Advent of the Archmage – Chapter 279: ช่วยเหลืออาจารย์ของเขา

อ่านนิยายจีนเรื่อง Advent of the Archmage ตอนที่ 279 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เสียงล้อกระแทกดังขึ้นจนสามารถได้ยินได้

 

รถม้าขนนักโทษกำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปตามเส้นทางแห่งพระราชาอย่างช้าๆ

 

มีคนอยู่สองคนในรถม้าคันนั้น หนึ่งในนั้นก็คือไอมอนส์ เขานั้นไม่มีแขนหรือขาและถูกมัดเอาไว้กับถุงกระสอบด้วยเชือก วัตถุดิบนั้นนุ่มนิ่มและสบายมากๆ  และเขาก็ยังได้รับการรักษาบาดแผลขั้นต้นที่ได้มาจากการต่อสู้อีกด้วย ส่วนคนที่ 2 ก็คือเจ้าชายทมิฬ, วอลเตอร์ วอลเตอร์นั้นเป็นคนหนุ่มและมีร่างกายแข็งแรง ดังนั้นเขาจึงได้รับการปฏิบัติที่รุนแรงกว่า เขานั้นมีบาดแผลทั่วร่างกายและสวมชุดนักโทษอยู่

 

รถม้าคันนี้เต็มไปด้วยอุจจาระ มันเป็นส่วนที่เหลือจากนักโทษคนก่อนๆที่เคยอยู่ในรถม้าคันนี้ ยังไงก็ตาม ส่วนใหญ่นั้นพวกมันก็มาจากพวกเขาทั้งสอง นี่เป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดตลอดทั้งการเดินทางนี้

 

“ไอมอนส์ ท่านไม่เป็นอะไรนะ?” วอลเตอร์ถาม เขาเป็นห่วงไอมอนส์ ไอมอนส์นั้นไม่ขยับตัวเลยตั้งแต่เริ่มการเดินทางนี้และหายใจอย่างรวยริน วอลเตอร์นั้นเป็นห่วงเขามาก

 

เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ตอบ เขาก็เลยตะโกนเรียก “มาสเตอร์ มาสเตอร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

 

ในตอนที่เขาตะโกน เขาก็ยื่นมือของเขาไปดึงเชือกที่กระสอบ

 

แล้วในที่สุดไอมอนส์ก็พูดออกมา “หยุดเขย่าได้แล้ว ข้ายังไม่ตาย!”

 

“ตอนนี้ท่านรู้สึกยังไงบ้าง?” วอลเตอร์ถามด้วยความเป็นห่วง

 

ไอมอนส์ตอบแบบไม่พอใจ “ดูสภาพของข้าตอนนี้สิ ข้าถูกจับยัดใส่ในตะกร้าเหมือนกับเด็กทารก เจ้าคิดว่าข้าจะไปรู้สึกดีได้ยังไง?”

 

ในตอนที่ไอมอนส์พูด เขาก็ส่ายร่างกายไปมาด้วยเพื่อแสดงความไม่พอใจ

 

วอลเตอร์พูดไม่ออก แม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดหัวเราะไอมอนส์กับสิ่งที่เขาแสดงออกมาได้

 

“ข้าขอโทษด้วย มาสเตอร์ ข้าไม่ได้ตั้งใจหัวเราะเยาะท่านนะ ข้าแค่ห้ามมันไม่ได้ 555555..อุ๊ป..” วอลเตอร์รู้สึกว่าเขากำลังแสวงหาความสุขท่ามกลางความสิ้นหวัง

 

ยังไงก็ตามไอมอนส์นั้นเละเทะมากเกินกว่าที่จะรู้สึกโกรธ เขาพูด “หัวเราะให้เต็มที่เถอะ หัวเราะในตอนที่เจ้ายังหัวเราะได้”

 

ในตอนที่ไอมอนส์พูดจบ วอลเตอร์ก็หยุดหัวเราะ เขานั้นรู้สึกอยากจะร้องไห้จริงๆ ในฐานะเจ้าชายของดาร์กเอลฟ์ พลังของเขานั้นถูกศัตรูปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ กล้ามเนื้อที่แขนและขาของเขาเองก็ถูกทำลาย แถมพวกเขายังทาพิษรุนแรงใส่บาดแผลของเขาอีกด้วย เขานั้นได้กลายเป็นบุคคลที่ไร้ประโยชน์โดยสมบูรณ์แล้ว

 

เขาไม่มีความหวังที่จะฟื้นฟูได้ คนที่ทำหน้าที่ดูแลบาดแผลของพวกเขานั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่ว่าเป็นไฮเอลฟ์ พวกเขานั้นเชี่ยวชาญทางด้านนี้มากกว่ามนุษย์เป็น 100 เท่า เขาคงจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือของเขาในฐานะคนพิการ

 

ในมุมมองของเขานั้น ตายไปซะเลยยังจะดีกว่า

 

“ทั้งๆที่ได้ก่อวีรกรรมอันกล้าหารทั่วป่าทมิฬมาเป็นเวลา 20 ปี  แต่เจ้าชายทมิฬวอลเตอร์กลับต้องมาจมปรักอยู่กับอุจจาระและปัสสาวะในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเนี่ยนะ!” วอลเตอร์ถอนหายใจและพูดออกมา เขาหวังที่จะจบชีวิตของเขาลง ซึ่งมันจะเป็นจุดสิ้นสุดของความน่าอับอายนี้

 

ไอมอนส์ยังคงเงียบอยู่ แม้ว่าอารมณ์ของเขาจะไม่ต่างจากวอลเตอร์เท่าไหร่

 

ผู้คนที่เป็นคนนำพวกเขากลับไปที่ป้อมปราการนั้นเป็นหน่วยสอดแนมระดับสูงของหน่วย MI3 พวกเขามีทั้งหมด 30 คน ยิ่งไปกว่านั้นอาณาจักรนอร์ตันยังส่งนักรบระดับสูงที่มีอุปกรณ์อย่างดีมาถึง 100 คนเพื่อเสริมการป้องกันด้วย

 

สงครามนั้นยื้อมาเป็นเวลานานแล้ว ผู้คนที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้นั้นต่างก็เป็นทหารที่มีประสบการณ์ พวกเขาปฏิบัติภารกิจด้วยสีหน้าที่เฉยเมย โดยใช้ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขา

 

หน่วยสอดแนมระดับสูงที่อยู่รอบๆรถม้านั้นสามารถเข้าใจภาษาดาร์กเอลฟ์ได้  ในตอนที่พวกเขาได้ยินคำพูดของวอลเตอร์ พวกเขาก็หันมาหัวเราะเยาะใส่ “ข้าว่าพวกแกทั้ง 2 คนสมควรได้รับมันนะ! ทำไมพวกแกถึงไม่อยู่แต่ในป่าทมิฬหล่ะ? พวกแกเข้าไปยังดินแดนของผู้ปราบปีศาจอันน่านับถือทำไม! ไม่ใช่ว่านั่นเป็นการหาเรื่องตายหรอกหรอ?”

 

จากนั้นหน่วยสอดแนมอีกคนก็หัวเราะ “ข้าไม่คิดว่าพวกมันไปหาเรื่องตายหรอก; พวกมันแค่โง่เกินไปเท่านั้นเอง!”

 

หน่วยสอดแนมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาในทันที หนึ่งในพวกเขาถึงกับหากิ่งไม้มาแหย่ไอมอนส์เล่นเพราะว่าเขารู้สึกเบื่อ จากนั้นเขาก็พูดเยาะเย้ย “เห้ย ดูไอแก่นี่สิ ครึ่งล่างของมันถูกตัดทิ้งหมดเลย! พวกเจ้าคิดว่ามันเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกัน?”

 

“ถ้าจะให้ข้าพูดหล่ะก็ ส่วนบนจากเอวของมันขึ้นมาเป็นชาย แต่ว่าทุกส่วนนอกจากนั้นเป็นผู้หญิงหมดเลย” หน่วยสอดแนมอีกคนพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย

 

“5555 ดาร์กเอลฟ์คนนี้มีชีวิตที่น่าสนใจจริงๆ”

 

“พวกดาร์กเอลฟ์สามารถทำได้ทุกอย่างนั่นแหล่ะ ข้ายังได้ยินมาด้วยนะว่าตระกูลซิลเวอร์มูนหน่ะอนุญาติให้มีความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องได้ด้วยนะ นี่พวกมันคิดอะไรกันอยู่เนี่ย?”

 

จากนั้นหน่วยสอดแนมก็จ้องไปที่วอลเตอร์ด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ถ้าอยากรู้ก็ง่ายมาก พวกเรามีราชวงค์ดาร์กเอลฟ์อยู่กับพวกเราแล้วนี่”

 

จากนั้น หน่วยสอดแนมก็เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆวอลเตอร์แล้วพูดออกมา “บอกข้ามาหน่อยสิว่ารู้สึกยังไงบ้างที่ได้มีอะไรกับพี่น้องของตัวเอง? ”

 

วอลเตอร์รู้สึกเหมือนกับว่าปอดของเขากำลังจะระเบิดได้ตลอดเวลา เขากัดฟันของเขาและพูด “ไอพวกมดน่ารังเกียจ! ดีใจซะเถอะที่ไม่ได้เจอข้าก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้น พวกแกทุกคนคงได้ไปร้องไห้อยู่ในนรกแล้ว!”

 

ฉั๊วะ! เสียงเนื้อถูกตัดออกดังขึ้น หน่วยสอดแนมได้ตัดเนื้อบริเวณเป้าของวอลเตอร์ออกมาส่วนหนึ่ง

 

วอลเตอร์แค่รู้สึกโหวงๆตรงบริเวณเป้าของเขา เมื่อเขามองลงไป ตรงบริเวณที่เคยมีกล่องดวงใจของเขาก็กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าแล้ว และเลือดก็พุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่อง

 

“อะ? อ้ากกกกกก!”

 

หน่วยสอดแนมนั้นรวดเร็วมาก ร่างกายของวอลเตอร์ต้องใช้เวลาถึง 3 วินาทีในการรับรู้ถึงความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ แล้วเขาก็ร้องออกมาด้วยความเศร้าโศก

 

จากนั้นหน่วยสอดแนมก็โยนส่วนที่ตัดออกมาลงบนพื้นพร้อมกับหัวเราะ “เป็นนักโทษก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นนักโทษสิ เจ้าจะต้องจ่าย (อะไรบางอย่าง) สำหรับการพ่นเรื่องไร้สาระออกมา ดูสิ ตอนนี้กล่องดวงใจของเจ้ากลายเป็นอาหารหมาไปแล้ว”

 

นักรบที่มาร่วมทำภารกิจกับหน่วยสอดแนมนั้นต่างก็พากันหัวเราะกับคำพูดพวกนี้ด้วย ไม่มีใครคิดว่านี้คือการกระทำที่โหดร้าย  พวกเขาได้พบกับความกลัวและความโหดร้ายที่แท้จริงในสนามรบมาแล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเขาไปตกอยู่ในกำมือของดาร์กเอลฟ์เข้าซักวัน พวกเขาก็คงจะต้องโดนทรมานมากกว่านี้เป็น 100 เท่า!

 

นี่คือสงคราม

 

ในตอนนั้นเอง รถม้าก็ได้มาถึงส่วนเหนือของอาณาจักรนอร์ตันแล้ว มันอยู่ห่างจากป้อมโอริด้าไม่ถึง 125 ไมล์ โดยปกติแล้วพวกเขาควรจะปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้กับฐานที่มั่นของพวกเขา ยังไงก็ตาม หน่วยสอดแนมทุกคนก็ได้ตื่นตัวตลอดเวลาเผื่อในกรณีที่ฉุกเฉิน

 

ก่อนที่พวกเขาจะออกมา มาสเตอร์ลิงค์ได้กำชับอย่างแน่นหนาว่ามีโอกาสสูงที่พวกดาร์กเอลฟ์จะลอบโจมตีระหว่างทาง ผู้คนจาก MI3 นั้นเคารพลิงค์เป็นอย่างมากและเชื่อฟังคำพูดของเขาอย่างจริงจัง

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ไมล์ ก็มีต้นไม้สูงใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้บนเส้นทางแห่งราชา หน่วยสอดแนมที่เป็นคนนำทางได้ยกมือขึ้นพร้อมกับหยิบหน้าไม้ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ออกมาในทันทีและตะโกน “พี่น้องของข้า ที่ถนนด้านหน้ามีบางอย่างผิดปกติ! ระวังตัวด้วย!”

 

ป่านั้นหนาแน่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่โต มันดูไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ นอกจากความจริงที่ว่ามันเงียบมากเกินไป คนที่อยู่ใกล้ที่สุดได้เข้าไปในป่า ซึ่งมันยิ่งหนาแน่นและอึดอัดขึ้น

 

“หัวหน้า พวกเราเผามันเลยดีมั้ย?” หน่วยสอดแนมกระซิบ

 

ต้นไม้ในป่าทมิฬนั้นแข็งแรงและอยู่ห่างกัน มันยิ่งเป็นเรื่องยากสำหรับการพยายามเผาป่าทมิฬ ยังไงก็ตาม ต้นไม้ที่นี่นั้นเปราะบางและอยู่ติดกันอย่างหนาแน่น ใครก็ตามที่อยู่ในป่าจะถูกเผาเป็นขี้เถ้าถ้าเกิดว่าพวกเขาได้เผาพื้นที่ที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา

 

หลังจากที่หัวหน้าหน่วยสอดแนมได้ตรวจสอบดูรอบๆ เขาก็รู้สึกได้ว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้วและพยักหน้า จากนั้นเขาก็ตะโกน “เผาป่าซะ!”

 

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็สั่ง “ตั้งขบวน คอยสังเกตุรอบข้างให้ดี!”

 

นักรบระดับสูงทุกคนหยิบโล่ออกมาจากหลังของพวกเขาและตั้งขบวนโล่รอบๆรถม้า ในอีกด้านหนึ่ง หน่วยสอดแนมก็เอารูนธาตุไฟเลเวลต่ำออกมานับไม่ถ้วนและโยนมันเข้าไปในป่าหลังจากที่เปิดใช้งานมัน

 

ตู้ม! ตู้ม! รูนไฟนั้นได้สลักเวทย์บอลเพลิงเลเวล1 เอาไว้ เมื่อมันเข้าไปในป่า มันก็ระเบิดและเผาต้นไม้บริเวณรอบๆ จากนั้นไฟก็เริ่มลามออกไป

 

ทุกอย่างนั้นราบรื่น…จนกระทั่งมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น!

 

ในจุดที่ไฟรุนแรงที่สุดนั้น ธาตุไฟเริ่มรวมตัวกันราวกับว่าพวกมันมีชีวิต จนในที่สุด ยักษ์น่ากลัวที่สูงมากกว่า 15 ฟุตก็ปรากฏตัวออกมา ร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยไฟ

 

ในตอนที่ยักษ์ปรากฏตัว มันก็คำรามออกมาก่อนที่จะพุ่งตรงเข้ามายังรถม้า

 

“มันคือเวทย์อัญเชิญ! รีบใช้คัมภีร์ปัดเป่าเร็วเข้า!”

 

หน่วยสอดแนมรีบเอาคัมภีร์ที่ส่องแสงสีเงินออกมาในทันที และฉีกมันออก คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์พิเศษ; หลังจากฉีกมันออก พลังงานมานาที่ถูกเก็บเอาไว้ข้างในจะถูกปล่อยออกมา จากนั้นเวทย์ปัดเป่าเลเวล 4 ก็ก่อร่างขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นแสงสีเงินก็กระจายไปทั่วทุกทิศโดยที่มีหน่วยสอดแนมเป็นศูนย์กลาง ยักษ์เพลิงเองก็โดนเวทย์นี้ไปเช่นกัน เมื่อโดนแสงสีเงิน ยักษ์ก็หยุดการเคลื่อนไหวลงก่อนที่ธาตุไฟในตัวของมันจะเริ่มสูญเสียการควบคุม ทำให้ธาตุไฟปะทุออกมาจากร่างกายของมันก่อนที่จะดับไป

 

จากนั้นหน่วยสอดแนมก็ได้เอาคัมภีร์แผ่นอื่นที่มีแสงสีเงินออกมาเพื่อสำรองเอาไว้ นี่เป็นคัมภีร์เวทย์เลเวล 6 ที่ทรงพลังมาก มันสามารถร่ายเวทย์ป้องกันที่แข็งแกร่งได้ในทันที มันเป็นของขวัญจากไฮเอลฟ์ที่มอบให้พวกเขาเพื่อป้องกันตัวจากดาร์กเอลฟ์นักเวทย์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งพวกเขาอาจจะได้เจอระหว่างทาง

 

เขาพกมันติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา ในตอนที่เขารู้สึกได้ถึงออร่าของเวทย์เลเวล 6 เขาจะเปิดใช้งานมันในทันที

 

“ระวังตัวด้วย! พวกกูลอยู่ที่นี่!” มีใครบางคนตะโกนออกมา

 

ภายในเปลวไฟ มีหลายคนพุ่งผ่านออกมาด้วยความเร็วสูง พวกมันเร็วมากๆและพวกมันก็มีมากกว่า 20 ตัว ดูเหมือนว่าไฟป่าธรรมดานั้นจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับพวกมันได้เลย ไม่เพียงแค่มันจะไม่ทำให้บาดเจ็บเท่านั้น แต่ไฟยังไปจุดประกายความกระหายการฆ่าฟันของพวกกูลขึ้นมาด้วย

 

วู้วววว! กูลได้ส่งเสียงแปลกๆออกมาในขณะที่ร่างกายของพวกมันติดไฟ พวกมันดูเหมือนกับปีศาจที่ถูกไฟเข้าสิงในตอนที่พวกมันพุ่งออกมา

 

“ยิง!” หัวหน้าหน่วยสอดแนมตะโกน พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ MI3 ทุกคนได้ถือหน้าไม้ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์รุ่นใหม่ล่าสุดและมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับพวกกูล พวกเขาปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย

 

ตู้ม! ตู้ม! ห่าฝนลูกดอกตกใส่พวกกูล เส้นสีขาวจำนวนมากพุ่งผ่านอากาศในขณะที่ลูกศรนั้นถูกนำทางด้วยเวทย์นำทางเพื่อทำให้มั่นใจว่ามันจะโดนเป้าหมาย

 

ลูกศรพวกนี้ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูง พวกมันสามารถปรับทิศทางและเป็นอาวุธที่เหมาะเหม็งกับการจัดการกับพวกกูล

 

ในชั่วพริบตา เสียงของลูกศรที่พุ่งผ่านเนื้อสดๆก็ดังไปทั่วทั้งป่า ความแม่นยำของลูกศรเวทมนตร์นั้นสูงมาก เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของกูลดังขึ้นตลอดเวลา ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์นั้นเป็นสิ่งที่ลดพลังของพวกมันไปได้มากจริงๆ

 

ในตอนแรกมีพวกกูลอยู่ 20 ตัว พวกมันเริ่มวิ่งมาที่ระยะ 150 ฟุต  ยังไงก็ตาม เมื่อพวกมันมาถึงระยะ 90 ฟุต พวกมันก็เหลืออยู่แค่ 8 ตัวเท่านั้น ส่วนพวกที่เหลือนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไปหมดแล้ว

 

“ฆ่าพวกมันให้หมด! ฆ่าพวกมันซะ!” หัวหน้าหน่วยสอดแนมตะโกนและเติมกระสุนหน้าไม้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ยิงพวกกูลต่อ เขานั้นได้ฝึกมันมามากกว่า 1,000 ครั้งแล้วในระหว่างสงครามและทำมันโดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที

 

จากนั้นหน้าไม้ก็ยิงต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง

 

ภายใน 3 อึดใจ กูลตัวสุดท้ายก็ล้มลงในระยะ 15 ฟุตห่างจากทุกๆคน

 

“หึ! ไอพวกโง่ที่รู้จักแค่การพุ่งเข้าใส่เอ๊ย!” หัวหน้าหน่วยสอดแนมตบกูลที่ล้มลงและเช็คดูหน้าไม้ของเขาอย่างระมัดระวัง หลังจากมั่นใจว่ามันไม่มีความเสียหาย เขาก็เก็บอาวุธสุดที่รักของเขาเอาไว้ในที่ปลอดภัย

 

จากนั้นเขาก็สั่ง “โอเค เผากูลพวกนี้และเก็บลูกศรที่ยังใช้ได้อยู่ซะ มองหาพวกมันให้ทั่ว! พวกมันมีราคาแพงนะ!”

 

ในตอนที่เขาพูดจบ เสียงอันตื่นตระหนกก็ดังขึ้นข้างๆเขา “อะไรเนี่ย?ทำไมข้างในรถม้าถึงว่างเปล่าหล่ะ?”

 

ทุกคนหันหลังกลับไปในทันที และแน่นอนว่า นักโทษที่อยู่ในรถม้านั้นได้หายไปแล้ว นักโทษที่มีค่าทั้ง 2 คนได้หายไปแล้ว

 

“ตัวล็อคได้รับความเสียหาย มีใครบางคนช่วยพวกเขาไป!”

 

“แต่พวกเราไม่เห็นใครเลยนะ; พวกเราปกป้องรถม้าอยู่!”

 

หัวหน้าหน่วยสอดแนมหน้าซีดในทันที เขาเดินไปทางรถม้าและตรวจสอบอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็กัดฟันพูด “มันเป็นฝีมือของดาร์กเอลฟ์นักเวทย์ พวกหมาล่าเนื้ออยู่ไหน? พวกเรายังตามพวกมันทันอยู่! พวกมันหนีไปได้ไม่ไกลนักหรอก!”

 

“หัวหน้า หมาล่าเนื้อตายหมดแล้วครับ…ไม่สิ ยังมีตัวนึงที่มีชีวิตอยู่ มันคือไอแก่ฮอลลี่!” หน่วยสอดแนมตะโกน

 

ไอแก่ฮอลลี่คือหมาล่าเนื้อที่มีอายุ 10 ปี ขนบนตัวของมันนั้นบางมากและโดยปกติแล้วหมาล่าเนื้อที่อายุเท่ามันจะไม่ถูกนำมาใช้ในสนามรบแล้ว ยังไงก็ตาม อาณาจักรนอร์ตันนั้นมีทรัพยากรณ์ไม่มาก ม้าสงครามและหมาล่าเนื้อมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว พวกเขาจำเป็นต้องใช้ทุกอย่างที่มี

 

หมาล่าเนื้อแก่ตัวนี้ฉลาดมากๆ ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกถึงอันตรายมาได้นานแล้วและออกไปจากกรงก่อนล่วงหน้า มันจึงยังไม่ตาย

 

ฮอลลี่นั้นมาที่รถม้าและทำการดม จากนั้นมันก็เห่าไปทางป่าที่ไม่โดนเผาอยู่หลายครั้ง

 

“ตามมันไป!” หัวหน้าหน่วยสอดแนมโบกมือของเขาและสั่งหน่วยสอดแนมให้วิ่งตามไป

 

หลังจากผ่านไปซักพัก หน่วยสอดแนมก็ตะโกน “ดูสิ! นี่มันรอยเท้า! พวกมันคงยังไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่!”

 

หัวหน้าหน่วยสอดแนมร่าเริงขึ้นมา เขาตะโกน “ศัตรูน่าจะมีแค่ไม่กี่คน น่าจะเป็นนักเวทย์แค่คนหรือ 2 คน ทุกคนกระจายตัวออกไป ระวังการลอบโจมตีด้วยหล่ะ!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด