ศพ – ตอนที่ 101 ตามหาคน

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 101 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 101 ตามหาคน

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็เข้าใจที่ไปที่มาของเรื่องทั้งหมดทันที

ในใจก็รู้สึกสงสารเจ้าเชี่ยนเชี่ยน เข้าใจความรู้สึกโศกเศร้าของเธอ

การอดทนซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้คนชั่วยิ่งได้ใจ

หลังจากจิตใจแตกสลาย ก็เดินไปสู่หนทางที่ไม่อาจหวนกลับได้ทีละก้าวๆ

แต่ เรื่องนี้ก็ผ่านไปแล้ว พวกเราจึงได้แต่รับรู้ถึงความโศกเศร้าของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเท่านั้น

แต่ว่าส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ทำให้พวกเราสนใจนักพรตในชุดดำ หรือนักพรตหยวนนั้นมาก

ดังนั้นผมจึงพูดกับเจ้าเชี่ยนเชี่ยวว่า “ เจ้าเชี่ยนเชี่ยน นักพรตหยวนคนนั้นรูปร่างหน้าตายังไง หลังจากห้าปีที่แล้ว เธอยังได้เจอเขาอีกไหม ”

 

เมื่อเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้ยิน ก็ขมวดคิ้ว และพูดว่า “ เขาสวมผ้าคลุมหัวสีดำ ฉันเลยเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่มั่นใจว่าเขาตัวผอมมาก ผิวแห้งเหมือนเปลือกไม้ และฉันก็เคยเจอเขาสองครั้ง เร็วๆนี้ได้เจอเมื่อปีที่แล้ว ! เขามาที่นี่เพื่อดูดซับแรงแค้นจากฉัน ”

ดูดซับแรงแค้น เจ้าสิ่งนี้คิดจะดูดก็ดูดได้งั้นเหรอ

เมื่อพวกผมสามคนได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน ในใจก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก

เจ้านี้เป็นหมอผีจริงๆเหรอ แม้แต่แรงแค้นก็ยังดูดซับได้ ไม่กลัวว่าจะทำให้จิตใจของตัวเองสับสนรึยังไง

ดูเหมือนการที่เจ้านี้ปล่อยให้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนมีชีวิตอยู่ ก็เพราะมีจุดประสงค์อื่น

เพื่อให้ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนเป็นภาชนะสะสมแรงแค้น

 

หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง เขาก็ค่อยมาเก็บมัน

ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเก็บแรงแค้นไปทำไม แต่มันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

ถ้าหาตัวเจ้าหมอผีนี่เจอ สัญลักษณ์ผีที่เราสงสัย ก็จะต้องได้รับคำตอบแน่

“ นอกจากหมอผีนั้นแล้ว เธอได้เจอโจวเจี่ยนไหม ” จู่ๆหยางเฉ่วก็ถาม

เมื่อเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้ยินชื่อ “ โจวเจี่ยน ”  สีหน้าก็เคร่งขรึม เผยสีหน้าที่โกรธแค้นออกมา

“ เขาก็อยู่ในมหาลัยนี่แหละ ฉันเห็นเขาทุกวัน แถมยังรู้สึกเจ็บปวดจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่ตอนนั้นฉันยังจำเรื่องในอดีตไม่ได้ และเขาก็ไม่เคยเข้าใกล้ที่นี่อีกเลย ฉันเลยทำอะไรเขาไม่ได้ ! ” เจ้าเชี่ยนเชี่ยนพูด

 

แต่เสียงพึ่งตกลง เธอกลับไม่รอให้พวกเราพูดต่อ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ เขาเป็นคนชั่ว เป็นเขาที่ทำร้ายฉัน พวกคุณ พวกคุณพาฉันไปหาเขาได้ไหม ฉันจะทำให้เจ้าชั่วนั้นได้ตายโหง ! ”

ผู้ชายชั่วแบบนี้ ตายไปสักหมื่นครั้งก็ยังไม่พอ

และหลังจากเจ้าเชี่ยนเชี่ยนตาย เขาก็เป็นคนที่พาคนๆนั้นมา

ถึงพวกเราสามคนจะไม่สามารถทำอะไรกับชีวิตคนทั่วไปได้ แต่พวกเราจะปล่อยให้สัตว์เดรัจฉานแบบนี้มีชีวิตต่ออีกวันไม่ได้

เมื่อมีหนี้ก็ต้องใช้ ผีผู้หญิงมีแค้น ก็ต้องไปชำระด้วยตัวเอง

ถ้าไม่ทำให้มันรู้สึกบ้าง เจ้าโจวเจี่ยนนี้ก็คงไปทำร้ายนักศึกษาสาวอีกจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ เจ้าโจ้วเจี่ยนนี้ยังเป็นคนพานักพรตชุดดำนั้นมา และนักพรตชุดดำนั้นยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ผีด้วย

เพราะเหตุนี้ จึงทำได้แค่ไปตามหาโจวเจี่ยน จึงจะได้เบาะแสของนักพรตชุดดำ และจะได้เข้าใจองค์กรลับนั้นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นผมจึงไม่คิดอะไรมาก พยักหน้ารับทันที “ เธอไม่ต้องพูด พวกเราก็จะไปหาเขาถึงที่ ! ทำปาบไว้ก็ต้องชดใช้ เธอคิดดีๆละว่าจะ ไปแก้แค้นคืนนี้ หรือจะไปเกิดใหม่แล้วค่อยแก้แค้น เพราะเธอฆ่าคนไปมากแล้ว ถ้าฆ่าอีกคน ผลลัพธ์ที่ตามมา จะได้การรับโทษแบบไหน พวกเราก็ไม่รู้ด้วยนะ ”

ผมไม่อ้อมค้อม และพูดออกมาตรงๆทันที

 

แต่เจ้าเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้สนใจเลยสักนิด “ ชั่วชีวิตของฉันอดทนมามากแล้ว ตอนนี้ก็ตายไปแล้ว ไม่อยากอดทนต่อไปอีกแล้ว ส่วนเรื่องที่ฉันฆ่าพวกนักศึกษาตาย ถึงจะต้องลงนรกขุมที่ 18 ฉันก็ยินดี ! ”

ทุกๆคนต่างมีทางเลือกเป็นของตัวเอง แน่นอนว่ารวมถึงผีผู้หญิงเจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเราด้วย

ผมพูด “ อือ ” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเลย

เพียงถามว่าโจวเจี่ยนอยู่ที่ไหน เจ้าเชี่ยนเชี่ยนตอบว่า เจ้าสัตว์นรกนั้นพักอยู่ที่หอพักอาจารย์ ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมาก

หลังจากพูดจบ เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็พาพวกเราลงจากตึก

หานเฉ่วเฟิงโยนบุหรี่ในมือทิ้ง และเหยียบมันแรงๆครั้งหนึ่ง

 

เมื่อเดินมาถึงที่ประตู เจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองพื้นที่โล่งๆที่อยู่ข้างๆ เพราะนั้นก็คือที่ที่เธอและพวกนักศึกษาพวกนั้นตกลงมาตาย

เธอเหมือนกับคนเป็น สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เดินออกจากที่นี่พร้อมกับพวกเรา

เพราะตุ๊กตาที่ใช้ผนึกวิญญาณถูกหานเฉ่วเฟิงทำลายแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ จึงไม่มีพลังลึกลับดึงตัวเจ้าเชี่ยนเชี่ยนให้กลับไปอีก

พวกเราเดินตามเจ้าเชี่ยนเชี่ยน ผ่านเส้นทางสีเขียว และท้ายที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าตึกเล็กๆหลังหนึ่ง

และตึกเล็กๆหลังนี้ ก็คือหอพักอาจารย์

เจ้าเชี่ยนเชี่ยนยืนอยู่ข้างล่างของตึก เงยหน้าใช้ดวงตาจ้องไปที่ชั้นหก ตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

 

พูดด้วยเสียงกัดฟัน “ เขาอยู่ชั้นหก ห้องสาม ฉันได้กลิ่นที่น่ารังเกียจนั่นอย่างชัดเจน ”

พวกเราพยักหน้า จากนั้นก็พาวิญญาณเจ้าเชี่ยนเชี่ยนขึ้นไปยังชั้นหก

ตึกนี้เป็นตึกสมัยเก่า จึงยังไม่มีลิฟต์

อาจารย์ที่เดินอยู่ในห้องพักนี้มีจำนวนน้อยมาก เพราะทุกคนต่างใช้ที่นี่เป็นที่พักในตอนกลางวันหรือที่พักชั่วคราวเท่านั้น

เพราะเหตุนี้ จึงมีห้องจำนวนมากที่ยังว่างอยู่

และไม่รู้ว่าโจวเจี่ยนคิดอะไรอยู่ ถึงเลือกอยู่ชั้นหก

แต่ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็มาถึงประตูห้องสามชั้นหก

 

ประตูเป็นประตูไม้แบบเก่า สีของประตูก็ลอกออกจนแทบหมดแล้ว และที่ประตูยังมีกระดาษคำว่า “ ฝู ” ติดอยู่หนึ่งแผ่น

“ เชี่ยนเชี่ยน ช่วยเปิดประตูให้พวกเราหน่อย ! ” ผมพูดเบาๆ

เมื่อเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้ยิน ก็ไม่คิดอะไรสักนิด เธอเดินเข้าไปที่ประตูทันที

ขณะที่เธอเข้าใกล้ประตู ทันใดนั้นร่างกายเธอก็กลายเป็นภาพเบลอๆ และหายไปต่อหน้าต่อตาทันที

ทันใดนั้นเสียง “ แอ๊ด ” ก็ดังขึ้น ประตูบานนั้นถูกเจ้าเชี่ยนเชี่ยนเปิดออกจากด้านใน

 

เมื่อเห็นประตูเปิดแล้ว พวกเราสามคนก็เดินเข้าไปทันที

ห้องในหอนี้ไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่ห้องโถงและห้องนอนหนึ่งห้อง

แต่ขณะที่พวกเราเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่น ทุกคนก็ต้องตกใจ

เพราะการเปิดตา ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟก็มองเห็น

ตอนนี้ในสายตาของพวกเรา กำลังเห็นชุดชั้นในจำนวนมากของผู้หญิงวางอยู่ในห้องนั่งเล่นเต็มไปหมด แถมมีทั้งรูปแบบหลากหลายชนิดรวมกันอยู่

บางตัวแขวนอยู่บนพนัง บางตัวถูกโยนไว้บนโซฟาและเก้าอี้

เมื่อหยางเฉ่วเห็นสิ่งนี้ สีหน้าก็แย่ลงทันที ทันใดนั้นเธอก็ด่าออกมา “ ไอ้โรคจิต ! ”

 

ผมไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เล็งไปที่อีกห้อง และเดินตรงไปที่ห้องนอนทันที

ประตูเปิดอยู่ เมื่อพวกเรามาถึงหน้าประตูห้องนอน ก็เห็นชายวัยกลางคนกำลังหลับอยู่เงียบๆ

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราไม่เข้าใจยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนี้กำลังสวมชุดชั้นในลายลูกไม้ของผู้หญิงอยู่

ภาพนั้นทำให้ผมมึนงงทันที ขณะนั้นหน้าของผมถึงกับกระตุกไปมาสองสามครั้ง

เจ้านี่เป็นโรคจิตจริงๆ จิตใจของมันจะต้องผิดปกติแน่ๆ

ผมพูด ฮึ จากนั้นก็เปิดไฟที่อยู่ข้างๆทันที

ทันใดนั้น “ พรึบ ” ไฟก็สว่างขึ้น

เพราะแสงแยงตา จึงทำให้ชายวัยกลางคนที่นอนฝันอยู่ค่อยๆตื่นขึ้นมา

 

เขาขยับไปมาอยู่พักหนึ่ง กระพริบตาสองสามครั้ง และแล้วเขาก็พบว่าในห้องของตัวเองมีคนเพิ่มขึ้นมาสองสามคน

ม่านตาของเขาขยายอย่างรวดเร็ว และตะโกนด้วยความตกใจ “ พวก พวกแกเป็นใคร มาทำอะไรในห้องของฉัน ”

หลังจากพูดจบ เขาก็พึ่งได้สติว่าตัวเองกำลังใส่อะไรอยู่

เขาทำหน้าหวาดกลัว รีบดึงผ้าคลุมเตียงที่อยู่ข้างๆ มาห่อตัวเองทันที

“ มองอะไรฮะ รีบไสหัวออกไป ! ”

ผมขี้เกียจพูดไร้สาระกับเขา แต่ก็พูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา

“ เชี่ยนเชี่ยน มาคุยกับอาจารย์ของเธอหน่อยซิ ! ” หลังจากพูดจบ ผมก็เปิดทางให้

 

แต่โจวเจี่ยนกลับงงงัน ช่วงเวลานั้นเขายังไม่ตอบสนองใดๆ

จากนั้นก็ได้ยินเสียง “ พรึบ ” ไฟที่พึ่งเปิด ตอนนี้กลับดับไปอย่างกระทันหัน

จากนั้น เสียงที่น่าขนลุกและตื่นเต้นของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ดังขึ้น “ อาจารย์โจวเจี่ยน แกยังจำฉันได้ไหมฮะ ”

หลังจากพูดจบ ร่างของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนก็ลอยเข้ามาจากประตูห้อง

เมื่อโจวเจี่ยนได้ยินเสียงนี้ ทันใดนั้นเขาก็ตกใจจนเบิกตากว้าง ร่างกายสั่นเทา การแสดงออกทางใบหน้าของเขาแข็งค้างไปในทันที

ระหว่างนั้น เขาก็มองผ่านแสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง

เห็นคนใส่ชุดสีขาวลางๆเดินเข้ามา และเขาเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเจ้าเชี่ยนเชี่ยน

 

“ พรึบ ” สีหน้าของโจวเจี่ยนก็เปลี่ยนไปทันที วินาทีนั้นเขาตกใจกลัวจนอกสั่นขวัญแขวน

อ้าปากกรีดร้องหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันก็พูดจาติดๆขัดๆ

“ เชี่ยน เชี่ยนเชี่ยน อย่า อย่าเข้ามา เธออย่าเข้ามา ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ ไม่ใช่ฉัน เป็นเธอต่างหากที่กระโดดลงไปเอง เธอฆ่าตัวตายเอง ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่เกี่ยวกับฉันเลย……. ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด