บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 107 อสูรบรรพกาลทั้ง 3

อ่านนิยายจีนเรื่อง บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 107 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 107

อสูรบรรพกาลทั้ง 3

 

“อร่อย”หลินหลินว่าพลางกัดผลท้อสีทองด้วยท่าทีมีความสุข จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เห็นหลินหลินกินอาหารปกติแบบนนี้

“เด็กคนนี้เป็นอสูรเลี้ยงของเจ้างั้นหรือจูเอ๋อ”ไก่ฟ้าหงอนทองถามพลางมองหลินหลินด้วยท่าทีสนใจ

“ขอรับ นางกับ หงเยว่ เป็นอสูรเลี้ยงของข้า”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มอย่างอารมดี หลังจากมอบหมายให้ราชินีมังกรเป็นผู้ดูแลต้นท้อมังกรทองแล้ว เหล่าราชาทั้ง 5 ก็พาไป๋จูเหวิน หลินหลิน หงเยว่ และ อาวุโส 7 มาที่ถ้ำแมงมุมเพื่อทานอาหารเย็น แถมยังนำผลท้อกลับมาให้อสูรเลี้ยงทั้งสองของไป๋จูเหวินอีกต่างหาก แม้พลังที่เหลืออยู่จะไม่มากเท่าผลแรกที่ไป๋จูเหวินกิน แต่มันก็ช่วยเพิ่มพลังให้ทั้งหงเยว่และหลินหลินจนเลื่อนระดับขึ้นมาช่วงหนี่งเช่นกัน

“หลินหลิน เจ้ากลับร่างเดิมให้ข้าดูหน่อยซิ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางพิจารณาร่างของนางอย่างสนใจ

“ค้า”หลินหลินตอบรับพลางกลายร่างกลับเป็นแมงมุมหยกอย่างว่าง่าย

“เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เจ้าเอาของที่กินมาเคลือบตัวเอาไว้”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางมองร่างสีเขียวของหลินหลิน แม้ตัวไก่ฟ้าหงอนทองจะเป็นอสูรธาตุลม แต่ตัวมันก็ปกครองเทือกเขาทองคำที่มีอสูรธาตุทองมากมาย ทำให้มันเคยชินกับอสูรธาตุทองเป็นพิเศษ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นอสูรแบบหลินหลินก็หาได้ยากมาก แม้แต่ในเขตเทือกเขาทองคำก็ตาม

“ว่าแต่ ทำไมถึงเป็นหยกล่ะ”ไก่ฟ้าหงอนทองถามพลางมองผิวหยกของหลินหลินนิ่ง

“มันอร่อยดีเจ้าค่ะ”หลินหลินตอบพลางยิ้มอายๆทำเอาไก่ฟ้าหงอนทองถอนหายใจออกมา

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้ามา”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางออกไปจากถ้ำของอสูรแมงมุมอย่างรวดเร็ว

“เจ้าคือหงเยว่สินะ”มังกรธรณีว่าพลางมองมาทางหงเยว่ที่พึ่งทานท้อทองคำไปจนหมด

“เจ้าค่ะ”หงเยว่ตอบด้วยท่าทางเรียบร้อย ต่อหน้าราชาแห่งป่าวัฒนะแม้มันจะเป็นน้าของเจ้านายของนางมันก็ไม่ได้ทำให้ความน่าเกรงขามลดลงเลย

“สายพันธ์ของเจ้าเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำใช่หรือไม่”มังกรธรณีถามด้วยน้ำเสียงราบรื่น

“เจ้าค่ะ เป็นอย่างที่ท่านว่า”หงเยว่ตอบพลางก้มหัวลง

“น่าเสียดายที่เผ่าของเจ้าระดับไม่สูงมาก ไม่อย่างนั้นการเพิ่มระดับให้เจ้าคงง่ายกว่านี้”มังกรธรณ๊ว่าพลางเลือกหยิบของบางอย่างออกมาจากมิติของมัน

“กินซะ ของพวกนี้จะช่วยให้เจ้าพัฒนาขึ้นไม่น้อยเลย”สมุนไพรและผลไม้หายากจำนวนหนึ่งถูกวางลงตรงหน้าหงเยว่ราวกับของฝากจากต่างเมือง แต่หงเยว่ที่เคยอยู่กับกลุ่มนักล่าอสูรกลับรู้คุณค่าของๆเหล่านี้เป็นอย่างดี

“ท่านราชา ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”แม้อีกฝ่ายจะให้โดยไม่คิดมาก แต่ของเหล่านี้ก็มีค่าเกินไป

“เจ้าเป็นอสูรเลี้ยงของจูเอ๋อ ของพวกนี้ข้าให้เจ้าเพราะอยากให้เจ้าเป็นกำลังของจูเอ๋อยามที่ข้าไม่อยู่ด้วย”มังกรธรณีว่าพลางจ้องมองดวงตาของหงเยว่นิ่ง

“ขอบพระคุรณจ้าค่ะ”หงเยว่ตอบพลางรับของไปอย่างว่าง่าย ของเหล่านี้ราวกับจัดเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังอสูรให้นางแล้วมันยังสามารถช่วยความสามารถพิเศษของนางอย่างพิษหรือการควบคุมแมงมุมอีกต่างหาก

“มาแล้ว”หลังจากหงเยว่รับสมุนไพรจากมังกรธรณีไป ไก่ฟ้าหงอนทองก็กลับมาพร้อมเอาก้อนโลหะชนิดหนึ่งออกมาจากมิติของมันกองเอาไว้ตรงหน้าหลินหลิน

“ยัยหนู ลองกินของพวกนี้แล้วเอามาเป็นเกราะของเจ้าดู”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางยิ้มกว้าง

“….”หลินหลินมองโลหะสีดำที่ส่องประกายสีเขียวออกมาจางๆ นางไม่ทราบว่ามันคืออะไร แต่นางก็ลองเอามันเข้าปากอย่างว่าง่าย

กึก….กีสสส…… เสียงกัดของหลินหลินดังแสบแก้วหูอย่างมากแสดงให้เห็นถึงความแข็งของโลหะที่ไก่ฟ้าหงอนทองนำมา แต่ก็ทำให้เห็นอีกว่าเขี้ยวของหลินหลินนั้นแข็งแรงแค่ไหน

“ไม่ค่อยอร่อยเลย”หลินหลินว่าพลางทำหน้ามุ่ย

“ไม่เป็นไร เจ้าแค่กินแล้วเอามาเคลือบร่างกายให้หมดก็พอ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางยิ้มกว้าง โลหะที่มันนำมาเป็น 1 ใน 3 โลหะที่แข็งที่สุดในบรรดาเหล่าโลหะที่มันเจอในเทือกเขาทองคำ หากเป็นเขตมนุษย์พวกมันจะใช้โลหะชนิดนี้ในการสร้างอาวุธวิเศษเลยทีเดียว

เคร๊ง เคร๊ง ! ไก่ฟ้าหงอนทองเคาะผิวหนังโลหะของหลินหลินเบาๆพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ การนำแร่ธาตุมาเคลือบตัวของอสูรธาตุทองบริสุทธิ์นั้นนอกจากจะเพิ่มความแข็งให้กับวัตถุดั้งเดิมแล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนนำโลหะเหล่านี้มาหลอมเป็นแผ่นเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

“ท่านอาวุโส ท่านเป็นอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามไปทางอาวุโส 7 ที่กำลังนั่งหลบมุมอยู่ในถ้ำราวกับกำลังจะพยายามซ่อนตัวจากเหล่าราชาไม่มีผิด

“เอ่อ…นิสัยของนักสำรวจน่ะ”อาวุโส 7 ตอบพลางออกมาจากเงามืดช้าๆ นางทั้งปิดกั้นพลังอสูรและลบจิตตนเองจนหมด แม้จะไม่รอดสายตาไป๋จูเหวินและพวกท่านน้า แต่ก็สามารถหลบสายตาอสูรตนอื่นในเขตอสูรผาไร้ก้นได้หลายชนิดทีเดียว

“ไม่ต้องหลบหรอกขอรับ พวกท่านเป็นน้าของข้าเอง”ไป๋จูเหวินตอบพลางหัวเราะออกมาเล็กน้อย ท่าทีสบายในของไป๋จูเหวินทำให้อาวุโส 7 ได้แต่ถอนหายใจ เจ้าเด็กนี่สามารถนั่งอยู่ท่ามกลางอสุรระดับนี้ได้อย่างไร

“ท่านน้าของเจ้าแต่ละตนแข็งแกร่งมาก พวกมันอยู่ระดับไหนเหรอ”อาวุโส 7 ถามพลางมองร่างของเหล่าอสูรตรงหน้า พวกนางแม้จะมีพลังอสูรในระดับต่ำ แต่ก็มีเทคนิคพิเศษสามารถระบุระดับพลังของอสูรได้อย่างแม่นยำ เพียงแต่นางใช้กับเหล่าราชาไม่ได้ผล

“น่าจะเหนือกว่าระดับเทียนเซียนไปขั้นหนึ่งขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบตามตรง เพราะระดับเทียนเซียนนั้นเปรียบเทียบได้กับอสูรระดับมายา แต่เดิมพวกท่านน้าที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับมายานั้นมีพลังพอๆกับอาวุโสเทียนหมิงที่อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นเทียนเซียนพอดี

“เหนือกว่าระดับเทียนเซียน”อาวุโส 7 พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ ทำเอาเสียงของนางสะท้อนไปทั้งถ้ำ พอเห็นว่าเหล่าราชาต่างหันมามองนางก็ทำเอานางรีบหลับไปหลบในมุมถ้ำอีกรอบ

“เช่นนั้นน้าของเจ้าไม่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าอสูรเลยหรือไง”อาวุโส 7 ว่าพลางกลืนน้ำลายลงคอ ตั้งแต่ที่นางศึกษาเรื่องอสูรมา มีตำนานอยู่บ้างว่าได้พบเจออสูรที่แม้แต่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นสูงสุดยังมิอาจต่อต้านได้ อสูรเหล่านั้นถูกเรียกว่าอสูรบรรพกาล เพราะอสุรเหล่านั้นต่างเป็นอสูรที่อยู่มาเนิ้นนานแล้วทั้งสิ้น แต่ถึงจะบอกว่า เหล่านั้น แต่พวกมันก็มีอยู่เพียง 3 ตนเท่านั้น แต่ตรงหน้านางกลับมรีอยู่ถึง 5 ตน นี่มันเรื่องล้อเล่นกันใช่หรือไม่?

“ไม่หรอก พวกข้ายังเทียบนายหญิงไม่ได้หรอก”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางส่ายหัวเบาๆ

“นายหญิง?”อาวุโส 7 ถามพลางเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“นางเป็นมารดาของจูเอ๋อ และเป็นนายหญิงของพวกเรา ถ้ำแห่งนี้แต่เดิมก็เป็นถ้ำของนางนั่นล่ะ”มังกรธรณีตอบพลางมองไปรอบๆถ้ำ

“มารดาของเจ้า…แต่เจ้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือไง”อาวุโส 7 ถามพลางขมวดคิ้วมุ่น

“นั่นเพราะนางเก็บจูเอ๋อมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กยังไงล่ะ”พยัคฆ์อัสนีตอบ เพราะมันเป็นคนแรกที่ได้ทราบข่าวเลยเคยฟังนางเล่าเรื่องของจูเอ๋อมาบ้าง

“แบบนี้นี่เอง แล้วบิดามารดาจริงๆของเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ”อาวุโส 7 ถามพลางมองไป๋จูเหวินด้วยความสงสัย

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ทราบขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม แต่เดิมมันไม่เคยนึกถึงเรื่อบิดามารดาที่แท้จริงเลย อาจจะเพราะมันมีความรักจากมารดาและพวกท่านน้าอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อตอนบ่าย ยามที่มันกินผลท้อเข้าไป มันกลับได้พบใบหน้าของหญิงสาวนางหนึ่ง แม้จะไม่เข้าใจว่านางคือใคร แต่เมื่อได้ยินคำว่า มารดาที่แท้จริง ตัวไป๋จูเหวินกลับอดไม่ได้ที่จะนำมาเชื่อมโยงกัน เพราะความรู้สึกตอนที่นางโผล่ออกมา มันราวกับนางเป็นความทรงจำที่ไป๋จูเหวินเคยมีมาก่อน ทั้งๆที่แต่เดิมมันแทบจะอะไรไม่ได้เลยแท้ๆ

“แบบนี้นี่เอง แล้วมารดาของเจ้าเป็นอสูรแบบไหนเหรอ”อาวุโส 7 ถามพลางมองถ้ำตรงหน้าอย่างสงสัย

“นางเป็นอสูรแมงมุมขอรับ นางใจดีแล้วก็รักข้ามากเลยทีเดียว”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางนึกถึงวันที่มารดายังอยู่ แม้จะยังเจ็บปวดแต่ความทรงจำเหล่านั้นช่างมีค่าและไม่อาจลืมเลือนไปได้

“แมงมุม……นางมีร่างกายสีขาวใช่หรือไม่”อาวุโส 7 ถามพลางเบิกตากว้าง

“ขอรับ”ไป๋จูเหวินพยักหน้าพลางแสดงท่าทีแปลกใจออกมา

“ถ้าน้าของเจ้ายืนยันว่ามารดาของเจ้าแข็งแกร่งกว่าพวกมัน ก็หมายความว่ามารดาของเจ้าคือฝันร้ายสีขาวน่ะสิ”อาวุโส7 ว่าพลางหยิบตำราออกมาเล่มหนึ่ง มันเป็นตำราเก่าแก่ที่เหมือนจะขาดออกจากกันหากดึงแรงไปเลย

“นี่ไงล่ะ ใช่มารดาของเจ้าหรือไม่”อาวุโส 7 ถามพลางชี้รูปแมงมุมตนหนึ่งให้ไป๋จูเหวินดู

“ขอรับ เป็นท่านแน่ๆ”ไป๋จูเหวินตอบได้ในทันที เพราะรูปวาดนั้นวาดจุดเด่นของมารดาได้เป็นอย่างดี

“ละ แล้ว….นางอยู่ที่ไหน”อาวุโส 7 ถามพลางมองไปรอบๆ เหล่าอสูรบรรพกาลไม่ค่อยโผล่ออกมามากนัก แต่หากโผล่ออกมา เพียงการเดินเล่นของมันก็ทำลายเมืองที่พวกมันผ่านไปได้อย่างง่านดายแล้ว แถมนางยังมั่นใจอีกด้วยว่าไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถหยุดพวกมันได้เป็นแน่

“ท่านจากไปแล้วขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มเศร้าๆ

“จากไปแล้ว…….”อาวุโส 7 เบิกตากว้าง ข่าวการตายของอสูรบรรพกาลเป็นข่าวใหญ่ทีเดียว เท่านี้อสูรบรรพกาลที่กลุ่มนักล่าอสูรเคยพบเจอก็เหลือเพียง 2 ตนเท่านั้น ไม่สิ หากนับเหล่าท่านน้าของไป๋จูเหวินเข้าไปก็รวมเป็น 5 ตนแล้ว

“แล้ว แก่นอสูรของนางล่ะ หากมีแก่นอสูรของนางไปยืนยันล่ะก็”อาวุโส7ว่าพลางแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา ในฐานะหน่วยสำรวจแล้ว การได้ทราบข่าวเช่นนี้จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร

“เรื่องนั้น”ไป๋จูเหวินไม่ได้ตอบ มันเพียงสัมผัสที่จุดตันเถียนของตนเองเท่านั้น

“เป็นไปไม่ได้……”อาวุโส 7 เข้าในในทันทีว่าไป๋จูเหวินหมายความว่าอย่างไร เช่นนั้นที่มาของพลังอสูรจำนวนมากที่ไป๋จูเหวินปล่อยออกมาก็คือพลังที่มาจากแก่นอสูรของอสูรระดับบรรพกาลงั้นหรือ

“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่”อาวุโส 7 ถามด้วยสมองที่ขาวโพลน หวงหลงหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรต้องเสียทรัพยากรและต้องทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายต่อหลายครั้งกว่าจะได้เหม่ยหลินมาคนหนึ่ง แถมยังเรียกได้ว่าเหม่ยหลินเกิดจากความโชคดีเสียด้วยซ้ำเพราะนางเองก็มีพลังธาตุวารีบริสุทธิ์เช่นเดียวกับแก่นอสุรกิเลนที่มีพลังธาตุวารีบริสุทธิ์เช่นกัน แต่ไป๋จูเหวินนั้น ตัวมันมีพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งๆที่แก่นอสูรมีพลังธาตุรัตติกาลเนี่ยนะ

“ข้าเองก็ไม่ทราบขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ เห็นอีกฝ่ายตอบเช่นนั้นนางเองก็ได้แต่ถอนหายใจ ยิ่งเดินทางกับไป๋จูเหวินนางก็ได้แต่นั่งตื่นตะลึงอยู่ฝ่ายเดียว โลกของมันช่างแตกต่างจากสามัญสำนึกของพวกนางอย่างสิ้นเชิงเลย

“นอกจากท่านแม่แล้ว ยังมีอสูรระดับท่านอยู่อีกงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองตำราในมือของอาวุโส 7

“ชะ ใช่”อาวุโส 7 ตอบพลางยื่นหนังสือให้ไป๋จูเหวินดู

นอกจากแมงมุมสีขาวที่ถูกขนานนามว่าฝันร้ายสีขาวแล้ว ยังมี จิตวิญญาณแห่งขุนเขา อสุรที่มีรูปร่างเป็นเต่าและมีกระดองเป็นเหมือนแผ่นดินทั้งผืน ปกติมันจะหลับอยู่ใต้ดินและปล่อยให้ภูเขาบนหลังของมันเป็นเขตอสูรอยู่แบบนั้น

อีกหนึ่งคือ ปลา? มันเป็นปลาตัวอ้วนกลมที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็เหมือนปลาปั๊กเป้ายามพองตัวไม่มีผิด พวกนี้นะเหรอคืออสูรระดับบรรพกาลที่กลุ่มนักล่าอสูรเคยพบเห็น

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด