ศพ – ตอนที่ 197 กลับมาที่คฤหาสน์หลังเดิม

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 197 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 197 กลับมาที่คฤหาสน์หลังเดิม

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

ผีผู้หญิงพาผมมาที่นี่อย่างไม่รู้เรื่องอะไร เพราะอยากให้ผมฆ่าตัวตาย

 

บอกว่าหลังจากผมตายไป เธอจะให้เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ ให้เธอได้เล่นสนุกไปวันๆ

 

ยัยนี้ไม่ได้พูดเล่นหรอกเหรอ แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน

 

ดูเหมือนประสบการณ์และการฝึกฝนในระยะนี้ของผมจะไม่ได้สูญเปล่า หลังจากผ่านการต่อสู้หลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดผมก็ปราบผีผู้หญิงลงได้

 

ตอนนี้ผมเอื้อมมือออกไปโจมตี เตรียมทําให้ผีผู้หญิงตายคามือ จากนั้นจะรีบกลับไปที่คฤหาสน์ ดูว่าสถานการณ์ของหยางเฉ่วเป็นยังไงบ้าง

 

“ ไปตายซะ ! ”

 

ผมทําหน้าเข้ม ขณะที่เสียงตะโกนของผมดังขึ้น ฝ่ามือนั้นก็เอื้อมเข้าไปแปะอย่างรวดเร็ว

 

ถ้ายันต์ฝ่ามือแปะโดนที่ประตูชีวิตผี ยัยผีผู้หญิงตนนี้จะต้องตายแน่นอน

 

ผีผู้หญิงคนนั้นก็ตกใจพอสมควร สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที ม่านตาขยายออกอย่างต่อเนื่อง

 

ผมคิดว่า การโจมตีครั้งนี้ จะทําให้ผู้หญิงหลบไม่พ้น เธอจะต้องตายแน่ ผมจึงไม่ลังเลเลยสักนิด

 

แต่ผมไม่รู้อะไร ขณะที่ฝ่ามือของผมเข้าไปแปะที่ประตูชีวิตของเธอ ทันใดนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

 

ผมมองฝ่ามือที่กําลังลงไปแปะ เมื่อฝ่ามือนี้เข้าไปใกล้ประตูชีวิตของผีผู้หญิง

 

ทันใดนั้นผีผู้หญิงก็ประสานมือและพูดว่า “ เปิด ” ออกมา

 

เสี้ยววินาทีนั้น “ ตูม” ร่างกายของผีผู้หญิงกระเบิดเป็นจุน กลายเป็นหมอกสีขาว และเลือนหายไปจากสายตาผมทันที

 

เพราะร่างกายของผีผู้หญิงกลายเป็นหมอกสีขาว ดังนั้นเมื่อฝ่ามือของผมแปะเข้าไป มันก็เหลือแต่อากาศที่ว่างเปล่าแล้ว

 

ผมขมวดคิ้ว พูดในใจว่าสมควรตาย

 

คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ผีผู้หญิงโดนเลือดลิ้นของผมเข้าไปแล้ว เธอยังสามารถใช้วิธีนี้หลบหนีได้

 

แม้ผมจะอารมณ์เสีย แต่ผมลังเลไม่นาน ทันใดนั้นผมก็หันไปมองรอบๆอย่างหวาดระแวง

 

แต่ตอนนี้ ผมกลับพบว่าพลังหยินที่อยู่รอบๆเริ่มหายไปแล้ว

 

ถ้าพูดอีกอย่างคือ ผีผู้หญิงไม่อยู่แล้ว เธอหนีไปแล้ว

 

หลังจากกวาดสายตามองอย่างละเอียดแล้ว ผมก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น

 

ผีผู้หญิงคนนั้นคงรู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม เมื่อกี้เธอจึงใช้วิชาผีบางอย่างหลบหนีการโจมตีของผม

 

เมื่อเห็นผีผู้หญิงไม่อยู่แล้ว ผมก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ

 

ผมมาอยู่ที่นี่โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหยางเฉ่วที่ดูละครทีวีอยู่ข้างๆผม จะต้องเจอกับเรื่องไม่ดีอยู่แน่ๆ นานขนาดนี้แล้วเธอยังไม่มาช่วยผมเลย ไม่แน่ตอนนี้เธออาจกําลังเจอปัญหาอยู่

 

ดังนั้น ผมจึงไม่มีเวลามาสนใจผีผู้หญิงที่หนีไป ผมต้องกลับไปดูหยางเฉ่วที่คฤหาสน์ก่อน

 

เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็ใช้ดาวเหนือในการวิเคราะทิศทาง จากนั้นก็วิ่งไปทางใต้ของป่า

 

แม้ผมจะไม่มั่นใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แต่ผมคิดว่าถ้าตัวเองคิดจะออกห่างจากคฤหาสน์ ยังไงระยะทางก็ต้องไม่ไกลมากนัก

 

ดังนั้นตําแหน่งของตัวเอง ก็น่าจะอยู่ในป่าเมเปิลแดงใกล้ๆ

 

หลังจากวิ่งมาทางใต้สักพัก ผมก็ได้ยินเสียง “ ฟู่ฟู่” จากแสงที่ลอดผ่านลงมา

 

นี่คือเสียงรถยนต์ ด้านหน้าของผมต้องเป็นถนนแน่ๆ

 

และป่าผืนนี้ ก็อยู่ข้างถนน ผมไม่ลังเลเลยสักนิด รีบวิ่งไปข้างถนนทันที

 

หลังจากผมมาถึงข้างถนนก็มองสํารวจรอบๆ พบว่าห่างออกไปไม่ไกลได้มีป้ายแผ่นหนึ่งแปะอยู่

 

ป้ายแผ่นนั้นไม่ใช่ป้ายแปลกตาอะไร มันก็คือป้าย “ สถานที่ถ่ายหนังพยาบาลตามหาผี”

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ดีใจมาก ผมไม่ลังเลรีบวิ่งข้ามถนนทันที

 

พร้อมกับหัวใจที่เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ตอนนี้ผมได้ข้ามถนนเรียบร้อยแล้ว

 

ห่างออกไปไม่ไกล ก็คือคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์

 

ประตูคฤหาสน์เปิดอยู่ ภายในคฤหาสน์ไม่มีแสงอะไรลอดออกมา ผมเองก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ด้านในเป็นยังไง

 

แต่ผมกลับไม่ลังเล วิ่งเข้าไปที่คฤหาสน์ทันที

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เมื่อผมมาถึงสวนหย่อม กลับรู้สึกว่ามีพลังหยินเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย และดูเหมือนอากาศจะหนาวเย็นขึ้นไม่น้อย

 

ผมจ้องประตูคฤหาสน์ หัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมเดินเข้าไปพร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัว

 

เพราะผมกังวลเรื่องความปลอดภัยของหยางเฉ่ว ผมจึงรีบตะโกนเข้าไปในคฤหาสน์ทันที “ หยางเฉ่ว

 

หยางเฉ่วเธออยู่ในนี้ไหม”

 

ไม่มีคนขานรับ มีเพียงเสียงของผมที่ดังสะท้อนไปรอบๆ

 

ผมกัดฟันแน่น รีบพุ่งเข้าไป ผมเห็นประตูปิดไม่สนิท จึงไม่ลังเลรีบใช้เท้าถีบมันทันที “ ปัง” ทันใดนั้นประตูใหญ่ก็เปิดออก

 

วินาทีที่ประตูถูกผมถีบออก สายลมอันหนาวเหน็บที่เกิดจากพลังหยินก็พัดเข้ามาที่ร่างของผม

 

ผมเองก็ไม่รู้ว่าพลังหยินพวกนี้เพิ่มขึ้นมามากกว่าตอนกลางวันกี่เท่าตัว เมื่อสายลมพัดเข้ามาขนผมก็ลุกซู่ทันที

 

ผมแสดงสีหน้าเคร่งขรึม มองเข้าไปในคฤหาสที่มืดมิด และตะโกนออกมาอีกครั้ง “ หยางเฉ่ว เธออยู่ที่นี่ไหม”

 

ขณะที่พูด ผมก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์

 

เมื่อมองผ่านแสงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ผมก็เห็นสภาพในคฤหาสน์ได้ลางๆ

 

มันไร้เงาผู้คน หยางเฉ่วไม่ได้อยู่ที่โซฟาแล้ว กระเป๋าและดาบของพวกเราสองคนในเวลานี้ถูกวางไว้บนโต๊ะรับแขก

 

ผมเห็นในบ้านเงียบกริบ ไม่มีคนอยู่ แถมกระเป๋า ดาบ และของอื่นของพวกเรายังวางอยู่ที่เดิม ใจผมจึงรู้สึกถึงลางร้าย

 

หยางเฉ่วอาจเป็นเหมือนผม อาจเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

 

ตัวเธอเองก็ไม่ได้เอากระเป๋าไป เพราะผมสองคนออกมาล่าผี

 

ถ้าไม่ได้เจออะไรที่ตัวเธอไม่สามารถต่อต้านได้ ดาบไม้ที่ควรพกติดตัว ก็คงไม่ถูกวางเอาไว้ที่เดิมแบบนี้

 

หลังจากเห็นสถานการณ์ของที่นี่ ทันใดนั้นในสมองของผมก็มีคําพูดของผีผู้หญิงโผล่ขึ้นมา “ เธอตายแล้ว”

 

นี่ทําให้ผมกังวลหนักกว่าเดิม จนกลัวว่าหยางเฉ่วจะเจอเรื่องไม่คาดคิดเข้าจริงๆ

 

สีหน้าของผมดูน่าเกลียดสุดๆ ผมรีบวิ่งไปที่โต๊ะรับแขก หยิบดาบไม้ขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็นกระเป๋ามหาสมบัติมาคาดเอว

 

แต่ขณะที่ผมกําลังใช้น้ำตาวัวเปิดตา ผมกลับพบว่า ขวดน้ำตาวัวของผมหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมค้นในกระเป๋ามหาสมบัตินานสองนาน แต่ก็ยังหาไม่เจอ

 

ในเวลาเดียวกัน ประตูคฤหาสน์ที่เคยเปิดอยู่ กลับ “ แอร๊ด ปัง” จู่ๆมันก็ปิดเอง

 

เสียงที่ดังลั่นทําให้ผมที่หวาดกลัวอยู่แล้วตกใจในทันที

 

ผมหันไปมองด้านหลังตามสัญชาตญาณ แต่มันว่างเปล่า ไม่มีอะไรเหมือนเดิม

 

แต่ผมรู้ดี ว่าประตูบานนี้ไม่ได้ปิดด้วยตัวของมันเอง แต่เป็นผีในบ้านนี้ที่ไม่อยากให้ผมออกไปได้อีก พวกเขาจงใจปิดประตู

 

ตอนนี้ผมหานตาวัวไม่เจอ ผมจึงรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ทําอะไรไม่ได้

 

ตอนนี้ผมเห็นประตูถูกปิด ในใจก็มีไฟลุกอยู่แล้ว

 

ผมไม่สนใจเรื่องเปิดตาแล้ว วินาทีนั้นผมรีบกําดาบ ตะโกนไปรอบๆบ้านทันที “ ไอ้ทุเรศ ทางที่ดีส่งตัวเพื่อนฉันออกมา จากนั้นก็ออกมาตายซะดีๆ ถ้าฉันจับได้ละก็ ฉันจะทําให้แกตายทั้งเป็น”

 

ผมโกรธมาก ตอนนี้จึงระเบิดออกมาเล็กน้อย

 

แต่เสียงของผมเพิ่งเงียบลงไม่นาน ทันใดนั้นในคฤหาสน์ที่ลึกลับหลังนี้ก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น

 

สายลมพวกนั้นเย็นเข้ากระดูก ลอดผ่านโคมไฟระย้าจนทําให้เกิดเสียง “ ติงติง ” ทําให้บรรยากาศในห้องนี้ดูน่าขนลุกจนถึงขีดสุด

 

แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ขณะที่โคมไฟระย้าดัง “ ติงติงติง” จู่ๆเสียงโมโหของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากชั้นสอง “ ไอ้สารเลว แกเป็นคนทําร้ายน้องสาวของฉันใช่ไหม”

 

จู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้ชายแปลกหน้า ผมจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง

 

แต่เมื่อหันไป ผมกลับพบว่าด้านบนชั้นสอง มีผีผู้ชายชุดขาวหน้าตาบูดเบี้ยว มายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

สภาพของผีผู้ชายตนนั้นเหมือนกับผีผู้หญิง ใบหน้าขาวซีด ไม่มีนัยน์ตา หู ตา จมูก ปาก และคิ้วล้วนถูกไฟเผา ตอนนี้ใบหน้าของเขากําลังบูดบึง เนื้อหนังเข้ามาติดกัน ดูน่าขยะแขยงมาก…

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด