Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 107 สายฟ้าฟาดปากคนอวดดี

อ่านนิยายจีนเรื่อง Immortal and Martial Dual Cultivation ตอนที่ 107 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 107 สายฟ้าฟาดปากคนอวดดี

 

มีบางคนสนใจในตัวเขา? เซียวเฉินรู้สึกสงสัย เขาไม่ได้รู้จักมักจี่กับใครในเมืองไป๋สุ่ย,เป็นใครถึงได้มาสนใจเขา?

 

เซียวเฉินเดินตามเจ้าหมูไปที่ชั้นห้า ตามข่าวลือ,มีเพียงคนระดับท่านเจ้าเมืองเท่านั้นที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะขึ้นมาถึงชั้นห้า

 

เมื่อเทียบชั้นสี่กับชั้นห้า,การตกแต่งแตกต่างกับราวกับกลางวันและกลางคืน มันหรูหรากว่ามาก,ทุกอย่างสร้างขึ้นมาจากหยกขาว,ทองคำและทองคำขาวและวุตถุดิบล้ำค่าอื่นๆ

 

มีเสียงเบาๆคุยกันดังขึ้นมาจากห้องที่ติดกับ เจ้าหมูหยี่ตามองผ่านไปที่รอยพับของฉากกั้น

 

มองเห็นคนสองคนอยู่ข้างใน,เขาเผยท่าทางแปลกประหลาด เขาพึมพำขึ้น “เยี่ยงเชียงหยุ่นมาถที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร? ทำไมข้าไม่รู้เรื่อง? เขามาโผล่ที่ชั้นห้าได้ยังไง พวกยามหลับตายกันหมดแล้ว?ไม่เห็นมีใครมาบอกข้า”

 

เยี่ยงเชียงหยุ่นเป็นผู้สืบทอดสายเลือดต้นกำเนิดตระกูลเยี่ยงแห่งเขตซี่เขอ เมืองไป๋สุ่ยแห่งนี้คึกคักเสียจริง,เซียวเฉินคิดลอยๆในใจของเขา

 

เจ้าหมูอ้วนกำลังจะก้าวตรงไปแต่ทันใดนั้นเยี่ยงเชียงหยุ่นก็เดินออกมาพอดี เขาไม่ได้ประหลาดใจกับการปรากฎตัวของจินต้าเป่า

 

อย่างไรก็ตาม,เขากลับประหลาดใจเมื่อหันไปเห็นเซียวเฉิน เจตนาฆ่าบางๆปรากฎขึ้นในดวงตาของเขาพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาห้าเซียวเฉินอย่างช้าๆ เขาพูดขึ้น “ข้าจำเจ้าได้ เซียวเฉิน,แผนที่ซากโบราณอยู่ที่เจ้าใช่ไหม?ส่งมันมาซะ”

 

เยี่ยงเชียงหยุ่นกล่าวอย่างองอาจและมั่นใจ,เขาไม่รู้สึกว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร ในสายตาของเขา,เซียวเฉินเป็นแค่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลาง,ไม่มีฐานะอะไรโดดเด่น ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องสุภาพ

 

เซียวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย,จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชากับตัวเอง สานุศิษย์จากตระกูลชั้นสูงทั้งหมดล้วนมารยาททรามไร้ยางอายเช่นนี้ทุกคน?

 

“วาดกระบี่!”

 

ทันใดนั้นกระบี่เงาจันทร์ก็ปรากฎขึ้นในมือของเซียวเฉิน,ปลดปล่อยแสงสายฟ้าออกมาและฟาดแสงกระบี่ไปที่เยี่ยงเชียงหยุ่น

 

ช่างเป็นกระบี่ที่รวดเร็ว!เยี่ยงเชียงหยุ่นตกใจอย่างมาก เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะเด็ดขาดเช่นนี้ นอกจากนั้น,เขายังไม่คาดคิดว่ากระบี่ของระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้

 

“ฟุ่ว!”

 

เซียวเฉินฝึกฝนวาดกระบี่มานับครั้งไม่ถ้วน อีกเพียงก้าวเดียวก็จะไปถึงความสมบูรณ์แบบ ยิ่งกว่านั้น,ด้วยระยะแค่นี้,ไม่มีใครอาจจะหลบได้พ้น

 

ในจังหวะที่เซียยวเฉินชักกระบี่ออกมา,เยี่ยงเชียงหยุ่นก็ถอยกลับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม,ที่หน้าอกของเขาก็ยังถูกแสงกระบี่ซัดเข้าให้,มีเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้น

 

เสื้อผ้าของเขาฉีกขาด,เผยให้เห็นชุดเกราะศึกสีทอง เซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย,นั้นมันเป็นชุดเกราะศึกระดับปฐพี,พวกตระกูลชั้นสูงมั่งคั่งอย่างแท้จริง

 

กระบี่ไม่อาจฟันทะลุเกราะศึกแต่ด้วยพลังมหาศาลของมันซัดเข้าอย่างหนักแน่น อวัยวะภายในของเยี่ยงเชียงหยุ่นกระทบกระเทือน

 

“ฟาดฟันประกายแสง!”

 

ดาบปรากฎขึ้นในมือของเยี่ยงเชียงหยุ่น,เขาหมายที่จะตอบโต้กลับแต่กลับพบว่าฟาดฟันประกายแสงไร้ซึ่งช่องโหว่ให้ตอบโต้ มันปิดกั้นช่องโจมตีของเขาทั้งหมด

 

ถอย!

 

เขากระแทกเท้าดีดตัวกลับและระงับความปั่นป่วนของพลังปราณในร่างของเขา ร่างของเขาลอยไปข้างหลังและก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้,พบว่าเซียวเฉินเร่งบุกเข้ามาแล้ว

 

เซียวเฉินถือกระบี่เงาจันทร์ไว้ในมือบุกเข้ามาอย่างไม่ลังเล เขารวดเร็วราวกับสายฟ้ากำลังพุ่งใส่

 

เยี่ยงเชียงหยุ่นรีบวิเคราะห์สถานการณ์,เขาพบว่า,เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอยหนีอีกครั้ง

 

ก่อนที่เขาจะยืนได้อย่างเต็มเท้า,เขาไม่มีทางที่จะป้องกันการโจมตีนั้นไว้ได้,หากเขากระโดดถอยหลังสูงเกินไป,หัวของเขาคงขาดกระเด็นในทันที เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว,ม้วนกลิ้งถอยหลังไป

 

“อัสนีฟาดฟัน!”

 

เสียงฟ้าคำรามดังก้องขึ้นบนชั้นห้าของศาลาหลับไหล ฉากกั้นและเก้าอี้ถูกเป่าลอยไปด้วยความผันผวนของสายฟ้า

 

เซียวเฉินขับนำพลังอันไร้ขอบเขตของอัสนีฟาดฟันและพุ่งตรงเข้ามา บรรจุไปด้วยพลังมหาศาลและรวดเร็วราวกับสายฟ้า,เขาฟันลงไปที่หัวของเยี่ยงเชียงหยุ่น

 

เมื่อเห็นแรงมหาศาลอันทรงพลัง,เยี่ยงเชียงหยุ่นกลัวจับใจ พลังปราณในร่างของเขาหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว เขายกดับขึ้นเหนือหัว,ด้วยความหวังว่ามันจะป้องกันไว้ได้

 

“บูม!”

 

เมื่ออาวุธปะทะกัน,เกิดเป็นเสียงดังขึ้นมา เยี่ยงเชียงหยุ่นรู้สึกได้ถึงมือที่สั่นเทิ้ม,พลังมหาศาลไหลจากดาบลงไปถึงเท้าของเขา มีเสียงดังเกิดขึ้น,และเกิดเป็นรูบนพื้นไม้ใต้เท้าของเขา

 

ครึ่งร่างของเยี่ยงเชียงหยุ่นจมลงไปติดในรูทันที เขาไม่อาจขยับหรือถอยหนีได้ เซียวเฉินลงถึงพื้นได้ก็ยกเท้าขึ้นมาเตะใส่เขา,ดึงขึ้นมา

 

“อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสอง!”

 

หลังจากสะสมพลังมาจากห้ากระบี่ก่อนหน้า,อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสองพุ่งพล่านออกมา คมกระบี่กระทบลงบนเกราะศึกของเยี่ยงเชียงหยุ่น,เช่นเดียวกับครั้งก่อน,มันเจาะไม่ทะลุ

 

“ฟุ่ว!”

 

อย่างไรก็ตาม,พลังมหาศาลผ่านเกราะศึกเข้าไป,ไหลพุ่งไปทั่วร่างของเยี่ยงเชียงหยุ่น เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและลอยกระแทกเข้ากับกำแพงไม้

 

รูขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนกำแพงของศาลาหลับไหลทันที เยี่ยงเชียงหยุ่นตกลงไปเช่นนั้น ในจังหวะนั้น,เขายื่นมือออกไปคว้าเอาพื้นไม้เอาไว้ได้,ร่างของเขาห้อยอยู่กลางอากาศ

 

“แคร้ง!”

 

เซียวเฉินคิดจะเตะเขาซ้ำอีกครั้ง,ก็มีคลื่นเสียงส่งตรงเข้ามาทางเขา โต๊ะด้านข้างตัวเขาถูกฟันออกเป็นสองท่อนด้วยพลังคลื่นเสียงกิดเสียงดัง

 

ซู่เสี่ยวเสี่ยวก้าวเดินออกมาอย่างสบายๆและกล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล “นายน้อยเซียว,โปรดแสดงความเมตตาสักเล็กน้อย”

 

เซียวเฉินหันกลับและมองไปที่เด็กสาว,ชื่นชมนางอยู่ในใจ ไม่ว่าจะหน้าตาหรือกริยาอารมณ์,มีเพียงเยว่หยิงเท่านั้นที่จะยกขึ้นมาเทียบได้ในหมู่หญิงสาวทุกคนที่เขารู้จัก

 

ถึงอย่างนั้น,ดูเหมือนข้าจะไม่รู้จักเจ้า,ใช่ไหม?

 

“พวกเรารู้จักกันหรือ?” เซียวเฉินถามขึ้นอย่างจริงจังขณะมองไปที่ซู่เสี่ยวเสี่ยว

 

ซู่เสี่ยวเสี่ยวประหลาดใจกับคำพูดของเขาและไม่รู้จะตอบกลับเช่นไร เจ้าหมูรีบตอบแทนนาง “ทางนี้คือแม่นางเสี่ยวเสี่ยว,ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อพบกับนาง”

 

หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งทางใต้,ซู่เสี่ยวเสี่ยว,เซียวเฉินนึกขึ้นในใจเขาไม่คาดคิดว่านางจะเป็นคนที่ลือกันว่าพอจะเทียบชั้นกับเยว่หยิงได้ในอาณาจักรต้าฉินแห่งนี้ จากที่เห็นในวันนี้,ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง

 

อย่างไรก็ตาม,หญิงสาวนางนี้ดูเหมือนจะมีที่มาไม่ธรรมดา เพราะการดนตรีที่เก่งกาจของนาง,นางมักจะปรากฎตัวในสถานที่หรูหราเสมอ มีความสัมพันธ์กับเหล่านายน้อยจากตระกูลชั้นสูงในอาณาจักรต้าฉิน

 

อย่างไรก็ตาม,ไม่เคยได้ยินข่าวลือว่านางมีความสัมพันธ์กับผู้สืบทอดของตระกูลชั้นสูงมาก่อน นอกจากนั้น,นางยังไม่เข้ากับฝ่ายใด

 

มีครั้งนึงที่มีขุนนางใช้กำลังบังคับหลังจากที่ได้ยลความงดงามของนาง ถึงอย่างนั้น,ก่อนที่คนที่เขาส่งไปจะได้ลงมือทำอะไร,ก็ได้ยินมาว่าขุนนางคนนั้นตกตายจบชีวิตลงในห้องของตัวเอง นอกจากนั้น,สำนักหลวงก็ไม่ติดตามเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

“ปัง!”

 

เยี่ยงเชียงหยุ่นตะโกนขึ้นมาเบาๆพร้อมกับปีนกลับขึ้นมาที่ชั้นห้า ใบหน้าของเขาซีดขาว,มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งอยู่ในสภาพน่าสลด

 

ตั้งแต่ที่เขาเปิดตัวออกมา,เขาไม่เคยอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้,เขาประมาณคู่ต่อสู้เกินไป,เขาเกือบจะกลายเป็นเรื่องขบขันประจำศาลาหลับไหล

 

“นายน้อยเยี่ยง,เห็นแก่เสี่ยวเสี่ยว,ท่านลามือไปก่อนได้หรือไม่? ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับนายน้อยเซียว” ซู่เสี่ยวเสี่ยวถามขึ้นเบาๆและมองไปที่เยี่ยงเชียงหยุ่น

 

เมื่อเยี่ยงเชียงหยุ่นได้ยินดังนั้น,เขาก็ไตร่ตรองสถานการณ์โดยทันที ข้าพึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากความประมาท เจ้าเซียวเฉินผู้นี้จะต้องมีคนหนุนหลัง ไม่เป็นประโยชน์ที่ข้าจะไปต่อสู้กับเขาต่อไป

 

ข้าจะต้องกลับไปรอฟื้นพลังกลับคืนมาก่อนค่อยมาจัดการกับมัน เยี่ยงเชียงหยุ่นสูดจมูกเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียง

น่ากลัว “เห็นแก่แม่นางเสี่ยวเสี่ยว,ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไปอีกสักสองสามวัน แล้วข้าค่อยกลับมาหิ้วหัวของเจ้ากลับไป”

 

เจ้าหมูจินถอนหายใจ,ช่างอวดดี,แม้แต่ท่านหมูผู้นี้ยังไปเทียบเขาไม่ได้ เขาโดนไล่เตะเป็นหมาแล้วยังทำท่าทางเหนือกว่า,เห็นได้ว่าไม่อยากเสียหมาต่อหน้าแม่นางเสี่ยวเสี่ยว

 

เซียวเฉินยิ้มเย็นชา “ข้าพูดว่าให้เจ้าไปได้?”

 

“อัสนีหลบเลี่ยง! เบี่ยงร่างกระแทก!”

 

สายฟ้าวูบผ่านและทันใดนั้นเซียวเฉินก็ปรากฎตัวขึ้นข้างหน้าของเยี่ยงเชียงหยุ่น ร่างของเขาเบี่ยงทำมุมและพลังงานทั้งหมดในร่างของเขาก็มุ่งไปที่ไหล่ขวาของเขา จากนั้นก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของเยี่ยงเชียงหยุ่นอย่างรุนแรง

 

เยี่ยงเชียงหยุ่น,ผู้ที่เตรียมตัวกำลังจะกลับออกไป,มองไปที่เซียวเฉินด้วยความตกใจ เขาไม่กล้าจะเชื่อว่าเซียวเฉินยังจะโจมตีใส่เขาต่อหน้าซู่เสี่ยวเสี่ยว

 

“ปัง!”

 

พลังกายอันน่าสะพรึง,หลอมรวมกับพลังปราณทั้งหมดในร่างของเขา,ทำให้เยี้ยงเชียงหยุ่นต้องกระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขาลอยกลับไปที่รูบนกำแพง

 

ในครั้งนี้,เยี่ยงเชียงหยุ่นไม่อาจคว้าจับอะไรไว้ได้ เขาตกลงไปจากศาลาหลับไหลที่สูงกว่าร้อยเมตรเสียงดังสนั่น

 

เนื่องจากการมาของขุนนางกุยยี่,เมืองไป๋สุ่ยในคืนนี้คึกคักเป็นพิเศษ ฝูงชนบนถนนหนทางยังไม่แยกย้ายหายไปไหน ทันทีที่มีร่างคนร่วงลงมาจากศาลาหลับไหล,สร้างความตกอกตกใจให้พวกเขา

 

พวกเขาเห็นเพียงคนที่ผมผ้ารุงรังนอนนิ่งอยู่บนพื้น เลือดไหลออกมาจากที่มุมปากใบหน้าซีดขาว คนคนนั้นลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆและจากนั้นก็พยายามยืนขึ้น ในจังหวะที่เขาลุกขึ้นมาได้,เขาก็หงายหลังกลับลงไปที่พื้นเสียงดังปัง

 

ดูเหมือนกระดูกขาของเขาจะหัก,เขาไม่มีทางลุกขึ้นยืนได้ ดวงตาของเยี่ยงเชียงหยุ่นแดงก่ำพร้อมกับนอนคว่ำไปกับพื้น,คลานไปทีละคืบ

 

เขามาที่ศาลาหลับไหลเพียงคนเพียว เป็นเพราะเขาต้องการมาพบซู่เสี่ยวเสี่ยว,เขาทิ้งทหารและคนรับใช้ทั้งหมดไว้ที่นอกเมือง ตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวในหัวของเขา,คือกลับออกไปให้เร็ว,และตามผู้คุ้มครองของตระกูลไปฉีกเซียวเฉินเป็นชิ้นๆ

 

“นั้นมันไม่ใช่เยี่ยงเชียงหยุ่นแห่งเขตซี่เขอใช่ไหม? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่เมืองไป๋สุ่ย? แล้วยังถูกจับโยนลงมาจากศาลาหลับไหล ข้าสงสัยว่าใครมันช่างกล้า?”

 

มีบางคนจำเยี่ยงเชียงหยุ่นได้และพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ ตระกูลเยี่ยงเป็นตระกูลชั้นสูงชื่อเสียงโด่งดังในเขตซี่เขอ พวกเขามีทั้งสายเลือดต้นกำเนิดและจิตวิญญาณต่อสู้ที่สืบทอดกันมา,มันเป็นใครถึงได้ยำเขาจนอยู่ในสภาพเช่นนี้?

 

มีคนตาแหลมมองขึ้นไปและพบกับเซียวเฉินยืนอยู่ที่รูบนกำแพง พวกเขาอุทานด้วยความตกใจ “นั้นเซียวเฉิน เซียวเฉินถีบเยี่ยงเชียงหยุ่นลงมาจากศาลาหลับไหล”

 

“เจ้าหมอนี้มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว,เขาแขวนร่างไร้วิญญาณของผู้อาวุโสหนึ่งของตระกูลเจียงติดไว้กับกำแพงเมืองเมื่อตอนกลางวัน จากนั้นเขาก็โยนผู้สืบทอดของตระกูลเยี่ยงลงมาจากชั้นห้าของศาลาหลับไหลในตอนกลางคืน”

 

“ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชั้นสูงหรือมหาอำนาจมาจากไหน,เขาก็ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด เขาจะทำอย่างที่ต้องการ คนคนนี้ช่างท้าทายสวรรค์”

 

คำเหล่านั้นลอยผ่านหูของเยี่ยงเชียงหยุ่น,ทำให้ความโกรธเกรี้ยวในใจของเขาลุกไหม้ยิ่งกว่าเดิม เขาอยากจะลุกขึ้นไปเป่าเซียวเฉินให้กระเด็นตกตายภายในดาบเดียว ดวงตาของเขาแดงเป็นเลือดเต็มไปด้วยความเกลียดชั่ง

 

มีเพียงไม่กี่คนที่เห็นเยี่ยงเชียงหยุ่นคลานไปสภาพน่าสงสารและต้องการเข้าไปช่วย

 

“ไป!ก็แค่คนสามัญจากเขตตงหมิง ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือของพวกเจ้า ข้าอยากจะคลาน,ไปไหนก็ไป! ” ความโกรธของเขาในตอนนี้ไม่มีที่ระบาย เมื่อเห็นผู้คนเดินเข้ามา,เขาก็ตะโกนด่าสาปไล่ในทันที

 

พวกคนที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยด้วยความหวังดีแต่กลับได้รับความเกลียดชัง หลังจากที่พวกเขาโดนด่าสาป,พวกเขาก็หายตัวจากไปในทันที,ราวกับเล่นซ่อนหา พวกเขาไม่เคยเจอใครผูกใจมุ่งร้ายขนาดนี้มาก่อน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด