พันธสัญญามังกร1000ปี – มังกร1000ปี : ตอนที่9 ประวัติศาสตร์ของหลิงเว่ย

อ่านนิยายจีนเรื่อง พันธสัญญามังกร1000ปี ตอนที่ 9 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่9 ประวัติศาสตร์ของหลิงเว่ย

อาจารย์จางเผิงพูดต่อทันที “หลังจากร่างของ ปีศาจเขียวหายไป เมืองก็ค่อยๆโผล่ออกมา เมืองนี้เป็นสีดำมีประตูสี่บาน มีประตูสามบานที่มืดสลัวเล็กน้อย

และอีกเพียงบานเดียวที่เหลือมีการเปล่งแสงสีแดงพราว ในเมืองดูเหมือนจะมีหมอกควันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เหนือประตูเมืองใหญ่ทั้งสี่มีอักขระห้าตัวที่เหมือนกันถูกเขียนขึ้น เมืองมังกรฟันเทียน”

 

เมื่อฟังคำพูดของอาจารย์จางเผิง หลิงฉวนก็รู้สึกถึงความเลือดร้อนพุ่งพร่านอยู่ในร่างกายตนเอง ด้วยคำพูดที่ว่า ‘ในเวลานั้นมนุษย์ ยังไม่ได้รับการเรียนรู้พลังหลิงเว่ยแต่พวกเขาก็แข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว แล้วตนเองจะแข็งแกร่งได้ขนาดไหนกันนะ’

 

สำหรับหลิงฉวนเขาชอบคราสนี้มากขึ้นเรื่อยๆ คราสนี้ให้ประโยชน์ให้ความรู้กับเขามาก

 

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ในตอนนี้หลิงฉวนเป็นเด็กที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว การที่เขาจะเก่งขึ้นได้แบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร

 

หลิงฉวนเริ่มมีคำถามในใจ ‘เมืองมังกรฟันเทียน? มันคืออะไรกัน? ตอนนี้มันยังมีอยู่หรือเปล่า?’

 

อาจารย์ยังคงพูดต่อไป “หลังจากสิ้นสุดสงครามมีเพียงสิบหกคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ และพวกเขาก็มุ่งเข้าไปที่เมืองมังกร

หลังจากนั้นเจ็ดปีต่อมา พวกเขาก็ออกมาจากเมืองมังกร และกลับไปยังประเทศของตนเอง จากเดิมที่คนเหล่านั้นเป็นผู้นำกล้าหาญ แต่หลังจากที่พวกเขากลับมาจากเมืองมังกรแล้ว เสร็จสิ้นจากการฝึกฝนแล้ว พวกเขาสามารถกลายเป็นปรมาจารย์หลิงเว่ย และนี่คือที่มาของปรมาจารย์หลิงเว่ย ทุกคนเข้าใจไหม?” อาจารย์หยุดนิ่งพักหายใจและพูดต่อ

 

“ใครมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะ”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงฉวนได้ยินเรื่องนี้

 

คำว่า ‘ปรมาจารย์หลิงเว่ย’ เขาไม่เคยได้ยินคำพูดหรือชื่อสรรพนามนี้มาก่อนเลยสักนิดเดียว และในวันนี้เขาได้รับรู้เรื่องทั้งหมดจากอาจารย์ที่เล่าให้ฟัง

 

หลิงฉวนสนใจเรื่องราวในประวัติศาสตร์นี้อย่างมาก เขามีคำถามมากมายอยู่ในหัว

 

“อาจารย์ พวกเขาทำอะไรในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมาในเมืองมังกร?” นักเรียนคนหนึ่งถามคำถามและนี่เป็นหนึ่งในคำถามที่หลิงฉวนอยากถามพอดี

 

“อันที่จริงผมก็ไม่รู้เรื่องนี้ แต่จากการคาดเดา พวกเขาน่าจะไปศึกษาวิชากับอาจารย์ในเมืองมังกร และหลังจากที่ทั้งสิบหกคนกลับมา อาจารย์แต่ละคนก็จะรับลูกศิษย์เพียงคนเดียวเท่านั้น

เพื่อสั่งสอนทุกสิ่งอย่างที่เรียนรู้มาทั้งชีวิตให้

มีเพียงสายเลือดผู้สืบทอดสิบหกคนเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองมังกร” อาจารย์ตอบกลับแบบตรงๆ

 

“อืม? ตอนนั้นคือปี 2012? กลับมาก็เป็น2019ไม่ใช่เหรอ? แล้วสงครามโลกครั้งที่สาม ที่เกิดขึ้นในปี 2022  พอต่อมาอีกเพียงห้าปี สงครามโลกครั้งที่สี่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” จู่ๆหลิงฉวนก็นึกถึงช่วงเวลาของสงครามทั้งสองครั้งที่อาจารย์พูดในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ตอนมัธยมต้น และได้สอบถามทันที

 

“ในแง่ของเวลาสงครามโลกครั้งที่สามและสี่เกิดขึ้นไม่นานหลังเหตุการณ์ดังกล่าว บางทีเหตุการณ์พวกนี้อาจมีความเชื่อมโยงระหว่างกัน อาจกล่าวได้ว่าเหตุการณ์นี้นำไปสู่การเกิดสงครามโลกโดยตรง”

 

“ในเวลานั้น 2012 มีมากกว่าสองร้อยประเทศในโลก แต่มีเพียงสิบหกคนที่รอดชีวิตกลับมา …

และเมื่อเวลาผ่านไปก็มีการทำสงครามโลกครั้งที่สามขึ้น

ด้วยเหตุผลบางอย่างผู้กล้าทั้งสิบหกคนปฏิเสธ ไม่ได้เข้าร่วมกับฝ่ายไหนทั้งนั้น

โดยสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ดำเนินต่อไป มันปะทุขึ้น แต่มันก็จบลงอย่างรวดเร็ว”

 

หลิงฉวนรู้สึกงงงวยเล็กน้อยหลังจากได้ยินเรื่องนี้

 

“เอ่อ! แต่ต่อมาเหมือนผมได้ยินว่าหลายๆประเทศต่อสู้กัน และผลสุดท้ายก็พ่ายให้กับประเทศที่มีผู้รอดชีวิตกลับมานิ?

ซึ่งคุณบอกว่า ในปี 2012 มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ยิงใส่สัตว์ประหลาดไปจนหมดแล้ว

ดังนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สาม พวกเขาเอาชนะประเทศต่างๆได้ยังไงด้วยกำลังพลเพียง 16คน?” นักเรียนคนนึงถามขึ้นมา

 

“สาเหตุที่หลายประเทศพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด นั่นก็เพราะว่าพลังหลิงเว่ยยังไงหล่ะ ….

สิบหกคนเหล่านี้เป็นสมาชิกของห้าประเทศที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา กรีซ รัสเซียและญี่ปุ่น ทั้งห้าประเทศนี้แทบไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใดๆเลย มีเพียงสมาชิกสิบหกคนเท่านั้นที่ต่อสู้ …….

ด้วยพลังของพวกเขาทั้งสิบหกคน สามารถต่อกรและเอาชนะประเทศต่างๆได้

จนหลังจากสงครามโลกครั้งที่สามจบลง ประเทศที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้ายังได้จัดตั้งพันธมิตรที่เรียกว่าตระกูลมังกรอีกด้วย

และในเวลาอีกห้าปีต่อมา ตระกูลมังกรก็ได้แสดงพลังของพวกเขาและกำจัดประเทศอื่นๆทั้งหมดโดยสิ้นเชิง จนก่อให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันขึ้น!”

 

“แบบนี้นี่เอง แล้วเมืองมังกรล่ะ? ยังอยู่นอกโลกไหม?” หลิงฉวนถามทันที

 

“ทำไมคุณถึงมีคำถามมากมาย คุณตั้งใจทำให้โดดเด่นใช่มั้ย?” เมื่อได้ยินคำถามต่อเนื่องของหลิงฉวน เจียงเหอก็คันปากอดไม่ได้ที่จะพูดอะไรบางอย่าง

 

“เฮ้! คำถามเยอะเป็นสิ่งที่ดี ขงจื้อปราชญ์โบราณกล่าวไว้ว่าไม่ควรอายที่จะตั้งคำถาม… เธอต้องเอาหลิงฉวนเป็นแบบอย่าง รู้ไหม?” หลังจากสั่งสอนเจียงเหอเสร็จ

 

อาจารย์ก็หันมาหาหลิงฉวน “เมืองมังกรลอยอยู่เหนือโลกหมุนไปพร้อมกับโลกและหมุนรอบดวงอาทิตย์”

 

“ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับอาจารย์” หลิงฉวนเหลือบมองเจียงเหอด้วยรอยยิ้มที่มีเล่ห์เหลี่ยม

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด