บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 169 ทักทาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 169 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 169 ทักทาย

 

“เกิดอะไรขึ้น” แทบจะทันที่ที่การปะทะจบลง เหล่าองครักษ์ก็พากันเข้ามาหาพวกไป๋จูเหวินในทันที

 

“ใจเย็น พวกเราแค่ทักทายกันเท่านั้น”อู๋หมิงว่าพลางหัน ไปบอกพวกองครักษ์ พวกมันต่างอยู่ระดับเทียนเซียนทําให้ พวกมันสามารถสัมผัสการปะทะเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน

ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com

“ขะ ขอรับ” เหล่าองครักษ์ได้ยินเช่นนั้นก็พากันชะงักเท้า แล้วถอยกันไปคนละหลายก้าวอย่างรวดเร็ว

 

“ตําราเล่มนั้น เป็นที่มาของวิชาของเจ้างั้นเหรอ”อู๋หมิงถามพลางจับกระบในมือด้วยท่าที่สบายๆ

 

“ถูกต้อง”ไป๋จูเหวินว่าพลางถอยออกห่างอู๋หมิงเล็กน้อยเพื่อกะระยะเพื่อใช้กระบวนท่า

 

วูบ! ร่างของไป๋จูเหวินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะร่วงวูบลงมาซัดฝ่ามือใส่อู๋หมิงอย่างจัง แม้จะไม่รวดเร็วเท่าฝ่ามืออัสนีข้ามฟ้าแต่ก็เป็นท่าที่ทั้งแรงและรวดเร็วเหมาะแก่การเข้าโจมตีอย่างมาก นั่นคือฝ่ามือปักษาข้ามสมุทรนั่นเอง

 

กึก….กระบี่ของอู๋หมิงต้านรับฝ่ามือปักษาข้ามสมุทรเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที ความรุนแรงของมันเกือบจะ 2 ใน 3 ของ ฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกเลย

 

เปรี้ยง! อู๋หมิงใช้พลังเซียนปัดท่าปักษาข้ามสมุทรเอาไว้ได้ก่อนจะโจมตีใส่ไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็ว

 

เคร๊งๆๆ!! ดาบราชันศาสตรายังทําอะไรแขนที่มีเกราะแมงมุมของไป๋จูเหวินไม่ได้ มีหรือที่กระบี่ทัณฑ์สวรรค์จะทําได้กระบี่ของอู๋หมิงกระแทงกับฝ่ามือของไป๋จูเหวินราวกับเหล็กกระบทบกันไม่มีผิด

 

เคร๊งๆๆๆๆๆๆ พอปะทะกับอู๋หมิงสุดท้ายก็เหมือนการประลองความเร็วทุกครั้งไป เท่าที่ประลองมาคนในรุ่นเดียวกันก็มีแต่อู๋หมิงเท่านั้นที่เคลื่อนไหวเร็วกว่าดวงตาสีแดงของไป๋จูเหวินได้

 

กึก…ปลายกระบี่แทงเข้าที่ไหล่ของไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็วทําให้ฝ่ามือประกายอัสนีชะงักไปครู่หนึ่ง แม้จะแทงไม่ค่อยเข้าแต่ก็สร้างโอกาศได้ดีทีเดียว

 

เคร๊งๆ กระบี่ของอู๋หมิงฟันใส่ร่างของไป๋จูเหวินอย่างรุนแรงไปอีก 2 ครั้งแต่น่าเสียดาบที่ไป๋จูเหวินผืนดึงมือมารับเอาไว้ทัน

 

เคร๊งๆ กระบี่ของอู๋หมิงโจมตีซ้ำลงมาอีกครั้งขณะไป๋จูเหวินจะใช้กระบวนท่าฝ่ามือเพลิพิโรธ แต่อู๋หมิงกลับอ่านทางอ อกขัดการรวบรวมพลังของไป๋จูเหวินเอาไว้เสียก่อน

 

ฟุบ!ไป๋จูเหวินพยายามใช้ใยแมงมุมกับอู๋หมิง แต่ดูเหมือนคราวก่อนอู๋หมิงจะโดนใยแมงมุมจนเข็ดแล้วมันเลยระวังตัวเป็นพิเศษ พริบตานั้นมันใช้กระบี่ทัณฑ์สวรรค์ติใส่ ใยแมงมุมที่พุ่งเข้ามาหามันด้วยความเร็วเทียบเท่ากับตอนปล่อยกระบี่ประกายอัสนี ทั้งนี้มันทําเพื่อไม่ให้ใยแมงมุมติดปลายกระบี่และยังสามารถปัดใยแมงมุมออกไปได้อีกด้วย

 

ฟุบๆๆๆ เห็นอู๋หมิงปัดใยแมงมุมของมันได้ไป๋จูเหวินก็ใช้ฝ่ามือบังคับหกปักษาออกมาเพื่อหวังโจมตีระยะกลาง

 

เปรี้ยง! ดวงตาของไป๋จูเหวินเบิกกว้างเมื่ออยู่ดีๆร่างของอู๋หมิงก็พุ่งวาบเข้ามาหามัน นี่คือวิชากระบี่ที่แปลงมาจากฝ่ามืออัสนีข้ามฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย โชคดีที่ไป๋จูเหวินยกมือขึ้นป้องกันได้ก่อนไม่อย่างนั้นคงโดนเสียบไปแล้ว

 

การต่อสู้กับอู๋หมิงในครั้งนี้ลําบากขึ้นมาก แม้จะเหมือนตอบโต้กันได้ แต่กระบวนท่าของไป๋จูเหวินก็โดนอ่านออกไป แล้วหลายกระบวนท่าจะใช้อะไรออกมาแต่ละครั้งก็ต้องระวังเป็นอย่างดี

 

กึก…ไป๋จูเหวินใช้ฝ่ามือรับกระบีของอู๋หมิงเอาไว้ด้วยท่าฝ่ามือหิมะละลายกลางนภา ทําให้กระบี่ของอู๋หมิงหยุดนิ่งราวกับไร้แรงจะโจมตีต่อ เพียงแต่อู๋หมิงเคยเจอกระบวนท่านี้มาแล้ว

 

เปรี้ยง! อยู่ๆกระแสพลังสายหนึ่งก็กระแทกเข้ามาในฝ่ามือของไป๋จูเหวิน สร้างความเจ็บปวดราวกับโดนค้อนทุบมันคือท่าจากฝ่ามือตรากระทับอัสนี อู๋หมิงใช้ท่านี้เพื่อส่งพลังโจมตีเข้ามาในมือของไป๋จูเหวินที่โจมตีไม่เข้านั่นเอง

 

“ยอดเลย” เหล่าองครักษ์ที่อยู่รอบๆต่างมองการประลองของอู๋หมิงกับไป๋จูเหวินด้วยดวงตาเบิกกว้าง หากไม่นับเรื่องพลังที่อ่อนด้อยไปหน่อยเพราะทั้งคู่เป็นคนยุคใหม่ก็ นับว่าเหลือเชื่ออยู่ดี กระบวนท่าของทั้งสองทั้งน่าตกใจและน่าหวาดกลัวความเร็วที่แม้แต่เหล่าผู้อยู่ระดับเทียนเซียนอย่างพวกมันยังแทบจะตามไม่ทัน

 

ตูม!! ในที่สุดไปัจเหวินก็หาโอกาสใช้ฝ่ามือเพลิงพิโรธจนได้ เพียงแต่คราวนี้อู๋หมิงสามารถต้านรับเอาไว้ได้เพราะพลังของอู๋หมิงยามนี้เหนือกว่าไป๋จูเหวินอยู่ครึ่งก้าวดูเหมือนกระบวนท่าที่เคยใช้จัดการอู๋หมิงได้จะไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว

 

คลืนนนนน ไป๋จูเหวินใช้ท่าหมอกควันกบดานผลักร่างของอู๋หมิงออกไปเพื่อสร้างระยะ ก่อนที่มันจะรีบรวบรวมพลังเพื่อใช้ฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึก

 

เปรี้ยง!! อู๋หมิงที่มีท่ากระบี่อัสนีข้ามฟ้าแทบไม่เสียเปรียบเรื่องนะยะทางอยู่แล้ว พริบตาเดียวอู๋หมิงก็พุ่งเข้า มาประชิดตัวไป๋จูเหวินอีกครั้งได้สําเร็จ

 

เปรี้ยงๆๆๆๆๆ กระบีประกายอัสนี้ถูกใช้ออกมาเพื่อก่อกวนการรวบรวมพลังของไป๋จูเหวิน แต่มีหรือที่ไป๋จูเหวินจะกลัวกระบวนท่าของตนเอง

 

ตูม!! แม้จะฝืนไปหน่อย แต่ไป๋จูเหวินก็ปล่อยท่าเพลิงผลาญคล้อยสํานึกออกมาได้ ทําให้อู๋หมิงที่พยายามกดไปจูเหวินเอาไว้ไม่ให้ใช้กระบวนท่าต้องนํากระบี่ออกมาต้านรับทัน

 

เครืดดดด……………. ร่างของอู๋หมิงที่ใช้วิชาความเร็วเป็นหลักเมื่อโดนฝ่ามือเพลิงปลาญคล้อยสํานึกเข้าก็ถูกลากไปกับพื้นทันที

 

“อัก…”อู๋หมิงอดตะลึงไม่ได้เมื่อเจอกับกระบวนท่าที่รุนแรงเช่นนี้ มือที่ใช้ถือกระบี่ของมันถึงกับชาขึ้นมาเลยทีเดียว

 

เคร๊งๆๆๆอี้หมิงเบิกตากว้างเมื่อเห็นคลื่นพลัง 6 สายที่โจมตีซ้ำเข้ามา มันรีบปัดคลื่นพลังของท่าบังคับหกปักษาออกก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาไป๋จูเหวินในทันที

 

ตูม! ไป๋จูเหวินที่รออยู่แล้วใช้ท่าฝ่ามือเพลิงพิโรธสวนกลับในทันที มันไม่ยอมให้ความเสียหายที่ฝ่ามือ เพลิงผลาญคล้อยสํานึกทําเอาไว้ต้องเสียเปล่าแน่ๆ แต่พอต้านรับฝ่ามือเพลิงพิโรธเอาไว้ได้ อู๋หมิงก็รีบใช้กระบวนท่ากระบีประกายอัสนีออกมาในทันที

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เคร๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ ฝ่ามือกระกายอัสนีและกระบี่ประกาบอัสนีปะทะกันกลางอากาศอีกครั้งด้วยเสียงที่ถี่ยิบยิ่งกว่าเดิม หากบอกว่าพวกมันมองทันทุกการปะทะคงไม่มีใครเชื่อ แน่ๆ

 

อีกเป็นฝ่ายอู๋หมิงที่ถอยออกมาครึ่งก้าวเมื่อพยายามต้านรับฝ่ามือประกายอัสนีของไป๋จูเหวินเอาไว้ ทั้งนี้เพราะมันบาดเจ็บจากฝ่ามือเพลิงผลาณคล้อยสํานึกมาก่อนนั่นเอง แต่ไป๋จูเหวินก็โดนมันฟันไปหลายกระบี่มันไม่บาดเจ็บเลยหรืออย่างไร

 

วูบ….พริบตานั้นดวงตาของอู๋หมิงก็พลันมองเห็นแสงสีทองที่ลอยออกมาจากบาดแผลของไป๋จูเหวิน มิน่าเล่ามันถึงฟื้นฟูได้เร็วนัก การต่อสู้กับไป๋จูเหวินนั้นนอกจา กจะต้องรับมือกับกระบวนท่าที่รวดเร็วจนน่าตกใจแล้วยังมีกระบวนท่าที่รุนแรงจนน่าใจหายอีกต่างหาก แค่นั้นยังไม่พอต่อให้สามารหาช่องโจมตีได้ แต่บาดแผลของมันก็จะหายไปในพริบตา แถมพลังยังเอ่อล้นออกมาเรื่อยๆราวกับไม่มีวันหมดอีกต่างหาก

 

เคร๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่าทางทั้งคู่จะพยายามใช้ฝ่ามือประกายอัสนี้และกระบีประกายอัสนี้ในการตัดสินความสูงต่ำของทั้งสองฝ่าย เพราะนานหลายนาทีแล้วทั้งสองก็ยังคงฟันกระบี่และรัวฝ่ามือไม่หยุด

 

“อึก…”เหล่าองครักรวมทั้งหยุนฟางและองค์หญิงซูหลาน เองต่างก็มองการปะทะกันตรงหน้าตาค้าง ความเร็วที่พวกตนนึกว่าเร็วแล้วกลับทวีความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

กึก…กึก… อู๋หมิงกัดฟันแน่นพลางถอยออกมา 2 ก้าว แม้มันจะเป็นอัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้กระบวนท่าของพยัคฆ์อัสนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อต้องวัดกับไป๋จูเหวินที่ฝึกสํา เร็จมานานแล้ว ความห่างชั้นก็เริ่มแสดงออกมาให้เห็น เมื่อปะทะกันด้วยความเร็วสูงสุดตัวมันก็เป็นฝ่ายเสียจังหวะถอยออกมาเอง

 

เคร๊ง! ฝ่ามือของไป๋จูเหวินหยุดลงเมื่อกระบี่ของอู๋หมิงหลุดมือ ผลการประลองในครั้งนี้ได้ผลลับแล้ว

 

“พลังอสูรของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นมาก”อู๋หมิงว่าพลางเดินไปเก็บกระบี่มาเก็บอย่างเชื่องช้า ตอนแรกมันแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พลังวิญญาณของไป๋จูเหวินเติบโตได้ช้ามาก แต่เมื่อโดนพลังที่เท่าเทียมกันเล่นงานมันก็ทราบทันทีว่าพลังของไป๋จูเหวินนั้นเป็นทางฝั่งพลังอสูรต่างหากที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้าเองก็เหมือนกัน ข้านึกว่ากําลังสู้กับพวกระดับเทียนเซียนอยู่ซะอีก”ไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มันใช้พลังออกไปมากที่เดียวเมื่อเทียบกับระดับเหรินเซียนของอู๋หมิง ว่ากันตามตรงพวกลูกน้องของผานสิ่งที่อยู่ระดับเงินเซียนยังเทียบอู๋หมิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

“เจ้าก็พูดเกินไป มาเถอะเราไปหาที่พักเหนื่อยกันก่อนดีกว่า”อู๋หมิงหัวเราะพลางชวนไป๋จูเหวินออกไปจากสวนของอาวุโสเทียนหมิง โดยไม่ได้สนใจเลยว่าเหล่าองครักษ์ต่างพากันมองตามหลังพวกมันตาปริบๆ ไม่กี่ปีก่อนองค์ชายใหญ่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย แต่กาต่อสู้เมื่อครู่ทําเอาพวกมันต่างอยู่กันไม่สุข เพราะหากเทียบจริงๆแล้วการต่อสู้เมื่อครู่ แม้จะเป็นคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 2 ก็อาจจะแพ้ได้เลย (ผานสิ่งเป็นคนที่สามารถเอาชนะเทียนเซียนขั้นที่ 3 ได้เลย เหนือกว่าพวกขั้น 2 ปกติ )

 

“ไป๋จูเหวิน นี่เจ้าเป็นใครกันแน่” หยุนฟางถามพลางมอง ไป๋จูเหวินที่เดินตามอู๋หมิงไปที่เขตพักของตัวอู๋หมิงเอง แม้ตัวมันจะไม่อยู่มาหลายปี แต่เขตขององค์ชายใหญ่ก็ยังคงอยู่แถมยังส่งคนรับใช้มาทําความสะอาดตลอดเวลาอีกต่างหาก

 

“แล้วข้าจะเป็นใครล่ะถ้าเจ้าถามแบบนั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ

 

“จะพูดไปก็… “อู๋หมิงว่าพลางหันมามองไป๋จูเหวินเล็กน้อย

 

“ข้าชักอยากรู้แล้วสิว่าเจ้ายังมีตําราแบบนั้นอีกกี่เล่ม” แม้จะไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินเอาตําราเล่มนั้นมาจากไหน แต่มันก็มั่นใจจากการปะทะกันเมื่อครู่และก่อนหน้านี้ว่าไป๋จูเหวินมีตําราแบบเดียวกันอีกหลายเล่มทีเดียว

 

“เรื่องนั้นคงให้เจ้าดูไม่ได้หรอก ล่าสุดที่ข้าเอาออกมาก็ทําเอาเฒ่าประทับสวรรค์เป็นบ้าไปคนแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ ท่าทางมันคงต้องเก็บตําราของพวกท่านน้าเอาไว้ในมิติไปเลย เพราะถึงอย่างไรมันก็จําเนื้อหาทั้งหมดได้อยู่แล้ว

 

“ก็จริงของเจ้า เก็บมันเอาไว้ดีแล้ว”อู๋หมิงกระพริบตาปริบๆพลางนึกถึงเฒ่าประทับสวรรค์ที่มีท่าที่ราวกับสัตว์ หากตําราของไป๋จูเหวินถูกนําออกไปมากกว่า 1 เล่มมีหวังได้ มีปีศาจแบบนั้นเพิ่มอีกแน่

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด