ที่หอคอยเวทมนตร์ของ เบล

 

…

 

หลังจากที่ได้รับคำขู่จาก ดาริส, ลิงค์ ต้องทำให้แน่ใจว่าจะอยู่ภายใต้ระยะการตรวจจับและไม่ทำอะไรที่ไปกระตุ้นความสงสัยอีก

 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครเลยและไม่แม้แต่จะติดต่อกับ เอร์เรร่า หรือ เอเลียร์ด เลย เขาอยู่แต่ในห้องของเขาทั้งวันทั้งคืนแทน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเตรียมคัมภีร์เวทมนตร์อยู่

 

เขาผลิตคัมภีร์เวทมนตร์ระดับสูงสุด 15 แผ่นต่อวัน และฝากทั้งหมดนั้นให้ เดเร็ค จัดการ เขาได้รับเงิน 3 เหรียญทองต่อแผ่นดังนั้นเขาจึงได้เงินวันละ 45 เหรียญทอง

 

จากการขายคัมภีร์เวทมนตร์เพียงอย่างเดียวเขาทำเงินได้เกือบ 300 เหรียญทองแล้ว แต่ว่าความร่ำรวยไม่ใช่สิ่งเดียวที่เขาได้รับในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้

 

เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวความความปลอดภัยของตัวเองในสถาบันและผนวกกับการที่ได้รับโภชนาการที่เพียงพอในทุกๆวัน พร้อมทั้งยังมีการทำงานสลับกับพักผ่อนเป็นประจำและด้วยความหนุ่มของเขา ตอนนี้น้ำหนักของ ลิงค์ จึงเพิ่มขึ้นมามาก เขาไม่ได้ดูผอมและอ่อนแออีกต่อไปแล้ว แต่เขากลับมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ความสูงเพิ่มขึ้นจนสูงโย่งแบบแต่ก่อน สรุปเลยก็คือ ตอนนี้ ลิงค์ ดูดีกว่าแต่ก่อนมาก

 

จากนั้น เวลาก็ผ่านไป 5 วันโดยที่ไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น

 

ในเช้าของวันที่ 5 ลิงค์ รู้สึกว่าร่างกายของเขาฟื้นตัวเต็มที่ถึงจุดที่รู้สึกแตกต่างจากเดิมอย่างสมบูรณ์ สติและการรับรู้ของเขานั้นคมชัดขึ้นมากกว่าปกติ

 

เขาได้ยินแม้กระทั่งเสียงแมงมุมชักใยอยู่ที่มุมห้องและเสียงของลมที่ผัดผ่านเข้ามาทางกระจก เขารู้สึกได้ถึงธาตุต่างๆที่ลอยอย่างเด่นชัดอยู่บนอากาศจนแทบจะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้

 

นี่คือผลของการมองธาตุ มันคือความสามารถที่นักเวทย์จะพัฒนาขึ้นมาเองตามธรรมชาติเมื่อพวกเขาแข็งแกร่งในระดับนึง

 

ตรวจสอบสภาพร่างกาย เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ในใจ ก็มีหน้าจออินเตอร์เฟสเด้งขึ้นมา

 

ลิงค์ โมรานี่（ขุนนาง）

นักเวทย์ระดับสูงเลเวล 3

อัตราการฟื้นฟูมานา：5 แต้มต่อชั่วโมง

มานาสูงสุด：660 แต้ม

มานาปัจจุบัน：150 แต้ม

อาวุธ：คทาไม้ขีดไฟ

สภาพปัจจุบัน：โรคมานากำลังหายไป

 

อย่างที่คาดเอาไว้เลย！หลังจากผ่านสามเดือนอันยาวนาน ในที่สุดผลของโรคมานาก็หมดลง

 

ขั้นตอนการหายของโรคมานาน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันเต็ม และในทุกๆชั่วโมง มานาสูงสุดของ ลิงค์ จะค่อยๆสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ยังไงก็ตามเพราะว่าอัตราการฟื้นฟูมานาของเขานั้นช้ามาก มานาของเขาจะฟื้นฟูแค่ 9.8 แต้มต่อชั่วโมงเพียงเท่านั้นต่อให้เขาอยู่ในสภาพเต็มที่ก็ตาม ดังนั้นต่อให้มานาสูงสุดของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มานาของเขาก็ต้องใช้เวลาในการไล่ตาม ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนและไม่ทำอะไรที่ไม่รอบคอบ

 

ณ เวลา 2 ทุ่ม ผลของโรคมานาก็หมดลงอย่างสมบูรณ์

 

ตอนนี้ มานาสูงสุดของ ลิงค์ คือ 1480 แต้ม และมานาในปัจจุบันของเขาคือ 220 แต้ม  เพื่อที่จะให้เขาฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพเต็มที่ ลิงค์ ต้องรออีกมากกว่า 130 ชั่วโมง ซึ่งนั่นก็หมายถึงมากกว่า 5 วัน

 

ความเร็วในการฟื้นฟูมานาของฉันช้าเกินไป ลิงค์ คร่ำครวญ

 

เขารู้ว่านักเวทย์ที่มีความแข็งแกร่งของมานาและพรสวรรค์ที่ดีนั้นต้องการเวลาทั้งหมด 1 วันในการฟื้นฟูมานาทั้งหมดของพวกเขา แต่ ลิงค์ ต้องใช้เวลาถึง 6 วันอันยาวนานในการทำอย่างเดียวกัน เขาตระหนักได้ว่าอัตราฟื้นฟูมานาของเขานั้นเป็นตัวถ่วงในความก้าวหน้าของเขา

 

ลิงค์ คิดอย่างระมัดระวังถึงวิธีที่ดีที่สุดซักพักนึงในขณะที่นอนอยู่บนเตียง ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะใช้แต้มโอมนิที่ตอนนี้เขามีอยู่ 125 แต้ม

 

70 แต้มโอมนิสำหรับการเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานา เขาคิดอย่างเงียบๆ

 

จากนั้น กล่องข้อความก็เด้งขึ้นมาในอินเตอร์เฟส

 

ยืนยัน?

 

ยืนยัน ลิงค์ ตอบ

 

ทันใดนั้น ลิงค์ ก็รู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา มันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างระเบิด หลังจากนั้นความร้อนก็ไหลไปทั่วร่างกายของเขาและเขาก็รู้สึกชาในทุกๆส่วนที่ความร้อนวิ่งผ่าน หลังจากนั้นอาการชาก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดและหลังจากนั้นมันก็ยิ่งปวดแรงขึ้นไปอีก ความเจ็บปวดมันรุนแรงมากจน ลิงค์ ไม่สามารถกลั้นเสียงของตัวเองเอาไว้ได้และเหงื่อก็เริ่มไหลออกมาจากหน้าผากของเขา และมันก็เริ่มไหลลงมาที่หน้าเป็นทาง

 

เกิดอะไรขึ้น? ลิงค์ สงสัย เขาเพียงแค่เลือกเพิ่มความเร็วในอัตราการฟื้นฟูมานาของเขา แล้วทำไมเขาถึงต้องมาทนความเจ็บปวดระดับนี้ด้วย? เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

จากนั้น การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาที่หน้าอินเตอร์เฟส มันคือคำอธิบายจากระบบของเกม

 

ทางเลือกของผู้เล่นได้ก้าวข้ามลิมิตความสามารถตั้งต้นของร่างกาย ระบบเกมกำลังปรับแต่งร่างกายของผู้เล่นให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้

 

ขีดจำกัดความสามารถตั้งต้นหรอ? ลิงค์ ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย

 

ระบบเกมได้ให้คำอธิบายเชิงเปรียบเทียบที่ชัดเจน

 

ร่างกายนั้นก็เหมือนกับถังน้ำและมานาก็เหมือนกับน้ำที่อยู่ภายใน และถังก็มีทางน้ำเข้ากับทางน้ำออก ซึ่งลิมิตของทางเข้าของร่างกายคือ 30 แต้มมานาต่อชั่วโมง ขณะที่ทางออกนั้นลิมิตอยู่ที่ 500 แต้มมานาต่อชั่วโมง เมื่อมีการก้าวข้ามลิมิต ระบบจะต้องทำการปรับแต่งถังน้ำเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและกระบวนการนั้นก็อาจจะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้เล่นได้

 

ลิงค์ เข้าใจมันแล้วตอนนี้

 

เมื่อดูข้อมูลที่ระบบเกมให้มาแล้ว ร่างกายของ ลิงค์ ต้องมีขีดจำกัดความสามารถที่ค่อนข้างต่ำ ลิงค์ คาดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะขึ้นสูงกว่าเลเวล 5

 

ณ ปัจจุบัน นักเวทย์เลเวล 5 อาจจะฟังดูสุดยอด แต่ในอนาคตหากมีปริมาณมานาในสภาพแวดล้อมมากกว่านี้ นักเวทย์เลเวล 5 ก็จะเป็นแค่เพียงนักเวทย์ระดับกลางเท่านั้น

 

ความแข็งแกร่งมักมาพร้อมกับราคาของมันเอง เนื่องจากไม่มีทางอื่นนอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนร่างกายนี้ ลิงค์ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการกัดฟันและทนทุกข์ทรมาน

 

มันรู้สึกเหมือนกับมีใบมีดแทงเขาอยู่ภายใน ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรงเพราะความเจ็บปวด ลิงค์ ได้กัดฟันของเขาลงกับผ้าห่มและรับความเจ็บปวดโดยที่ไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย

 

ความเจ็บปวดนั้นเป็นไปนานกว่า 4 ชั่วโมง และเมื่อทั้งหมดจบลง ร่างกาย ลิงค์ ก็เต็มไปด้วยเหงื่อและใกล้ที่จะสลบเต็มทีแล้ว แต่เขายังคงร่ายเวทย์ทำความสะอาดใส่ตัวเองได้ จากนั้นเขาก็กินขนมที่ ลูซี่ ได้เตรียมมาให้เขาโดยเอามันออกมาจากจี้ หลังจากที่เขาอิ่ม ลิงค์ ก็ไปนอนและหลับลึกในทันที

 

ในเวลาต่อมาที่เขาตื่นขึ้น มันก็เป็นเวลารุ่งสางแล้ว

 

หลังจากที่เขาลืมตาขึ้น ลิงค์ รู้สึกได้ถึงคลื่นมานาที่ไหลอยู่ในร่างกายของเขา

 

มานาสูงสุดของเขาตอนนี้คือ 1480 แต้ม และอัตราการฟื้นฟูมานาของเขาในตอนนี้คือ 79.8 แต้มต่อชั่วโมง เขาเช็กดูที่นาฬิกาพกของเขาและพบว่าเขาได้นอนไปทั้งหมด 15 ชั่วโมง ดังนั้นมานาของเขาต้องเต็มแล้วในตอนนี้

 

ตอนนี้ ถ้า ลิงค์ ไม่ได้ควบคุมมานาของตัวเองไว้ มันจะมีปริมาณมานาอันมหาศาลออกมาจากตัวเขาซึ่งนั้นสามารถเทียบเคียงได้กับที่ ดาริส ปล่อยออกมาเลย!

 

ในที่สุดเขาก็สามารถใช้เวทย์เลเวล 4 ระเบิดเพลิงได้อีกครั้ง หลังจากที่เขาซื้อมันที่แกลดสโตนเมื่อหลายเดือนก่อน

 

ลิงค์ ลุกขึ้นจากเตียงและเปลี่ยนไปใส่เสื้อคลุมสีเทาอันใหม่ เขาร่ายเวทย์กระจกเงาและใช้มันเพื่อจัดความเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้น ลิงค์ ก็เดินออกจากห้องโดยที่เต็มไปด้วยความฮึด

 

มันเป็นเวลา 10 โมงเช้าแล้ว และเมื่อเขาลงมาถึงชั้น1 ลิงค์ ก็เห็น แมตต์ ที่เป็นคนซื่อๆและซื่อสัตย์กำลังเตรียมคัมภีร์เวทมนตร์ตามปกติ

 

“แมตต์ ผมจะไปข้างนอกซักพักนึงนะ” ลิงค์ พูดตามปกติ

 

“อือ ฮึ” แมตต์ ตอบ ด้วยท่าทางมากกว่าการกระทำ เขายังคงต้องมีสมาธิกับคัมภีร์เวทมนตร์ เขาจะต้องไม่ถูกรบกวนไม่อย่างนั้นคัมภีร์เวทมนตร์ที่อยู่ในมือของเขาจะกลายเป็นขยะ

 

ลิงค์ ออกจากหอคอยเวทมนตร์ และมุ่งตรงไปที่จัตุรัสแห่งความรุ่งโรจน์ใกล้ๆกับประตูของสถาบัน เขาเรียกรถม้าที่นั่น

 

“ไปที่เมืองริเวอร์โควฟครับ” เขาพูด หลังจากที่จ่ายเงินให้คนขับรถม้าอย่างงาม

 

นักเวทย์ฝึกหัดต้องใช้ใบอนุญาตจากอาจารย์ของเขาก่อนที่จะออกไปนอกสถาบันได้ ลิงค์ จึงนำใบอนุญาตที่ เอร์เรร่า เตรียมเอาไว้ให้เขาก่อนหน้านี้มา

 

คนขับรถม้าอ่านจดหมาย จากนั้นเขาก็รับเหรียญทองอย่างกระหายและรีบฟาดแส้ หลังจากนั้นไม่นาน รถม้าก็ได้เคลื่อนออกจากประตูของสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ

ลิงค์ จะไปเอาโดมินโก้คริสตัล เวลาผ่านไป 1 เดือนแล้วและตอนนี้คริสตัลได้ถูกฟอกและพร้อมใช้งานอีกครั้งแล้ว

 

หลังจากที่เขาได้คริสตัล เขาก็จะมีพลังในการสู้รบที่มากเกินกว่าที่นักเวทย์ปกติจะสามารถจินตนาการได้

 

…

 

ในขณะเดียวกัน ที่หอคอยเวทมนตร์ของ เบล

 

…

 

หลังจากที่ ลิงค์ ออกไป ดาริส ก็เข้ามาในห้องโถงชั้น 1 เขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอกและเขาก็ดูกังวลและรีบร้อน เหมือนกับมีเหตุการณ์เร่งด่วนอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

 

ในตอนที่เขามาถึงห้องโถง เขาก็เดินตรงไปหากลุ่มนักเวทย์ฝึกหัดที่กำลังเตรียมคัมภีร์เวทมนตร์ บังเอิญว่าคนที่เขาตรงไปหาคือ แมตต์

 

“ลิงค์ อยู่ไหน?” ดาริสถาม

 

แมตต์ ตกใจจนหลุดออกจากภวังค์ของเขาในตอนที่เขาอยู่ในช่วงที่ละเอียดอ่อนที่สุดของการสร้างคัมภีร์เวทมนตร์ เขามองคัมภีร์ที่เขาได้เสียความพยายามอย่างมากในการสร้างมันล้มเหลวลงต่อหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาหงุดหงิดมากและจะร้องไห้ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขึ้นเสียงหรือใช้อารมณ์กับ ดาริส

 

“เขาไปข้างนอกครับ” แมตต์ ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“ข้างนอก?เขาออกไปไหน?”

 

“เขาไม่ได้บอกครับ”

 

“บ้าจริง！” ดาริส สบถ ก่อนที่จะวิ่งออกไปอย่างร้อนรน

 

เมื่อหลายวันก่อน ดาริส ได้สืบข่าวเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับ ลิงค์ ให้ได้มากที่สุด ยิ่งเขารู้เกี่ยวกับนักเวทย์ฝึกหัดหนุ่มคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น ลิงค์ นั้นเป็นมากกว่าสปายที่ถูกส่งให้มาสอดแนมอาจารย์ เบล ของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เด็กคนนี้ยังไม่ใช่นักเวทย์ฝึกหัดธรรมดา แต่ความจริงเขาคือนักเวทย์เลเวล 2！

 

เขาหา ลิงค์ ทั่วทุกที่จนในที่สุดเขาก็มาถึงคอกม้าใกล้ๆกับจัตุรัสแห่งความรุ่งโรจน์ เขาพบกับคนขับรถม้า จากนั้นเขาก็ชี้คทาของเขาไปที่หัวใจของคนขับรถม้าและถามอย่างเย็นชา “มีนักเวทย์หนุ่มเพิ่งออกจากสถาบันเมื่อไม่นานนี้ รู้รึเปล่าว่าเขามุ่งหน้าไปที่ไหน?”

 

คนขับรถม้ากลัวมากจนเกือบหายใจไม่ออก แต่เขาก็ให้คำตอบในที่สุด “ครับ ครับ ผมจำเขาได้ เขาบอกว่าจะไปที่เมืองริเวอร์โควฟ！”

 

จากนั้น ดาริส จึงปีนขึ้นรถม้าไป

 

“งั้นไปที่เมืองริเวอร์โควฟ และไปให้เร็วด้วย！” เขาตะโกนใส่คนขับรถม้า

 

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะกำจัด ลิงค์ ในตอนที่เขาอยู่ในป่าเกอเวนท์ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักเวทย์ฝึกหัดที่เดินทางคนเดียวจะถูกปล้นและฆ่าในสถานที่ที่ มีโจรมากมายแอบอยู่ทั่วบริเวณพงหญ้าทุกที่

 

นายโง่เกินไปที่จะเป็นนักเวทย์เลเวล 2！นายไม่รู้หรอว่านายกำลังเล่นกับไฟอยู่?

 

 

ดาริส รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ถึงจุดแตกหักแล้ว เขามั่นใจว่า ลิงค์ จะต้องแอบออกไปนอกสถาบันไปที่เมืองริเวอร์โควฟเพื่อรายงานเรื่องความลับของอาจารย์ของเขาและเปิดโปงเกี่ยวกับทุกคนที่เกี่ยวข้องแน่ๆ ดาริส จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดเขาไว้ให้ได้！