พันธสัญญามังกร1000ปี – มังกร1000ปี : ตอนที่31 ฟื้นสติ

อ่านนิยายจีนเรื่อง พันธสัญญามังกร1000ปี ตอนที่ 31 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่31 ฟื้นสติ

“หึ?” ร่างกายของหลิงฉวนสั่นกระตุก เขาลุกขึ้นทันทีและนั่งมองทิวทัศน์โดยรอบ เขารู้ว่าเขากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

 

ทันใดนั้น สายตาของหลิงฉวนกวาดไปรอบๆ และพบกับร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของหลิงฉวน นั่นคืออันหนิงที่หลับอยู่ข้างเตียง จากใบหน้าของอันหนิงสามารถเห็นความเหนื่อยล้าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาได้

 

หลิงฉวนรู้สึกเจ็บปวดหัวใจของเขา ค่อยๆลุกจากเตียงโดยไม่รบกวนอันหนิงและค่อยๆอุ้มอันหนิงขึ้นไว้บนเตียง

 

ส่วนตัวเขาเองก็เดินไปที่หน้าต่าง มองไปที่ทิวทัศน์ด้านนอกและมองกลับไปที่อันหนิง ในขณะที่เธอหลับก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอันน่าหลงใหล “อันหนิงไม่ต้องกลัวอะไรนะ หลังจากนี้ผมจะคอยปกป้องเธอเอง!”

 

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ก็ถึงเวลาออกจากโรงพยาบาลสักที อันหนิงช่วยหลิงฉวนเก็บข้าวของแล้วออกจากโรงพยาบาลสำหรับสัปดาห์นี้

 

นอกจากนอนในเวลากลางคืน อันหนิงได้ใช้เวลาอยู่กับหลิงฉวนข้างเตียงตลอด ตอนนี้กำลังจะจากไปกับการใช้ชีวิตแบบนี้ รู้สึกไม่อยากจากไปเลยจริงๆ ทั้งสองทำความสะอาดห้องจนเอี่ยและเขาเองก็ไม่มีข้าวของอะไรมากจึงเก็บกวาดห้องกันอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากโรงพยาบาลมาพบกับหยางเจิ้นที่รออยู่ตรงประตูแล้ว

 

“ขอแสดงความยินดีด้วยในที่สุดนายก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว!” หลิงฉวนและหยางเจิ้นกอดกันและพูดด้วยความใจหายเล็กน้อย

 

“ในที่สุดก็ออกมาแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เปิดเทอมไม่นาน ไป ไปดื่มกันสักหน่อยเถอะ!”

 

“ไปสิ ผมจะพาพวกเราไปที่ที่นึง อร่อยมาก! รับรองว่าพวกนายไม่เคยกินอย่างแน่นอน” หยางเจิ้นตบหน้าอกของเขาอย่างมั่นใจและพูดทั้งสองคน

 

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม และหันหน้ากลับไปหาหยางเจิ้น “โอเค นายนำทางไปเลย! เราจะไปตามคุณ!”

 

ทั้งสองเข้าไปในรถของหยางเจิ้น หลังจากรับรู้เกี่ยวกับตระกูลทั้งเก้าแล้ว หลิงฉวนรูแล้วว่า หยางเจิ้นเป็นสมาชิกของตระกูลหยางในเก้าตระกูล แต่เขาไม่ใช่สายตรง

 

พวกเขาขับรถผ่านซอยเล็กตามถนน หลิงฉวนไม่ได้ถามอะไร ตามทางที่หยางเจิ้นตั้งใจพาพวกเขาไป หลังจากนั้นไม่นาน รถของหยางเจิ้นก็หยุดที่หน้าประตูร้านอาหาร “ลงรถ! ที่นี่แหละ ที่นี่ที่พูดถึง” หยางเจิ้นหันไปบอกทั้งสองคน “ลงจากรถก่อนเลยแล้วเดี๋ยวตามเข้าไป”

 

หลิงฉวนและอันหนิงลงจากรถและมองไปที่ป้าย ‘ร้านอาหารพื้นเมืองบ้านโม!’

 

ทั้งสองคนยืนรอหยางเจิ้นจอดรถจนเสร็จ และเมื่อหยางเจิ้นเดินมาถึง พวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าร้านทันที

 

เดินตามหยางเจิ้นไปเข้าไป หลังจากเข้าไปแล้ว ก็มีความรู้สึกแตกต่างเล็กน้อย เป็นพื้นที่เล็ก ๆ แต่โต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยและดูไม่รก โต๊ะถูกเช็ดค่อนข้างสะอาด แม้แต่อันหนิงที่ชอบความเป็นระเบียบก็ยังรู้สึกดี

 

“โย่! เสี่ยวหยาง มาแล้วงั้นหรออ! เดี๋ยวฉันไปเรียกจื่อหยานออกมา!” เมื่อเห็นหยางเจิ้นมา ป้าคนหนึ่งก็พูดทักทายทันที

 

“อืม หยางเจิ้น มีอะไรกับจื่อหยานเนี่ย?” เมื่อหลิงฉวนได้ยินคำพูดของป้า เขาก็รู้สึกอยากรู้จึงถามขึ้นมา “เราเป็นเพื่อนสนิทแทบจะเหมือนพี่น้องกันมาตั้งหลายปี เพราะฉะนั้นอย่ามาปกปิดกัน”

 

“เอิ่ม! ผมจะปกปิดนายไปทำไม ครั้งนี้ก็พานายมาใช่ไหมละ? โมจื่อหยานเป็นหลานสาวของเจ้าของร้านอาหารพื้นเมืองนี้ ตอนนี้ช่วยงานอยู่ที่นี่ เดียวนายช่วยมาดูหน่อยว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นพี่สะใภ้ของนายหรือเปล่า?”

 

“ว่าไงคะ! ป้า มีอะไรงั้นหรอ? เขามาแล้วจะให้ฉันไปทำอะไรหรอคะ?” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น หลิงฉวนและคนอื่น ๆ มองไป เห็นเพียงหญิงสาวที่สดใสและสง่างามอยู่ตรงหน้า เธอสวมผ้ากันเปื้อน แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนร่างอันผอมสูงได้

 

“จื่อหยาน ให้ผมแนะนำอย่างเป็นทางการอีกสักครั้ง นี่คือพี่น้องของผม หลิงฉวน! และนี่คือแฟนของเขาอันหนิง!” หยางเจิ้นเดินตรงไปยังโมจื่อหยาน

 

เมื่อหลิงฉวนได้ยินหยางเจิ้นพูดว่าอันหนิงเป็นแฟนของเขา เขาก็ตกใจ รีบมองไปที่ใบหน้าของอันหนิงและพบว่าเธอไม่ได้ปฎิเสธอะไร มีเพียงแค่ใบหน้าของเธอที่แดงเล็กน้อย หลิงฉวนก็แอบดีใจมาก

 

“สวัสดีฉันชื่อโมจื่อหยาน…” หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปในแบบเดิมๆ

 

 

หลังจากรับประทานอาหารที่บ้านของโมจื่อหยานแล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันกลับไปบ้านของตนเอง

 

หลิงฉวนกลับมาบ้านหลังจากออกจากบ้านไปแล้วกว่าครึ่งเดือน โชคดีที่อาจารย์ได้อธิบายให้พ่อแม่ของเขาแล้ว มิฉะนั้นจะเป็นการยากที่จะอธิบาย หลังจากนั้นวันนี้ก็จบลง

 

 

ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลิงฉวนไปโรงเรียนตามปกติ เพียงแต่เมื่อเขาเดินเข้าไปในโรงเรียนก่อนถึงอาคารสอนก็เห็นครูจางเผิง จางเผิงก็เห็นเช่นกัน เขากวักมือเรียกหลิงฉวน

 

หลิงฉวนรู้สึกเซ็งเล็กน้อย แต่เขาทำได้เพียงแค่ข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ เพราะเขาอยากเจออันหนิงเป็นแค่แรก

 

หลิงฉวนเดินตามครูจางเผิงเข้าไปในห้องทำงาน  จางเผิงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของเขา หลิงฉวนยืนอยู่หน้าโต๊ะอย่างนิ่งๆ จางเผิงหันหน้าไปมาโดยไม่พูดอะไร เขามองไปที่หลิงฉวนเงียบ ๆ และหลิงฉวนก็ไม่พูดอะไร

 

อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน แม้แต่ตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องที่ปะทะกันในวันนั้น ได้แต่ก้มศีรษะลงเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าหลิงฉวนไม่ได้พูดอะไร จางเผิงทนไม่ได้แล้ว “คุณรู้ใช่ไหมว่าทำไมผมถึงเรียกคุณมา”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด