Advent of the Archmage – Chapter 296: ไม่ว่าอะไรก็หยุดไม่ได้

อ่านนิยายจีนเรื่อง Advent of the Archmage ตอนที่ 296 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 296: ไม่ว่าอะไรก็หยุดไม่ได้

 

สุสานไฮเอลฟ์

 

ในเมื่อเฟลิน่าไม่ได้คัดค้านอะไรแล้ว ทุกอย่างก็ดูง่ายขึ้น กลุ่มของเขาตรงไปยังห้องที่เดอร์แรคอยู่ ระหว่างทางมอริแกนต้องการจะหยิบดาบและโล่ของไฮเอลฟ์ที่กองอยู่ทั่วพื้น แต่ว่ามีใครบางคนเร็วกว่าเขา ด้วยเสียงดังพรึ่บ อุปกรณ์ทั้งหมดก็หายไป

 

มอริแกนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเฟลิน่า

 

เธอก้มมองมอริแกนอย่างเย้ยหยัน “ข้าจะปล่อยให้ของพวกนี้ตกอยู่ในกำมือของโจรปล้นสุสานไม่ได้!”

 

“ท่านเกลียดโจรปล้นสุสานไม่ใช่หรอ? แล้วท่านเอามันไปทำไมหล่ะ?” มอริแกนถามอย่างสลด เขานั้นมาเพื่อฉกของไปบางส่วน แต่ไม่ได้วางแผนที่จะมาฉกทุกอย่างไป เขาขอแค่ชิ้นสองชิ้นก็พอใจแล้ว

 

เมื่อเห็นเขา เฟลิน่าก็พูดเย้ยอย่างเย็นชา “อย่าคิดเอาไปแม้แต่ชิ้นเดียวนะ! สำหรับข้า ข้าจะเอามันไปให้มาสเตอร์ลิงค์ พวกมันทั้งหมดได้รับการเสริมพลังแบบโบราณ ข้าจะเอามันไปให้เขาวิจัย”

 

ในที่สุดมอริแกนก็เข้าใจทุกอย่าง มังกรคนนี้ก็แค่ลำเอียง! แต่ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ เขาไม่ได้มีความสามารถแบบลิงค์ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ทำใจ

 

ในตอนที่พวกเขามาถึงห้องใต้ดิน เฟลิน่าก็ยังคงจับตามองมอริแกนอยู่ เธอไม่ปล่อยให้เขาเอาอะไรไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ลิงค์แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไร ถ้าเฟลิน่าอยากจะเป็นคนที่ใจร้าย เขาก็ไม่มีปัญหา

 

แต่ก็แน่นอนว่า มอริแกนนั้นเป็นคนนำทาง ดังนั้นเขาก็ควรจะได้รับส่วนแบ่ง และถึงยังไง มอริแกนก็จะขายของพวกนี้อยู่ดีดังนั้นลิงค์จึงสามารถให้เงินกับเขาเพื่อเป็นการชดเชยได้

 

 

ในตอนนี้ ลิงค์ได้ถูกชั้นหนังสือทั้งสองฝั่งของห้องดึงดูดความสนใจไปหทดแล้ว เขาเดินไปตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวัง เพื่อยืนยันว่าไม่มีกับดักเวทมนตร์ที่อันตรายแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มเปิดอ่านหนังสือโบราณ

 

หนังสือทุกเล่มนั้นถูกเขียนด้วยภาษาไฮเอลฟ์โบราณ ลิงค์ไม่สามารถอ่านมันได้ แต่ก็ต้องขอบคุณระบบเกมที่ได้แปลมาให้เขาเสร็จสรรพ ในตอนที่เขามอง ภาษาธรรมดาจะปรากฏขึ้นบนทัศนวิสัยของเขาดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด

 

มีหนังสือเวทมนตร์ทั้งหมดประมาณ 2,000 เล่ม ลิงค์มองไปที่พวกมันทั้งหมดทีละเล่มและพบว่ามีหลายเล่มที่ได้รับความเสียหาย มีแค่ 10% เท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพดี โดยไม่นับหนังสือรวมบทกลอนและเรื่องอื่นๆ ในนั้นมีหนังสือเวทมนตร์ที่มีค่าจริงๆแค่ 20 เล่มเท่านั้น และพวกมันส่วนใหญ่ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

 

ในที่สุด เขาก็พบกล่องที่ทำด้วยแร่เอเธอเนียมที่มีผนึกเวทมนตร์นิรันดร์ฝังไว้อยู่บนชั้นหนังสือที่ เขาคิดว่ามีของดีๆอยู่ข้างในนี้

 

หลังจากลองเปิดดู เขาก็พบหนังสือเวทมนตร์ปกแข็ง มันดูหนักและชื่อของมันก็ตรงมากๆ-การสร้างเครื่องราง

 

ลิงค์รู้สึกดีใจมากๆ เขาเอามันออกมาเปิดดู และได้พบชุดเวทมนตร์การสร้างเครื่องรางฉบับแบบสมบูรณ์ มันมีตั้งแต่แบบเริ่มต้นไปจนถึงเวทย์ระดับสูง

 

หนังสือเล่มนี้มีค่ามาก ไม่แปลกใจเลยที่มันจะถูกเก็บเอาไว้ในกล่องแร่เอเธอเนียมที่สวยงามแบบนี้! เขาคิด

 

ในตอนที่เขากำลังจะเก็บกล่องเข้าไป เขาก็สังเกตเห็นว่ามีหนังสือเวทมนตร์อีกเล่มอยู่ที่ก้นกล่อง เล่มนี้บางกว่า และชื่อของมันก็ถูกเขียนด้วยลายมือ ซึ่งมันถูกแปลว่า ไร้พ่าย และผู้แต่งก็คือตัวเดอร์แรคเอง

 

ลิงค์เปิดดู และเขาก็เริ่มไล่ดูผ่าน แต่ว่าหลังจากที่ผ่านไป 1 นาที เขาก็เริ่มอ่านมันละเอียดยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็ยืนนิ่งและไม่ขยับไปไหน หนังสือเล่มนี้นั้นมีระดับสูงมากและมันก็คือการสำรวจทะเลแห่งความว่างเปล่า มันกล่าวถึงการดำรงอยู่ของเอกพจน์เป็นหลัก

 

 

แล้วอะไรคือเอกพจน์หล่ะ?

 

อ้างอิงจากในหนังสือ เอกพจน์ก็คือจุดๆหนึ่งของทะเลแห่งความว่างเปล่าซึ่งเป็นจุดที่กฎของธรรมชาติได้มารวมตัวกัน  ที่นั่นมีเอกพจน์จำนวนนับไม่ถ้วนและแต่ละเอกพจน์ก็มีพลังอันมหาศาลเก็บเอาไว้อยู่

 

เดอร์แรคไม่ได้เขียนแค่คำจำกัดความที่เกี่ยวกับเอกพจน์ในหนังสือเท่านั้น แต่เขายังพูดถึงรายละเอียดของมีดชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “จุดแตกหัก” ด้วย ซึ่งในหนังสือได้เขียนเอาไว้ว่า

 

“เอกพจน์นั้นมีตัวตนอยู่ แต่ว่าพวกมันไม่สามารถถูกควบคุมหรือรู้สึกถึงได้ ยังไงก็ตาม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้”

 

“ด้วยวิธีการบางอย่าง ผลิตภัณฑ์การเล่นแร่แปรธาตุที่ก่อขึ้นเป็นภาพโลหะชนิดพิเศษนั้นสามารถจับเอกพจน์ได้ แต่ก็แน่นอนว่า ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นกว้างขวางไม่มีที่สิ้นสุดและมีเอกพจน์อยู่เพียงน้อยนิด โอกาสที่จะจับมันได้ซักอันจึงมีน้อยมากๆ จนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงกระนั้น ข้าก็ได้รับพรจากพระเจ้าและโชคดีที่จับมันมาได้อันนึง และหล่อมันขึ้นมาเป็นมีดภาพโลหะ”

 

“ข้าเรียกมีดเล่มนี้ว่า ‘จุดแตกหัก’ ซึ่งหมายความว่า ‘การประหาร’ ”

 

“ภาพโลหะนั้นแข็งเกินกว่าที่จะทำให้เป็นรูปร่างได้ ดังนั้น ข้าจึงบังคับให้มันมีรูปร่างสวยงามตามความต้องการของเผ่าข้าไม่ได้และสร้างมันขึ้นมาแบบเรียบมากๆ มีดนี้มีสีเงินของเหล็กและไม่มีลวดลายอะไรทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าเจ้าเจอมันอยู่บนถนน ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงจะคิดว่ามันคือมีดเหล็กธรรมดา…. แต่อันที่จริงแล้ว มีดจุดแตกหักนั้นเป็นมีดที่คมที่สุดในโลก มันสามารถตัดทุกอย่างที่อยู่ในโลกฟิรุแมนได้ หมายเหตุ ข้าหมายถึงทุกอย่างจริงๆนะ!”

 

 

พออ่านมาถึงจุดนี้ หัวใจของลิงค์ก็สั่นระรัว เขาหยิบกล่องขึ้นมาและเห็นสิ่งเล็กๆที่อยู่ที่ก้นกล่อง มันคือมีดหยาบๆ ที่มีความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร และมีสีเงินของเหล็ก นอนอยู่ก้นกล่องอย่างเงียบๆ

 

มีคำภาษาไฮเอลฟ์เขียนเอาไว้ที่ตัวมีดสี่คำ มันอ่านว่า “มีดจุดแตกหัก ผู้ไม่มีวันถูกหยุด”

 

ลิงค์หยิบมันด้วยความระมัดระวังและลองเอามันขูดเข้ากับกล่องเอเธอเนียม ด้วยเสียงเบาๆ มีเศษเหล็กกระเด็นออกจากกล่อง ทั้งกระบวนการนั้นง่ายเหมือนกับหั่นเต้าหู้

 

ลิงค์มองไปที่ดาบจ้าวพายุที่เขามักจะพกไปไหนมาไหนด้วยเสมอ และวิญญาณดาบก็ได้ตะโกนในจิตใจของเขาทันที “ถ้าเกิดว่าเจ้าลองมันกับข้าหล่ะก็ ข้าจะทำให้เจ้าตายไปพร้อมกับข้าเลย!”

 

มันสามารถตัดทุกอย่างได้จริงๆสินะ? ลิงค์คิดด้วยความตกใจ ตอนแรกเขามองมีดด้วยความสงสัยและคิดว่าเดอร์แรคพูดเกินจริง เมื่อเห็นการตอบสนองของวิญญาณดาบเจ้าพายุแล้ว เขาก็เชื่อมั่นอย่างเต็มที่

 

มันมีเอกพจน์อยู่ในนี้ มันน่ากลัว น่ากลัวมากๆ ดาบจ้าวพายุอธิบาย อย่าว่าแต่สิ่งของในโลกฟิรุแมนเลย ข้าคิดว่ามันสามารถตัดได้แม้กระทั่งอาวุธระดับพระเจ้าออกจากทะเลแห่งความว่างเปล่า

 

เมื่อได้ยินถึงสิ่งนี้ ลิงค์ก็ถึงกับตกใจ เขาศึกษามีดอย่างระมัดระวัง เขายังรู้สึกไม่เชื่ออยู่ เขาเอาแท่งอาร์คาไนท์ออกมา ซึ่งมันมีความหนายิ่งกว่าเอเธอเนียมและบางทีมันอาจจะเป็นโลหะที่แข็งที่สุดแล้ว

 

ด้วยการหั่นเบาๆ อาร์คาไนท์ก็แตกออกเป็นสองซีก ด้วยการหั่นอีกครั้ง ชั้นของโลหะก็ม้วนงอออกมาในขณะที่มีดจุดแตกหักนั้นยังคงไม่เป็นอะไรเลย

 

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันสามารถตัดของแข็งทุกอย่างได้ แล้วถ้าเป็นวัตถุเสมือนหล่ะ?

 

ลิงค์โยนลูกแก้วมิติ-เวลาออกมาและรักษามันเอาไว้ให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร จากนั้นเขาก็หยิบมีดมาแทงมันเบาๆ ในตอนที่มีดแตะลูกแก้วมิติ-เวลา มันมีการต่อต้านเล็กน้อย ลิงค์จึงออกแรงมากขึ้นและแทงมันทะลุลูกแก้ว

 

มันเป็นรอยขีดเล็กๆ และลูกแก้วก็ถูกแบ่งครึ่งโดยไม่มีเสียง มันเกิดขึ้นเร็วมากจนลิงค์แทบไม่สามารถประมวลผลได้

 

มันสามารถตัดได้แม้กระทั่งวัตถุเสมือนเลยหรอ? ถ้างั้นที่เดอร์แรคบอกว่าทุกอย่างนี่ คือเขาหมายความว่าทุกอย่างจริงๆสินะ? ลิงค์รู้แล้วว่าเขาได้เจอสมบัติที่มีค่ามากที่สุดในโลก!

 

สมบัติชิ้นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นในเกม ลิงค์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีตัวตนอยู่

 

โดยที่ไม่พูดอะไร ลิงค์ก็เก็บมีดกลับเข้าไปในกล่องเอเธอเนียม รวมทั้งหนังสือด้วย จากนั้นเขาก็เตรียมเก็บมันเข้าไปในจี้ต่างมิติของเขา

 

และในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ว่ามันล้มเหลว กล่องเอเธอเนียมไม่ยอมเข้าไปในจี้ต่างมิติ…เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะมีด ดังนั้นเขาจึงเอามันออกมาและผูกมันเอาไว้ที่ขาของเขา จากนั้นเขาก็เก็บกล่องเอเธอเนียมเข้าไป

 

ในที่สุด เขาก็เริ่มตรวจสอบหนังสือเล่มอื่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งนี้ เขาเร็วกว่าเดิม 10 นาทีต่อมา เขาก็เก็บหนังสือที่มีประโยชน์ทั้งหมด

 

ในที่สุดตอนนี้เขาก็ใจเย็นลงแล้ว มันเป็นสมบัติจริงๆ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ไร้พ่ายเพราะมันเป็นแค่มีด มันสามารถตัดได้ทุกอย่างก็จริง แต่มันก็ต้องไปถึงสิ่งนั้นให้ก่อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังช่วยให้ฉันคิดวิธีการที่น่ากลัวได้อยู่ดี!

 

พอคิดได้อย่างนี้ ลิงค์ก็รู้สึกว่าเขาควรสร้างเวทย์ที่เข้ากับพลังของมีดนี้!

 

ฉันจะเริ่มคิดในตอนที่ฉันมีเวลา! ลิงค์ตื่นเต้นมาก

 

ในระหว่างนี้ เฟลิน่าก็ได้เก็บอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดที่อยู่ในห้องแล้ว มอริแกนไม่ได้ช่วยอะไรเลยเขาทำได้แค่ยืนอยู่ข้างๆ

 

ลิงค์พยายามจะซ่อนความตื่นเต้นของเขา แต่เขาทำไม่ได้ ในที่สุดเขาก็พูดกับเฟลิน่าอย่างกระตือรือร้น “ลองเดาดูสิว่าฉันเจออะไร? ฉันเจอหนังสือเวทมนตร์และอุปกรณ์เวทมนตร์บางอย่างหล่ะ ขอเวลาฉันสร้างเครื่องรางขึ้นมาใหม่สักพักนะ และเมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะสามารถลดราคาของอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดลงไปได้ถึง 1 ใน 5 ของที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย…และไม่ต้องห่วงนะ เฟลิน่า ฉันจะแบ่งปันเวทย์สร้างเครื่องรางให้กับเผ่ามังกรด้วย”

 

จริงๆแล้ว ความดีใจของเขานั้นมาจากมีดจุดแตกหัก แต่ว่าลิงค์รู้ว่าถ้าเขาเปิดเผยเรื่องสมบัตินี้ มันก็จะเกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้นเขาจึงเก็บเงียบเอาไว้

 

เฟลิน่าไม่รู้ถึงเรื่องนั้น เมื่อเห็นว่าลิงค์ดีใจจนแทบบ้า เธอก็ดีใจไปด้วย

 

ในใจของเธอ ลิงค์นั้นแตกต่างจากมอริแกน ลิงค์ไม่ต้องการเงิน ดังนั้นถ้าเขาพูดว่าเขาจะเอามันกลับไปวิจัย เขาก็จะทำแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการดูหมิ่นศาสนา แต่ว่าเขาก็จะสามารถฟื้นฟูความรู้จากอดีตได้ ซึ่งมันดีกว่าพวกโจรที่ปล้นสุสานเพื่อเงินเป็น 100 เท่าเลย

 

เธอยิ้ม มีตีนกาขึ้นที่ดวงตาของเธอ “ข้ามั่นใจว่าองค์ราชินีจะต้องดีใจมากแน่ๆเมื่อท่านได้รู้ข่าวนี้ ไม่ต้องห่วงลิงค์ องค์ราชินีจะไม่ให้เจ้าทำงานฟรีๆแน่”

 

มีแค่มอริแกนเท่านั้นที่ถอนหายใจอย่างสลด เขาไม่ได้อะไรเลยในครั้งนี้  แต่โดยที่ไม่คาดคิด ลิงค์ก็หยิบคัมภีร์ออกมา เขาเขียนคำภีร์ต่อหน้ามอริแกน และเมื่อเขาเขียนเสร็จ เขาก็เอามันให้มอริแกนดู หลังจากที่เขาดูเนื้อหาของมัน ลิงค์ก็ผนึกมันด้วยผนึกเวทมนตร์ของเขาและยื่นมันให้กับมอริแกน

 

 

“คุณมอริแกน คุณเป็นคนสำคัญมากที่ช่วยให้ผมได้มาพบกับสมบัติที่ดีมากๆในครั้งนี้ เอาม้วนคัมภีร์นี้กลับไปที่ดินแดนของผมและยื่นมันให้กับผู้อำนวยการ ลูซี่ เธอจะให้เงินกับคุณ 8,000 เหรียญทองเป็นค่าตอบแทน ถ้าเกิดว่าคุณเจอสถานที่ที่มีสมบัติอีก คุณสามารถมาหาผมได้เสมอนะ”

 

มอริแกนนั้นตื่นเต้นตั้งแต่ตอนที่เขาได้อ่านจดหมายนี้แล้ว เขารู้ว่าลิงค์ไม่ได้โกหกเพราะเขาได้เห็นมันด้วยตาของตัวเองแล้ว “มอริแกนเพื่อนของฉัน ได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้มาก ฉันให้เงินรางวัลกับคุณมอริแกนเป็นเงิน 8,000 เหรียญทองในฐานะลอร์ด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องไม่มีความล่าช้า”

 

ในฐานะนักเวทย์เลเวล 4 เงินพวกนี้คือโชคลาภของเขา เพราะความสามารถของเขา มอริแกนจึงสามารถทำเงินได้แค่ 6,000 เหรียญทองต่อปีด้วยการปล้นสุสานเท่านั้น แต่ตอนนี้ ลิงค์ได้ให้เงินเขาถึง 8,000 เหรียญทอง ซึ่งมันมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้ซะอีก

 

เขานั้นไม่ใช่คนยุ่งยาก ดังนั้นเขาจึงยิ้มให้ในทันทีที่ได้รับจดหมาย “มาสเตอร์ลิงค์ ท่านช่างมีเมตตาจริงๆ ได้โปรดวางใจได้เลยครับ ข้า, มอริแกน, ได้เดินทางไปทั่วแผ่นดินใหญ่เพื่อไฝ่หาการผจญภัย ถ้าเกิดว่าข้าเจอโบราณสถานอีกในอนาคต ข้าจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างแน่นอน”

 

นี่มันสมบูรณ์แบบ

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มหาประตูลับ

 

จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากเลย ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลิงค์ก็เจอสัญลักษณ์เวทมนตร์ที่ซ่อนอยู่บนกำแพงข้างๆกับบัลลังค์ หลังจากที่เปิดใช้งานมัน ทางเดินยาวก็ปรากฏขึ้น ทั้งกลุ่มเดินไปอย่างระมัดระวัง หลังจากเดินไปได้ประมาณ 650 ฟุต แสงก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที พวกเขาก็ออกมาจากถ้ำได้

 

 

พวกเขายังคงอยู่ในเทือกเขาโคโรราโด้ แต่ว่ามันไม่มีป่าอยู่ด้านหน้าพวกเขาอีกแล้ว กลับกันมันคือยอดหน้าผาสูงกว่า 1,000 ฟุต วิวตรงนี้กว้างมาก พวกเขาสามารถเห็นทุกอย่างได้ในระยะหลายไมล์

 

 

มันไม่มีทางที่จะลงจากหน้าผาได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์กับมังกรแดงเฟลิน่าจะทำไม่ได้

 

“งั้นข้าขอตัวก่อนนะ” มอริแกนอดใจรอที่จะกลับไปแลกเงินที่ดินแดนของลิงค์ไม่ไหวแล้ว เขาร่ายเวทย์ลอยใส่ตัวเองและกระโดดลงจากหน้าผาไป

 

ในขณะที่มองไปที่หลังของเขา เฟลิน่าก็เอ่ยปากออกมา “ฮึ ไอโจรปล้นสุสาน!”

 

ลิงค์ยิ้มและส่ายหัวของเขา “มอริแกนเป็นคนฉลาดและมีความสามารถมาก เขาเป็นนักธรรมชาติวิทยานะ”

 

“ช่างเถอะ” เฟลิน่ายักไหล่ เธอได้เห็นทักษะการติดตามและความใส่ใจของมอริแกนแล้ว และเธอก็เคยพบกับนักธรรมชาติวิทยามาก่อน เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของลิงค์ได้

 

“ไปกันเถอะ”ลิงค์พูด

 

เฟลิน่าพยักหน้า เธอแปลงร่างเป็นมังกรและพาลิงค์กับนานะไปทางหุบเขามังกร

 

หลังจากบินไปได้นานกว่า 1 ชั่วโมง ลิงค์ก็เห็นหมอกสีขาว เฟลิน่าบินเข้าไปในนั้นโดยไม่ลังเลและบินอยู่กว่า 10 นาทีก่อนที่หมอกจะหายไป เขาเห็นภาพชัดขึ้นในทันที และภาพของหุบเขาอันใหญ่โตก็ได้ปรากฏขึ้น

 

เขาไม่สามารถดูได้ว่าหุบเขาแห่งนี้ไปจบที่ตรงไหน คำว่า “ใหญ่โต”นั้นยังไม่พอที่จะเอามาอธิบาย มีมังกรจำนวนมากบินอยู่บนท้องฟ้า และมีป่ากว้างสุดลูกหูลูกตาที่ด้านล่างของพวกเขา ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นคือภูเขารูปแหวน มันสูงมากๆ สูงกว่า2ไมล์ และมีหิมะปกคลุมอยู่ที่ยอดของมัน

 

 

หุบเขามังกรนั้นใหญ่กว่าที่ลิงค์เคยเห็นมาก่อนในเกมหลายเท่าตัว!

 

“ที่อยู่ข้างหน้านั่นคือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของหุบเขามังกร” เฟลิน่าอธิบายด้วยความภูมิใจ “เจ้าเห็นกลุ่มสิ่งปลูกสร้างตรงนั้นไหม? นั่นคือวิหารมังกร พวกเราจะไปที่นั่นกัน”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด