Advent of the Archmage – Chapter 186: หินก้อนเดียวที่เหลืออยู่

อ่านนิยายจีนเรื่อง Advent of the Archmage ตอนที่ 186 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เสียงคลื่นดังทำให้ฝูงนกนางนวลที่กำลังเกาะอยู่บนหน้าผาตามปกติพากันตกใจ บนชายฝั่ง, คลื่นกระแทกได้สร้างเสาน้ำสูงที่สาดไปทุกทิศทาง ภายใต้แสงอาทิตย์อันสดใส, สายรุ้งอ่อนๆสามารถมองเห็นได้ชั่วแวบนึง
มีคนจำนวนหนึ่งที่มีส่วนสูงต่างกันโดยสิ้นเชิงยืนอยู่บนหน้าผา

คนตัวสูงนั้นประกอบไปด้วยลิงค์และหัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างฟลามิงโก้, แจ็คเกอร์ ส่วนคนตัวเล็กก็คือพวกเผ่ายับบ้า ซึ่งหัวหน้าของทีมชายสายนี้มีชื่อว่าอเบอร์ดีน, ผู้ดูแลโปรเจคพัฒนาเส้นทางน้ำ ซึ่งคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างเขาก็คือผู้ช่วยของเขา
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่รกร้างเฟิร์ดซึ่งถูกเรียกว่าผาพยัคฆ์ มันเป็นผาที่สูงมากๆพร้อมกับหลุมเว้าที่มีความกว้าง 900 ฟุตและความลึก 90 ฟุตที่ใจกลางของมัน ความลาดเอียงตามบริเวณหลุมเว้านั้นราบเรียบ, ทำให้มันเดินไปยังชายฝั่งได้อย่างง่ายดายจากพื้นที่นี้
ถ้าหน้าผาแห่งนี้ไม่ได้อยู่บนชายฝั่งแห่งนี้, มันก็คงจะทำให้เป็นจุดที่สร้างท่าเรือได้ง่ายมากๆ
เพื่อที่จะพัฒนาดินแดนของเขา, ลิงค์จะต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก และวิธีที่ประหยัดที่สุดและเห็นผลที่สุดก็คือการทำให้ดินแดงแห่งนี้ผ่านทะเลได้ ดังนั้น, พอลิงค์เข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว, ความคิดแรกของเขาก็คือการขอให้ทีมวิศวะกรของเผ่ายับบ้าเปิดเส้นทางทะเล
พอมองไปที่คลื่นกระแทก, ลิงค์ก็ถามออกมา “มันจะใช้เวลาเท่าไหร่หรอครับในการสร้างเส้นทางน้ำที่ใช้งานได้”
ก่อนหน้านี้, เรื่องพวกนี้ได้ฝากเอาไว้ในมือของกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้ ลิงค์แค่ให้คำแนะนำทั่วๆไปผ่านจดหมายเท่านั้นและไม่ได้มีภาพที่ชัดเจนในหัวของเขา แต่ตอนนี้เขาได้มาข้องเกี่ยวด้วยตัวเองแล้ว, เขาจะต้องสอบถามผู้เชี่ยวชาญและทำให้มั่นใจว่าโปรเจคจะสำเร็จตามมาตรฐานของเขา
อเบอร์ดีนรู้ว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาคนนี้เป็นเหมืองทองและนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง เขาไม่น่าจะสามารถหลอกลวงเขาได้ ดังนั้นอเบอร์ดีนจึงใช้น้ำเสียงจริงจังแล้วพูดออกมา “พวกเราได้ส่งนักดำน้ำไปสำรวจพื้นที่แล้วครับ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดในระยะ 50 ไมล์ทะเลจากที่นี่เต็มไปด้วยแนวปะการัง แต่ว่า, มีแค่ส่วนนึงในรัศมี 2.5 ไมล์จากผาพยัคฆ์เท่านั้นที่ต้องถูกกำจัด พวกเราได้เริ่มงานไปแล้ว, และมันจะสำเร็จภายในเวลาหนึ่งเดือนครับ”
หนึ่งเดือนหรอฟังดูดีนะ

จากนั้นลิงค์ก็ถามต่อ “พวกเราจำเป็นต้องทำเครื่องหมายแสดงถึงเส้นทางการเดินเรือที่ปลอดภัยสำหรับพื้นที่นอกรัศมี 2.5 ไมล์รึเปล่า?”

อเบอร์ดีนอธิบายอย่างอดทน “นั่นไม่จำเป็นครับ ทุกวันนี้, เรือทุกลำจะได้รับการเสริมพลังด้วยรูนเวทย์มนตร์ธาตุน้ำเอาไว้อยู่แล้ว กัปตันที่มีประสบการณ์จะสามารถตัดสินความลึกของน้ำที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาได้จากการเปลี่ยนแปลงในความสว่างของรูนครับ ดังนั้นหากแนวปะการังไม่หนามากจนเกินไป, พวกเขาก็จะสามารถหลบพวกมันได้อย่างสบายๆครับ”

พอได้ฟังแล้ว, ลิงค์ก็รู้ในทันทีว่าเขามีสถานการณ์ที่ซับซ้อนอยู่ในหัวของเขา ในโลกจริง, ผู้คนมักจะมองวิธีที่ประหยัดและน่าเชื่อถือเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้, เขาก็เป็นมือใหม่อย่างสมบูรณ์ในเรื่องการค้าทางทะเล ถ้าเขาหยั่งเชิงในวิธีการของผู้เชี่ยวชาญมากเกินไป, เขาก็อาจจะทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกโดยไม่รู้ตัว
“แล้วค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่หรอ?” ลิงค์ถาม นี่เป็นเรื่องที่เขาต้องติดตามอยู่เสมอ

“4,827 เหรียญทองครับ นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่แม่นยำที่สุดแล้ว เผ่ายับบ้ามักจะมีความยุติธรรมในราคาของพวกเราเสมอ, โดยเฉพาะกับเพื่อนที่ดีของพวกเราครับ” อเบอร์ดีนตบหน้าอกของเขาและยกตัวเลขที่เจาะจงมากๆมา
ลิงค์, ในอีกด้านนึง, ได้มีความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้ว “ผมอยากให้ท่าเรือมีพื้นที่พอสำหรับการขยายด้วย ถ้าพวกเราทำให้ดีเสียตั้งแต่ตอนนี้, ในอนาคตพวกเราก็จะสามารถพัฒนามันได้โดยไม่ยุ่งยากมากนัก”

 

จากนั้นอเบอร์ดีนก็มีสีหน้าอึดอัดใจบนใบหน้าของเขา “ท่านครับ, ถ้าเป็นเช่นนั้น, พวกเราจะต้องปรับระดับหินทั้งหมดที่อยู่ใต้เท้าของพวกเรานะครับ แล้วปริมาณงานก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทันที…”

“งบของผมคือ 10,000 เหรียญทอง” ลิงค์พูดขณะที่เขาชูนิ้วออกมาหนึ่งนิ้วด้วยความมั่นใจ
“เดี๋ยวจัดการให้ครับ” สายตาของอเบอร์ดีนเป็นประกายในทันทีขณะที่เขาพูด

จากนั้นเขาก็หันกลับไปและเริ่มปรึกษากับผู้ช่วยสองคนของเขา ผู้ช่วยของเขาถือแบบแปลนเอาไว้คนละแผ่นในมือของพวกเขา, และหลังจากที่กระซิบกระซาบกันอยู่พักนึง, อเบอร์ดีนก็พูดออกมา “ท่านครับ, หากเอาตามนี้จะเพิ่มเวลาไปอีกครึ่งเดือนนะครับ”

 

หากมีงานเพิ่มขึ้นมามันก็เป็นธรรมดาที่เวลาที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นด้วย ลิงค์พยักหน้าโดยไม่ถามอะไรอีก จากนั้นทั้งกลุ่มก็เดินกลับไปตามเส้นทางของผาพยัคก่อนที่พวกเขาจะแยกทางกัน จากนั้นลิงค์ก็ตามแจ็คเกอร์ไปตลอดทางกลับค่ายบนหลังม้า

แจ็คเกอร์ดูเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง

ลิงค์สังเกตุเห็นมันในทันทีและเข้าใจความกังวลของเขา เขาหัวเราะ, “แจ็คเกอร์, นายกลัวว่าพวกเราจะมีเหรียญทองไม่พอใช่ไหม?”
นี่เป็นสิ่งที่แจ็คเกอร์อยากจะพูดจริงๆ เขาหันกลับไปมองที่ท่าเรือซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง “ท่านครับ, หากรวมเงินที่ท่านใช้กับท่าเรือไปด้วย, ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการพัฒนาที่รกร้างเฟิร์ดก็ปาเข้าไป 30,000 เหรียญทองแล้วนะครับ, และนี่ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นเอง”
ไม่นานมานี้, พวกเขาพึ่งจะกวาดล้างพวกโจรทั้งหมดออกไปจากพื้นที่แห่งนี้ได้และได้สร้างค่ายเล็กๆเอาไว้สำหรับพวกเขา และในชั่วพริบตา, เงิน 30,000 เหรียญทองก็ถูกใช้ไปหมดแล้ว ความเร็วในการผลาญทรัพยากรของพวกเขานั้นสูงจนน่ากลัวจริงๆ!

แจ็คเกอร์ไม่เคยเห็นการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายขนาดนี้มาก่อน นอกจากเขา, ลูซี่กับกิลเดิร์นก็กลัวเหมือนกัน, และแม้กระทั่งนักเวทย์คาริโด้ก็เริ่มมีข้อสงสัย แม้ว่าลิงค์จะสามารถหาเงินได้จริงๆด้วยทักษะการเสริมพลังของเขา, แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะไล่ตามการใช้จ่ายของพวกเขา
พวกเขากลัวว่าลิงค์จะผลาญทรัพยากรของพวกเขาไปจนหมดก่อนที่ที่รกร้างเฟิร์ดจะเป็นรูปเป็นร่างเสียด้วยซ้ำ

ลิงค์หัวเราะ “นี่เป็นการลงทุนที่จำเป็นนะ ถ้าพวกเราประหยัดตอนนี้, พวกเราก็มีแต่จะต้องจ่ายเพิ่มอีกในครั้งหน้า”

ริมฝีปากของแจ็คเกอร์ดูเหมือนจะขยับเล็กน้อย เขามักจะเป็นคนตรงๆ, อย่างไรก็ตาม, ความคิดบางอย่างก็ยากสำหรับเขาจริงๆในการหาคำพูดที่เหมาะสม
ลิงค์หัวเราะออกมาดังลั่นแล้วแซวเขา “เกิดอะไรขึ้น? มันเพิ่งจะผ่านมาแค่ไม่กี่เดือนเองนะตั้งแต่ที่ฉันเจอนายครั้งล่าสุด”

แจ็คเกอร์ยิ้มอย่างขมขื่นและตัดสินใจระบายกับลิงค์ด้วยสีหน้ากังวล “นายท่าน, ที่รกร้างเฟิร์ดมันแห้งแล้งจริงๆนะครับ ไม่มีสถานที่ส่วนไหนในพื้นที่นี้ที่สามารถใช้เพาะปลูกได้เลย แล้วก็ยังมีกรวดกับหินอยู่ทุกที่ นอกจากวัชพืชแล้ว, ก็ไม่มีต้นไม้หรือแม่น้ำอยู่ในทัศน์วิสัยเลย แล้วมันก็มักจะตกเป็นเหยื่อของเฮอริเคนอยู่บ่อยๆด้วย, ซึ่งดินแดนอันแห้งแล้งนี้ก็ไม่มีที่กำบังเลยสักนิด แล้วสถานที่แบบนี้จะเจริญได้จริงๆหรอครับ?”
ตอนแรกพวกเขามายังที่รกร้างเฟิร์ดแห่งนี้ด้วยความมั่นใจและความหลงใหลที่จะพัฒนาดินแดนแห่งนี้ร่วมกันกับลิงค์ อย่างไรก็ตาม, นั่นก็เป็นตอนที่พวกเขายังไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้, ความกระตือรือร้นของพวกเขาได้สลายไปอย่างสมบูรณ์เพราะดินแดนแห้งแล้งนี้ อาหาร, เสื้อผ้าและแม้กระทั่งไม้ต้องนำเข้ามาจากพื้นที่อื่น และด้วยเหตุเหล่านี้เองจึงไม่มีทางช่วยเหลือดินแดนแห้งแล้งที่มีอากาศร้อนจัดนี้ได้
ลิงค์แค่หัวเราะออกมาโดยไม่มีร่องรอยของความกังวลอยู่เลย

สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของที่รกร้างเฟิร์ดนั้นเลวร้ายจริงๆ อย่างไรก็ตาม, ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนั้น, เขาก็คงจะไม่มีทางได้ที่ดินที่มีขนาดกว้างขวางขนาดนี้หรอก

 

นอกจากนี้, ที่รกร้างเฟิร์ดก็มีประโยชน์ในตัวมันเองอยู่เช่นกัน นอกจากดินต้านทานเวทย์มนตร์แล้ว, มันยังมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบทางกลยุทธมากๆ มันหันหน้าหาทะเลและเกาะรุ่งอรุณ, บ้านเกิดของเหล่าดาร์กเอลฟ์ มันสามารถเข้าถึงประเทศทางใต้ได้อย่างง่ายดาย และอยู่ใกล้กับเมืองหลวงของอาณาจักรนอร์ตันทางตอนเหนือ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่ยอมรับได้

ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาตินั้น, เขาแค่ต้องเปลี่ยนมันให้ได้ก็พอแล้ว

ซึ่งเรื่องทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ในโลกแห่งฟิรุแมน ตราบเท่าที่คุณยอมจ่ายเหรียญทอง, อะไรๆก็เป็นไปได้ ตอนนี้ลิงค์มีเงินอยู่ 120,000 เหรียญทองในกระเป๋าของเขา ส่วนหนึ่งของเงินนี้ได้รับมาจากทักษะการเสริมพลังของเขา, ขณะที่อีก 80,000 เหรียญทองนั้นเป็นรางวัลจากสถาบันเพื่อช่วยเขาในการพัฒนาดินแดนของเขา
“ผ่อนคลายหน่อย, แจ็คเกอร์, ในอีกสิบปีข้างหน้า, ที่รกร้างเฟิร์ดแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นเมืองที่แสนคึกคักเฟิร์ดอย่างแน่นอน” ลิงค์ยืนกราน

 

ณ ขณะนั้น, ค่ายก็ปรากฏขึ้นในทัศน์วิสัย ลิงค์ฟาดแส้ใส่ม้าอย่างรุนแรง, ส่งสัญญาณให้มันเร่งความเร็วตรงไปที่ค่าย แจ็คเกอร์, ในอีกด้านนึง, ยังคงไม่เห็นความหวังในดินแดนแห่งนี้ เขาถอนหายใจออกมาและตามหลังลิงค์ไปติดๆ
ค่ายแห่งนี้มีชื่อว่าเทือกเขามอดไหม้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ค่ายชั่วคราว, แต่ลิงค์ยังใช้เงินไปเกือบ 6,000 เหรียญทองในการสร้างมัน

ค่ายถูกสร้างขึ้นบนที่สูงและถูกห้อมล้อมด้วยกำแพงปราสาทสูงที่สร้างขึ้นมาจากหิน มีประตูทั้งหมดสองฝั่งที่กำแพงปราสาท หนึ่งในนั้นเป็นทางผ่านไปทะเล, ขณะที่อีกฝั่งนึงเป็นทางผ่านไปยังป่าเกอร์เวนท์

กำแพงปราสาทครอบคลุมพื้นที่เกือบ 900 ฟุตในรัศมี หอสังเกตุการณ์เองก็ถูกสร้างขึ้นที่จุดสูงสุดเพื่อตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ และข้างล่างหอสังเกตุการณ์ก็เป็นกระท่อมไม้ที่กลุ่มทหารรับจ้างและคนงานอยู่

ลิงค์ลงจากม้าและส่งสายบังเหียนให้ทหารที่อยู่ข้างๆก่อนที่จะเดินตรงไปยังอาคารไม้ขนาดใหญ่
อาคารไม้แห่งนี้เป็นตึกบริหารของค่าย มันมีสองชั้นและครอบคลุมพื้นที่กว่า 600 ตารางฟุต ซึ่งลิงค์มองเห็นคนงานกำลังเดินเข้าออกตึกอย่างเร่งรีบ พอลิงค์เดินมาถึงตึก, เด็กหนุ่มที่ดูมีนิสัยกระตือรือร้นก็เดินมาให้การต้อนรับเขาในทันที เขาเป็นเลขามากความสามารถของลิงค์ที่มีชื่อว่าโจชัวร์ ลิงค์ได้จ้างเขามาจากเมืองริเวอร์โควฟ
เขาถือเอกสารอยู่แผ่นนึงในมือของเขาและรายงานให้ลิงค์ฟังอย่างชัดเจน “นายท่านครับ, สถาบันได้ทำการตอบกลับมาแล้ว นี่คือจดหมายที่ท่านแอนโทนี่เป็นคนเขียนขึ้นมาเองครับ”

“อ่านให้ฉันฟังทีซิ” ลิงค์พูด
“ครับ” โจชัวร์พยักหน้าแล้วพูดต่อ “จดหมายได้เขียนเอาไว้ว่ามุมมองของท่านนั้นนำมาปฏิบัติจริงไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของที่รกร้างเฟิร์ดด้วยการใช้หอคอยเวทย์มนตร์เพียงแห่งเดียว เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของท่าน, ท่านจำเป็นต้องสร้างรูปแบบเวทย์มนตร์ด้วยหอคอยเวทย์มนตร์ห้าแห่งพร้อมกับมีจอมเวทย์ประจำอยู่ทุกแห่ง, แต่นี่คงจะเป็นไปไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้…ซึ่งในส่วนของเรื่องนี้ทางสถาบันสามารถสร้างหอคอยเวทย์มนตร์ให้ท่านได้โดยคิดแค่ครึ่งราคาครับ, แต่ไม่สามารถตอบสนองคำขอของท่านได้”

 

มันนำมาปฏิบัติไม่ได้จริงๆ หอคอยเวทย์มนตร์หนึ่งแห่งนั้นมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 100,000 เหรียญทองในการสร้าง ดังนั้นหอคอยเวทย์มนตร์ห้าแห่งจะเพิ่มค่าใช้จ่ายไปถึง 500,000 เหรียญทอง นอกจากนี้, มันยังต้องมีจอมเวทย์คอยประจำการอยู่ทุกแห่งด้วย ซึ่งแผนการนี้ถือว่าบ้ามากจริงๆ
ลิงค์เดินไปตลอดทางในขณะที่โจชัวร์อ่านจดหมายให้เขาฟัง พอเขามาถึงห้องทำงานของเขา, เขาก็เข้าใจข้อความอย่างครบถ้วนและนั่งลงพร้อมกับขมวดคิ้ว “นี่ไม่ใช่ข่าวดีสินะ”

เพื่อที่จะพัฒนาที่รกร้างเฟิร์ด, ท่าเรือนั้นถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ อย่างไรก็ตาม, กุญแจสำคัญอีกดอกนึงก็คือการเปลี่ยนสภาพอากาศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนที่ขาดไปไม่ได้ในแผนการของลิงค์ ที่รกร้างเฟิร์ด, โดยเฉลี่ยแล้ว, จะถูกโจมตีด้วยเฮอริเคนขนาดยักษ์สี่ลูกและเฮอริเคนขนาดเล็กๆอีกสิบลูกในทุกๆปี และถ้าเปลี่ยนสภาพอากาศนี้ไม่ได้, มันก็เป็นไปไม่ได้ที่สถานที่แห่งนี้จะเจริญรุ่งเรือง

 

หอคอยเวทย์มนตร์เองก็เป็นส่วนที่สำคัญในการเติบโตของลิงค์ แม้ว่าเขาจะจบจากสถาบันแล้ว, แต่มันก็ไม่มีขีดจำกัดในการค้นคว้าเวทย์มนตร์ ถ้าเขาต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา, เขาก็จำเป็นต้องมีหอคอยเวทย์มนตร์เป็นของตัวเอง, และถ้าจะให้ดีหอคอยนั้นต้องอยู่ระดับเดียวกับหอคอยเวทย์มนตร์หลักในสถาบัน
อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้สถาบันไม่สามารถช่วยเขาได้, ลิงค์ต้องหาทางเอาเอง
จากนั้นเลขาหนุ่มก็เอาจดหมายออกมาอีกฉบับ จดหมายฉบับนี้มีเวทย์มนตร์ประทับอยู่ด้วย, ซึ่งบ่งบอกว่ามันเป็นจดหมายลับ โจชัวร์ส่งจดหมายฉบับนี้ให้กับลิงค์แล้วพูด “นายท่าน, จดหมายฉบับนี้เพิ่งจะมาถึงครับ”

ลิงค์ชำเลืองตามองและตระหนักได้ว่าจดหมายฉบับนี้มีเวทย์มนตร์ประทับอยู่ซึ่งมันได้ส่องแสงออกมาเล็กน้อย ซองจดหมายนั้นทำมาจากหนังหมี มีแม้กระทั่งรูนทำลายตัวเองอยู่ที่ด้านหลังซองจดหมายด้วย และหากจดหมายถูกเปิดอย่างผิดวิธี, มันก็จะระเบิด แต่ว่าวิธีเปิดที่ถูกต้องคือยังไงกันหล่ะ? ไม่มีคำอธิบายหรือคำแนะนำอะไรเลย
ลิงค์ตรวจสอบจดหมายอย่างระมัดระวังและแกะความหมายและตำแหน่งของรูนแต่ละจุด หลังจากผ่านไปได้ครึ่งนาที, เขาก็ถอดรหัสได้ มันคือตัวล็อครูปแบบมัลฟอยที่ออกแบบมาได้อย่างประณีต อย่างไรก็ตาม, หากคุ้นเคยกับเงื่อนไขของมัน, ก็สามารถถอดรหัสของมันได้อย่างง่ายดาย
หากเป็นช่วงไม่กี่เดือนก่อน, ลิงค์อาจจะสะดุดกับรหัสนี้ อย่างไรก็ตาม, หลังจากได้อ่านสมุดโน้ตที่เขาได้รับมาจากเหล่าจอมเวทย์ในสถาบัน, พื้นฐานด้านเวทย์มนตร์ของเขาก็ไปถึงระดับใหม่ ดังนั้นรูนล็อคเวทย์มนตร์แค่นี้ก็เป็นแค่งานง่ายๆสำหรับเขา
หลังจากผ่านไปได้ห้าหรือหกนาที, ลิงค์ก็เอานิ้วของเขาไปแตะที่รูนเบาๆและกระตุ้นพวกมันด้วยจำนวนมานาที่แตกต่างกัน หลังจากแตะรูนได้สิบสามจุด, รูนเวทย์มนตร์ทั้งหมดก็หายไปในทันที, และจดหมายก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ
ก่อนที่เขาจะดึงจดหมายออกมา, ลิงค์อดสงสัยไม่ได้, ใครมาท้าทายฉันกันนะ? นี่มันค่อนข้างน่าสนใจเลยนะเนี่ย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด