ชั้นสี่ของหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า
มีไพ่ทั้งหมด 66 ใบในกองไพ่ของ เอลิน เธอแบ่งพวกมันเป็นสองแถว, แถวนึงมี 22 ใบและอีกแถวมี 44 ใบ พวกมันถูกวางลงบนโต๊ะในรูปแบบพัด
เอลิน ต้องการเลือดหนึ่งหยดเพื่อเวทย์มนตร์ของเธอและไม่ได้มีเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัด ลิงค์ ยื่นมือของเขาออกไป เธอเอาเข็มเงินจิ้ม ลิงค์ อย่างเชี่ยวชาญและเลือดหนึ่งหยดก็ปรากฏบนปลายนิ้วของเขา จากนั้นเลือดก็ลอยไปในอากาศและกระจายตัวเข้าไปในหมอกในตอนที่มันตรงไปอยู่เหนือสุดของไพ่ทาโร่

เอลิน หลับตาลงและเคลื่อนไหวมือของเธอในหมอกเลือดอย่างสุ่มๆ บางครั้ง, เธอก็จะเปล่งคำพูดออกมาสองสามคำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “อา…บา…ซาโล…จี…”
ถ้าไม่สนใจความเข้มข้นของออร่าลึกลับที่เพิ่มขึ้นรอบตัวเธอ, เธอก็คงจะดูเหมือนกับคนที่สติไม่สมประกอบจริงๆ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, หมอกเลือดก็โฉบไปบนไพ่ท่าโร่แบ่งออกเป็นสองส่วนราวกับว่ามันมีชีวิตอยู่, แต่ละส่วนพุ่งตรงไปตามไพ่ที่แบ่งไว้แต่ละแถว จากนั้น เอลิน ก็ลืมตาขึ้น เธอดูเหนื่อยเล็กน้อยและแสงสีเขียวอ่อนในดวงตาของเธอก็ดูเหมือนจะจางลงมาก ก่อนที่เธอจะพลิกไพ่ทาโร่, เธอก็พูดขึ้น “ไพ่สามารถทำนายอนาคตของเธอได้ ฉันได้ยิงมาว่าเธอเลือกที่รกร้างเป็นดินแดนของเธอ ถ้าเธอเป็นผู้ถูกเลือกจริงๆ, เผ่ายับบ้าจะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาดินแดนของเธอ”

“แล้วถ้าผมไม่ใช่หล่ะ?” ลิงค์ ยิ้ม ถ้าเผ่ายับบ้ายอมให้ความช่วยเหลือ, มันก็คงจะเพิ่มความเร็วและส่งเสริมกระบวนการการพัฒนาได้เป็นเท่าตัว
ชาวยับบ้าโดดเด่นในเรื่องกลศาสตร์เวทย์มนตร์ที่สุดในโลก พวกเขามีความสำเร็จอันน่าขบขันในสาขาสถาปัตยกรรม, การสร้างตึกจำนวนมหาศาลที่งดงามพอจะเรียกได้ว่ามหัศจรรย์ ความช่วยเหลือของพวกเขาคงจะไม่ใช่แค่เพิ่มคุณภาพเท่านั้น, แต่ยังเพิ่มความเร็วในการสร้างดินแดนของ ลิงค์ ด้วย

“ถ้าเธอไม่ใช่ข้อตกลงก็เป็นอันจบไป” เอลิน เผยลอยยิ้มทะเล้นออกมาก่อนที่จะเปิดไพ่ที่ถูกเลือกโดยหมอกเลือด จากนั้นเธอก็หลีกเลี่ยงสายตาของ เอร์เรร่า กับ ลิงค์ ก่อนที่จะตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวัง
ขณะที่เธอเปิดไพ่, เธอก็อธิบาย “พลังแห่งโชคชะตาละเอียดอ่อนและลึกลับมาก การเปลี่ยนแปลงทุกนาทีอาจจะส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์อย่างมหาศาล ดังนั้น, ฉันจึงเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถดูสิ่งนี้ได้ รอแปบนะ, นี่คือ…” ดวงตาของ เอลิน เบิกกว้างในทันที, สายตาของเธอสลับไปมาระหว่างไพ่ในมือของเธอและ ลิงค์, ที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอดูราวกับว่าเธอเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ
เธอมีไพ่สองใบในมือของเธอ

ใบแรกคือไพ่หลัก, แสดงถึงดวงอาทิตย์ที่สดใสอยู่ตรงกลาง, นี่เป็นไพ่หลักที่ดีที่สุดที่สามารถหวังได้เพราะมันเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง, แสงสว่างและความสงบภายใน
ใบที่สองคือไพ่สนับสนุน ไพ่นี้เป็นรูปกษัตริย์กำลังถือคทา, ซึ่งเป็นตัวแทนของอำนาจ, ความหลงใหล, ความจริงใจและความสร้างสรรค์
นี่เองก็เป็นไพ่สนับสนุนที่ดีที่สุด!
จากคำทำนายที่ เอลิน ได้ทำมา, ไพ่เหล่านี้จะถูกเลือกแค่ในกรณีที่หายากสุดๆเท่านั้น ต่อให้พวกมันถูกเลือก, ก็จะมีแค่หนึ่งในนั้นที่ปรากฏขึ้นเท่านั้น, ขณะที่ไพ่ที่ติดมาด้วยอีกใบมักจะเป็นใบที่น่าสงสารมากๆ

เอลิน, ที่เชี่ยวชาญในพลังแห่งการทำนาย, รู้ดีว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ไพ่สองใบนี้จะปรากฏขึ้นพร้อมกัน ซึ่งนี่เป็นเพราะคุณสมบัติที่ขัดแย้งกันตามธรรมชาติของไพ่สองใบนี้
ถ้าคนๆนึงมีอำนาจมหาศาล, เขาก็จะถูกดึงเข้าไปสู่วังวนแห่งการแย่งชิงอำนาจ ผนวกกับความหลงใหลและความคิดสร้างสรรค์ของเขา, มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความสงบภายใน

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเท่านั้น คนฉลาดอาจจะสามารถปรับความแตกต่างระหว่างไพ่สองใบนี้และหาความพอดีได้ อย่างไรก็ตาม, มีอีกเหตุผลสำคัญที่ป้องกันกรณีที่ไพ่ใบนี้ปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน

นั่นก็คือความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังไพ่คู่นี้

เมื่อดวงอาทิตย์, คทาและกษัตริย์ปรากฏขึ้นพร้อมกันในโชคชะตาของคนๆเดียว, มันหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น—พวกเขาจะกลายเป็นผู้กอบกู้!

ผู้กอบกู้คืออะไร?

แม้ว่าในขณะที่ทั้งโลกกำลังตรงเข้าสู่หุบเหวอย่างไม่สามารถหยุดได้และทุกชีวิตกำลังประสบกับชะตากรรมอันน่าเศร้า, ผู้กอบกู้จะเป็นเพียงคนเดียวที่ครอบครองพลังที่จะหยุดความบ้าคลั่งนี้เอาไว้!

มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาความสงบภายในเอาไว้เมื่อฝึกฝนเวทย์ทำนาย เอลิน ได้ถูกฝึกให้ไม่มีทางแสดงอารมณ์ของเธอออกมาไม่ว่าผลลัพธ์ที่เธอเห็นจากไพ่จะเป็นอะไรก็ตาม

แม้ว่าในขณะที่เธอทำนายโชคชะตาของตัวเองซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอจะประสบกับความทุกข์ทรมานอย่างมหาศาลและแม้กระทั่งการล่มสลายของเผ่ายับบ้า, แต่เธอก็แค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจของเธอจากความเศร้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม, นี่เป็นข้อยกเว้น พอคนที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้กอบกู้มาอยู่เบื้องหน้าเธอ, เธอก็ไม่สามารถทำใจเย็นได้อีกต่อไป ซึ่งนี่เป็นเพราะโชคชะตาของเธอ, โชคชะตาอันน่าเศร้าของทั้งเผ่าพันธุ์ของเธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้!

หลังจากตกใจอยู่ 30 วินาทีเต็ม, เอลิน ก็ขยับอย่างกระทันหันและรีบผสมไพ่ในมือของเธอเข้าไปในไพ่ทาโร่ที่เหลืออยู่บนโต๊ะ จากนั้นเธอก็สับไพ่อย่างรีบร้อนเพื่อทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะบอกได้ว่าไพ่สองใบที่เธอหยิบออกมานั้นคืออะไร แม้ว่าเขาจะเป็นผู้กอบกู้, แต่พลังของเขาก็ยังไม่เต็มที่สมบูรณ์ เธอต้องเก็บผลลัพธ์ของการทำนายเอาไว้กับตัวเพื่อที่จะปกป้องเขา!

“เป็นไงบ้าง, เอลิน?” เอร์เรร่า ตกใจอย่างเห็นได้ชัดกับท่าทีเวอร์วังของเธอ คำทำนายแบบไหนกันถึงทำให้นักเวทย์เลเวล 6 คนนี้รู้สึกปั่นป่วน?

เอลิน เรียกสติกลับมาได้เล็กน้อยและกระแอมเบาๆก่อนที่จะพูดต่อ “ฉันขอโทษนะ, ลิงค์ ไพ่ได้บ่งบอกว่าเธอไม่ใช่ผู้ถูกเลือก”

“นั่นมันไม่น่าเป็นไปได้นะ!” เอร์เรร่า สับสน เธอเห็นความเจิดจ้าของเทพในส่วนลึกของวิญญาณของ ลิงค์ “เอลิน, เธอทำนายผิดรึเปล่า?”

เอลิน โกรธในทันที เธอตะโกนออกมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ “อย่ามาดูถูกเวทย์ทำนายของฉันนะ! มันไม่เคยผิดพลาด!”

“ก็ได้, ก็ได้, ฉันขอโทษนะ” เอร์เรร่า ขอโทษอย่างรีบร้อน
เอลิน ไม่ได้ตามจี้เรื่องนี้อีกและหันไปมอง ลิงค์ “แต่ว่า, ในเมื่อพวกเราเป็นเพื่อนกัน, การร่วมมือก็อาจจะยังเป็นไปได้นะถ้าเธอยอมจ่าย พอฉันกลับไปที่ภูเขายับบ้า(เมืองเกิดของเผ่ายับบ้า, ทางเหนือของอาณาจักรนอร์ตัน, ติดกับป่าดาร์คเอลฟ์), ฉันยังสามารถส่งกลุ่มวิศวะกรที่ดีที่สุดของพวกเราไปให้ได้นะ”

ลิงค์ คิดว่ามันเป็นแผนที่ดีมากๆ เขาไม่ได้กังวลเรื่องปัญหาผู้ถูกเลือกเลยสักนิด, สำหรับเขา, มันก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าชื่อๆนึง
ต่อให้เขาเป็นผู้ถูกเลือก, แต่เทพแหงแสงก็คงจะไม่สามารถลงมายังโลกแห่งฟิรุแมนเพื่อช่วยเหลือเขาในการต่อสู้ได้อยู่ดี ซึ่งถ้าเขาไม่ใช่ผู้ถูกเลือก, ระบบเกมส์ก็จะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อช่วยแนะนำโลกที่ไม่คุ้นเคยนี้ให้กับเขา ดังนั้น, ไม่ว่าในกรณีใดๆ, เอร์เรร่า ก็มั่นใจว่าเขาเป็นผู้ถูกเลือก มันมากพอที่จะเห็นว่าผลลัพธ์การทำนายของ เอลิน ไม่สามารถสั่นคลอนการตัดสินของเธอ

ด้วยความที่ เอลิน เสนอจะช่วยเขาสร้างดินแดนของเขา, ลิงค์ จึงรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นแล้วพูด “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ผมสามารถหาเงินในการก่อสร้างได้ด้วยทักษะการเสริมพลังของผม”

เอร์เรร่า ก็พยักหน้าเช่นกัน “ลิงค์ มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นในเวทย์เสริมพลัง ความเร็วในการเสริมพลังของเขาสูงมากและเขาก็ไม่เคยล้มเหลวในการสร้างแบบที่งดงามเลย เขาเชี่ยวชาญมากจริงๆ”

เอลิน ไม่สงสัยในความสามารถของ ลิงค์ เลยสักนิด เธอพยักหน้าแล้วพูดในทันที “ถ้าเป็นแบบนั้น, ฉันจะเริ่มคัดตัววิศวะกรในตอนที่ฉันกลับไปนะ”
“ขอบคุณครับ” ลิงค์ รู้สึกพอใจ
“แค่เรื่องเล็กน้อยหน่า” เอลิน ตอบกลับ, จากนั้นเธอก็เงียบลงและจ้องไปที่กองไพ่ทาโร่ของเธออย่างเหม่อเลย, นั่งคุดคู้อยู่ที่เก้าอี้ของเธอ

ท่าทีของ เอลิน ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม, เอร์เรร่า เลือกที่จะปล่อยเธอไว้คนเดียวแล้วหันไปหา ลิงค์ “ครั้งนี้เธอกลับมาเร็วจังนะ มีอะไรเกิดขึ้นหรอ?”
ลิงค์ พยักหน้าแล้วเอาดาบ, คทาและมีดออกมาจากจี้ต่างมิติของเขา พวกมันเป็นของดาร์คเอลฟ์นักรบ นอริซ่า, นักเวทย์ พาร์สัน และนักฆ่า เฮเดล ตามลำดับ แล้วในที่สุด, เขาก็หยิบกำไลต่างมิติของ พาร์สัน ออกมาและวางพวกมันลงบนโต๊ะ

อุปกรณ์ของดาร์คเอลฟ์นั้นจดจำได้ง่ายมากจากลักษณะของพวกมัน พวกมันมักจะเป็นสีดำหรือสีแดงฉานและมักจะถูกเสริมพลังด้วยชั้นของออร่าแห่งความมืดเสมอ

ดวงตาของ เอร์เรร่า เบิกกว้างพอได้เห็นอุปกรณ์เหล่านี้ เธอถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

เอลิน ที่อยู่ในภาวะสับสนเอง, ก็ชำเลืองตาไปมองอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนที่จะกลับไปจ้องกองไพ่ของเธอ อย่างไรก็ตาม, หูเล็กๆของเธอก็ตั้งตรงแล้ว, เธอสนใจในพื้นเพของอาวุธเหล่านี้อย่างเห็นได้ชัด
จากนั้น ลิงค์ ก็อธิบายรายละเอียดในการเดินทางกลับไปที่ปราสาทมอรานี่ของเขา พอเขาพูดถึงแผนกบฏจันทราทมิฬ, เอร์เรร่า ก็ขมวดคิ้วแน่น พอเขาพูดไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับปีศาจ ทาร์วิส, เอร์เรร่า ก็ไม่สามารถเก็บความกลัวของเธอเอาไว้ได้อีกต่อไปและปิดริมฝีปากอันละเอียดอ่อนด้วยมือของเธอ

“ทาร์วิส? มันไม่ได้ถูกนักเวทย์ในตำนาน ไบรอันท์ กำจัดไปแล้วหรอ?”

มันเป็นตาของ ลิงค์ ที่รู้สึกสับสน มีความคลาดเคลื่อนกันระหว่างประวัติศาสตร์ที่เขารู้และไทม์ไลน์ปัจจุบัน ภายในเกมส์, ทาร์วิส แค่ถูกผนึกในพื้นที่ที่ไม่มีใครรู้ในสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟ เขาถูกกำจัดในไทม์ไลน์นี้จริงๆหรอ

มีเรื่องราวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม, มันก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะเข้าใจ เหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 100 ปีและเรื่องราวก็ได้ถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน จึงไม่แปลกที่เรื่องมันจะเบี่ยงเบนไปจากเรื่องเดิม ด้วยความที่ เอร์เรร่า ไม่ได้เข้าเป็นแกนหลักของผู้นำในสถาบันเวทย์มนตร์, มันจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะไม่รู้ความจริง

จากนั้น ลิงค์ ก็พูดออกมา “ทำไมพวกเราไม่เอาข้อความนี้ไปบอกกับผู้อาวุโส แอนโทนี่ ดูหล่ะครับ?”

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย!” เอร์เรร่า กระวนกระวาย ปีศาจ ทาร์วิส เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน ถ้าดาร์คเอลฟ์ปลดปล่อยเขาได้สำเร็จ, มันก็คงจะเป็นภัยพิบัตอย่างแน่นอน, บางทีเขาอาจจะทำลายทั้งสถาบันเวทย์มนตร์เลยก็ได้
เธอลุกขึ้นและออกไปในทันทีก่อนที่จะหันกลับมารวบรวมอุปกรณ์ของดาร์คเอลฟ์ที่ ลิงค์ นำกลับมาด้วย จากนั้นเธอก็หันไปหา เอลิน แล้วพูดเชิงขอโทษ “เอลิน, ฉันมีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทำ ฉันไปเป็นเพื่อนเธอไม่ได้แล้ว”

เอลิน ยิ้มให้และเริ่มเก็บไพ่ทาโร่ของเธอ จากนั้นเธอก็กระโดดลงมาจากเก้าอี้แล้วพูด “ไม่เป็นไร, ไปทำธุระเถอะ ฉันควรจะกลับภูเขายับบ้าได้แล้วเพราะ ลิงค์ น่าจะต้องการทีมวิศวะกรของฉันในเร็วๆนี้ เธอให้ ลิงค์ ไปส่งฉันได้ไหม?”

“แน่นอน ลิงค์ ?”

“ครับ, อาจารย์” ลิงค์ ยืนขึ้นและพา เอลิน ออกจากห้องโถงอย่างเคารพพร้อมกับ เอร์เรร่า ที่ตามมาข้างหลัง พอพวกเขาไปถึงชั้นแรก, ลิงค์ ก็เห็นพ่อค้า, วาร์เตอร์ กำลังดื่มอยู่ที่บาร์ ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังเพลิดเพลินกับตัวเองอยู่

ลิงค์ ไม่สนใจเขาและเดินต่อไปยังทางเข้า

พอพวกเขาออกจากหอคอยเวทย์มนตร์, เอร์เรร่า ก็ตรงไปยังหนามแห่งสวรรค์ขณะที่ ลิงค์ เดินไปเป็นเพื่อนกับ เอลิน ตรงไปยังเส้นทางที่นำไปสู่รางกริฟฟิน

เอลิน ฟื้นฟูท่าทีทะเล้นและสนุกสนานที่เธอมีก่อนหน้านี้กลับมาได้แล้ว เธอยิ้มให้ ลิงค์ แล้วพูด “ลิงค์, ฉันได้ยินมาว่าที่รกร้างเฟิร์ดนั้นแห่งแล้งมากๆ นอกจากนั้นยังไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอยู่เลย, แถมยังมีอาชญากรรมทุกชนิดซ่อนอยู่ในพื้นที่แห่งนั้นด้วย มันแพงมากๆเลยไม่ใช่หรอในการพัฒนาพื้นที่แห่งนั้น?”
ลิงค์ โยนมือของเขาออกมาอย่างหมดหนทางแล้วพูด “ก็จริงหล่ะครับ”

“เธออยากให้ฉันช่วยไหม?” เอลิน มอง ลิงค์ ด้วยท่าทีถือตัว ดูเหมือนว่าเธอจะคิดว่าเธออยู่ในจุดที่เหนือกว่า ลิงค์

“ผมคิดว่าผมมีวิธีแก้ปัญหาพวกนี้นะ” ลิงค์ ทำเป็นไม่ได้ยินเธอ

เอลิน เบ้ปาก “เธอนี่เป็นผู้ชายที่น่าเบื่อจริงๆ แต่ถึงยังไง, ฉันก็ยังเป็นรุ่นพี่ของเธอ มันถือว่าเป็นมารยาทในการมอบของขวัญในการพบกันครั้งแรกของพวกเราให้กับเธอ เอานี่! มันน่าจะสามารถขายได้ราคาอยู่นะ”

เธอขยับมือเล็กน้อยและโลหะสีแดงที่เปล่งประกายด้วยหมอกสีแดงก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ โลหะนี้มีขนาดใหญ่พอๆกับกำปั้นและจะส่องประกายภายใต้แสงอาทิตย์ตามโอกาส

“นี่คือ…ทอเรียมเพลิงดารา!”