ศพ – ตอนที่ 158 กำจัดจนสิ้นซาก

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 158 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 158 กำจัดจนสิ้นซาก

วิญญาณของผีเด็กหญิงและผีตาแก่แตกสลายไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือเพียงผีสามตนที่กำลังสู้อยู่กับพี่เฟิง

พูดตามความเป็นจริง ผมไม่อยากลงมือเลยสักนิด

แต่จะไม่ลงมือก็ไม่ได้ เนื่องจากพวกเขากลายเป็นผีร้ายถึงสองครั้ง พวกเราจึงแทบไม่มีโอกาสที่จะช่วยพวกเขาแล้ว

และถึงจะช่วยได้ ก็ไม่ใช่พลังในตอนนี้ของพวกเราที่จะทำได้

ตอนนี้พวกเราต้องทำใจแข็ง ฆ่าพวกเขาให้ตายทีละตนๆ หรือต้องทำให้วิญญาณแตกสลาย ถึงจะปลดปล่อยพวกเขาจากสภาพนี้ได้ !

ในใจของผมกำลังคิดแบบนี้ ในเวลาเดียวกันผมก็หันไปมองหน้าหยางเฉ่ว จากนั้นพวกเราก็วิ่งไปทางที่พี่เฟิงสู้กับผีสามตนทันที

 

ตอนนี้ผีทั้งสามตนกำลังโอบล้อมพี่เฟิงเอาไว้ แต่พี่เฟิงดูไม่หวาดกลัวเลยสักนิด เขาโจมตีไปรอบๆ อย่างกับม้าศึกที่แข็งแกร่ง

“ พี่เฟิง พวกเรามาแล้ว ! ” ผมตะโกน จากนั้นผมกับหยางเฉ่วก็เข้าไปปะทะกับอีกฝ่ายทันที

พี่เฟิงกำลังหัวร้อนสุดๆ เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น เขาก็ตอบกลับทันที “ มาได้ก็ดี ช่วยฉันส่งพวกเขาหน่อย หลังจากนั้นพวกเราค่อยไปทำลายวิญญาณของยายแก่นั้น ! ”

หลังจากพูดจบ พี่เฟิงก็ยกดาบไม้ขึ้นและเข้าไปแทงผีผู้หญิงตนหนึ่งทันที

ผีผู้หญิงตนนั้นพยายามต่อต้าน ส่วนผีที่เหลืออีกสองตนก็กำลังจะเข้ามาโจมตี และช่วยเหลือจากทั้งสองทาง

แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะผมและหยางเฉ่วได้เข้ามาอยู่ในสนามรบแล้ว จึงช่วยแยกพวกเขาออกจากกัน

 

ผีผู้หญิงตนนั้นเมื่อไม่มีคนคอยช่วยอีก จึงตกเป็นฝ่ายถูกบดขยี้

พี่เฟิงแสดงสีหน้าเย็นชา ยกเท้าขึ้นถีบหนึ่งครั้ง

“ อร๊าย ” ผีผู้หญิงตนนั้นกรีดร้อง เธอล้มลงไปกับพื้นทันที

แต่เขาไม่รอให้ผีผู้หญิงได้ลุกขึ้น หลังจากนั้นพี่เฟิงก็นำกระจกแปดทิศที่อยู่ในมือส่องลงไปทันที

ผีผู้หญิงตนนั้นไม่สามารถลุกได้ทัน เพราะเธอโดนแสงจากกระจกแปดทิศส่องลงตรงกลางหน้าผากเต็มๆ

ตอนนี้กระจกแปดทิศเป็นเหมือนกับหัวแร้ง ที่กำลังเจาะหน้าผากของเธออย่างต่อเนื่อง “ ซ่าซ่าซ่า ” นอกจากนี้ยังมีไอดำไหลทะลักออกมา

ตรงนั้นเป็นตำแหน่งที่ตาผีอยู่พอดี ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายถึงชีวิต

 

ผีผู้หญิงตนนั้นกรีดร้องโหยหวน เธออยากยกมือขึ้นมาป้องกัน แต่เมื่อมือของเธอสัมผัสกับแสงของกระจกแปดทิศ เธอก็เหมือนโดนไฟฟ้าช็อต มือข้างนั้นต้องหลบลงไปทันที

ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงร้อง “ ฮือฮือฮือ ” และกลิ้งไปมากับพื้นเท่านั้น

สุดท้ายเสียง “ ปัง ” ก็ดังขึ้น ของเหลวสีดำไหลกระเซ็นมาติดที่กระจกแปดทิศ เห็นได้ชัดว่าตาผีถูกทำลายแล้ว

เมื่อพี่เฟิงเห็นแบบนั้น เขาก็ไม่ลังเลเลยสักนิด

เขาถอนหายใจ ยกดาบไม้ขึ้นตามสัญชาตญาณ และเก็บมันเข้าฝักดังเดิม

จากนั้นก็หมุนตัว กลับมาช่วยพวกเราฆ่าผีที่เหลืออีกครั้ง

ผีที่เหลืออีกสองตนสู้ด้วยตัวต่อตัวก็ลำบากแล้ว แต่เมื่อมีพี่เฟิงเข้ามาช่วย แม้พวกเขาจะกลายเป็นผีร้ายถึงสองครั้ง และร้ายกาจมากกว่าเดิม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีที่โหดเหี้ยมของพี่เฟิงและพวกเราได้

 

ผมมีพลังน้อยที่สุด แต่ก็พยายามช่วยต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ และสร้างช่องว่างให้พี่เฟิงและหยางเฉ่ว

แต่สมาธิของผมนิ่งมาก หลังจากต่อสู้ไปไม่ถึง 10 กระบวนท่า ผมก็คว้าโอกาสได้ วินาทีนั้นผมแปะยันต์ลงไปที่หลังของผีตนหนึ่งทันที

ทันใดนั้นผีร้ายก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย ในเวลาเดียวกันเขายังคิดจะพุ่งเข้ามาฆ่าผม

แต่มันสายไปแล้ว ทันใดนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงผมพูดว่า “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง ทำลาย ! ”

วินาทีนั้น ยันต์ที่แปะเอาไว้ก็ระเบิดออกทันที

“ ตูม ” ผีร้ายตนนั้นถูกแรงระเบิดอัดจนล้มลงพื้น วินาทีนั้นเขาสูญเสียพลังต่อสู้ในทันที

 

หลังจากนั้นหยางเฉ่วก็ขยับดาบไม้ในมือเล็กน้อย เธอแทงเข้าไปที่ตัวผีร้ายตนนั้น

เมื่อตาผีถูกทำลาย ผีร้ายตนนั้นก็สูญเสียงกำลังในการต่อต้านอย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อตาผีแตก มันก็หมายความว่าวาระสุดท้ายของเขามาถึงแล้ว วิญญาณจึงแตกสลายไปทันที

ผีตนสุดท้ายที่เหลือรอด กลายเป็นนักรบผู้โดดเดียว ตอนนี้เขาจะสามารถต่อต้านการโจมตีของพวกเราสามคนได้ยังไง

ผลลัพธ์พี่เฟิงรุกอย่างรุนแรง โจมตีจนเขาล้มกลิ้งลงไปกับพื้น

หลังจากนั้นหยางเฉ่วก็ใช้ลวด รัดที่ตัวผีร้าย และดึงเขากลับมาทันที

ผมขมวดคิ้ว กัดฟันอย่างแรง ยังไงก็ต้องแทงให้ตายในดาบเดียว

 

จากนั้นผมก็กำดาบไม้ให้แน่น ยกมันขึ้น และแทงเข้าไปที่หน้าอกของผีร้ายตนนั้น

ในที่สุดผีร้ายตนนั้นก็กรีดร้อง “ บึก ” เขาทรุดตัวลงไปกับพื้น ตาผีที่อยู่บนหน้าผาก ก็ได้ถูกทำลายแล้วเช่นกัน

เสี้ยววินาทีต่อมา ผมก็ดึงดาบไม้ออก

แต่ขณะที่ผมกำลังดึงดาบไม้ออก ผีหนึ่งในสามตนนี้ ความอดทนของผีสองตนก่อนหน้านั้นก็ถึงขีดสุด

“ ปัง ” ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ร่างกายของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นแสงและกระจายไปทั่วทันที

ส่วนผีตนสุดท้ายก็ตัวสั่นไปทั้งตัว และกำลังจะหายไปเช่นกัน

ผมไม่ได้พูดอะไร เพียงรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความขุ่นเคืองที่อยู่ในใจเท่านั้น

 

พวกเขาเหมือนกับเจ้าเชี่ยนเชี่ยน เดิมทีสามารถส่งวิญญาณได้ เดิมทีสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ และไม่ต้องวิญญาณแตกสลายเหมือนตอนนี้

แต่ตอนนี้พวกเรากลับเป็นคนฆ่าพวกเขาด้วยตัวเอง ทำให้วิญญาณพวกเขาแตกสลายกับมือ และทำให้พวกเขาหายไปจากโลกมนุษย์ด้วยน้ำมือของตัวเอง

ความรู้สึกแบบนั้นทำให้ในใจของผมหดหู่มาก ความรู้สึกที่หลากหลายไหลวนกันอย่างยุ่งเหยิง แม้แต่ความรู้สึกบ้าคลั่งและโมโหก็ยังมีอยู่ในนั้น

ผมมองวิญญาณผีตนสุดท้ายที่กำลังหายไปต่อหน้า เมื่อเห็นท่าทางที่แสนเจ็บปวดของเขา ในใจของผมก็แทบรับไม่ไหว

 

พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ในฐานะคนปราบผี ผมกลับไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ ความรู้สึกแบบนั้นจึงทำให้ผมทุกข์ทรมานและโทษตัวเองทันที

แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆในดวงตาของผีตนสุดท้ายก็มีนัยน์ตาปรากฎขึ้น เขาจ้องผมแล้วพูดว่า “ ฆ่า ฆ่าฉันเลย ขอ ขอร้องละ…… ”

เมื่อวิญญาณกลายเป็นผีร้ายถึงสองครั้ง มีตาผีปรากฎขึ้น เขาก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว

ตอนนี้เขาเจ็บปวดมาก สิ่งที่เขารออยู่ มีเพียงวิญญาณแตกสลาย และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเวลาจะช้าหรือเร็วเท่านั้น

ผมกำดาบไม้แน่น จากนั้นก็พูดกับผีตนนั้นด้วยความโศกเศร้า “ อด อดทนเอาไว้…… ”

 

หลังจากพูดจบ ผมก็ยกมือขึ้น แทงดาบลงไปที่ประตูชีวิตของผีร้ายทันที

เมื่อดาบแทงลงไป “ ปัง ” ร่างกายของเขาก็ระเบิดออก กลายเป็นแสงสีขาว และจางหายไปจากสายตาผมทันที

เรื่องก็เป็นแบบนี้ สุดท้ายผี 11 ตนที่ตำบลหม่าหวาง ก็ถูกกำจัดจนหมด

ขณะที่ผมมองพื้นที่โล่งๆพร้อมกับแสงที่กำลังเลือนหายนั้น ในใจของผมกลับไม่รู้สึกสบายใจเลยสักนิด

กลับกันผมยังรู้สึกแปลกๆ และโทษตัวเองไปมากมาย

แต่ตอนนั้นเอง ที่ข้างหูของผมกลับได้ยินเสียงเบาๆดังขึ้น “ ขอบคุณมาก ”

มันทั้งผ่อนคลาย และอ่อนล้ามาก

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองรอบๆ

แต่ผมกลับไม่เห็นอะไร ตอนนี้ภาพตรงหน้ามีเพียงถนนที่มืดสลัวๆบางเส้น บ้านเรืยนที่มืดมิด และยายแก่แปลกประหลาดที่ยืนนิ่งๆอยู่ไม่ไกล

หรือผมจะหลอนไปเอง แต่เสียงเมื่อกี้กลับทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมา

ผมรู้ว่า ศัตรูของพวกเรายังอยู่

คนที่ทำให้ผลลัพธ์ทุกอย่างเกิดขึ้น ก็คือยายแกตรงหน้านี้

ถ้าเธอไม่ตาย เธอยังมีชีวิต ในอนาคตก็อาจมีเจ้าเชี่ยนเชี่ยนคนที่สอง และผี 11 ตนที่ตำบลหม่าหวางเกิดขึ้นอีก

 

พวกเขาจะถูกบังคับให้กลายเป็นผีร้าย และกลายเป็นทาสของยายแก่นี้ เป็นเครื่องมือฆ่าคนและแหล่งสะสมพลังชั่วร้ายแทนเธอ สร้างเวรสร้างกรรมไม่รู้จักจบ

สุดท้ายยังพบกับจุดจบที่เลวร้าย วิญญาณแตกสลาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของปีศาจตนนี้

ผมจ้องยายแก่ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง จนถึงเรียกได้ว่าน่าเกลียด “ ยายแก่ แกเป็นคนทำทุกอย่าง เอาชีวิตของทุกคนคืนมา ! ”

หลังจากพูดจบ ผมก็ไม่ลังเล พุ่งเข้าไปหาเธอทันที

เมื่อหยางเฉ่วเห็นผมลงมืออย่างกระทันหัน เธอก็ตะโกนด้วยความตกใจ “ ติงฝาน อย่า ! ”

ผลลัพธ์เสียงยังไม่จางหาย ผมก็มาถึงตรงหน้าของยายแก่แล้ว

 

วินาทีนั้นยายแก่หัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” ออกมาอย่างน่าขนลุก “ ไม่ดูเงาหัวตัวเอง ! ”

หลังจากพูดจบ ยายแก่ก็ยกมือขึ้น

ภายใต้เสื้อคลุมผืนยาว ได้มีมือเหี่ยวๆของยายแก่โผล่ออกมาหนึ่งข้าง

ต่อมามือข้างนั้นก็โบกมาทางผมเบาๆ ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกถึงพลังหยินที่มหาศาล

วินาทีต่อมา ผมก็รู้สึกว่าที่ท้องของผมมีพลังบางอย่างเข้ามากระแทกอย่างแรง

ทันใดนั้นความรู้สึกที่กล้ามเนื้อฉีกขาดก็ก็เกิดขึ้น “ อ๊ากก ” ผมกรีดร้องออกมาตามสัญชาตญาณ

จากนั้นร่างกายของผมก็ล้มลงไปกับพื้น และกลิ้งตัวไปอีกสองรอบ

 

วินาทีนี้ ผมรู้สึกเจ็บที่ท้องมาก และรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ ติงฝาน…… ” หยางเฉ่วตะโกนออกมาทันที ขณะเดียวกันเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหาผม

ผมอยากจะลุกขึ้น แต่ผลลัพธ์ผมเพิ่งขยับตัว ทันใดนั้นความรู้สึกแสบร้อนก็ไหลทะลักมาอยู่ที่ปาก

“ เอือก ” ผมสำลักเลือดสดๆออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ไอแห้งๆไม่หยุด

หยางเฉ่วตกใจ รีบเอื้อมมือมาประคองผมทันที จากนั้นเธอก็ใช้มืออีกข้างตบหลังของผมอย่างต่อเนื่อง

“ ติงฝานอย่าขยับ นาย นายอาจบาดเจ็บข้างใน…… ”

“ แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ ฮึแล้วยังคิดจะเอาชีวิตข้า พวกแกไม่กี่คน จงกลายเป็นทาสผีเฝ้าที่นี่ซะ ฆ่าคนเก็บวิญญาณ แทนคนของตระกูลจางก็แล้วกัน ! ”

 

ยายแก่พูดออกมาเบาๆ จากนั้นก็เริ่มเดินเข้ามาใกล้พวกเราทีละก้าวๆ

เมื่อพี่เฟิงเห็นแบบนั้น ก็ตะโกนด่าทันที “ เก็บศพแกนะซิ ไปตายซะยายแก่หนังเหี่ยว ! ”

หลังจากพูดจบ เขาก็จับดาบไม้เข้าไปแทงอีกฝ่าย

แต่ใครจะรู้แม้แต่พี่เฟิง ก็ไม่ต่างอะไรจากผม เขายังไม่ได้เข้าใกล้ ยายแก่ก็โบกมือ จากนั้นตัวเขาก็กลิ้งลงไปกับพื้นเช่นกัน

ความแตกต่างของพวกเรา ช่างห่างชั้นกันจริงๆ

ผมไม่รู้ว่าพลังของยายแก่ ห่างจากพวกเราสามคนเท่าไหร่

เมื่อผมและหยางเฉ่วเห็นพี่เฟิงล้มลงไปกับพื้น พวกเราก็ตกใจกันมาก

 

คิดไม่ถึงว่ายายแก่จะร้ายกาจถึงขนาดนี้ หยางเฉ่วตื่นตระหนกจนผิดปกติ วินาทีนั้นเธอประคองผมให้ลุกขึ้นทันที “ เร็วเข้า พวกเราต้องรีบหนี ยาย ยายแก่นี่ร้ายกาจเกินไป พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ…… ”

แต่ผมกลับรั้งหยางเฉ่วเอาไว้ ผมจ้องยายแก่ “ หนีงั้นเหรอ ไม่ อีกเดี๋ยวฉันจะให้มัน มันรู้ว่า การมายุ่งกับฉัน มันเป็นความผิดที่ร้ายแรงขนาดไหน…… ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด