องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 19-20 : หมู่บ้านจ้าว รู้สึกเศร้า

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 19-20 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ข้าช่วยเจ้า  เหมาะสมหรือไม่ที่จะปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้?”  กุยหม่าจุดคบเพลิงและวางตะกร้าไว้บนก้อนหินใหญ่

 

ซูมู่เก๋อนั่งลงหน้าไฟ  “ท่านช่วยข้า?”

 

เขาถูกเปิดโปงแต่เขาไม่โกรธ  “ใช่  ข้าช่วยเจ้าไว้”

 

กุยหม่าหยิบอาหารออกมาจากตะกร้าแล้วโยนให้นาง

 

ซูมู่เก๋อไม่รู้ว่านางอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว  และนางก็หิวโซ  นางเลยหยิบซาลาเปาขึ้นมากินโดยไม่สนใจว่ามันจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม

 

กุยหม่านั่งตรงข้ามกับนางและถามว่า  “เจ้าถูกวางยาพิษที่ไหน?”

 

ซูมู่เก๋อกัดซาลาเปา และเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาใสแจ๋วของนางซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา

 

“พิษ พิษอะไร?  ข้าถูกวางยาพิษ?”  ความกลัวปรากฏในดวงตาของนาง  “แล้ว  ข้าจะตายเร็วๆนี้หรือไม่?”

 

กุยหม่ารู้สึกงงงวยเมื่อเห็นว่านางไม่รู้และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

ซูมู่เก๋อส่ายหน้าอย่างกับท่อนไม้

 

“ทำไมเจ้าถึงขับรถม้าในป่าด้วยตัวเอง?”

 

ซูมู่เก๋อหลังตาลงและพูดว่า  “ข้าจะไปเยี่ยมท่านยายของข้า  แต่ข้าได้พบกับโจรบางคนและสาวใช้และผู้คุ้มกันก็ถูกแยกออกไปจากข้า….”

 

กุยหม่าไม่สงสัยเกี่ยวกับคำอธิบายของนางเพราะเขาเห็นว่ามีสิ่งของจำเป็นในการเดินทางในรถม้า  รถม้าของนางและการแต่งตัวแสดงให้เห็นว่านางเป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวที่เป็นทางการ

 

“เจ้าถูกวางยาพิษและเจ้าอาจจะตายได้ทุกเมื่อ  แต่ข้าได้ให้ยาล้างพิษที่สามารถระงับพิษชั่วคราว  มิเช่นนั้นเจ้าต้องตายไปแล้ว”

 

ว่าแล้วไง ซูมู่เก๋อซ่อนแสงไฝ้ในดวงตาของนางและมองเขาอีกครั้งด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ชัดเจน

 

“ขอบคุณในความมีน้ำใจของท่าน”

 

กุยหม่าหยิบขวดกระเบื้องสีขาวขนาดเล็กออกมา

 

“มียาสามเม็ดที่สามารถทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้ภายในสามเดือน  แต่เจ้าจะตายหลังจากสามเดือนนั้นถ้าเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าไม่พบยาถอนพิษ”

 

ซูมู่เก๋อตกใจกับคำพูดของเขา

 

“แล้วข้าจะทำยังไง?”

 

“ติดตามข้าและข้าจะทำให้เจ้ามีชีวิตยืนยาว”

 

ซูมู่เก๋อหยิบขวดยาสีขาวขึ้นมาและนิ่งเงียบ

 

“ยิ่งไปกว่านั้น  เจ้าควรอาบน้ำในสระไอเย็นเป็นเวลาสามวันเพื่อกดเลือดแห่งเปลวเพลิงลงไปข้างใน”  กุยหม่ามองนางด้วยรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเขาและพูด  จากนั้นเขาก็ออกจากถ้ำไป

 

ซูมู่เก๋อกระชับมือของนางที่คว้าขวดกระเบื้องยาไว้

 

นางคิดว่านักพรตลัทธิเต๋าไม่มียาแก้พิษของเลือดแห่งเปลวเพลิง  สาเหตุที่เขาจับนางได้ก็คือเขาตั้งใจจะค้นคว้าเกี่ยวกับนาง!

 

สองวันถัดมา  ซูมู่เก๋ออาบน้ำในสระเป็นเวลาสามชั่วโมงทุกวัน  นางไม่ได้ปีนออกไปจนกว่าแขนและขาของนางจะชาเพราะความหนาวเย็น

 

ซูมู่เก๋อสวมชุดแห้งของนาง  หลังจากอาบน้ำในสระน้ำเย็นเป็นเวลาสามวัน  นางรู้สึกว่าความร้อนที่แผดเผาภายในอ่อนแรงลงมาก  แต่นางว่านั่นเป็นเรื่องแค่ชั่วคราว

 

กุยหม่าดูเหมือนจะมั่นใจว่านางจะไม่หนีไปไหน  เขาจึงไม่ได้เฝ้านาง

 

ซูมู่เก๋อสวมชุดของนางเรียบร้อย เดินออกจากถ้ำพร้อมกับขวดยาสีขาว  นางไม่สนใจที่จะเป็นวัตถุในการวิจัย

 

ถ้ำอยู่บนไหล่เขา  นางพบทางที่ซ่อนอยู่และเดินลงเขาไป  โชคดีที่ภูเขาไม่สูง  ไม่นานนางก็มาถึงด้านล่างของเนินเขา

 

มีทางเดินเป็นดินโคลนที่เชิงเขา  แต่ฝนไม่ตกมาหลายวัน  ดังนั้นถนนจึงค่อนข้างแข็ง

 

“แกร็ก”  ซูมู่เก๋อได้ยินเสียงล้อและนางลงไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้

 

“พี่  เราสามารถถึงบ้านก่อนค่ำนี้ไหม?”

 

“ใช่ เรากลับถึงบ้านก่อนค่ำได้อย่างแน่นอน”

 

ซู่มู่เก๋อเห็นเด็กหญิงอายุประมาณสิบขวบนั่งอยู่บนรถเข็นและเด็กวัยรุ่นอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปีกำลังเข็นรถเข็นอยู่ข้างหลัง

 

ทั้งสองคนคนเดินมาใกล้ตรงที่ซูมู่เก๋ออยู่  นางริบหยิบดินมาทาหน้า  จากนั้นนางก็เดินไปหาพวกเขา

 

ทั้งสองคนตกใจเมื่อเห็นซูมู่เก๋อ

 

ซูมูเก๋อถามว่า  “เจ้าช่วยบอกข้าหน่อยได้หรือไม่ว่าหมู่บ้านจ้าวของเมืองหนานเจิงอยู่ไกลแค่ไหน?”

 

เด็กชายหน้าแดงเพราะความเขินอายเมื่อเห็นซูมู่เก๋อ  แม้ว่าใบหน้าของนางจะสกปรก

 

เด็กหญิงตัวเล็กผู้กล้าหาญตอบว่า  “พี่สาว  ท่านจะไปหมู่บ้านจ้าหรือ?”

 

“ใช่  ข้าจะไปเยี่ยมญาติ  แต่ข้าหลงทางในป่า”

 

“ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ  เรามาจากหมู่บ้านจ้าว  ท่านสามารถไปกับเรา  พี่ชายท่านตกลงไหม?”

 

ทั้งเด็กหญิงตัวน้อยและซูมู่เก๋อมองไปที่เขาทำให้เด็กชายรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น

 

“ได้ ไม่เป็นไร”

 

“ขอบคุณเจ้ามาก”

 

“พี่สาว  นั่งบนรถเข็นแล้วพี่ชายของข้าจะลากมันไปเอง”

 

ซูมู่เก๋อยังอ่อนแอ  นางจึงพยักหน้าและขึ้นรถเข็น

 

ระหว่างทางเด็กหญิงตัวน้อยพูดคุยตลอดเวลาและเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว  พอค่ำก็มาถึงทางเข้าหมู่บ้าน

 

ซูมู่เก๋อมีที่อยู่ใช้เดินทางไปบ้านของนางจาง  ระหว่างทาง  นางบอกลาพวกเขาและจากไป

 

เมื่อนางมาถึงประตูบ้านของนางจาง  นางประหลาดใจ

 

บทที่ 20 : รู้สึกเศร้า

 

ซูมู่เก๋อมองไปที่ลานบ้านและขมวดคิ้ว

 

ใกล้มืดค่ำแล้ว  ในลานบ้านมันมืดมาก เงียบและแปลกๆ  ซึ่งเข้ากันไม่ได้กับควันที่ลอยไปทั่วบริเวณโดยรอบ

 

ซูมู่เก๋อเปิดประตูรั้ว  ไม่มีอะไรเลยนอกจากบ้านอิฐดินเก่าๆสามหลังในสนาม

 

นางอันให้เงินนางจ้าวและมู่เก๋อเป็นมูลค่าสามเหลียงต่อเดือนเพื่ออยู่ได้  นางจ้าวเก็บหนึ่งเหลียงไว้ใช้ส่วนที่เหลือจะแอบเก็บไว้  นางส่งอย่างน้อยสิบเหลียงให้นางจางทุกปี

 

ซูมู่เก๋อรู้ว่านางจางมีลูกชายสามคนและลูกสาวสองคนและแต่งงานกันหมดแล้ว  พวกเขามีที่ดินมากกว่าสิบเอเคอร์  นางจ้าวบอกมู่เก๋อว่าลุงของนางไม่ได้ไร้ประโยชน์  ลุงคนที่สามของนางเป็นชาวนา  ส่วนลุงอีกสองคนทำงานในเมืองและมีรายได้ทุกเดือน  ยิ่งไปกว่านั้นนางจ้าวยังส่งเงินให้พวกเขาทุกปี  การสร้างบ้านดีๆ หลายหลังไม่ใช่เรื่องยาก

 

ด้วยความงงงวย   ซูมู่เก๋อผลักประตูห้องโถงเข้าไปและได้กลิ่นเหม็นฉุนทำให้นางขมวดคิ้ว

 

ห้องเงียบมากจนนางได้ยินเสียงหายใจอ่อนแรงอย่างชัดเจน

 

มีคนอยู่ข้างใน!

 

นางหยิบม้วนไฟออกมาและจุดฟางที่พื้น  จากนั้นนางก็เห็นคนนอนอยู่บนเตียงนอนดินเตี้ยๆแบบดั้งเดิม

 

คนที่นอนอยู่บนเตียงมีผมหงอกและแก้มตอบจม  ศีรษะของนางเหมือนโครงกระดูกไม่มีผิวหนังและเนื้อ  ผ้าห่มของนางหมดสภาพ สีซีดจางและเหม็นอย่างหนัก

 

ตั้งแต่นางจ้าวแต่งงานกับซูหลุน  นางไม่เคยกลับมาดูนางจางเลย  ซูมู่เก๋อจึงไม่แน่ใจว่าคนบนเตียงคือนางจางหรือไม่

 

ซูมู่เก๋อก้าวไปข้างหน้า  คนที่อยู่บนเตียงสังเกตเห็นและลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทางหมองคล้ำของนาง

 

“เจ้ามันสารเลว!  เพื่อรับเงินที่พี่สาวของเจ้าส่งมาที่นี่ทุกปี  เจ้าปล่อยให้ข้าใช้ชีวิตของฉันด้วยตัวเอง  ไอ้สารเลว!”  เสียงที่กลวงพอๆกับเสียงร้องที่แตกออกมาหลอกหลอนในห้องที่ว่างเปล่า

 

ซูมู่เก๋อไม่ใช่คนเลือดเย็น  ดังนั้น  นางจึงรู้สึกเศร้าใจกับหญิงชรามาก

 

“จ้าวเสี่ยวคุย เป็นลูกสาวคนเล็กของท่านใช่หรือไม่?”

 

การได้ยินเสียงของซูมู่เก๋อ  นางจางเปิดตาขุ่นๆของนางอย่างกว้าง  ในที่สุดนางก็เห็นซูมู่เก๋อ  แต่ห้องมันมืดเกินไป  นางสามารถมองเห็นเพียงร่างบางสลัวๆ

 

“เจ้า  เจ้า….”

 

“ท่านยาย  ข้ามู่เก๋อ  หลานสาวของท่าน”

 

“มู่เก๋อ  เจ้าคือมู่เก๋อ….”

 

นางจ้าวเขียนจดหมายถึงนางจางเพื่อให้นางรู้เกี่ยวกับตัวเองและมู่เก๋อ

 

“ใช่จริงรึ?  เจ้าคือมู่เก๋อ?”  นางจางรู้สึกตื่นเต้นและจับมู่เก๋อด้วยมือที่ผอมแห้งของนาง

 

ซูมู่เก๋อจับมือนางเบาๆ  “ข้าเองจ้าค่ะท่านย่า  ท่านแม่ส่งให้มาดูท่าน  นางเพิ่งให้กำเนิดน้องชายของข้า  ดังนั้นท่านแม่จึงไม่สามารถกลับมาเยี่ยมท่านย่าได้  ท่านย่ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าค่ะ  ข้าจะกลับมาให้เร็ว”

 

ซูมู่เก๋อปล่อยมือนางจางและเดินออกจากลานโล่งของบ้านไป

 

มืดสนิทและไม่มีใครอยู่ข้างนอก  นางไปที่ลานท้ายหมู่บ้าน

 

ที่ที่เด็กหญิงตัวน้อยส่งนางให้มาที่หมู่บ้านที่อาศัยอยู่

 

“แม่นาง  เจ้า ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่….”  เด็กหนุ่มที่เข็นรถมีชื่อว่าฮูเทา  ลูกชายคนโตของครอบครัวนี้  เขาเขินอายและเคอะเขินเมื่อเห็นซูมู่เก๋อ

 

“ข้าต้องการซื้อของบางสิ่งที่นี่”  ซูมู่เก๋อบอกกับเขา

 

หลังจากนั้นไม่นาน  ซูมู่เก๋อก็กลับไปที่บ้านของนางจางพร้อมกับตะเกียงน้ำมันและตะกร้า

 

ตะเกียงน้ำมันไม่สว่างมากนัก  แต่มันก็สามารถให้แสงสว่างมากขึ้น

 

“ท่านยาย  นี่ของกิน”  นางซื้อไข่ต้มสองฟองและตะเกียงน้ำมันและสาวน้อยเอย่าคนนั้นให้ขนมปังนึ่งสองก้อนกับโจ๊กหนึ่งชามกับนาง

 

นางจางแทบรอไม่ไหวที่จะได้กินโจ๊ก  เมื่อเห็นเช่นนั้นซูมู่เก๋อก็รู้สึกไม่สบายใจ

 

ถ้านางจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดี  นางไม่ควรมีสภาพน่าอนาถเช่นนี้!

 

นางจางกินโจ๊กหนึ่งชามและซาลาเปาไปครึ่งลูกแล้วซูมู่เก๋อจึงหยุดป้อนอาหารนาง

 

เมื่อกินอิ่มนางจางมีแรงเพิ่มมากขึ้น

 

“ท่านยาย  ให้ข้าจับชีพจรท่านดูหน่อย  ท่านพ่อของข้าจ้างครูมาสอนข้าและเขาก็รู้บางอย่างเกี่ยวกับยา  ข้าจึงได้เรียนรู้อย่างลับๆ”

 

นางจางให้ความสำคัญกับซูมู่เก๋อมากจนนางไม่สงสัยในสิ่งที่หลานของนางพูด

 

ซูมู่เก๋อรู้สึกได้ถึงชีพจรนางจาง  ชีพจรอ่อน  แต่ไม่ได้หมายความว่านางกำลังจะตาย  มีความเป็นไปได้มากกว่าว่าความเจ็บป่วยของนางจางเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง

 

นางเปิดผ้าห่มและเห็นขาของนางจางที่เนื้อเน่า  นางจางถึงกับกำผ้าห่มไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มีของนาง

 

เมื่อมู่เก๋อเข้ามาใกล้  นางก็สามารถเห็นตัวหนอนที่ดิ้นได้!

 

“บ้าเอ้ย!”

 

ในขณะนั้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้อง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด