องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 31 : การเผชิญหน้า

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 31 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ซูมู่เกอเดินเข้าไปในลานดอกท้อบานและประหลาดใจกับสิ่งของในห้อง

 

มีผ้าซาตินรูปแบบทันสมัย  ชุดกระโปรงชั้นเลิศและของใช้สำหรับสุภาพสตรี

 

ซูหลุนส่งสิ่งเหล่านี้มาหรือ?

 

“คุณหนูใหญ่  ท่านกลับมาแล้ว”  เยว่รู่เข้ามาพร้อมกับผ้าคลุมเตียงระยิบระยับ

 

“สิ่งของเหล่านี้มาจากไหน?”

 

“สิ่งเหล่านี้ถูกส่งมาจากนายหญิงเจ้าค่ะ”

 

“นายหญิง?”

 

ซูมู่เกอเลิกคิ้ว  ผ้าห่มที่เยว่รู่ถืออยู่นั้นดูดีมาก  ในคฤหาสน์ตระกูซูทั้งหมดมีเพียงมีเพียงสามคนในครอบครัวเท่านั้นที่สามารถใช้ผ้าเนื้อดีชนิดนี้ได้  นางอันส่งสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาตอนนี้  นางเป็นคนดีได้ยังไง?

 

“เจ้าค่ะ  นายหญิงบอกว่าสิ่งเหล่านี้มีไว้สำหรับคุณหนูใหญ่  และนายหญิงของเรากับนายน้อยด้วยเจ้าค่ะ”

 

“ไปเถอะ ดูของทั้งหมดอย่างระวังนะ  และเก็บได้หากเจ้าไม่พบสิ่งผิดปกติ”

 

เยว่รู่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ  “ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ  คุณหนูใหญ่  ข้าได้พิจารณาทุกสิ่งอย่างรอบคอบแล้ว  ข้ายังแกผ้านวมออกเพื่อตรวจสอบและไม่พบสิ่งใดผิดปกติเจ้าค่ะ”

 

“ดี”

 

ซูมู่เกอไม่ที่ห้องของนางจ้าวเพื่อดูนางและเหวินม่อตัวน้อย  หลังจากที่เยว่รู่หยิบสิ่งของเหล่านั้นขึ้น  ซูมู่เกอก็กลับไปที่ห้องของนาง  ปิดประตู  วางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ

 

“ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?”  นางคิดกับตัวเอง  ในความเป็นจริง  นางยังอยากรู้เกี่ยวกับผลของการใช้พลังวิเศษเมื่อนางได้รับยาพิษ

 

หลิวเยว่ผู้น่าสงสารไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นหนูทดลอง

 

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ซูมู่เกอจากไป  เพื่อนของหลิวเยว่ก็พบเขา

 

ซีเยว่ย่อตัวลงและกำลังจะแตะดูลมหายใจของหลิวเยว่  หลิวเยว่ก็กัดนิ้วของเขา

 

“โอ้ย  พี่  ท่านยังมีชีวิตอยู่!”

 

“พู่ว  ข้ามีชีวิตยืนยาว!”  หลิวเยว่พ่นลมหายใจ  ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น  เขาคิดว่าเขาคงจะตายที่นี่  แต่พระเจ้าส่งแพทย์หญิงที่มีวิธีรักษาอย่างปาฎิหาริย์มาช่วยเขา!

 

แพทย์หญิงที่มีพลังรักษามหัศจรรย์มาก  ลูกศรนั้นทำร้ายอวัยวะของเขาอย่างแน่นอน  แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดมากเลย ยกเว้นเพียงความอ่อนเพลียของเขาเท่านั้น

 

หวู่เยว่เหลือบมองทั้งสองคน  และพยุงหลิวเยว่ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

 

“เอาล่ะ  หยุดเถอะ  เราควรรีบกลับไปรายงานผลให้ท่านขุนนางท่านทราบ”

 

“ดี”

……………..

 

ตกกลางคืน

 

“เปรี้ยง!”  ทันทีที่ฟ้าร้องก็ปลุกซูมู่เกอขึ้น

 

ลมด้านนอกพัดอย่างแรง  ทำให้หน้าต่างที่เปิดอยู่กระแทกพร้อมกับเสียง  “ปัง”

 

ซูมู่เกอลุกขึ้นและปิดหน้าต่าง

 

หลังจากนั้นไม่นาน  ข้างนอกมีฝนตกหนักและเม็ดฝนตกลงมาที่พื้นทำให้มีกลิ่นโคลนคาวเค็ม

 

ซูมู่เกอนอนไม่หลับทั้งคืน

 

เมื่อนางตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น  ฝนข้างนอกไม่ตกหนักเหมือนเมื่อคืน แต่ก็ไม่เบาเกินไป  ท้องฟ้าเป็นสีเทาและไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดตก

 

“คุณหนูใหญ่  ท่านตื่นแล้ว”

 

เยว่รู่เดินเข้าไปในห้องพร้อมอาหารเช้า  มีหมั่นโถวหนึ่งจาน  เครื่องเคียงสองอย่างและโจ๊กเนื้ออีกหนึ่งชาม  ดูเหมือนง่าย  แต่ก็ดีกว่าโจ๊กบูดและซาลาเปาแข็งที่กินแทบไม่ได้ก่อนหน้านี้มาก

 

“เมื่อคืนนายน้อยเป็นยังไงบ้าง?  เขากลัวไหม?”

 

“ข้าไปตรวจเมื่อเช้านี้  ว่ากันว่าเมื่อคืนเขาตื่นมาสักพัก  และหลังจากนายหญิงขอให้พี่เลี้ยงพาเขาไปที่ห้องของนางเนื่องจากนางรู้สึกเป็นกังวล  เขาก็นอนหลับสบายหลังเที่ยงคืนเจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอพยักหน้า  จากการที่เหวินม่อตัวน้อยถูกพากลับมา  นางจ้าวดูมีพลังมากกว่าเมื่อก่อนมาก

 

“คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ  นายหญิงส่งคนมาบอกเราว่าหลังจากนี้จะมีผู้ค้าทาสมาพร้อมกับคนรับใช้และท่านสามารถเลือกบางคนได้”

 

มีเสียงจากหญิงคนเฝ้าประตู  เนื่องจากผู้รับใช้ลานบ้านดอกท้อบานมีน้อยเกินไป  ไม่มีแม้แต่สาวใช้ชั้นสามที่สามารถส่งต่อข้อความได้

 

“ข้ารู้แล้ว”

 

ซูมู่เกอแต่งตัวและมาถึงลานด้านหน้าหลังผ่านไปหนึ่งไตรมาส  เนื่องจากฝนยังคงตกอยู่  เสื้อผ้าของนางจึงเปียกเมื่อนางมาถึงที่นั่น

 

นางอันและซูจิงเหวินนั่งอยู่ในห้องโถงของลานหน้าบ้าน  พูดคุยบางสิ่งบางอย่างกันอยู่  และซูจิงเหวินดูไม่ดีเท่าไหร่

 

“นายหญิง  คุณหนูสอง  คุณหนูใหญ่มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”

 

ได้ยินอย่างนั้น  นางอันเหล่ตามองกับซูจิงเหวิน  แม้ว่าซูจิงเหวินไม่ต้องการ  นางยังคงต้องปรับอารมณ์เล็กน้อย

 

ซูมู่เกอเข้าไปในห้องโถง  และทักทายพวกเขาด้วยการคำนับเล็กน้อย

 

“นายหญิง”

 

“เจ้ามาแล้ว  นั่งลงก่อน  คนอื่นๆ จะมาในอีกสักครู่”  ท่าทางที่ดูสุภาพและดี  ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับท่าทางดุร้ายของนางเมื่อวันวาน

 

นางได้ทำลายการเสแสร้งทั้งหมดเป็นจริงใจอย่างสิ้นเชิง  แต่ตอนนี้ยังสามารถต้อนรับซูมู่เกอด้วยรอยยิ้ม  นางกำลังทำอะไร?”

 

ซูมู่เกอรักษาสีหน้าของนาง  “ขอบคุณเจ้าค่ะ นายหญิง”

 

ซูจิงเหวินจ้องมองซูมู่เกอในขณะที่นางเข้ามา  และความเกลียดชังในดวงตาของนางก็ไม่อาจละเลยได้

 

นางรู้ว่านังสารเลวตัวนี้ไปคฤหาสน์ตระกูลเมิ่งกับพ่อของนางเมื่อวาน!

 

ไม่กี่นาทีต่อมาผู้ค้าทาสได้พาคนประมาณยี่สิบคนมาที่ด้านนอกของลานหน้าบ้าน

 

นางอันมองไปที่ซูมู่เกอ  “พวกเขามาแล้ว  และเจ้าอาจเลือกก่อน”

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่นางอันพูด  ซูจิงเหวินซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ นางไม่สามารถรักษาความสงบได้และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง  แต่นางอันหยุดนางไว้

 

ซูมู่เกอนั่งนิ่ง  “น้องสาวของข้าอายุน้อยกว่าข้า  ข้าจะแย่งนางได้อย่างไร  ให้เธอเลือกก่อน”

 

ก่อนที่นางอันจะทันได้พูดอะไร  ซูจิงเหวินก็ลุกขึ้นยืน  “เจ้าพูดเองนะ”  แล้วนางก็เดินออกไปที่ลานด้านนอกก่อนที่นางอันจะหยุดนาง

 

ซูมู่เกอมองไปที่นางอันอย่างสงบ  และก็เดินออกไป

 

มีเด็กสาวประมาณยี่สิบคนอายุราวสิบสามหรือสิบสี่ปียืนอยู่ที่ลานบ้าน  ซูจิงเหวินเชิดหน้าเดินท่ามกลางพวกเขา  และในที่สุดก็เลือกมาสามคนที่ดูงามพร้อมทั้งดูฉลาด

 

เมื่อมองไปที่สามคนที่ซูจิงเหวินเลือก  นางอันเลิกคิ้วเบาๆ

 

“มู่เกอ  มันถึงตาเจ้าแล้ว”

 

ซูมู่เกอมองไปในหมู่พวกเขา  เลือกเด็กสาวมาหกคน  แล้วก้าวออกมา

 

“ข้าเสร็จแล้ว”

 

นางอันมองไปที่คนเหล่านั้นที่ซูมู่เกอเลือกด้วยแววตาระยับบางๆ  “เจ้าควรดูแลคุณหนูใหญ่ให้ดี และจะต้องไม่มีความเกียจคร้าน  เข้าใจ?”

 

“เจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอไม่ได้อยู่ต่อ  นางพาสาวใช้ที่เพิ่งเลือกทั้งหกคนกลับไปที่ลานดอกท้อบาน

 

สาวใช้ทั้งหกยืนเรียงแถวในห้อง  พร้อมกับก้มหน้าลง

 

ซูมู่เกอหยิบถ้วยชาขึ้นจิบขณะที่สายตาของนางก็มองไปทั่วๆ สาวใช้เหล่านั้น

 

“เจ้ามีชื่อมาก่อนหรือไม่”

 

สาวใช้ทั้งหกคุกเข่าลง  “คุณหนูใหญ่  โปรดตั้งชื่อให้กับพวกเราด้วยเจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอเหลือบมองสาวใช้เหล่านั้นทีละคน  ในความเป็นจริงระหว่างการคัดเลือก  ซูมู่      เกอสามารถบอกได้ว่า  อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของสาวใช้ทั้งยี่สิบคนนั้นเกิดและเติบโตในคฤหาสน์ซู  แต่นางอันไม่ได้ทำมันให้ชัดเจน

 

ในบรรดาหกคนที่นางเลือก  พวกเขาสามคนเกิดและเติบโตในคฤหาสน์ซู  ได้รับการปกป้องจากครอบครัวของพวกเขา  พวกเขาดูแตกต่างจากคนที่มาจากภายนอกไม่ว่าจะในลักษณะหรือรูปลักษณ์ก็ตาม

 

“เจ้า  เจ้า  และเจ้าชื่อว่า ซินเซ่อ  ซินจิง ซินหลาน ตามลำดับ” ซูมู่เกอชี้ไปที่คนที่สูงที่สุด  และอีกสองคนที่มีใบหน้ากลม คนสูงที่สุดถูกเรียกว่า ซินเซ่อ  คนหน้ากลมตาเล็กเรียกว่าซินจิงและคนหน้ากลมที่มีดวงตากลมโตเรียกว่าซินหลาน

 

“คุณหนูใหญ่  ขอบคุณท่านมากที่ตั้งชื่อให้กับพวกเราเจ้าค่ะ”

 

“สำหรับเจ้าอีกสามคน  ข้าจะไม่ตั้งชื่อให้พวกเจ้า”

 

สามใช้ทั้งสามได้ยินเช่นนั้นคิดว่าซูมู่เกอไม่พอใจพวกเขา  รีบคุกเข่าลงเอาหน้าผากแตะพื้นด้วยความกลัว

 

“ลุกขึ้น   ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า  แต่ข้าไม่ต้องการคนจำนวนมากที่นี่  ข้าจะส่งเจ้าไปรับใช้นายหญิงใหญ่”

 

สาวใช้ทั้งสามฟังด้วยความโล่งใจเล็กน้อย

 

สาวใช้สองในสามคนนั้นถูกซื้อมาจากภายนอก  และพวกเขากลัวที่จะถูกซูมู่เกอทอดทิ้ง  ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะต้องกลับไปหาผู้ค้าทาสอีกครั้งและใช้ชีวิตอย่างน่าสังเวชต่อไป

 

“ให้การรับใช้ในลานบ้านดอกท้อบาน  ชีวิตของเจ้าจะไม่ยากเกินไปตราบเท่าที่เจ้าคำนึงถึงหนึ่งคำ  ความภักดี  เจ้าควรจ่ายค่าความภักดีทั้งหมดของเจ้าให้กับเจ้านายของเจ้า  มิฉะนั้น  ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าการทรยศมีความหมายกับเจ้าอย่างไร!”

 

เสียงของซูมู่เกอไม่ดังและนางดูสงบ แต่ดวงตาที่เฉียบคมทำให้พวกเขาสั่นไหวโดยไม่รู้ตัว

 

“เจ้าค่ะ  เราไม่กล้าที่จะไม่ซื่อสัตย์”

 

“ดี  เยว่รู่พาพวกเขาไปพัก”

 

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

 

หลังจากพวกเขาออกไปซูมู่เกอก็เอายาออกมา จากนั้นนางก็เอาเข็มเงินทิ่มนิ้วแล้วหยดเลือดลงในจานกระเบื้องเคลือบฆ่าเชื้อ

 

หลังจากนั้น  นางก็เทยาออกจากขวดกระเบื้องที่นางถือมา  ยาเม็ดนี้มอบให้โดยนักบวชเต๋าตัวปลอมคนนั้นซึ่งสามารถยับยั้งพิษในร่างกายของนางได้  ไม่ว่าในกรณีใด  มันจำจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อยับยั้งพิษก่อนที่จะทำยาแก้พิษได้

 

ซูมู่เกออยู่ในห้องจนถึงเย็น  ในบ่ายวันนี้   นางได้ค้นพบยามากกว่าสิบชนิดในยาเม็ดนั้นแล้ว  และในอีกวันหนึ่ง  นางก็ค้นพบยาทุกชนิด  สำหรับปริมาณนางยังคงต้องใช้เวลาในการคิดมันให้ออก

 

“คุณหนูเจ้าค่ะ  แม่บ้านเหมยฮัวมาส่งข้อความว่านายหญิงขอให้ท่านทานอาหารเย็นกับพวกเขา”   ด้านนอกประตูมีเสียงของเยว่รู่ดังขึ้น

 

ซูมู่เกอเหนื่อยมากจึงยืดตัวตรงและเก็บสิ่งของของนาง

 

“ได้”

 

ซูมู่เกอตกใจกับอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะเมื่อนางมาถึงยังห้องของนางจ้าว

 

“ท่านแม่  ทำไมวันนี้มีอาหารเยอะจัง?”  ไม่ว่าจะเป็นไก่  เป็ด  ปลาและเนื้อ  มันมีครบทุกอย่าง

 

วันนี้นางจ้าวอยู่ในชุดกระโปรงปักลาย  นั่งบนเก้าอี้  “นายหญิงขอให้คนส่งสิ่งเหล่านี้มาและบอกว่าเป็นวันสุดท้ายของเดือนที่ถูกกักตัวหลังจากที่ข้าให้กำเนิดเหวินม่อ  นางต้องการให้ข้ารักษาสุขภาพด้วยการทานอาหารบำรุงร่างกาย”

 

ซูมู่เกอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ  คืออะไร นางอันผู้เอาใจใส่ผู้อื่นยิ่ง?

 

ทัศนคตินี้ไม่แปลกเกินไปหรือ

 

“เมื่อพวกเรามาพร้อมแล้ว  เรามากินกันเถอะ”

 

ซูมู่เกอมีซูปหนึ่งชามและตักมันให้กับนางจ้าว  หลังจากที่นางได้กลิ่นและมั่นใจว่าปลอดภัย

 

ระยะหลังนี้นางจ้าวอารมณ์ดี  และอาหารของนางก็ไม่เลวร้ายเกินไป  ซึ่งทำให้นางมีพลังมากขึ้นเมื่อผิวพรรณของนางขาวขึ้นและผ่องใสขึ้นมาก

 

หลังจากรับประธานอาหารอย่างอบอุ่นและพูดคุยอย่างดีกับนางจ้าว  ซูมู่เกอเดินกลับไปที่ห้องของนาง

อาจเป็นเพราะนางเหนื่อยเกินไป  ซูมู่เกอหลับไปด้วยความงุนงงหลังอาบน้ำ

 

ในขณะที่นางนอนหลับ  ซูมู่เกอรู้สึกว่ามีบางอย่างดินอยู่ในผิวหนังของนาง  นางอยากจะจับมันด้วยมือของนาง  แต่ทันที่ที่นางเอื้อมไปถึง  มันวิ่งไปที่อื่น  นางอารมณ์เสียมากจนอยากจะเปิดผิวหนังแล้วดึงมันออกมา

 

“คุณหนูใหญ่  คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ ตื่นได้โปรด….”

 

“ไปให้พ้น ไอ้เชี่ยเอ้ย!”

 

จู่ๆซูมู่เกอก็ลืมตาขึ้นและอ้าปากค้าง

 

“คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ  ท่านเป็นอะไรไป?  อย่าทำให้ข้าตกใจ”  เยว่รู่พุ่งไปข้างหน้อย่างกังวลใจ

 

ซูมู่เกอยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนศีรษะ  นางเปิดผ้านวมและลุกขึ้นนั่ง  มองออกไปนอกหน้าต่าง  นางพบว่ามันยังมืดอยู่  และคืนนี้ฝนก็ยังไม่หยุดตก

 

“ว่าไง?”

 

“คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ  เมื่อตะกี้  ท่านขุนนางส่งคนมาเรียกให้ท่านไปที่ห้องหนังสือโดยด่วนเจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอขมวดคิ้ว “ตอนนี้?”

 

“เจ้าค่ะ ตอนนี้”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด