Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 86 มังกรดิ่งทะยาน

อ่านนิยายจีนเรื่อง Immortal and Martial Dual Cultivation ตอนที่ 86 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 86 มังกรดิ่งทะยาน

 

เซียวเฉินผู้ที่ยืนอยู่บนสนามประลองไม่ได้สังเกตเห็นเซียวฉงที่ปลีกตัวออกไป เขามองดูซากของรูปสลักไม้ที่กองอยู่บนพื้นอย่างไม่เชื่อสายตา

 

เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับลูกศรปราณแสงมาก่อนแต่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้มาเห็นมันในเมืองม่อเหอเล็กๆแห่งนี้… หรือสวรรค์จะมีคำสั่งลงมาทำลายคาถาสละชีวิตของเขา

 

“ชี่!ชี่!”

 

ผลึกน้ำค้างแข็งปรากฎขึ้นด้านหลังของถังเฟิงราวกับดวงดาวที่สร้างขึ้นมาจากน้ำแข็ง อุณภูมิบริเวณสนามประลองลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถังเฟิงมีสีหน้าเคร่องขรึมพร้อมกับถือธนูไว้ด้วยมือซ้ายและมือขวาง้างสายธนู มือขวาของเขาเรืองแสงออกมา

 

หัวใจเซียวเฉินสั่นด้วยความกลัวเขาเคยเห็นกระบวณท่านี้ในป่าทมิฬ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ให้ความรู้สึกต่างออกไปเล็กน้อย น้ำค้างแข็งด้านหลังของถังเฟิงหายไปและประกายแสงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นแทน อากาศหนาวเย็นถูกพัดพาออกไปแทนที่ด้วยคลื่นความร้อนอันไร้ขอบเขต

 

“ทักษะต่อสู้ลูกศรเพลิงเย็นเมฆาเคลื่อน!”

 

ทันใดนั้นลูกศรที่สร้างขึ้นมาจากเปลวเพลิงน้ำแข็งก็ปรากฎขึ้นประทับบนคันธนู ลูกศรก่อตัวขึ้นช้าๆก่อนที่จะถูกยิงออกไป น้ำแข็งและเปลวไฟไหลเวียนไปรอบลูกศร

 

มันทิ้งสายแสงไว้ข้างหลังพร้อมกับพุ่งทะลุผ่านอากาศราวกับสายริบบิ้นสีสดใส มันช่างดูสวยงาม

 

“บูม!”

 

นี่เป็นลูกศรที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เซียวเฉินเคยเห็นถังเฟิงยิงออกมาช่วงพริบตาเดียวลูกศรก่อตัวขึ้นบนคันธนูและอีกพริบตาต่อมามันก็พุ่งเป็นลำแสงงดงามตรงมาทางเขา

 

“โล่อัสนีสวรรค์!”

 

ในสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่อาจหลบการโจมตีได้พ้นเซียวเฉินเรียกโลอัสนีสวรรค์ออกมาทันที แสงสายฟ้าก่อตัวเป็นตัวอักษร ‘金’ และล้อมรอบเซียวเฉินไว้

 

“ชา!”

 

โล่อัสนีสวรรค์ถูกเจาะทะลุในทันที ลูกศรเพลิงเย็นเมฆาเคลื่อนปะทะเข้าที่หน้าอกของเซียวเฉินอย่างแม่นยำ โลหิตและพลังฉีของเขาปั่นป่วน เซียวเฉินสัมผัสได้ถึงรสหวานในปากก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา

 

ถังเฟิงคิ้วขมวดเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นว่าลูกศรเพลิงเย็นเมฆาเคลื่อนไม่ได้เจาะทะลุร่างของเซียวเฉินไป เขาประหลาดใจเล็กน้อย

 

มือขวาของถังเฟิงดึงสายธนูออกมาเบาๆและพลังงานที่มองไม่เห็นถูกส่งไปที่ลูกศรเพลิงเย็นเมฆาเคลื่อน จากนั้นพลังงานของลูกศรที่สร้างขึ้นมาจากน้ำแข็งและเปลวเพลิงก็ระเบิดออกเสียงดัง

 

โล่อัสนีสวรรค์นั้นอ่อนแอมากเมื่อเจาะจากด้านในดังนั้นมันจึงแตกสลายในทันที พลังงานมหาศาลผสมผสานระหว่างเปลวเพลิงและน้ำแข็งส่งร่างของเซียวเฉินลอยไปบนอากาศทำให้เขากระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่

 

เซียวเฉินรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากทั่วร่าง เขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่มายังโลกใบนี้ เขารีบหยิบเม็ดยาห้วนคืนโลหิตออกมาและยัดมันเข้าปากกลางอากาศ

 

“โซว!โซว!โซว!”

 

ถังเฟิงไม่รอให้เซียวเฉินได้ลงมาถึงพื้นพร้อมกับยิงลูกศรเพลิงเย็นเมฆาเคลื่อนสามดอกออกไป เซียวเฉินสวมเกราะศึกอยู่ทำให้ลูกศรไม่อาจเจาะทะลุเข้าไปในร่างของเขาได้

 

เซียวเฉินเหมือนกับเป้ากระดานที่ถูกถังเฟิงผลักสูงขึ้นไปอีก สายพลังทั้งสามระเบิดออกส่งคลื่นกระแทกไปในอากาศราวกับดอกไม้ไฟที่ระเบิดขึ้นบนฟ้า ผลจากคลื่นกระแทกส่งร่างของเซียวเฉินลอยสูงขึ้นไปอีก 200 เมตร

 

ถังเฟิงปาดเหงื่อบนหน้าผากของเขาและเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา เขาไม่ได้ผ่อนคลายลงเลยจนถึงตอนนี้ การเป่าเซียวเฉินลอยขึ้นไปในอากาศเป็นกลยุทธ์ที่เขาซุ่มฝึกมานานแล้ว

 

ไม่ว่าเช่นไรมันก็ไม่อาจเคลื่อนที่ได้คล่องตัวกว่าอยู่บนพื้น เช่นนี้คนคนนั้นก็เหมือนเป้าให้ยืนยิง อาจกล่าวได้ว่าถังเฟิงชนะขาดไปแล้ว

 

“เซียเซียนเสร็จแล้วตอนนี้เขากลายเป็นเป้ายิง”

 

“แน่นอน เซียวเฉินควรจะยอมแพ้ได้แล้ว ข้าไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป เขาจะโดนยิงจนพรุน”

 

“ตระกูลเซียวก็ยังไม่ประกาศยอมแพ้พวกเขาอาจจะมีไพ่ตายเก็บไว้อีก”

 

“ยังจะมีไพ่อะไรออกมาให้เล่นอีก? สมบัติลับของเขาก็แตกไปแล้ว… จะมีของศักดิ์สอทธิ์ชิ้นอื่นออกมาอีก?”

 

ทุกคนถกเถียงกันแต่คนส่วนใหญ่ไม่มีใครทนรับได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าถังเฟิงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่เดิมพวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเขามากนัก พอคิดว่าเขาถึงกับต้อนเซียวเฉินตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

 

ในศาลาของตระกูลเซียวดวงตาของเซียวอวี่หลันเต็มไปด้วยน้ำตาขณะที่มองไปยังเซียวเฉิน นางพูดขึ้น “ท่านพ่อประกาศยอมแพ้ พวกเราจะยอมเสียภูเขาชีเจี่ยวไป น้องเฉินกำลังจะตาย”

 

ข้างหลังนางเซียวหลิงเอ๋อ,เย่หมิงหลานและคนอื่นๆตาแดงก่ำ ไม่มีใครคาดคิดว่าเซียวเฉินจะเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้… การประลองนี้ช่างโหดร้าย

 

“ไม่ยังถึงเวลา” เซียวเฉียงตอบอย่างรวดเร็ว เซียวอวี่หลันและคนที่เหลือยังไม่รู้ถึงเกราะศึกที่เซียวเฉินสวมเอาไว้

 

ในศาลาของตระกูลจางและตระกูลถังผู้นำตระกูลจางมองไปที่เซียวเฉินที่ถูกยิงอย่างต่อเนื่องกลางอากาศ สีหน้าของเขาเต็มไปเ่วยความปิติ “ยินดีด้วย! นายน้อยของตระกูลเจ้ากำลังจะชนะ ตระกูลเหลิงจะต้องตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”

 

สีหน้าของถังเที่ยนผ่อนคลาย เขาเอนตัวลงและยิ้มขึ้นบางๆ “ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้แผนสุดท้าย”

 

เซียวเฉินผู้ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศปิดตาลง เขามีสีหน้าสงบนิ่ง เขาไตร่ตรองถึงทุกรายละเอียดในการประลอง เขาเร่งรีบเข้าประชิดตัวมากเกินไปในตอนแรก

 

อัสนีหลบเลี่ยงของเขาถูกเปิดเผยออกมานานแล้วแต่เขายังใช้มันเป็นกระบวณท่าสังหาร นั้นเป็นเขาเองที่ไร้เดียงสา

 

แม้จะรู้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาใช้การโจมตีระยะไกลเขาก็ยังใช้คาถาสละชีวิตออกไป การประลองกับจางเหอทำให้เขามั่นใจเกินไป

 

ทุกความคิดในสมองของเซียวเฉินรวดเร็วราวสายฟ้า เซียวเฉินพยายามอย่างที่สุดเพื่อหลุดออกไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ หากเขาลงไปอย่างรวดเร็วเขาก็จะเป็นเป้ายิงของถังเฟิง เขาอาจจะต้องลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าลองเสี่ยงโชคดู

 

หลังจากที่เซียวเฉินคิดได้ดังนั้นเซียวเฉินคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด จิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าในจุดตันเทียนของเขากระโจนออกมาจากบ่อน้ำใสพร้อมกับเสียงอันดัง กระแสพลังบริสุทธิ์ถูกส่งไปทั่วร่างของเซียวเฉิน

 

ใช้พลังนี้เซียวเฉินกวัดแกว่งดาบแทงขึ้นไปข้างบนและร่างของเขาก็ลอยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่เขาตวัดกระบี่เขาก็พุ่งสูงขึ้นไปกว่าสิบเมตร

 

โดยไม่คาดคิดเซียวเฉินพบว่ามันทำให้เขาสามารถหลบลูกศรของถังเฟิงได้

 

ถังเฟิงผู้ที่ยืนอยู่บนสนามมองดูเซียวเฉินที่ลอยสูงขึ้นไปหลังจากที่เห็นเซียวเฉินหลบลูกศรของเขาได้คิ้วของเขาก็ขมวดชนกัน

 

ลูกศรที่เขายิงออกไปนั้นไม่ใช่ลูกศรจริงๆพวกมันสร้างขึ้นมาจากไฟและน้ำแข็ง หากระยะทางไกลเกินไปแม้ความแม่นยำจะไม่ลดลงแต่ความเร็วของมันจะตกลงอย่างมาก

 

ลูกศรปราณแสงปรากฎขึ้นในมือของเขาอีกครั้ง เขาเล็งไปที่เซียวเฉินขณะที่ดึงสายธนูกลับมาอย่างช้าๆ เขาเร่งพลังปราณพลังงานและจิตวิญญาณสุดถึงขีดสุด เจตนาฆ่าฟันจับจ้องไปที่ร่างของเซียวเฉิน

 

เซียวเฉินยังคงปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณของเขาออกมา ในทันทีที่ถังเฟิงปล่อยเจตนาฆ่าฟันออกมาเซียวเฉินก็รู้สึกได้ในทันที หัวใจของเขาสั่นไหวและรีบใช้อัสนีหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว

 

การใช้อัสนีหลบเลี่ยงกลางอากาศนั้นสิ้นเปลืองพลังปราณเป็นอย่างมากแต่เซียวเฉินก็ไม่ได้มีความลังเล เจตนาฆ่าฟันนั้นเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นแห่งความตาย

 

“โซว!”

 

ทันทีที่เซียวเฉินพุ่งไปก็มีบางอย่างวูบใต้เท้าของเขา ในท้องฟ้าสีครามดูราวกับเส้นสายฟ้า

 

เมื่อแสงนั้นวาดผ่านไปเซียวเฉินก็ปรากฎตัวเหนือพื้นดินสูงกว่าหนึ่งพันเมตร สำหรับฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเห็นเป็นเพียงจุดดำเล็กๆ

 

“เซียวเฉินพยายามจะทำอะไร? ด้วยระดับขอบเขตพลังของเขาเขาจะต้องจ่ายพลังปราณจำนวนมากเพื่อที่จะใช้ทักษะเหาะเหินเช่นนั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธจะทำได้”

 

ในศาลาของตระกูลถังและตระกูลจางถังเทียนมองไปที่จุดดำบนฟ้าและพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล

 

ผู้นำตระกูลจางพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “พี่น้องถังไม่ต้องเป็นกังวล เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงพยายามจะหลบลูกศรของถังเฟิง อย่างไรก็ตามในที่สุดก็ต้องกลับลงมาอยู่ดี”

 

“เมื่อเป็นเช่นนั้น หากเขาไม่โดนยิงพรุนก็ต้องตกลงมาตาย”

 

ในศาลาของตระกูลเซียวต่างคนต่างก็ไม่รู้เช่นกันว่าเซียวเฉินพยายามจะทำอะไร มีเพียงเซียวเฉียงที่ขมวดคิ้วอยู่ในใจแต่เขาก็ไม่แน่ใจได้เช่นกัน “หรือว่ามันอาจจะเป็นมังกรดิ่งทะยาน? ถึงอย่างนั้นทักษะต่อสู้นี้ก็หายสาบสูญจากตระกูลเซียวไปเป็นเวลานานมาแล้ว ต่อให้เขามีจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสำเร็จมัน”

 

ถังเฟิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาวเมื่อเขาเห็นว่าจุดดำนั้นคือเซียวเฉิน ท่าทางผ่อนคลายของเขาเมื่อครู่หายไปจนสิ้น

 

ลูกศรปราณแสงดอกที่สามถูกดึงขึ้นมาประทับบนธนูอย่างช้าๆ เขาเล็งไปที่จุดสีดำบนฟ้าพร้อมกับกระแสพลังในร่างของเขาที่ปะทุออกมา นี่เป็นลูกศรปราณแสงดอกสุดท้ายของเขา หากเขาไม่สามารถจบการประลองลงได้นั้นจะเป็นปัญหาแล้ว

 

“ร้องคำราม!”

 

ในขณะที่ฝูงชนต่างถกเถียงกันว่าเซียวเฉินพยายามจะทำอะไรเสียงร้องคำรามอันทรงพลังของมังกรก็ดังลงมาจากฟากฟ้า รัศมีพลังของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณมังกรฟ้าค่อยกดทับลงมาจากท้องฟ้า

 

ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างรู้สึกถึงพลังที่กดลงมาบนไหล่ของพวกเขา มันเป็นพลังที่จับต้องไม่ได้ที่กำลังกดลงมาที่พวกเขาอย่างหนักหน่วง พวกเขาขาสั่นอย่างช่วยไม่ได้

 

“กลาบาตกัมปนาท!”

 

*** เป็นชื่อที่เซียวเฉินตั้งให้มังกรดิ่งทะยาน เซียวเฉินคิดว่าเขาเป็นคนแรกที่คิดค้นท่านี้ขึ้น

 

เซียวเฉินเปล่งเสียงร้องคำรามเสียงดังและร่างเงามังกรปรากฎขึ้นด้านหลังของเขา เขาดิ่งลงมาจากฟ้าราวกับดาวตกตัดผ่านอากาศและคลื่นพลังฉี

 

“โซว!”

 

ถัวเฟิงดึงธนูเพลิงน้ำแข็งขึ้นมาตั้งรอเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเสียง “ซูว” ลูกศรปราณแสงถูกยิงออกไปลักษณะเดียวกับล่าดวงดาวคว้าจันทราพุ่งตรงไปหาเซียวเฉินที่อยู่บนฟ้า

 

อย่างไรก็ตามเซียวเฉินก็ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นขอบเขตพลังฉี เป็นชั้นพลังฉีที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าหลังจากที่ใช้กลาบาตกัมนาทออกมา

 

ลูกศรปราณแสงที่บรรจุพลังงานมหาศาลถูกปัดออกไปด้านข้างก่อนที่จะได้ถึงตัวเซียวเฉินและหายลับไปบนท้องฟ้า

 

ถังเฟิงจ้องมองแบบไม่อาจเชื่อสายตา หมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์ใช้เหล็กน้ำค้างเหมันต์ระดับสูงและศิลาแสงจันทร์จำนวนมากเพื่อสร้างลูกศรปราณแสงขึ้นมา พอคิดว่ามันถูกปัดกระเด็นไปได้อย่างง่ายดาย

 

ก่อนที่ถังเฟิงจะมีเวลาได้ยืนงงเซียวเฉินใช้พลังของมังกรพร้อมกับฟันลงมาที่ถังเฟิงอย่างไร้ความปราณี ถังเฟิงเร่งทักษะเคลื่อนไหวออกมาจนถึงขีดสุดและกระโดดห่างออกไปกว่าสิบเมตรในทันที

 

“บูม!”

 

เกิดเสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนถึงสวรรค์ สนามประลองที่สร้างขึ้นมาจากหินผาสวรรค์แตกออกเป็นเสี่ยง คลื่นพลังส่งเศษหินนับไม่ถ้วนปลิวออกไปนอกสนามประลอง นักบ่มเพาะพลังทั้งหลายด้านล่างสนามประลองรีบใช้ทักษะเคลื่อนที่ออกมาเพื่อหลบเลี่ยง

 

ถึงอย่างนั้นก็มีคนจำนวนมากถูกซากปรักหักพังกระแทกเข้าใส่ คลื่นพลังมหาศาลทำให้ต่างคนต่างกระอักเลือดออกมา สถานการณ์วุ่นวาย

 

“มังกรดิ่งทะยาน! มันเป็นมังกรดิ่งทะยานอย่างแท้จริง!” เซียวเฉียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อมองดูสถานการณ์บนสนามประลองแต่ด้วยฝุ่นผงที่ปลิวไปทั่ว ไม่มีใครอาจมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน

 

ในศาลาของตระกูลจางและตระกูลถัง ถังเที่ยนสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมกับพูดขึ้น “ไม่ใช่เจ้าว่ามันจะตกลงมาตาย? เหตุใดกลายเป็นเช่นนี้?”

 

สีหน้าของผู้นำตระกูลจางกลายเป็นน่าเกลียด เขาไม่รู้จะตอบกลับเช่นไร

 

เมื่อฝุ่นควันในสนามประลองเริ่มจางหายไปทุกคนก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน ถังเฟิงตัวซีดอยู่มุมหนึ่งของสนามประลองห้อยลงมาจากขอบสนามสภาพน่าสมเพชเนื้อตัวสั่นเทา

 

มือข้างหนึ่งของเขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้ร่างกายตกลงไปขณะที่อีกข้างกำธนูเพลิงน้ำแข็งไว้แน่น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด