บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 80 ทำความสะอาด

อ่านนิยายจีนเรื่อง บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 80 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 80

ทำความสะอาด

 

“ที่นี่มีคนอยู่หรือเปล่า…”ต้าเฉินว่าพลางมองไปรอบๆด้วยความสงสัย ทั้งตัวเรือนมีแต่หนังสือและฝุ่นเต็มไปหมด แต่กลับไร้วี่แววผู้คนแต่อย่างไร

“น่าจะอยู่ข้างในนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินนำพวกต้าชิงเข้าไปด้านใน ตัวมันมองหาไปทั่วเรือนกลับพบร่องรอยของมนุษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นทั้งๆที่มันฟังจากชายวัยกลางคนมาแต่ละเขตมีสมาชิกเกือบพันคน แต่ในเรือนของหน่วย 7 กลับมีคนอยู่ไม่ถึง 20 คนเสียด้วยซ้ำ

“ขออณุญาติขอรับ”ไป๋จูเหวินเปิดประตูห้องแห่งหนึ่งออกพลางเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ที่นี่คือห้องที่มีคนอยู่ใกล้ที่สุดที่ไป๋จูเหวินสัมผัสได้

“ฮะ..มีอะไรกัน”ทันทีที่ไป๋จูเหวินเปิดประตูเข้าไปหญิงสาวคนหนึ่งก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพลางมองไปรอบๆราวกับยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ขออภัยที่เข้ามาปลุกขอรับ แต่พวกเรามีธุระจริงๆ”ไป๋จูเหวินตอบพลางรอให้หญิงสาวหายงัวเงียเสียก่อน หากดูจากภายนอกนางเป็นหญิงสาววัยแรกแย้มผู้มีผมเผ้ากระเซาะกระเซิงกับเสื้อผ้าที่ยับยู้ยี่สมกับสภาพคนพึ่งตื่นนอนไม่มีผิด แถมบนหน้าของเธอยังมีเครื่องประดับแปลกๆที่มีลักษณะเป็นแก้วทรงกลมสองอันวางปิดดวงตาเอาไว้อีกต่างหาก

“หือ…พวกเจ้ามาขอข้อมูลงั้นเหรอ”หญิงสาวว่าพลางเปิดกองตำราดูด้วยท่าทีเซื่องซึม

“ไม่ใช่ขอรับ พวกเรามาสมัครเข้าร่วมกลุ่มนักล่าอสูร”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ ภายนอกนางเหมือนบรรณารักษ์ผู้ทำหน้าที่เฝ้าห้องสมุดไม่มีผิดแต่ที่ไป๋จูเหวินตรงมาหานางไม่ใช่เพราะนางอยู่ใกล้ที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่เพราะพลังวิญญาณของนางสูงที่สุดในเรือนแห่งนี้แล้วต่างหาก ทำให้ไป๋จูเหวินรักษามารยาทเอาไว้แม้อีกฝ่ายจะมีสภาพไม่ต่างจากพึ่งตื่นนอนก็ตาม

“สมัคร……..”หญิงสาวตรงหน้านิ่งไปครู่หนึ่งราวกับนึกอะไรไม่ออก

“อ่อ..พวกเจ้ามาสมัครเข้าหน่วยของเราสินะ ขอโทษที พอดีไม่มีคนมาสมัครนานแล้วน่ะ”หญิงสาวว่าพลางลุกขึ้นยืนก่อนจะปัดฝุ่นบนเสื้อออก

“พวกเจ้าผ่านการฝึกของสำนักย่อยมาแล้วสินะ”หญิงสาวว่าพลางตรวจสอบพลังวิญญาณของพวกไป๋จูเหวิน โดยต้าชิงต้าเฉินผ่านเกณระดับหลอมรวมปฐพีพอดีส่วนไป๋จูเหวินไม่มีปัญหาเพียงแต่นางรู้สึกประหลาดใจที่ไป๋จูเหวินมีพลังอสูรอยู่แล้วมากกว่า

“ขอรับพวกเราผ่านการสั่งสอนของสำนักเขี้ยวมังกรในเมืองผาหยกมาแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบด้วยท่าทีอ่อนน้อมเข่นเดิม

“งั้นก็รับเข้าเลยแล้วกัน ข้าจะไปเอาเครื่องแบบกับแก่นอสูรมาให้”หญิงสาวว่าพลางเดินออกไปจากห้องอย่างเอื่อยเฉื่อย ทำเอาพวกต้าชิงอดประหลาดใจไม่ได้เพราะพวกมันนึกว่าจะมีการทดสอบก่อนเข้าร่วมเสียอีก

“พี่ชิง”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองร่างของหญิงสาวที่เดินออกไปไม่ละสายตา

“หากฝึกฝนพลังวิญญาณจนบรรลุขั้นสูงแล้วร่างกายจะไม่แก่ชราหรือเปล่า”ไป๋จูเหวินถามเพราะพลังของหญิงสาวสูงกว่าเหม่ยหลินไปหลายขั้น เรียกได้ว่าสูงกว่าลิบลับเลยทีเดียว

“ขะ ข้าเคยได้ยินมาว่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับสูงจะยืดอายุขัยออกไปหลายเท่า และทำให้ร่างกายคงสภาพตอนนั้นเอาไว้ขอรับ อย่างท่านอาวุโสเทียนหมิงก็ได้ชื่อว่ามีอายุร่วม 500 ปีไปแล้วขอรับ หรือว่าแม่นางคนเมื่อครู่..”ต้าชิงนิ่งอึ้งไปพลางมองไปทางหญิงสาวที่พึ่งเดินหายไปจากสายตา มันเพียงสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายพลังมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเมืองแห่งนี้เลยก็ว่าได้

“อืม…นางมีระดับห่างจากอาวุโสเทียนหมิงอยู่หลายขั้น แต่ก็ใกล้เคียงมากทีเดียว”ได้ยินเช่นนั้นพวกต้าชิงก็มีสีหน้าตกตะลึงในทันที

“เจอแล้ว”หายไปไม่นาน หญิงสาวก็เดินกลับมาด้วยท่าทีเซื่องซึมไม่ต่างจากเดิม นางกลับมาพร้อมกล่อง 3 ใบและชุด 3 ขุด

“เจ้าคงไม่ต้องใช้แก่นอสูรสินะ”หญิงสาวว่าพลางมองมาทางไป๋จูเหวิน

“ขอรับ”ไป๋จูเหวินรับเพราะนักล่าอสูรย่อมทราบอยู่แล้วว่าไป๋จูเหวินมีพลังอสูรอยู่ก่อน

“อันนี้ของพวกเจ้า มันเป็นยาที่ช่วยทำให้พวกเจ้าสามารถกลืนแก่นอสูรได้โดยไม่ตาย”ได้ยินเช่นนั้นต้าชิงและต้าเฉินก็มีสีหน้าตื่นตะลึงทันที ได้ข่าวว่าต่อให้กินยาเข้าไปก็ยังมีโอกาสตายอยู่อีก

“นี่เป็นแก่นอสูรให้พวกเจ้าเลือก พวกเจ้าสองคนหยิบไปได้คนละเม็ด”พูดจบหญิงสาวก็เปิดกล่องใหญ่กล่องเดียวออก เผยให้เห็นแก่นอสูรที่บรรจุอยู่ภายในอย่างสวยงาม

“นี่มัน..”ต้าชิงและต้าเฉินมองแก่นอสูรตรงหน้าอย่างประหลาดใจ มันได้ทราบจากสำนักเขี้ยวมังกรแล้ว ว่าการกลืนแก่นอสูรของอสูรเข้าไป ร่างกายจะได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ถ้าหากทนได้ร่างกายก็จะได้รับความสามารถบางอย่างของอสูรตนนั้นๆมาด้วยเช่นกัน เพียงแต่มันไม่คากว่ากลุ่มนักล่าอสูรจะเตรียมแก่นอสูรให้พวกมันเอาไว้อย่างเพียบพร้อมเช่นนี้

“พวกนี้มีแต่แก่นอสูรระดับต่ำงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางตรวจสอบพลังอสูรที่ไหลออกมา ทุกเม็ดในกล่องนี้เป็นแก่นอสูรระดับต่ำทั้งสิ้น

“ถูกแล้ว มนุษย์ไม่สามารถทนพลังอสูรได้เกินกว่าอสูรระดับต่ำหรอก”ได้ยินเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็ขมวดคิ้วทันที จะว่าไปเหล่านักล่าอสูรที่มันเคยเจอต่างก็มีพลังอสูรน้อยนิดกันเท่านั้น จะเห็นมีมากหน่อยก็เหม่ยหลินเท่านั้น

“ข้าเคยได้พบคุณหนูเหม่ยหลินมาก่อน ข้านึกว่าทุกคนจะมีพลังอสูรเช่นนางเสียอีก”ไป๋จูเหวินถามพลางมองท่าทีของหญิงสาว

“คุณหนูเหม่ยหลินเหรอ แบบนั้นเสี่ยงตายเกินไป มันเป็นแค่การทดลองบ้าๆของท่านหัวหน้าเท่านั้นล่ะ”หญิงสาวส่ายหน้าพลางมองไปทางต้าชิงและต้าเฉิน

“พวกเจ้าเลือกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”ที่นางไม่ได้แนะนำแก่นอสูรแต่ละชนิดให้ถือเป็นการทดสอบอย่างหนึ่ง การจะเป็นหน่วยสำรวจควรจะแยกแยะได้ทั้งอสูรและแก่นอสูร หากพวกมันเลือกไม่เป็นก็ถือว่าฝีมือไม่ถึงไป

“ข้าเลือกได้แล้วขอรับ”ต้าชิงว่าพลางหยิบแก่นอสูรเม็ดหนึ่งออกมา

“ของข้าเอาอันนี้แล้วกัน”ต้าเฉินว่าพลางหยิบแก่นอสูรอีกเม็ดมาไว้ในมือ

“ทำไมพวกเจ้าถึงเลือกเช่นนั้น”หญิงสาวถามพลางยิ้มบางๆออกมา เพราะเครื่องประดับแปลกๆบนหน้าทำให้ทั้งสองเห็นดวงตาของนางไม่ชัดนัก

“นี่เป็นแก่นของอสูรอสรพิษ…น่าจะเป็นของอารพิษไร้เสียง ความสามารถขงมันคือการเคลื่อนไหวหลบเร้นสายตามนุษย์และอสูร ข้าเลือกมันเพราะความสามารถนี้”ต้าชิงว่าพลางมองแก่นอสูรในมือนิ่ง มันตั้งใจเรื่องการเป็นหน่วยสำรวจอย่างมาก การเล็ดลอดเข้าไปสำรวจอสูรถือเป็นความสามารถจำเป็นของหน่วยสำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย

“นี่คือแก่นอสูรของกระทิงป่าสามเขาขอรับ”ต้าเฉินตอบพลางมองดวงตาของหญิงสาวนิ่ง

“แล้ว…”หญิงสาวขมวดคิ้วพลางมองต้าเฉินนิ่งราวกับสงสัยว่ามันพูดจบหรือยัง

“เอ่อ..มันเร็วและแข็งแกร่ง ข้าชอบแบบนั้น”ต้าเฉินว่าพลางหัวเราะเก้อๆ แต่เห็นว่าทั้งสองสามารถยกแยะแก่นอสูรได้เป็นอย่างดีนางเลยวางใจขึ้นมา

“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกลืนมันเข้าไปทันทีก็ได้ ข้าเข้าใจหากเจ้าจะต้องใช้เวลาทำใจ”หญิงสาวพูดพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน คนในกลุ่มส่วนใหญ่กลืนแก่นอสูรระดับต่ำเข้าไปตอนที่เริ่มฝึก นอกจากหัวหน้ากลุ่มและตัวคุณหนูเหม่ยหลินแล้วไม่มีใครก้าวเกินระดับสูงเลยแม้แต่คนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นพลังอสูรของนางก็อยู่ระดับกลางช่วงท้ายแล้ว แต่กลับไม่สามารถแยะแยะได้ว่าพลังอสูรของไป๋จูเหวินอยู่ระดับใด เรื่องนั้นทำให้นางสงสัยทีเดียว เพียงแต่วันนี้นางเหนื่อยมากเลยไม่อยากหาเรื่องถามไป๋จูเหวินให้เหนื่อยเพิ่มไปอีก

“เอาล่ะ เท่านี้พวกเจ้าก็เข้าหน่วย 7 อย่างเป็นทางการแล้ว งานแรกเอาเป็น…..”หญิงสาวว่าพลางมองไปรอบๆ

“เก็บกวาดเรือนนี้ให้สะอาดแล้วจัดตำราให้เรียบร้อยก็แล้วกัน”พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปด้วยท่าทีเนือยๆ

“ทั้งหมดเลยเหรอขอรับ”ต้าชิงถามพลางกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะบอกว่าที่นี่ไม่หรูหราเหมือนเขตอื่นๆ แต่เรือนหลังนี้ก็มีอาคารร่วม 3 หลังแถมยังมีขนาดใหญ่มากอีกด้วย แถมเท่าที่ดูแต่ละห้องคงมีสภาพไม่ต่างกันนักนั่นคือเต็มไปด้วยกองตำรา

“ใช่…อ่ออาคารหลังไม่ต้องทำก็ได้มันเป็นหอพัก จริงสิพวกเจ้าเองก็ต้องมีห้องนี่นา เอาไว้สำความสะอาดเสร็จแล้วไปรายงานข้าที่ห้องผู้อาวุโสด้วยก็แล้วกัน ข้าโดนท่านหัวหน้ากลุ่มใช้ไปเก็บข้อมูลที่ทะเลสาบหมื่นราตรีมาทั้งเดือน อยากนอนจะแย่แล้ว”หญิงสาวว่าพลางโบกมือลาไปด้วยท่าทีง่วงอย่างไม่ปิดบัง

“อาวุโส…”ไป๋จูเหวินทวนคำนางพลางกลืนน้ำลายลงคอ เช่นนั้นนางก็เป็นอาวุโสของหน่วยที่ 7 และเป็นผู้มีอำนาจรองจากหัวหน้ากลุ่มและรองหัวหน้าเท่านั้นสินะ แม้ท่าทางของนางจะไม่เหมือนเลยก็ตาม

“นายน้อย เรื่องทำความสะอาดให้พวกเราจัดการเองเถอะ ท่านไปพักผ่อนดีกว่า”พูดเสร็จต้าชิงและต้าเฉินก็ทำท่าราวกับจะแยกย้ายกันทำความสะอาดทันที เพียงแต่งานนี้ตัวไป๋จูเหวินก็ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกัน แต่จะทำพวกต้าชงต้าเฉินก็คงไม่ยอม ไป๋จูเหวินเลยพาหลินหลินดินออกไปราวกับจะทำตามที่พวกต้าชิงต้าเฉินว่า แต่มันกลับเดินมาอีกอาคารแทนเสียอย่างนั้น

และก็เป็นอย่างที่มันคาดเดาเอาไว้ อาคารกลางเองก็มีสภาพไม่ต่างจากอาคารหน้าเสียเท่าไหร่ หากให้พูดตามตรงก็คือมันมีสภาพย่ำแย่กว่าอาคารหน้าเสียอีกเพราะนอกจากฝุ่นแล้วยังมีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมดอีกต่างหาก

“ใยแมงมุม…”ไป๋จูเหวินมองใยแมงมุมที่ติดอยู่ตามมุมอาคารพลางนึกอะไรบางอย่างขึ้นมา จะว่าไปมันยะงไม่ได้ทดลองเรียกสัตว์บริวารเลยนี่นา อาจจะเพราะช่วงนี้มีหลินหลินที่เป็นอสูรแมงมุมอยู่แล้วมาอยู่ข้างๆเลยลืมเรื่องการเรียกแมงมุมไปเลย

วี๊ด..ไป๋จูเหวินผิวปากเบาๆพลางมองไปรอบๆ อย่างแรกเลยคือหลินหลินที่มองมาราวกับจะถามว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า นอกนั้นก็มีแมงมุมตัวเล็กๆบางตัวเดินออกมาพลางตรงมาหาไป๋จูเหวินอย่างว่าง่าย ก็นะบริวารของอสูรแมงมุมมันก็ต้องเป็นแมงมุมอยู่แล้ว

แกรกๆๆๆๆๆ แต่ไม่นานร่างของแมงมุมตัวเท่าฝ่ามือจำนวนมากก็พากันกรู่เข้ามาหาไป๋จูเหวินจนพื้นตรงหน้าปรากฏแมงมุมนับร้อยมายืนราวกับจะรอรับคำสั่งจากไป๋จูเหวินก็ไม่ปาน แต่ไม่ทราบว่าพวกมันจะรับงานละเอียดอย่างการทำความสะอาดได้หรือไม่

“พวกเจ้า…ช่วยกันทำความสะอาดห้องนี้หน่อย”ไป๋จูเหวินสั่งพลางมองเหล่าแมงมุมนิ่ง เพียงครู่เดียวเหล่าแมงมุมก็พากันตรงไปยังกองตำราที่วางกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น พร้อมพากันยกตำรามาทำความสะอาดด้วยขาหน้าของพวกมันเอง แม้จะไม่ได้รวดเร็วมากแต่พวกมันก็ค่อยๆลำเลียงตำรากลับเข้าชั้นในสภาะใหม่เอี่ยมทีละเล่มๆสร้างความพึงพอใจให้กับไป๋จูเหวินเป็นอย่างมาก

ฟุบๆๆๆๆ ครู่ต่อมาอยู่ๆแมงมุมตัวเท่าสุนัข 8 ตัวก็พากันกระโดดมายืนตรงหน้าไป๋จูเหวินด้วยท่าทีเชื่องอย่างมาก หากมันเป็นสุนัขพวกมันคงกระดิกหางอยู่แน่ๆ

“เอ่อ…พวกเจ้าช่วยกันทำความสะอาดก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางชี้ไปทางที่พวกแมงมุมธรรมดาช่วยกันทำความสะอาดอยู่  ดูท่าแมงมุมอสูรระดับต่ำเองก็ถูกไป๋จูเหวินเรียกมาด้วย แต่จะว่าไปหลินหลินเองก็ตอบรับการเรียกด้วยนี่นา ไม่ใช่ว่าหากมีแมงมุมอสูรระดับสูงอยู่ก็จะมาตามการเรียกของไป๋จูเหวินอย่างนั้นหรือ…?

ตึงๆ คิดไม่ทันจบร่างของอสูรแมงมุมตัวเท่าบ้านตนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าไป๋จูเหวิน มันเป็นอสูรแมงมุมสีดำเงาวับ เพียงแต่มันมีรุปร่างไม่เหมือนร่างแมงมุมของหลินหลินที่มีขนาดตัวพอๆกับท้อง แต่อสูรแมงมุมตัวนี้กลับมีท้องที่ใหญ่กว่าตัวหลายเท่า แถมยังมีจุดสีแดงที่ท้องอีกต่างหาก ใช่แล้วมันคืออสูรแมงมุมแม่ม่ายดำนั่นเอง

“ท่านเรียกหาข้าหรือ”เสียงหวานหยาดเยิ้มของอสูรแมงมุมตรงหน้าทำเอาหลินหลินที่อยู่ข้างๆตัวสั่นเล็กน้อย เพราะตรงหน้านางคืออสูรแมงมุมแม่ม่ายดำ อสุรแมงมุมระดับหยกที่เหนือกว่าหลินหลินเสียอีก

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด