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

 

เขานึกไม่ออกเลย แต่เขารู้ว่าสิ่งเดียวที่เขาควรทำคือ หนีเอาตัวรอด

 

เขาสวมหมวกเกราะของเกราะหนังแมว จากนั้น วิกเตอร์ ก็รีบจัดการเก็บเอกสารบนโต๊ะของเขา แต่ว่ามันมีมากเกินไป เขาไม่สามารถเอาไปทั้งหมดได้ ดังนั้นเขาเลยเอาไปเฉพาะอันที่สำคัญ

 

เขาใส่เอกสารไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังแล้วแบกมันไว้บนหลัง จากนั้นเขาก็คว้าคริสตัลที่แขกคนพิเศษที่มาก่อนหน้านี้ได้ฝากเอาไว้กับเขา เขาจะนำสิ่งนี้ไปด้วย

 

แขกคนสำคัญคนนั้นก็เป็นนักเวทย์ เขาไม่กล้าที่จะทำให้นักเวทย์ต้องรอนาน

 

นอกเหนือจากอัญมณีล้ำค่าและทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาแล้ว วิกเตอร์ ยังเก็บมีดที่แผ่ออร่าสีดำออกมาด้วย มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์อีกชิ้นหนึ่งของเขา อาวุธพิเศษนี้เป็นของขวัญจาก กริ๊นซ์ ที่ซื้อมันมาด้วยเงินจำนวนมาก

 

เขาใส่มีดเข้าไปในกระเป๋าหนังที่ติดอยู่กับขาแล้วหันไปพูดกับ คอลลินส์ “ไปกันเถอะ เราจะออกไปจากที่นี่”

 

“แล้วพวกพี่น้องของเราหล่ะครับ?” คอลลินส์ ถามซ้ำ  พร้อมกับกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวาย

 

“ข้าช่วยอะไรไม่ได้แล้ว มันสายไปแล้ว”

 

พวกเขาเป็นแค่โจรเท่านั้น และด้วยเงินเขาสามารถจ้างลูกน้องใหม่ได้อย่างง่ายดาย และเงินก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา!

 

คอลลินซ์ พยักหน้าแล้วตาม วิกเตอร์ ไปอย่างเงียบๆ

 

แต่ทั้งสองคนประเมินความเร็วผู้บุกรุกต่ำเกินไป เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 วินาทีนับตั้งแต่ตอนที่พวกเขาออกจากห้องทำงาน ซึ่งในขณะที่พวกเขาเดินตามทางเดินยาวและคับแคบในถ้ำ วิกเตอร์ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการหยุด

 

ด้านหน้าของพวกเขามีคนเถื่อนร่างยักษ์ที่ทั้งร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยออร่าอันเปล่งประกายกำลังปิดกั้นทางของพวกเขาเอาไว้อยู่ ที่ด้านหลังของคนเถื่อนยังมีคนอีก 4 คน คนนึงเป็นนักดาบหญิง, อีกคนนึงเป็นนักธนู และอีกสองคนเป็นคู่ฝาแฝดที่ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่รูปร่างผอมและอ่อนแอ หนึ่งในนั้นคือลิงค์และอีกหนึ่งก็คืออวตารของเขาแม้ว่า วิกเตอร์จะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม

 

บ้าเอ้ย!พวกมันไม่น่ามาได้เร็วขนาดนี้! วิกเตอร์ ขมวดคิ้ว

 

ผู้บุกรุกทั้งหมดได้มายืนอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้ว

 

นักธนู กิลเดิร์น ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ได้ในตอนที่เห็น วิกเตอร์ “ดูสิว่าเราโชคดีขนาดไหนที่ได้มาถึงก่อนที่หนูตัวเล็ก ๆ จะหนีออกไปอีกครั้งหน่ะ?”

 

วิกเตอร์ กับ คอลลินส์ สะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่หลังของพวกเขาอยู่และฝีเท้าของพวกเขาก็ดูเร่งรีบ ซึ่งใครที่เห็นพวกเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าพวกเขากำลังพยายามหลบหนีอยู่

 

คอลลินส์ พูดอย่างติดๆขัดๆ “หัวหน้า พวกเราควรทำอย่างไรต่อดีครับ?”

 

วิกเตอร์ ไม่พูดอะไร เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเอาชีวิตรอดไปได้ยังไง และไม่ต้องพูดถึงการช่วยคนของเขา

 

ดวงตาของ วิกเตอร์ จ้องมองไปที่การเคลื่อนไหวของผู้บุกรุกไม่กระพริบ เขาเดินถอยหลังไปไม่กี่ก้าวจนถึงมุมมืด ความหนาของความมืดทำให้เกราะหนังแมวทำงานแล้วร่างกายของเขาก็ผสมผสานเข้ากับความมืดอย่างสมบูรณ์ราวกับหายตัวไปในอากาศ

 

คอลลินส์ เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าผู้นำของเขาหายตัวไปแล้ว และเขาก็เข้าใจในทันทีว่าเขาถูกทอดทิ้ง ขณะที่เขาเห็นผู้บุกรุกเข้ามาอย่างช้าๆเขาก็ทรุดตัวลงคุกเข่าขอร้อง “ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย!ได้โปรด! ฉันยังไม่อยากตาย!”

 

“ช่างน่าสงสารจริงๆ” ลูซี่ พูดด้วยความรังเกียจ

 

กิลเดิร์น ดึงคันธนูออกมาพร้อมที่จะยิงใส่เจ้าคนขี้ขลาด แต่ว่า ลิงค์ ได้ห้ามเอาไว้และพูดขึ้นมา “ไว้ชีวิตเขาเถอะ เราจะล้วงความลับของ วิกเตอร์ จากเขา”

 

ในตอนแรก ลิงค์ คิดว่าจะไว้ชีวิต วิกเตอร์ แต่ว่าตอนนี้เขาดูอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้รอดชีวิต ซึ่งมันจะดีที่สุดในการที่จะฆ่าเขาที่นี่เลย!

 

ดวงตาของทหารรับจ้างส่องประกาย แน่นอนว่าคนขี้ขลาดคนนี้ดูเหมือนจะเป็นมือขวาของ วิกเตอร์ ซึ่งเขาต้องรู้จักจุดซ่อนลับทั้งหมดที่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นซ่อนสมบัติของเขาเอาไว้อย่างแน่นอน

 

แจกเกอร์ เดินไปหา คอลลินส์ แล้วทุบไปที่คอของเขาด้วยมือข้างเดียว โจรหมดสติไปในทันที

 

“วิกเตอร์หนีไปแล้ว” ลูซี่ ขมวดคิ้ว

 

“มันมีบางอย่างผิดปกติกับเกราะหนังสีดำที่เขาสวม ฉันมั่นใจว่าเขาต้องซ่อนอยู่ในความมืดแน่ๆ ทุกคนระวังตัวเอาไว้นะ วิกเตอร์ เป็นนักฆ่าที่อันตราย” ลิงค์ เตือนทุกคน

 

แจกเกอร์ ก้มตัวลงต่ำแล้วเดินถอยหลังกลับมาหา ลิงค์ ทันที

 

“ปกป้องท่าน ลิงค์ ไว้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ด้วยความที่เป็นทหารรับจ้าง เขารู้ว่านักฆ่าเป็นอันตรายต่อนักเวทย์ยังไง

 

ลูซี่ กับ กิลเดิร์น เข้ามาล้อม ลิงค์ และอวตารของเขา

 

ในความมืดมิด

 

วิกเตอร์ ค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาจ้องไปที่ผู้บุกรุกที่อยู่ภายใต้แสงเทียนสลัวๆตาไม่กระพริบโดยเฉพาะนักเวทย์ทั้งสองที่ถูกล้อมไว้อยู่ตรงกลาง

 

คนพวกนี้มีความสามารถพอๆกัน ยกเว้นไอคนเถื่อนที่ดูเก่งกว่าคนอื่นๆ พวกมันจะต้องพึ่งพลังของนักเวทย์ทั้งสองเพื่อบุกเข้ามาอย่างรวดเร็วแน่ๆ พวกมันดูไม่ค่อยมีอุปกรณ์ป้องกันด้วย ตอนนี้แหละเป็นโอกาสดีของข้า!

 

วิกเตอร์ อยู่ในทางตัน เขาไม่มีทางให้หนี ทางเดียวที่เหลือคือสู้จนตัวตายเท่านั้น

 

ถ้าข้าสามารถฆ่าไอนักเวทย์นั่นได้ ทหารรับจ้างสามคนที่เหลือต้องทำอะไรข้าไม่ได้แน่ๆ และข้าก็จะต้องหนีได้อย่างแน่นอน และเมื่อข้าออกไปได้ ข้าจะจำพวกมันเอาไว้อย่างแน่นอน!

 

ในตอนที่เขาหนีไปได้ เขาจะตั้งค่าหัวของทั้งสามคน เขามั่นใจว่าในเวลาไม่นานต้องมีคนพาตัวทั้งสามคนมาหาเขาอย่างแน่นอน

 

ในขณะที่ วิกเตอร์ กำลังวางแผน เขาก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและหาโอกาสเริ่มทำการโจมตี

 

แต่ว่าเขาประเมิณพลังของนักเวทย์ต่ำไป ถ้าพูดให้ชัดก็คือ เขาประเมิณพลังของ ลิงค์ ต่ำไป เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่เห็นเหมือนภายนอก

 

ลิงค์ อาจจะดูเป็นคนหนุ่มที่ผอมและอ่อนแอ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การอำพราง

 

หลังจากที่เขาเห็น วิกเตอร์ หนีเข้าไปในความมืด ลิงค์ ก็ได้ใช้1แต้มโอมนิซื้อเวทมนตร์ใหม่

 

แสงสว่าง

เวทย์เลเวล 0

ผล:สร้างลูกแก้วแสงที่สว่างเท่ากับเทียน5แท่ง สามารถอยู่ได้นานถึง1ชั่วโมง

 

เวทย์เลเวล0ที่ใช้2แต้มมานาต่ออัน แต่มันก็เพียงพ่อที่จะทำให้ทางเดินสว่างเหมือนมีเทียน5 แท่ง  ลิงค์ เหลือมานาอยู่ไม่มากแต่ว่าเขายังมียามานาที่เขาพกติดตัวเอาไว้อยู่

 

เขาดื่มยาเพื่อฟื้นฟูมานาในทันทีแล้วเรียนเวทย์แสงสว่างไปพร้อมกัน จากนั้นเขาก็เริ่มที่จะร่ายมนตร์

 

นี่เป็นเวทย์รูปแบบปกติ ความเร็วในการร่ายคือ0.1วินาที ลิงค์ ร่ายมัน 10 ครั้งอย่างไม่ลังเล แล้วนำมันไปวางตามทางเดิน  บอลแสงแต่ละอันห่างกัน6ฟุต และในมุมมืด เขาจะวางบอลแสง 2 ลูก

 

ทางเดินที่มืดมิดได้สว่างขึ้นด้วยแสงสว่างในทันที

 

ความมืดมิดคือรังที่ปลอดภัยของนักฆ่า เมื่อความมืดถูกลบหายไป นักฆ่าก็จะสูญเสียความแข็งแกร่งและความได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของเขาไป

 

ในมุมมืดที่ถูกทำให้สว่างด้วยแสง วิกเตอร์ ได้ใส่เกราะหนังสีดำหลบซ่อนอยู่ ซึ่งในตอนที่แสงมาถึงเขา เขาได้แต่ยืนงงอยู่เฉยๆ

 

นักฆ่าจะต่อสู้ยังไงถ้าไม่สามารถย่องไปหาคู่ต่อสู้ของเขาได้?

 

ในตอนนั้น วิกเตอร์ เป็นเหมือนกับหญิงสาวที่ถูกฉีกเสื้อผ้าของเธอท่ามกลางตลาดที่วุ่นวาย เขาตกใจและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

 

“ฮ่าฮ่า หนูตัวจ้อยท่ามกลางแสงอาทิตย์!” กิลเดิร์น หัวเราะ เขาเล็งธนูแล้วยิงใส่ วิกเตอร์

 

แจกเกอร์ พุ่งเข้าไปใส่ วิกเตอร์ แต่ว่าลูซี่ยังคงยืนเฝ้าระวังอยู่ข้างๆ ลิงค์ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน

 

ตึง! แกร้ง! ปัง! “อ้า!”

 

ความวุ่นวายเกิดขึ้น จากการประสานการโจมตีของ แจกเกอร์ กับ กิลเดิร์น, วิกเตอร์พยายามตอบโต้การโจมตีของทั้งสอง จากนั้นร่างกายของเขาก็ถูกกระแทกโดยโล่ของ แจกเกอร์ แล้ว ลูซี่ ก็ใช้โอกาสนี้ในการแทงหัวใจของ วิกเตอร์ ด้วยดาบของเธอ

 

เขากรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาน วิกเตอร์ ดื้นพล่านเหมือนกับว่าวที่ไม่มีหาง เขาสะดุดและไอเป็นเลือดออกมาพร้อมกัน เขาถอยหนีไปได้ประมาณยี่สิบฟุตจากนั้นเขาก็เดินผ่านทางเดินหินและล้มลงไปที่พื้นเหมือนกับถุงกระดูก

 

เขาไม่หายใจอีกแล้ว

 

นักฆ่าไม่เหมาะที่จะสู้กับนักรบ นอกจากอาวุธจะคนละระดับกันแล้ว คนหนึ่งใช้มีดที่มีน้ำหนักเบา ขณะที่อีกคนใช้ค้อนสงครามที่หนักและแข็งแรงกับโล่เหล็ก ยิ่งกว่านั้นนี่มันการต่อสู้ 2 ต่อ1 ความจริงการที่ วิกเตอร์ ฝืนให้ตัวเองตายช้าลงจากการโจมตีประสานนั้นก็นับว่าเก่งมากแล้ว

 

ลิงค์ เห็นว่าแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จเด้งมาในหน้าอินเตอร์เฟสของเขา แล้วเขาก็ได้รับแต้มโอมนิเป็นรางวัลเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขามี 13 แต้มโอมนิ

 

“แค่นี้เหรอ?มันจบแล้วเหรอ?” กลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้แทบไม่เชื่อสายตา ภารกิจทั้งหมดมันง่ายเกินไปเมื่อเทียบกับภารกิจอื่นๆที่พวกเขาเคยรับมา นี่มันเหมือนกับการมาพักร้อนชัดๆ

 

“ไม่!มันยังไม่จบ!”

 

ลิงค์ ก็คิดว่าภารกิจจบแล้วเหมือนกัน แต่ว่าเขาเห็นก้อนคริสตัลสีดำกลิ้งออกมาจากกระเป๋าของ วิกเตอร์ คริสตัลสีดำอยู่ท่ามกลางกองเลือดของวิกเตอร์ มีควันสีดำหนาพุ่งออกมาจากมัน

 

ช่วงเวลาที่มีเมฆสีดำปรากฏขึ้นอุณหภูมิในถ้ำก็ลดลงอย่างรวดเร็ว บอลแสงสว่างของ ลิงค์ก็จางลงอย่างมากเช่นเดียวกับแสงเทียนที่ริบหรี่

 

สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเมฆสีดำ มันไหลเข้ารูจมูกของ วิกเตอร์ และร่างของ วิกเตอร์ ก็เริ่มสั่นเล็กน้อย

 

“มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?” กิลเดิร์น ร้องด้วยความกลัว

 

คนตายได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด!

 

ในตอนนั้น ลิงค์ ได้รับการแจ้งเตือนภารกิจใหม่

 

เริ่มต้นภารกิจ:จัดการผี!

รายละเอียดภารกิจ: ฆ่าผีวิกเตอร์

รางวัลภารกิจ: ค่าโอมนิ 30 พ้อยท์

 

ยิ่งรางวัลตอบแทนเยอะก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าภารกิจยิ่งยากขึ้น แค่ฆ่าคนๆเดียวแต่กลับได้ค่าโอมนิถึง 30 พ้อยท์ ลิงค์ เริ่มสั่นและตระหนักได้ว่าผีของวิกเตอร์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน

 

ขนาด ลิงค์ ยังกลัวตัวสั่นเป็นอย่างมาก!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด