Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 96 การประลองสติปัญญา

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 96 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 96 การประลองสติปัญญา

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

หลังจากการประลองวิทยายุทธสิ้นสุดลง การประลองสติปัญญาจึงเริ่มต้นขึ้น

 

ขณะที่สํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ส่งศิษย์ชั้นเลิศเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประลองครั้งนี้กว่าหนึ่งร้อยคน สํานักหมอกเมฆามีเยี่ยฉวนเพียงผู้เดียวเท่านั้น! การประลองสติปัญญาแตกต่างจากการประลองด้านวิทยายุทธเพราะมีโอกาสเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น ผู้ที่เดินเข้าไปลึกที่สุดและยืนหยัดอยู่ในเขาวงกตเป็นคนสุดท้ายคือผู้

ชนะ!

 

สิ้นเสียงผิวปากให้สัญญาณของผู้ตัดสิน ตัวแทนของสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ต่างกรูกันเข้าไปในเขาวงกตทันทีด้วยไม่ต้องการรั้งท้ายจนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ส่วนเยี่ยฉวนกลับรอทั้งสองสํานักเบียดเสียดกันเข้าไปอย่างใจเย็น ก่อนเดินตามเข้าไปเป็นคนสุดท้าย

 

ทันทีที่ผู้ร่วมประลองทั้งหมดเข้าไปในเขาวงกต ซากปรักหักพังโดยรอบแปรเปลี่ยนเป็นภาพลวงตาด้วยอํานาจเวทมนตร์ ทว่าฝูงชนที่รับชมการประลองอยู่ด้านนอกมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในอย่างชัดเจน

 

ยอดฝีมือจากสํานักเบญจลักษณ์ทั้งหมดเดินลึกเข้าไปในเขาวงกตอย่างไม่รอช้า แต่ยอดฝีมือจากสํานักเครื่องนิลแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเดินเข้าไปในเขาวงกตลึกขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกลุ่มที่สองชะลอความเร็วลงในที่สุดพวกเขาจึงหยุดชะงักฝีเท้า แต่ละคนต่างชักอาวุธออกพร้อมแผ่จิตสังหารเย็นเยียบ! เป้าหมายของคนเหล่านี้ไม่ใช่ชัยชนะแต่เป็นการสังหารเยี่ยฉวน!

 

“ไม่นะ! ศิษย์พี่ใหญ่ถูกปองร้าย!”

 

“ไอ้หมาเฒ่าลอบกัด!”

 

จ้าวต้าจื่อ จูซื้อเจียและบรรดาศิษย์ร่วมสํานักคนอื่นๆ ตื่นตระหนกยิ่งที่เห็นเยี่ยฉวนกําลังตกอยู่ในอันตราย! เมื่อสํานักเครื่องนิลพ่ายแพ้อย่างยับเยินโท่วป่าเซียงก็ไม่ใส่ใจสิ่งใดอีก เขาสั่งการให้ศิษย์หลายสิบคนสังหารเยี่ยฉวนโดยไม่ปิดบังตัวตนอีกต่อไป

 

เยี่ยฉวนผู้บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง เพราะไม่อาจต่อกรกับยอดฝีมือจํานวนมากจากสํานักเครื่องนิลได้ ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการถูกลอบสังหารให้ตกตายในเขาวงกตอันซับซ้อนแห่งนี้อีกแล้ว!

 

ด้านนอกเขาวงกตที่ใช้เป็นสนามประลองปกคลุมไปด้วยความเงียบ ไม่เพียงฝั่งของสํานักหมอกเมฆาที่เม้มปากสนิท บรรดาศิษย์ของสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ก็ไม่ปริปากเอ่ยคําใด พวกเขาจ้องมองเหตุการณ์ในเขาวงกตโดยไม่กะพริบตา เพราะอยากรู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาผู้หลักแหลมคนนี้จะใช้วิธีใดรับมือกับเรื่อง เหล่านั้นจะยอมถอยกลับเสียตั้งแต่ยังมีโอกาส หรือฮึดสู้และก้าวเดินต่อ?!

 

แน่นอนว่าคนเช่นเยี่ยฉวนไม่มีทางถอยกลับ เขาเดินต่อไปด้านหน้าด้วยท่าทางผ่อนคลายราวไม่รับรู้ว่ามีภยันตรายรออยู่ข้างหน้า เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนเพื่อเตือนภัยจากเจ้าอ้วนและคนอื่นๆ ไม่อาจส่งไปถึงภายในเขาวงกตเวทมนตร์ปิดกั้นทุกสรรพเสียงจากด้านนอกโดยสิ้นเชิง!

 

ทันใดนั้นศิษย์ของสํานักเครื่องนิลคนหนึ่งที่ซุ่มอยู่หลังหินก้อนใหญ่พลันกระโดดออกมาพร้อมอาวุธสังหารคมกริบ หมายจ้วงแทงเข้าที่ระหว่างคิ้วของเยี่ยฉวน!

 

แสงสะท้อนของใบดาบวาววับเปล่งประกายราวสายรุ้ง ทักษะการฝึกตนของชายผู้นี้แข็งแกร่งยิ่ง! แม้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วแต่เยี่ยฉวนโต้กลับเร็วกว่าแสงดาบ พาดผ่านท้องฟ้าแวบหนึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาฝูงชนที่อยู่ด้านนอกศิษย์ของสํานักเครื่องนิลผู้นั้นทรุดกายลงกองกับพื้นลําคอถูกใบมีดอันบางเชือดจนสิ้นใจ!

 

การต่อสู้ในระยะประชิดเช่นนี้เยี่ยฉวนเป็นฝ่ายได้เปรียบ เขาขว้างใบมีดออกไปเพียงครั้งเดียว ศัตรูก็ดับดิ้นโดยไม่ทันร้องขอชีวิต!

 

เคล็ดวิชาคืบอรุณ!

 

เยี่ยฉวนก้าวข้ามร่างไร้ลมหายใจนั้นอย่างไม่แยแส การโต้กลับของเขารวดเร็วเสียจนศิษย์หลายคนไม่ทันสังเกตถึงกระบวนการที่ใช้ ทว่ายอดฝีมือบางรายถึงขั้นหดคอ ด้วยความขยาดกลัว ระหว่างนิ้วของเยี่ยฉวนเหน็บใบมีดขนาดเล็กเอาไว้ มือซ้ายสีใบมือขวาสีใบ ไม่น่าเชื่อว่าเขาสามารถใช้ใบมีดทั้งแปดสังหารคนได้ในพริบตา!

 

นี่หรือ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเยี่ยฉวน?!

 

ข่าวลือว่าทักษะและพลังยุทธ์ของศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆาด้อยกว่าศิษย์ชั้นนอกหลายคน ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย!

 

เป็นครั้งแรกที่ฝูงชนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นความแข็งแกร่งของศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวน! เสียงดูถูกเหยียดหยามต่างๆนานาเงียบลงอย่างฉับพลัน! สายตาทุกคู่ประจักษ์ชัดว่าชายหนุ่มผู้บรรลุการฝึกตนขั้นอู่เจือระดับที่เจ็ด สามารถสังหารศิษย์ชั้นเลิศของสํานักเครื่องนิลที่บรรลุขั้นซิวฉือระดับที่สองได้ในพริบตาเดียว!

 

ใบมีดเพียงแปดใบที่เหน็บอยู่ระหว่างนิ้วของเขา ทําให้ผู้คนต่างตกตะลึงจนกล่าวคําใดไม่ออก ทว่าไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขายังมีใบมีดคมกริบอีกหนึ่งใบซ่อนเอาไว้ใต้ลิ้น!

 

ด้วยท่าทางที่ไร้การป้องกันของเยี่ยฉวนทําให้ยอดฝีมืออีกคนของสํานักเครื่องนิลกระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว!

 

ภายในเขาวงกต แสงวาววับจากใบมีดสว่างวาบขึ้ นอีกครั้ง!

 

เยี่ยฉวนเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ฝีเท้าข องเขามีระยะห่างเท่ากันทุกย่างก้าวเพียงสามก้าวเท่านั้น ยอดฝีมือผู้หมายจะสังหารเยี่ยฉวนล้มฟุบลงกับพื้นและหยุดหายใจ! บนร่างกายของเขามีบาดแผลเพียงแห่งเดียวคือบริเวณลําคอเท่านั้น รอยกรีดบางเฉียบทว่าเลือดแดงฉานไหลทะลักออกมาจากหลอดลมที่ขาดสะบั้นไม่ขาดสาย! 

 

หลังจากนั้นยอดฝีมือของสํานักเครื่องนิลที่ซุ่มอยู่จึงกระโดดออกมาทีละคน บ้างก็รวมกลุ่มกันเข้าจู่โจมเยี่ยฉวน ถึงกระนั้นก็ไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่สามารถหยุดยั้งฝีเท้าของเขา ได้! เขายังคงเดินลึกเข้าไปในเขาวงกตโดยไม่ชะงักฝีเท้าแม้แต่ก้าวเดียว ทิ้งร่างที่ถูกใบมีดเชือดคออย่างอนาถนอนเกลื่อนกลาดอยู่เบื้องหลังศพแล้วศพเล่า!

 

จ้าวต้าจื่อ จูซือเจีย และศิษย์สํานักหมอกเมฆาคนอื่นๆ ที่เคร่งเครียดในช่วงแรกแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นตื่นเต้น พวกเขาโห่ร้องให้กําลังใจเยี่ยฉวนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ!

 

ส่วนฝูงชนอีกสองสํานักกลับเงียบกริบ โดยเฉพาะบรรดาศิษย์สํานักเครื่องนิลที่เผยสีหน้าคล้ําหม่นไม่น่ามอง

 

ใบหน้าของโท่วป่าเซียงเคร่งเครียดเมื่อเห็นยอดฝีมือของ สํานักเครื่องนิลตกตายไปหลายราย ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆอย่างตื่นตระหนก ความตายของบรรดาศิษย์ไม่ทําให้เขาโกรธแค้นมากไปกว่าความแข็งแกร่งของเยี่ยฉวนที่เขาไม่เคยคาดคิด! เขาประเมินเยี่ยฉวนผิดถนัด ชายผู้นี้ไม่เพียงแสร้งเป็นใบ้เพื่อปิดบังความเฉลียวฉลาดของตน แต่ยังเก็บงําทักษะความสามารถอันน่าทึ่งก่อนเปิดเผยมันในการประลองครั้งสุดท้าย!

 

ศิษย์สํานักเครื่องนิลหลายสิบคนถูกเยี่ยฉวนสังหารจนเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คนเหล่านั้นไม่ได้รอดชีวิต เพราะมีทักษะเหนือกว่า แต่รอดชีวิตเพราะไม่กล้าโจมตีเขา!

 

ภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นในเขาวงกตทําให้ศิษย์ของสํานักเบญจลักษณ์และสํานักเครื่องนิลที่เร่งรุดเข้าไปในตอนแรก ชะลอฝีเท้าลงด้วยความสับสนที่ยิ่งเดินหนทางก็ยิ่งวกวนกลับมาที่เก่า ศิษย์บางรายยังเดินหน้าต่อไปแต่บางรายกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่ ภาพลวงตาทําให้พวกเขารู้สึกราวติดอยู่ในกับดัก บางคนชักดาบออกจากฝักและเริ่มฟาดฟันอากาศที่ว่างเปล่า บางคนระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น บางคนร้องไห้โฮอย่างบ้าคลั่งราวคนเสียสติ! คนเหล่านี้ถูกทหารอารักขาบีบบังคับให้ออกจากการประลองในที่สุด!

 

เยี่ยฉวนเดินด้วยท่าทางสบายๆ ผ่านกลุ่มคนที่ถูกภาพลวงตาในเขาวงกตทําให้เสียสติ แม้ฝีเท้าของเขาไม่เร็วนักแต่กลับทิ้งระยะห่างจากศิษย์ชั้นเลิศของสํานักอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นผู้เดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเวทมนตร์เหล่านั้น ทั้งยังก้าวเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆท่ามกลางฝูงชนที่ตกตะลึง!

 

ยิ่งลึกเข้าไปเพียงใดความเข้มข้นของค่ายกลในเขาวงกตกยิ่งเพิ่มขึ้น บรรดาศิษย์คนอื่นๆหยุดชะงักฝีเท้าเนื่องจากไม่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้ ครั้นเยี่ยฉวนข้ามผ่านด่านนี้ไปโดยไร้ร่องรอยขีดข่วนใดๆ ฝูงชนที่เห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกถึงขั้นอ้าปากค้าง แม้แต่โท่วป่าเซียงยังขมวดคิ้วด้วยความพิศวงยิ่ง!

 

บรรดาผู้อาวุโสลงมติใช้สถานที่นี้ในการประลองสติปัญญาสืบมาหลายชั่วอายุคน เพราะต่อให้เป็นผู้ฝึกตนที่บรรลุขั้นปรมาจารย์แห่งเต่ยังไม่สามารถข้ามผ่านด่านค่ายกลสุดท้ายของเขาวงกตนี้และกลับออกมาได้โดยง่าย ทว่าเยี่ยฉวนข้ามผ่านมันไปได้และย้อนกลับออกมาสําเร็จ!เขาทําเช่นนี้ได้อย่างไร?!

ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com

อาวุโสลําดับสองหนานกงเหรินก็ประหลาดใจจนกล่าวคําใดไม่ออกเช่นกัน! เขารับรู้เพียงว่าเยี่ยฉวนชํานาญด้านการเพาะปลูกสมุนไพรและการเล่นแร่แปรธาตุเป็นอย่างดี ครั้นประจักษ์ว่าศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้ยังชํานาญด้านกลไกอันซับซ้อนของเขาวงกต จิตใจชายชราพลันเกิดความสงสัยว่าเยี่ยฉวน คือบุคคลคนเดียวกันกับผู้ที่เคยถูกศิษย์ร่วมสํานักเหยียบย่ําในอดีตหรือไม่?!

 

“ท่านเจ้าสํานัก ข้ารู้ว่าสิ่งที่จะกล่าวนั้นน่าละอายนัก แต่ข้าชนะการประลองอีกครั้ง! หวังว่าท่านจะยกเหมืองแร่ให้สํานักหมอกเมฆาตามสัญญา!”

 

เยี่ยฉวนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าโท่วป่าเซียง รอยยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันปรากฏอยู่บนใบหน้าอันผ่อนคลาย ศิษย์ชั้นยอดของสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ที่ถูกบีบบังคับให้ออกจากการแข่งขันล้วนมีสภาพไม่สู้ดี บางรายติดภาพหลอนมาจากด้านในบางรายถึงขั้นเป็นลมหมดสติ ทว่าเยี่ยฉวนกลับผ่อนคลายราวเพิ่งกลับจากการเดินทอดอารมณ์ชมทิวทัศน์ ปราศจากท่าที่น่าสมเพชเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง!

 

เขาวงกตบนผาปากอินทรีที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังถูกกําหนดให้เป็นพื้นที่ต้องห้ามของทั้งสามสํานัก หากเข้าไปแล้วจะเกิดภาพลวงตาไม่มีที่สิ้นสุด แต่เยี่ยฉวนล่วงรู้ความลับบางอย่างของมัน เขาวงกตแห่งนี้สร้างขึ้นโดยมหาปราชญ์ผู้หนึ่งที่เขาคุ้นเคยเมื่อหลายล้านปีก่อน แท้จริงแล้วมันถูกสร้างขึ้นเพื่อกําจัดผู้ที่บรรลุขั้นการฝึกตนระดับสูง ยิ่งขั้นการฝึกตนสูงส่งก็ยิ่งถูกภาพลวงตาบีบคั้นมากเท่านั้น ดังนั้นเขาที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น และสามารถกลับออกมาได้โดยง่าย!

 

หลายปีที่ผ่านมาทั้งสามสํานักเกิดความเข้าใจผิดว่าควรส่งศิษย์ชั้นเลิศและยอดฝีมือให้เข้าร่วมประลองสติปัญญาในเขาวงกตแห่งนี้ ผู้ที่บรรลุขั้นการฝึกตนต่ําจึงไม่มีความกล้าพอที่จะเฉียดกายเข้าใกล้ หารู้ไม่ว่าหนทางที่จะเอาชนะนั้นง่ายดายนัก…ง่ายเสียจนไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน!

 

โท่วป่าเซียงเผยสีหน้าคล้ําหม่น ก่อนหน้านี้พวกเขาประโคมข่าวและประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่ไปทั่วยุทธภพ ว่าตนจะต้องชนะการประลองระหว่างสามสํานักครั้งนี้อย่างแน่นอน ไม่คาดคิดว่าสํานักของตนจะพ่ายแพ้ทั้งการประลองวิทยายุทธและการประลองสติปัญญาอย่างราบคาบ! นอกจากศักดิ์ศรีที่สั่งสมมาจะสูญสิ้น…ยังได้รับความอัปยศมหาศาลจนแทบแทรกแผ่นดินหนี!

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด