องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 34 : ทำนบเขื่อนแตก

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 34 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ไม่มีใครในห้องนี้คาดคิดว่าซูมู่เกอจะมา  และพวกเขาก็ต่างตกตะลึง

 

นางอันจับมือนางจ้าวราวกับว่าเป็นพี่สาวที่สนิทกันมาก  ซึ่งมันตรงกันข้ามกับความเป็นจริง

 

“ทำไมเจ้าไม่รายงานการมาถึงของคุณหนูใหญ่?”  นางอันอ้าปากเอ่ยขึ้นก่อน

 

ซูมู่เกอเดินเข้าไปโค้งคำนับเล็กน้อยและพูดว่า  “ข้าเดินเร็วเกินไปและสาวใช้ก็ไม่มีเวลาพอที่จะรายงานได้  โปรดอย่าตำหนิพวกเขา”

 

นางอันละมือออกจากนางจ้าวและกำลังจะจับมือของซูมู่เกอ  แต่ซูมู่เกอหันหลังกลับเดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างชาญฉลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายกับนางอัน

 

“นายหญิง  วันนี้ท่านมีเวลามาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าค่ะ?”

 

“อืม  ฟังเสียงเจ้าเหมือนกับไม่ยินดีที่จะต้อนรับข้า”

 

เมื่อพูดเช่นนั้น  นางอันก็มองไปที่นางจ้าวด้วยสายตาขุ่นมัวและแข็งกร้าว  นางจ้าวเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ

 

“มู่มู่  นายหญิงอันมาเยี่ยมแม่และน้องชายของเจ้า”

 

ซูมู่เกอมองไปที่นางอันอย่างไม่แยแส  นางเริ่มสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของนางอัน  จากที่เมื่อไม่นานมานี้ที่นางเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ

 

“นายหญิง  มันเป็นความเกรงใจท่านอย่างมาก  มันก็ค่ำแล้วและข้าเชื่อว่ามีงานและหน้าอื่นๆ ในคฤหาสน์รอให้ท่านจัดการ  ข้าไม่กล้าให้ท่านเสียเวลาของท่านต่อแม่ของข้าและน้องชาย”

 

นางอันยังนั่งนิ่งโดยไม่มีเจตนาที่จะจากไปราวกับว่านางไม่รู้ว่าซูมู่เกอไม่ชอบนาง  “อันที่จริงแล้ว  ข้ากำลังคุยกับพี่สาวว่าเจ้าจะอายุสิบห้าปีนี้แล้วและเป็นวัยที่ต้องคิดเรื่องแต่งงานของเจ้าได้แล้ว  เจ้าเป็นลูกสาวที่เกิดมาแท้จริงของคฤหาสน์ของเรา  และเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าจะเรียนรู้ทักษะการดื่มและอาหาร  ข้ากำลังคิดว่าถ้าเจ้ามาที่บ้านของข้าในวันนี้ถ้าเจ้าว่าง  และเจ้าสามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านั้นร่วมกับน้องสาวของเจ้าได้”

 

นางจ้าวพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย

 

“มู่มู่  นายหญิงพูดถูก”

 

ไม่เหมือนเด็กสาวคนอื่นๆในวัยเดียวกัน  ไม่มีความเขินอายในสายตาของซูมู่เก๋อ  เมื่อพูดถึงการแต่งงานของนาง  มีแต่  ความเศร้าโศก  แทน

 

“นายหญิง  ขอบคุณท่านมากสำหรับความมีน้ำใจ  แต่ข้าต้องรักษานายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งในความเจ็บป่วยของนางในวันนี้และข้ากลัวว่าจะไม่มีเวลา”

 

“เจ้าเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ  ข้าได้ยินมาจากพ่อของเจ้าว่าแม้แต่หมอของจักรพรรดิก็ไม่สามารถทำอะไรกับอาการป่วยของนางได้  เจ้าได้พบกับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนไหนที่สอนทักษะอันโดดเด่นเช่นนี้ให้กับเจ้า?”

 

เห็นได้ชัดว่านางอันต้องการให้ซูมู่เกอบอกความลับของนาง

 

ซูมู่เกอยิ้มและมองไปที่นางอัน “ข้าไม่รู้จะตอบคำถามของท่านอย่างไร  นายหญิง  ท่านก็รู้ว่าข้าเกือบจะตายไปแล้วก่อนหน้านี้  ในฐานะคนที่เคยเห็นราชาแห่งนรกอย่างข้าคงจะรู้อะไรมากกว่าคนอื่น ๆ ถูกหรือไม่?”

 

สีหน้าของนางอันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน  และมือของนางที่ถือผ้าเช็ดหน้าก็กำแน่นขึ้นและเกร็งขึ้น  นางหายใจเข้าลึก ๆ และยืนขึ้น

 

“เจ้าพูดถูกแล้ว  มันค่ำมืดมากแล้วและข้าไม่ควรรบกวนพี่สาวของข้า  ไปกันเถอะ”

 

ซูมู่เกอขอให้เหมยฮัวออกไปและปิดประตูทันทีที่นางอันก้าวพ้นไปแล้ว

 

นั่งในห้องโดยไม่มีคำพูดอีก  ซูมู่เกอเอื้อมมือไปหยิบถ้วยชาบนโต๊ะช้าๆ แล้วจิบ

 

เป็นเวลานานพอสมควรเมื่อนางจ้าวสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องในห้อง  นางเริ่มรู้สึกไม่สบายตัว

 

“มูมู่…เมื่อวาน  เมื่อวานเจ้าเหนื่อยมากไหมที่ไปคฤหาสน์ตระกูลเมิ่ง?”  นางเจ้าไม่กล้าที่จะถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของซูมู่เก๋อ  เนื่องจากนางบอกพวกเขาไปแล้วว่ามีบางอย่างเกี่ยวข้องกับราชาแห่งนรก

 

หลังจากที่ซูมู่เกอวางถ้วยชาในมือของนางลง  นางมองไปที่นางจ้าวอย่างสิ้นหวัง  เมื่อเห็นความสับสนในดวงตาของนาง  ซูมู่เกอก็ถอนหายใจออกมา

 

“ท่านแม่  ท่านลืมไปแล้วเหรอรึเปล่าว่านางเคยปฏิบัติกับเราอย่างไรมาก่อน?”

 

ซูมู่เกอเป็นคนประเภทที่ต้องแบกรับความขุ่นเคือง  ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของนางอันอย่างฉับพลันนั้นแปลกพอที่จะทำให้พวกเขาตื่นตัว  แม่ของนางจะไม่รู้สึกอะไรได้อย่างไร!

 

“ข้า  ในฐานะแม่  ข้าคิดว่า…นางพูดถูก”  นางจ้าวมองไปที่ซูมู่เกออย่างซื่อบื้อ  “มูมู่  เจ้าไม่ใช้เด็กผู้หยิงตัวเล็กๆ อีกต่อไปแล้วและถึงเวลาที่เจ้าจะต้องพิจารณาการแต่งงานของเจ้าแล้ว  ข้าไร้ประโยชน์มากที่ข้าไม่เคยออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลซูเลย  นับประสาอะไรกับการหาครอบครัวที่เหมาะสมให้เจ้าแต่งงาน  นางอันเท่านั้นที่ทำได้….”

 

ความโกรธเริ่มจางหายไปเมื่อซูมู่เกอได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากแม่ของนาง

 

“ท่านแม่  อย่าได้กังวล  แม้ว่านายหญิงอันจะไม่สนใจข้า  ข้ายังมีพ่ออยู่”

 

“ท่านพ่อของเจ้า?  เขาจะจัดการสิ่งเหล่านั้นให้เจ้า…”  น้ำเสียงของนางเจ้ามีความสงสัย

 

“แน่นอน!  ท่านไม่เห็นของที่เขาส่งมาให้ข้าเมื่อไม่กี่วันก่อนเหรอ?  เขาจะทิ้งลูกสาวโดยไม่ดูแลได้อย่างไร?”  เพื่อให้อารมณ์ของนางราบรื่น  ซูมู่เกอต้องเอาซูหลุนออกมาเป็นโล่ของนาง

 

“นายหญิงอันไม่เคยชอบท่านมาก่อน  และนางจะไม่เป็นแบบนี้ในอนาคต  ท่านเข้าใจที่ข้าหมายถึงไหม?”  เป็นไปไม่ได้เลยที่ใคร ๆ จะหลงรักคนที่พวกเขาไม่ชอบโดยจงใจขนาดนี้  มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นที่จะเชื่อการเปลี่ยนแปลงแบบนั้นโดยไม่มีเหตุผล!

 

นางจ้าวไม่ได้โง่และนางรู้ว่าซูมู่เกอหมายถึงอะไร

 

“ข้ารู้และข้าจะระวังตัว”

 

“ท่านแม่  เป็นเรื่องดีที่เข้าใจลูก  น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน? เขาหลับหรือ?”

 

ดวงตาของนางจ้าวสว่างขึ้นด้วยความสุขเมื่อพูดถึงลูกชายของนาง

 

“เขาหลับ  เขาเป็นเด็กประเภทที่เงียบ  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา  เขาไม่ชอบเสียงดังอย่างมาก”

……………………

 

เสียงฟ้าร้องดังก้องบนท้องฟ้า

 

สายฟ้าแลบเข้ามาด้านในฝาแคร่จนสว่าง

 

เป็นวันที่สามแล้วที่ซูมู่เกอไปรักษานายหญิงเมิ่ง

 

สภาพร่างกายของหญิงชราเมิ่งคงที่แล้ว  หลังจากสองวันแรกของการรักษา  อย่างน้อยก็ไม่มีสถานการณ์เฉียบพลันที่ทำให้คนอื่นๆไม่ได้เตรียมตัว

 

ซูมู่เกอขมวดคิ้ว  เมื่อดึงม่านรถม้าออกไปและมองสายฝนที่กำลังโปรยปราย

 

ฝนตกมาหลายวันแล้ว  โดยไม่ว่างเว้น  บางครั้งฝนดูเหมือนว่ามันจะหยุดตก  แต่จริงๆแล้วมันก็ยังตกพรำๆ

 

เมฆสีดำปกคลุมปทั่วท้องฟ้าราวกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่หนาแน่นและมืดมิดพุ่งเข้าใกล้พื้นดินซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจลำบาก

 

“หลีกทาง!  ให้เร็ว!  พวกเจ้าทุกคน!”

 

ร่างบนม้าเต็มด้วยความเร็วสูงสุดกำลังวิ่งมาตามถนน  และผ่านรถม้าไป  นับว่าโชคดีที่มีคนไม่มากนักบนถนนในวันที่ฝนตก

 

“นั่นใคร?  ม้าเร็วมากท่ามกลางสายฝน!  มันอาจชนใครบางคน!”

 

คนขับรถม้าบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่พอใจ  ด้วยแส้บนหลังม้าของเขา  เขาไปเร็วด้วยเช่นกัน  มันเป็นกลางวันที่มืดเหมือนกลางคืนเนื่องจากสภาพอากาศ  และจะเป็นการดีกว่าที่พวกเขาจะไปถึงคฤหาสน์เมิ่งโดยเร็วที่สุดเผื่อฝนอาจจะตกหนักยิ่งขึ้นไปอีก

 

ร่างของม้าที่วิ่งเร็วอย่างไม่หยุดจนกว่าเขาจะถึงหย่าเหมิน

 

“ใต้เท้า  วิกฤตการณ์!  มีสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตเมืองโจว!”

 

ซูหลุนกำลังอ่านเอกสารราชการเมื่อมีคนวิ่งเข้ามาในหย่าเหมินด้วยความเร่งรีบตื่นตระหนก  มีชายอีกคนตัวเปียกปอนวิ่งตามเขามา

 

“เกิดเหตุอันใด?”

 

ชายที่ตัวเปียกหมดตัวคุกเข่าลงบนพื้นตาแดงก่ำมองไปที่ซูหลุน

 

“ใต้เท้าซู  ทำนบเขตเมืองโจวแตกขอรับ  และผู้พิพากษามณฑลก็ถูกน้ำท่วมขอรับ!”

 

หนังสือราชการในมือของซูหลุนร่วงหลุดลงไปกองกับพื้นและเขาเหมือนถูกแช่แข็งด้วยความตระหนก  “เจ้ากำลังพูดอะไร?!”

……………………….

 

เมื่อซูมู่เกอถูกพาไปที่ลานอายุมั่นขวัญยืนโดยสาวใช้  มาม่าก็เดินออกมา

 

“มันคือคุณหนูใหญ่ซู  ไปและเอาเตาอุ่นๆมา เร็วเข้า!”  หลังจากทิ้งคำพูดเหล่านั้นไปยังสาวใช้  มาม่าก็พาซูมู่เกอเข้าไปในห้อง

 

“ขอโทษที่รบกวนท่านมาก  คุณหนูใหญ่ซู  ฝนตกหนักมาก!  โปรดผลัดเสื้อผ้าของท่านเพื่อเอาไปทำความสะอาด”

 

หลังจากคืนก่อนหน้านี้ใช้เวลาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเมิ่ง  ซูมู่เกอพาเยว่รู่ไปกับนางในวันรุ่งขึ้น  และนางจะได้เตรียมชุดที่สะอาดให้เจ้านายของนางในวันที่ฝนตกเช่นนี้

 

“ได้เจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอเข้าไปในห้องของนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่ง หลังจากที่นางผลัดผ้าแล้ว

 

นางเห็นเมิ่งฉางเต๋อออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ดูแข็งกร้าวและดวงตาที่เศร้าหมอง  และคิดว่ามีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้นกับหญิงชราเมิ่งอีกครั้ง

 

เมิ่งฉางเต๋อหยุดชะงักเมื่อเห็นซูมู่เกอ

 

“คุณหนูซู  เจ้ามาถึงแล้ว  ข้ามีบางอย่างที่ต้องจัดการ  ข้าขอฝากท่านแม่ไว้กับท่านด้วย  ขอบคุณมาก”

 

“ได้เจ้าค่ะ  ใต้เท้าเมิ่ง  ไม่ต้องเป็นกังวล”

 

เมิ่งฉางเต๋อจากไปพร้อมกับคนของเขาทันที

 

“เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร!  แล้วผู้เสียชีวิตล่ะ?”

 

เสียงของเมิ่งฉางเต๋อจางหายไปในขณะที่เขาเดินออกไปไกล ๆ  ซูมู่เกอละสายตาและเดินเข้าไปในห้อง

 

มีเพียงหญิงชราเมิ่งและสาวใช้สองคนในห้อง  และสาวใช้ก็ก้าวไปข้างหลังเมื่อเห็นซูมู่เก๋อเข้ามา

 

“นายหญิง  ท่านดูดีขึ้นมากเจ้าค่ะ”

 

เมื่อสองวันก่อน  ใบหน้าของหญิงชราเมิ่งซีดขาวราวกับกระดาษ  แต่ตอนนี้ใบหน้าของนางขึ้นซับสีเลือดบ้างแล้ว

 

“ใช่  ข้ารู้สึกมีพลังมากกว่าเมื่อก่อน”

 

ซูมู่เกอเปิดกล่องทางการแพทย์ของนางและหยิบเข็มเงินออกมาและท่อไม้ไผ่ดูดเลือดสำหรับการบำบัดโรค

 

“จุดประสงค์ของการบำบัดในวันนี้คือเพื่อช่วยขจัดความอับชื้นและความเย็นในร่างกายของท่านและทำให้หลอดเลือดของท่านไม่มีสิ่งกีดขวางมากขึ้น ท่านอาจจะรู้สึกเจ็ดปวดระหว่างการรักษานะเจ้าค่ะ  แต่ได้โปรดอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วทุกอย่างจะดี”

 

“บ้องไม้ไผ่ดูดบำบัด?”  นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งมองไปที่กระบอกไม้ไผ่ในมือของซูมู่เกอด้วยความอยากรู้

 

มีหนังสือทางการแพทย์มากมายที่อ่านในรัฐฉู่  ซูมู่เกอรู้ดีว่าการบำบัดด้วยบ้องดูดเลือดไม่ใช่เรื่องธรรมดา และคนทั่วไปไม่ทราบเรื่องนี้  แม้แต่แพทย์เอง

 

เมื่อร่างกายของนางฟื้นตัว  นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งมีความเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของซูมู่เกอมากขึ้น  และนางก็พยักหน้า  นางนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงตามที่ซูมู่เกอสั่ง  ปล่อยหลังและขาของนางเปลือยเปล่า

 

“ข้าจะใช้การฝังเข็มเพื่อไล่ความชื้นและความเย็นเคลื่อนไปที่ส่วนล่างของร่างกายท่าน  แล้วข้าจะใช้การบำบัดด้วยการดูดเพื่อขจัดสิ่งเหล่านี้ออกจากร่างกายของท่านต่อเจ้าค่ะ”  เป็นขั้นตอนปกติสำหรับซูมู่เกอในการอธิบายลำดับการรักษาของนาง  เพื่อเป็นการให้คนไข้ผ่อนคลายในการรับฟังนาง

 

นางหยิบเข็มเงินขึ้นมาและแทงเข้าที่จุดฝังเข็มในส่วนบนของร่างกายของนายหญิงเมิ่ง  เมื่อร่างกายค่อยๆผ่อนคลาย  จากนั้นเธอก็เอากระบอกไม้ไผ่อังไฟ  แล้ววางกระบอกไส้ไผ่ไว้ที่ขาอย่างรวดเร็วหลังจากอุ่นด้วยไฟแล้ว

 

“อุ๊ยย!”

 

นายหญิงเมิ่งส่งเสียงด้วยความประหลาดใจซึ่งทำให้มาม่าตกใจ  นางเดินออกมาสองก้าวพร้อมกับใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความตื่นตระหนกและตรวจสอบนายหญิงเมิ่ง

 

“นายหญิง  เป็น  ท่านเป็นอย่างไร?”

 

“อืมม….”

 

ผลของกระบอกไม้ไผ่เริ่มเผยให้เห็น  นายหญิงเมิ่งเกร็งตัวเพราะความเจ็บปวด  และมีเหงื่อเย็นที่หน้าผากของนาง

 

“คุณหนูซู  เกิดอะไรขึ้นกับนายหญิง?  ไม้ไผ่สามารถ  กระบอกไม้ไผ่ใช้รักษาผู้ป่วยได้จริงหรือ?”  มาม่ามองไปที่ซูมู่เกอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย  เนื่องจากนายหยิงเมิ่งเจ็บปวดอย่างสาหัส  แต่ซูมู่เกอก็ไม่ได้ทำอะไรเลย  มาม่าไม่พอใจ

 

ด้วยการจ้องอย่างเย็นชาจากมาม่า  ซูมู่เกอไม่ได้หยุดการกระทำของนาง

 

“เส้นเลือดของนายหญิงถูกปิดกั้นไม่ดี  ข้ากำลังขจัดความชื้นและความเย็นออกจากร่างกายของนางหลังจากที่ข้าปลดล็อคเส้นเลือดของนางด้วยเข็มเงินของข้า  ปฏิกิริยาเป็นเรื่องปกติสำหรับการเริ่มต้นของการรักษานี้เจ้าค่ะ”

 

ด้วยการวางกระบอกไม้ไผ่อันที่สองจากซูมู่เกอ  นายหญิงเมิ่งเริ่มส่งเสียงดังขึ้นจากความเจ็บปวด

 

“คุณหนูซู  โปรดหยุดเถอะ!  นายหญิงไม่สามารถทนสิ่งนี้ได้!”  เมื่อเห็นนายหญิงกัดฟันด้วยความเจ็บปวด  มาม่ามองไปที่ซูมู่เกอด้วยความตื่นตัว

 

ในที่สุด  ซูมู่เกอก็หยุดมือของนางและมองไปที่นายหญิงเมิ่ง

 

“นายหญิง  ท่านรู้สึกว่าตัวเองสามารถทนสิ่งนี้ได้หรือไม่เจ้าค่ะ?”

 

รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากราวกับว่ามีคนเอาของบางอย่างออกจากร่างกายของนางพร้อมกับเส้นเลือดและกระดูกของนาง  นายหญิงเมิ่งยืนยันว่าซูมู่เกอไม่ควรหยุด

 

“เจ้า…ทำการรักษาของเจ้า  ทำมัน!”  นายหญิงเมิ่งกัดฟันพูด  และเลือกที่จะดำเนินการต่อไปด้วยความเจ็บปวด  แม้ว่านางแทบอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ

 

ซูมู่เกอหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่เหลือออกมา  และวางทั้งหมดไว้บนขาของนายหญิงเมิ่ง

 

ร่างกายของนางสั่นสะท้านอย่างกะทันหันและดวงตาทั้งสองข้างเหลือกขึ้น  นายหญิงเมิ่งตกอยู่ในอาการโคม่า

 

ตอนนั้นมาม่าตกใจมาก  “นายหญิง! ได้โปรด!  อย่าทำให้ข้ากลัว!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด