Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 145 ลิงน้ำแข็ง บุปผาผลึกน้ำแข็ง

อ่านนิยายจีนเรื่อง Immortal and Martial Dual Cultivation ตอนที่ 145 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

ตอนที่ 145 ลิงน้ำแข็ง บุปผาผลึกน้ำแข็ง

 

เนื่องจากเขาได้รับหญ้าเรืองแสงมาแล้ว บุปผาผลึกน้ำแข็งสมควรอยู่ข้างหน้านี้ เซี่ยวเฉินอุ้มเสี่ยวไป๋เข้ามาในอ้อมกอดในขณะที่เขากําลังจะเข้าไปในสถานที่ที่มีบุปผาผลึกน้ำแข็งเติบโต เขาไม่สามารถปล่อยให้มันวิ่งไปทั่วได้อีกแล้ว “

 

จากนั้นไม่นาน เซี่ยวเฉินเดินออกจากป่า เขาหยิบแผนที่ออกมาแล้วดู ตามเครื่องหมายบนแผนที่ บุปผาผลึกน้ำแข็งสมควรเติบโตอยู่ด้านข้างของภูเขาด้านหน้า

 

เพราะมันได้รับการปกป้องจากสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 – ลิงน้ำแข็ง ศิษย์ชั้นนอกธรรมดาจะไม่มาเก็บสมุนไพรจิตวิญญาณระดับ 6 นี้ถึงแม้พวกเขาจะรู้ตําแหน่ง

 

ทันทีที่เซี่ยวเฉินเดินออกจากป่า ดวงอาทิตย์สาดแสงมาที่เขาอีกครั้ง มองไปในระยะไกล เขาสามารถเห็นหน้าผาสูง นี่คือขอบของหุบเขาสายลมอสูร

 

เซี่ยวเฉินลูบหัวของเสี่ยวไป๋ และใส่มันลงในหยกวิญญาณโลหิตแม้มันจะส่งสายตาต่อต้านออกมา

 

เซี่ยวเฉินกระจายสัมผัสวิญญาณไปข้างหน้า และไม่พบร่องรอยของลิงน้ำแข็งระดับห้า อย่างไรก็ตาม เขามองเห็นลิงน้ำแข็งวัยเยาว์กําลังพักผ่อนอย่างชัดเจน ความแข็งแกร่งของพวกมันเพียงแค่ระดับสี่

 

“ดูเหมือนการเดินทางครานี้ของข้าจะไร้ค่า มันไม่มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าอยู่แถวนี้” เซี่ยวเฉินถอนหายใจขณะที่เขาเตรียมจะจากไป

 

อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าเขาควรจะตรวจสอบบุปผาผลึกน้ำแข็งก่อนจะจากไปเพราะเขามาถึงที่นี่แล้ว อย่างไรก็ตาม มันเป็นถึงสมุนไพรระดับหก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ก็ตาม แต่เขาสามารถขายมันราคาดีได้

 

เมื่อคิดได้ เซี่ยวเฉินมุ่งหน้าไปหน้าผาอย่างรวดเร็วในขณะที่เขากําลังจะถึง มันมีเสียงร้องอันน่าตกใจออกมา

 

เซี่ยวเฉินหยุดลงและมองไปในทางที่มีเสียงร้อง ด้านล่างหน้าผา ชายหนุ่มผู้กล้าหาญกําลังปกป้องตนเองจากลิงน้ำแข็งสามตัวด้วยขวานขนาดใหญ่

 

บนหน้าผาข้างหลังของเขา มีร่างเล็กพร้อมกับตระกร้าสะพายอยู่ข้างหลังนางกําลังปืนขึ้นหน้าผาไปอย่างคล่องแคล่ว

 

เหนือศีรษะของนางภายในรอยแตกของหน้าผา กลีบดอกไม้กําลังสั่นไหวพร้อมกับปลดปล่อยแสงหนาวเหน็บออกมาราวกับว่ามันทํามาจากน้ำแข็ง

 

หัวใจของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความสงสัย เขาตรวจสอบสถานที่นี้ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาก่อนหน้านี้ แต่กลับไม่พบร่องรอยของผู้บ่มเพาะพลัง สองผู้นี้โผล่ออกมาจากที่ไหน?

 

หลังจากตรวจสอบสองคนนี้ เซี่ยวเฉินก็เต็มไปด้วยความตกใจเมื่อค้นพบว่าทั้งสองผู้นี้ยังไม่ได้หลอมรวมจิตวิญญาณยุทธ์ด้วยซ้ำ พวกเขาอยู่เพียงขอบเขตรวบรวมจิตวิญญาณเท่านั้น และแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย

 

ไม่สงสัยเลยว่าทําไมเขาไม่ค้นพบทั้งสองก่อนหน้านี้ สองคนนี้ยังไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นผู้บ่มเพาะเลยด้วยซ้ำ ไม่มีความผันผวนของพลังปราณออกจากตัวพวกเขา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทําให้เขาผิดพลาดในการค้นพบพวกเขา

 

“การที่คนธรรมดาสองคนเข้ามายังหุบเขาสายลมอสูรมิใช่เหมือนเป็นการแสวงหาความตาย?” เซี่ยวเฉินพูดด้วยน้ำเสียงตําหนิเบาๆ คนพวกนี้ทําเหมือนกับชีวิตของตนมีค่าเพียงเล็กน้อย

 

หญิงสาวที่อยู่บนหน้าผาอยู่ข้างใต้บุปผาน้ำแข็งเพียงเล็กน้อย – อีกเพียงแค่นิดเดียวนางก็สามารถเก็บบุปผาผลึกน้ำแข็งได้แล้ว

 

“พรึบ!”

 

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ลิงน้ำแข็งวัยเยาว์ทะลวงการป้องกันของชายหนุ่มกล้าหาญออกมาทางด้านล่าง ทันใดนั้น, มันกระโดดขึ้นไปบนหน้าผา, มาอยู่ด้านหลังของหญิงสาวเพียงการกระโดดสองสามครั้ง

 

“ไม่!” ชายหนุ่มกล้าหาญที่ยืนป้องกันอยู่ด้านล่างตะโกนออกมา ดวงตาของเขากลายเป็นแดงกําขณะที่เขาขว้างขวานขนาดใหญ่ออกไปที่ลิงน้ำแข็ง

 

ลิงน้ำแข็งหลบอย่างคล่องแคล่วและหลบเลี่ยงขวานขนาดใหญ่ไปได้ มันเหยียดแขนออกมา และมุ่งไปทางหญิงสาว เมื่อหญิงสาวหันหน้ากลับมามอง นางกลายเป็นหน้าซีดด้วยความกลัว สูญเสียการทรงตัว นางร่วงลงมา

 

เนื่องจากตอนนี้เขาไร้อาวุธ ชายกล้าหาญถูกทุบตีอยู่บนพื้นด้วยลิงน้ำแข็งสองตัว ไม่ทันไรตัวเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยแผลที่เต็มไปด้วยเลือด มันเป็นฉากที่โหดร้ายอย่างเห็นได้ชัด

 

“อัสนีหลบเลี่ยง!”

 

เกิดประกายแสงสายฟ้า ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็มาถึงเบื้องหน้าของชายหนุ่ม แสงกระบี่ 66 เซนติเมตรกระพริบอยู่บนกระบี่เงาจันทร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินผสานแสงกระบี่ขึ้นมาได้อย่างแท้จริง นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ปรมาจารย์ยุทธ์สามารถทําได้

 

“ฟิวเ” แสงกระบี่ผ่าลงไปที่ลิงน้ำแข็งที่กําลังโจมตีไปที่ชายหนุ่มกล้าหาญอย่างเลือดเย็น และตัดแขนของมันขาด

 

อย่างไรก็ตาม ในทันทีก็ปรากฏน้ำแข็งทนทานปกคลุมร่างกายของมัน หยุดคมกระบี่ที่กําลังจะสร้างผลกระทบให้กับมัน

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาไม่สามารถตัดร่างของมันให้เป็นชิ้นๆ ลิงน้ำแข็งที่ถูกตัดแขนออกไปคํารามออกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

 

พร้อมกับลิงตัวอื่น มันหยุดโจมตีไปที่ชายหนุ่มที่นอนแผ่อยู่บนพื้น พลังฉีอันหนาวเหน็บปรากฏแบนฝ่ามือของลิงทั้งสอง ดวงตาของพวกมันกลายเป็นดุร้าย และพวกมันก็ทุบลงไปที่เซี่ยวเฉินด้วยฝ่ามือแช่แข็ง

 

เซี่ยวเฉินก้าวถอยหลังเพียงเล็กน้อยพร้อมกับที่ลําแสงสายฟ้าตกลงมาจากฟากฟ้า มารวมตัวกันที่คมกระบี่ของเขา กระบี่เงาจันทร์สร้างเส้นสายฟ้าด้วยกระแสไฟฟ้าที่ไหลเปรี๊ยะปร๊ะบนตัวมัน

 

ในไม่ช้า เซี่ยวเฉินฟันออกไปเป็นแนวนอนไปทางหน้าอกของลิงน้ำแข็งทั้งสองตัว แสงกระแสไฟฟ้าทันใดนั้นก็ระเบิดออกและผลักให้ลิงทั้งสองตัวถอยหลัง

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้โจมตีต่อไป เขามองไปที่หญิงสาวที่กําลังตกลงมาในอากาศ และเรือสงครามสีเงินที่ปรากฏในดวงตาของเขาก็รับตัวนางเอาไว้

 

ลิงน้ำแข็งบนหน้าผาคํารามออกมา และพุ่งเข้าหาเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินขยับกระบี่เงาจันทร์ลงฝึก

 

“หัตถ์จับมังกร!”

 

มือสีดําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศและมีความแข็งแกร่งอันไร้ที่เปรียบ มันตบลิงน้ำแข็งเข้าไปในหน้าผาด้วยเสียงดัง ปัง

 

“ฝ่ามือแปรหมัด!”

 

มือขนาดใหญ่หดตัวกลายเป็นแน่นหนาและเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังอันมากมายทุบลงไปที่ลิงน้ำแข็งที่อยู่ในหน้าผาอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังสนั่นไม่มีหยุด และหน้าผาก็สั่นสะเทือนในขณะที่ชิ้นส่วนของหินตกลงมาจากกําแพง 

 

หลังจากทุบลิงน้ำแข็งไปอย่างรุนแรง ปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้นบนหน้าผา มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของมัน น่าแปลกใจที่ร่างของมันยังไม่เละเป็นโจ๊ก และยังดูสมบูรณ์ดีเหมือนก่อนหน้านี้

 

“ฟื้นตัวเร็วอะไรเช่นนี้!” เซี่ยวเฉินขบฟันพร้อมขมวดคิ้ว

 

เขาชักกระบี่เงาจันทร์ออกมา และปักมันลงที่พื้นก่อนจะนําธนูล่าวิญญาณออกมาพร้อมกับลูกศรปราณแสง

 

มีออร่าหรือหวาพุ่งพล่านออกไปข้างหน้า เหมือนดั่งดาวตกที่ทะลุผ่านฟากฟ้า เมื่อเขายิงมันออกไป ลูกธนูพุ่งผ่านอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปที่ลิงน้ำแข็งที่กําลังปืนออกมาจากหลุมที่ถูกระเบิด

 

ลูกศรปราณแสงเจาะทะลุคอของลิงน้ำแข็ง และตรึงมันไว้ที่หน้าผา เมื่อลิงน้ำแข็งโดนไปขนาดนี้แล้วก็เป็นไปได้ว่ามันสมควรตายได้เสียที ด้วยระดับสติปัญญาอันเฉียบแหลม เมื่อลิงอีกสองตัวเห็นฉากที่เกิดขึ้นกับสหายของมัน พวกมันหันหลังกลับและหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่พวกมันอย่างเฉยเมยก่อนที่เขาจะจับลูกศรปราณแสงพาดไปที่ธนู ลูกศรเคลื่อนไหวรวดเร็วเป็นอย่างมาก พุ่งทะลุอากาศ และถึงเป้าหมายในทันที

 

มันเจาะทะลุผ่านหัวของลิงน้ำแข็งทั้งสอง ทิ้งหลุมขนาดใหญ่ไว้บนร่างกายของพวกมัน ด้วยเสียงดังตับ พวกมันตกลงมาบนพื้น

 

“ขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้” ชายหนุ่มผู้กล้าหาญปกคลุมไปด้วยบาดแผลคลานใกล้เข้ามา และกล่าวขอบคุณเขา เซี่ยวเฉินยืนอยู่ด้านข้างเขา แต่แม้เขาจะสูง 1.8 เมตร เขาก็ยังเตี้ยกว่าชายผู้กล้าหาญระดับหนึ่ง

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่ใบหน้าของเขา สังเกตเห็นว่าเขาดูซื่อสัตย์บริสุทธิ์ผุดผ่อง อายุของเขาไม่น่าจะมากกว่าของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินมีคําถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่

 

พวกเขาทําในหุบเขาสายลมอสูร พวกเขายังไม่ได้ผสานจิตวิญญาณยุทธ์ แล้วพวกเขามาทําอะไรที่นี่?

 

เซี่ยวเฉินโบกมือของเขา เรือสีเงินก็ลอยเข้ามาและจอดอย่างเชื่องช้า หญิงสาวบนเรือรีบกระโดดลงมา

 

เห็นชายหนุ่มปกคลุมไปด้วยบาดแผล เซี่ยวเฉินหยิบยาหวนคืนโลหิตออกมาสองเม็ด และส่งมันให้กับเขา เขากล่าว “ใช้หนึ่งเม็ดสําหรับภายนอก และอีกหนึ่งสําหรับทาน เม็ดยาจะรักษาบาดแผลของเจ้า” แม้ว่าบาดแผลของเขาจะไม่ถึงชีวิต ถ้าบาดแผลไม่ถูกจัดการให้เรียบร้อยมันจะส่งผลให้ใช้เวลาในการรักษาเป็นเวลานาน

 

ชายหนุ่มส่ายหัวและปฏิเสธ “มันไม่จําเป็น โอสถรักษานี้สมควรจะมีราคาที่แพง บาดเจ็บแค่นี้มิใช่ปัญหา”

 

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังเขารับมันไป นางกล่าวอย่างสุภาพ และท่าทางที่สง่างาม “ผู้มีพระคุณ อย่าได้ฟังเรื่องไร้สาระที่ช่าวหยางกล่าว หากบาดเจ็บหนักขนาดนี้ไม่ได้รับการรักษา มันจะต้องใช้เวลานานสําหรับเขาในการฟื้นฟู

 

เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อย เก็บเรือสีเงินเข้าไปในดวงตา เขาไม่ได้กล่าวอะไรและเดินจากไป เขาเพียงแค่ผ่านมาและได้ช่วยเหลือพวกเขา ดังนั้นจึงไม่จําเป็นที่จะเอ้อระเหยนานเกินไป

 

ชายหนุ่มที่เรียกว่าช่าวหยางต้องการไล่ตามเซี่ยวเฉินไป แต่เขาถูกหญิงสาวด้านหลังเขาหยุดเอาไว้ “อย่าไล่ตามเขาไป เมื่อสุยเฟิงกลับมา มันจะมีปัญหาถ้าเขาหาเราไม่พบ”

 

ชายหนุ่มมองเซี่ยวเฉินที่จากไปอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวบดเม็ดยาหวนคืนโลหิต และใช้มันกับบาดแผลของชายหนุ่มผู้กล้าหาญ

 

ไม่นานหลังจากเซี่ยวเฉินจากไป ชายหนุ่มชุดสีฟ้าก็มาถึงเบื้องหน้าพวกเขา

 

เห็นบาดแผลของชาวหยาง เขาก็รีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์ เขารีบไล่ตามไปทิศทางของเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว

 

เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงบุคคลที่กําลังเข้าใกล้เขามาอย่างรวดเร็ว ออร่าของเขาเข้มข้นมาก และอย่างน้อยต้องเป็นของระดับปรมาจารย์ยุทธรขั้นสูง

 

เซี่ยวเฉินตระเตรียมตนเองพร้อมกับหยุดลง และหันหลังกลับไป เมื่อชายหนุ่มชุดสีฟ้าเห็นว่าเซี่ยวเฉินหยุดลง เขารีบเข้าไปหาและกล่าว “ข้าคือหลิ่วสุยเฟิง เจ้าช่วยบอกนามของเจ้าได้หรือไม่? เจ้าได้ช่วยเหลือสหายทั้งสองของข้าไว้ ดังนั้นข้าจะชําระหนี้ให้แก่เจ้าด้วยความขอบคุณในอนาคต”

 

ชายคนนี้ดูน่าประทับใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตรงไปตรงมา คําพูดที่จริงใจของเขาขจัดความกังวลของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินตอบอย่างไม่สนใจ “เย่เฉิน แค่ผ่านทางไปและให้ความช่วยเหลือ ไม่จําเป็นต้องสนใจเรื่องนี้มากนักหรอก”

 

ในขณะที่เซี่ยวเฉินคาดเดาหลิ่วสุยเฟิง หลิ่วสุยเฟิงก็ทําเช่นเดียวกับเขา

 

จากนั้นไม่นาน หลิ่วสุยเฟิงรู้สึกประหลาดใจ บุคคลที่อยู่ด้านหน้าเขาเป็นเพียงปรมาจารย์ยุทธ์ระดับต่ำ ถึงเช่นนั้น เขาก็ยังสามารถไล่ลิงน้ำแข็งหนุ่มทั้งสามไปได้ บุคคลผู้นี้จะต้องไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน

 

“เจ้าใช่น้องชายเย่จากนิกายศาลากระบี่สวรรค์ชั้นนอก? ข้ามิเคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน” หลิ่วสุยเฟิงกล่าวถาม

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่บริเวณเอวของหลิ่วสุยเชิง เห็นเหรียญสีเงิน และเข้าใจสถานการณ์ คนผู้นี้เป็นศิษย์ชั้นในของศาลากระบี่สวรรค์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาต้องการทราบว่าเซี่ยวเฉินมาจากนิกายชั้นนอกหรือไม่

 

“มิใช่ ข้าเพิ่งจะถึงเมืองกระบี่ได้ไม่นาน” เซี่ยวเฉินตอบตามความจริง ในขณะที่เขารู้สึกว่าไม่จําเป็นต้องแอบซ่อนสิ่งใด

 

พวกเขาทั้งสองคุยกันเล็กน้อย ในที่สุดเซี่ยวเฉินก็เข้าใจในสิ่งที่คนธรรมดาทั้งสองทําในหุบเขาสายลมอสูร บุปผาผลึกน้ำแข็งเป็นสิ่งที่จะเบ่งบานตลอดทุกสามเดือน แต่ละครั้งพวกเขาทั้งสามจะมาเก็บกลีบดอกของบุปผาผลึกน้ำแข็ง 

 

โดยทั่วไปหลิ่วสุยเฟิงจะล่อลิงน้ำแข็งออกไปไกล และทิ้งทั้งสองคนไว้เบื้องหลังเพื่อเก็บกลีบดอกไม้ ก่อนหน้านี้ มีลิงน้ำแข็งหนุ่มเพียงแค่สองตัว ซึ่งหมายความว่าช่าวหยางจะถ่วงเวลาพวกมันไว้ได้จนกว่าหลิวสุยเพิ่งจะกลับมา อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบเหตุผลมันมีอยู่สามตัวในเวลานี้

 

เซี่ยวเฉินได้รับข่าวชิ้นสําคัญจากเรื่องนี้ มันมีสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าอยู่ที่นี่จริงๆ นอกจากนี้ หลิ่วสุยเฟิงก็ไม่ได้บาดเจ็บ เขาเพียงแค่ล่อมันออกไป เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข

 

เมื่อพวกเขาจากไป หลิวสุยเพิ่งต้องการที่จะมอบหินจิตวิญญาณระดับต่ำสามก้อนให้กับเซี่ยวเฉิน ตอนแรกเขาคิดว่าเซี่ยวเฉินยินดีที่จะรับมันไว้ แต่เขากลับถูกปฏิเสธโดยไม่คาดคิด

 

ในสายตาของเซี่ยวเฉิน นี่เป็นแค่เรื่องเล็ก เขามสามารถยอดรับรางวัลใหญ่ขนาดนี้ได้ นอกจากนี้ เขาต้องการเป็นสหายกับคนผู้นี้ ถ้าเขาเข้าสู่นิกายชั้นใน ในอนาคตเป็นไปได้ที่จะร่วมงานกัน

 

เมื่อเห็นเซี่ยวเฉินไม่ยอมรับ หลิ่วสยเพิงไม่ได้กดดันเขา เขากล่าวลาและจากไป แต่เขาสัญญากับเซี่ยวเฉินว่าวันหนึ่งเซี่ยวเฉินจะต้องการความแข็งแกร่งอันยอดเยี่ยมของเขา

 

ตอนนี้เขามีข่าวของสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าแล้ว เซี่ยวเฉินไม่ได้รีบจากไป เขารอให้ทั้งสามคนเก็บกลีบดอกไม้ของบุปผาผลึกน้ำแข็งก่อนจะเผยตัวตน

 

เห็นลิงน้ำแข็งถูกตรึงบนกําแพง เซี่ยวเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ขุดเอาแก่นวิญญาณที่อยู่ในตัวลิงน้ำแข็งทั้งสองที่อยู่บนพื้นออกมาก่อนที่จะเผาร่างกายของพวกมันเป็นเถ้าถ่าน

 

หลังจากทําทั้งหมดแล้ว เซี่ยวเฉินกระโดดไปที่รูบนหน้าผา เขายกศพของลิงน้ำแข็งหนุ่มออกมา และวางยันต์คุณสมบัติสายฟ้าสิบกว่าอันไว้บนหลังของมัน

 

จากนั้น เขากระโดดลงมาและซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้และเก็บออร่าของเขากลับมาอย่างหมดจด

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด