องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 40 : ใต้เท้าเซี่ย ท่าน…..

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 40 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

มันคือเวลาเที่ยงแล้ว?!

 

ท้องฟ้ามืดครึ้มอย่างไร้วี่แววว่าเป็นเวลาไหน  ซูมู่เกอไม่รู้ว่านางจะตื่นตอนเที่ยงวัน  และสิ่งเดียวที่นางจำได้คือเมื่อคืนนางนอนไม่ค่อยจะหลับ

 

“แล้ว  เจ้ามีแผนรับมือกับน้ำท่วมแบบไหนกัน  ท่านขุนนาง ซู?”

 

เซี่ยโฮวโม่เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาของพวกเขา  และซูมู่เกอฉลาดพอที่จะต่อกรกับเขา  นางกล่าวว่า  “ใต้เท้าเซี่ย  โปรดติดตามข้าไปที่ห้องศึกษาและเราจะพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดกันที่นั่นจะดีกว่า”

 

“เชิญ”

 

พวกเขาทั้งสองก้าวเข้ามาและท่านยายฟางจากไปหลังจากที่นางนำชาเข้าวางให้ทั้งสองแล้ว

 

แผนที่ภูมิประเทศโดยละเอียดของเขตโจวถูกเปิดต่อหน้าพวกเขาโดยซูมู่เกอ  และมือของเธอก็ชี้ไปที่แม่น้ำมี่ไหลผ่านทั้งมณฑล

 

“ในความคิดของข้า  มันเป็นการสร้างเขื่อนที่มีความสำคัญมากตอนนี้  และยกทำนบเขื่อนด้วยทรายและหิน…..”

 

ในตอนแรกเซี่ยโฮวโม่เพียงฟังด้วยท่าทีราวกับปีศาจที่ไม่ใส่ใจภาพพจน์ใด  แต่แล้วใบหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ซูมู่เกอวิเคราะห์สถานการณ์ของนางต่อไปเรื่อยๆ  เขาคว้าถ้วยชาบนโต๊ะแล้วยกจิบ

 

“หน้าที่ของเราในตอนนี้คือหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดจากน้ำท่วมอีกครั้งและการป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นได้”  หลังจากพูดจบซูมู่เกอก็หยิบถ้วยชาที่วางบนโต๊ะขึ้นดื่มมันจนหมด  การ   พูดมากๆ ทำให้นางกระหายน้ำ

 

เมื่อมองไปที่ถ้วยชาที่ว่างเปล่าที่ซูมู่เกอวางลง  และเหลือบมองอีกถ้วยที่เหมือนยังไม่ได้สัมผัส  ในที่สุดเซี่ยโฮวโม่ก็มองไปที่ซูมู่เกอซึ่งตอนนี้เหมือนกำลังดิ้นรนกับอะไรบางอย่างและคิ้วขมวดอยู่

 

“ปัญหาในปัจจุบันคือเรามีคนไม่เพียงพอ  มีคนหนุ่มสาวและแข็งแรงน้อยเกินไปในมณฑล  และเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมน้อยมาก  ซึ่งมันเป็นเรื่องค่อนข้างเร่งด่วนและจำเป็นต้องแก้ไข”

 

“ข้ามีผู้ชายเพียงพอ”

 

“ท่านพาคนมาด้วยเหรอขอรับ  ใต้เท้าเซี่ย?”  ซูมู่เกอสงสัย แต่ที่ปรึกษาหลี่บอกว่าใต้เท้าเซี่ยผู้นี้มากับกลุ่มคนเพียงไม่ถึงสิบคน

 

อย่างไรก็ตาม  นั่นไม่มีความสำคัญในตอนนี้เมื่อเทียบกับคำพูดที่เขาเพิ่งสัญญา

 

“ขอบคุณมาก  ใต้เท้าเซี่ย”

 

“ไม่เป็นไร”

 

“ข้าจะออกไปล่ะ”  มีออร่ามหาศาลจากการปรากฏตัวของใต้เท้าเซี่ยคนนี้  ซึ่งทำให้      ซูมู่เกอรู้สึกอึดอัดด้วยแรงกดดันอย่างมาก นางไม่ชอบมัน

 

“ใต้เท้าซู  เจ้ากำลังจะไปไหน?”

 

ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเซี่ยโฮวโม่ยืนขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างของซูมู่เกอก่อนที่เขาจะพูดจบ

 

“เมื่อวานตอนไปตรวจสอบผู้ประสบภัยน้ำท่วมในวัดซอมซ่อ  ข้าพบว่าพวกเขาหลายคนป่วย  ดังนั้นข้าจะไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อตรวจคนไข้เหล่านั้น”

 

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับท่าน  ใต้เท้าซู”

 

อะไร?! มีความไม่พอใจในหัวใจของซูมู่เกอ  เหตุใดเจ้าหน้าที่เมืองหลวงคนนี้จึงออกมาจากที่ใดก็ไม่รู้จึงคอยรบกวนนางเช่นนี้  ทำไมไม่หาที่สบาย ๆ และน่าอยู่สำหรับตัวเอง!

 

“ตงลิน  เจ้าเข้าใจคำพูดของใต้เท้าดซูหรือไม่?”

 

ตงหลินที่ยืนฟังการสนทนาของพวกเขาอยู่ด้านข้าง ตอบกลับว่า  “ข้าเข้าใจขอรับ ใต้เท้า”

 

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่ซูมู่เกอและพูดว่า  “ใต้เท้าซู  ไปกันเถอะ”

 

ซูมู่เกอคร่ำครวญด้วยความโกรธลึกลงไปในหัวใจของนาง  นางหันซ้ายหันขวาและออกจากห้องศึกษา  หลังจากที่นางดึงกล่องเครื่องมือแพทย์จากห้องของนาง  นางมาที่ด้านนอกของเขตหย่าเหมิน

 

มีรถม้าเพียงคันเดียว

 

ระหว่างที่นางกำลังลังเลอยู่นั้น  มีเสียงออกมาจากรถม้า  ซึ่งซูมู่เกอรู้สึกไม่เต็มใจที่จะได้ยิน  “ใต้เท้าซู  เจ้ารออะไรอยู่ที่นั่น?”

 

ซูมู่เกอหายใจเข้าลึกๆ  และปีนขึ้นไปบนรถม้า

 

มันไม่ใช่รถม้าขนาดใหญ่ และหุ่นที่เพรียวและสูงของเซี่ยโฮวโม่ก็กินพื้นที่ส่วนใหญ่ไปแล้ว  ซูมู่เกอต้องบีบตัวเองให้พอดีกับที่นั่งในมุมด้านในสุด

 

กลิ่นชาจากชายคนนี้อบอวลไปทั่วรถม้า  และซูมู่เกอก็ถูกล้อมรอบไปด้วย

 

ภายในรถม้าเซี่ยโฮวโม่นั่งอยู่ในความเงียบโดยหลับตาพริ้ม

 

ซูมู่เกอพยางยามสงบสติอารมณ์จากความโกรธก่อนหน้านี้  และเริ่มนึกถึงภาพเมื่อวานนี้ตอนที่นางกำลังรักษาคนข้า

 

มีสิ่งแปลกๆ….แต่บรรยากาศภายในรถม้าดูสบายๆ

 

เช่นเดียวกับซูมู่เกอหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำของนาง  รถม้าก็กระแทกกับบางสิ่งบางอย่างจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง  นางเสียการทรงตัวและล้มหน้าคะมำไปข้างหน้า

 

“อ๊ะ!”

 

“ฮึ่มมม!”

 

เสียงครางสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน

 

ซูมู่เกอยั้งร่างของนางด้วยมือข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างปิดจมูก

 

“มันเจ็บ….”

 

เมื่อมองลงไป  เซี่ยโฮวโม่เห็นมือบอบบางจับอยู่ที่หน้าอกของเขาและเขาก็คิ้วขมวดเล็กน้อย

 

“เกิดอะไรขึ้น?”  เซี่ยโฮวโม่ดึงม่านออกเล็กน้อยและมองออกไปข้างนอกรถม้า

 

“มันเป็นความผิดของข้าน้อยเองขอรับ  มีแอ่งน้ำที่ข้าน้อยมองไม่เห็นและวิ่งผ่านมาโดยบังเอิญ  ข้าน้อยขออภัย….”

 

“ระวังหน่อย”

 

“ขอรับ”

 

ซูมู่เกอยังไม่ได้ฟื้นตัวจากการกระแทกที่รุนแรงนั้นชั่วขณะจนกระทั่งนางพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของเซี่ยโฮวโม่

 

นางรีบเอามือออกจากอกของเขา  ดึงไปข้างหลังนาง  และสาบานกับตัวเองโดยที่มืออีกข้างยังอยู่ที่จมูกของนาง

 

“ข้าน้อยขอโทษสำหรับความไม่สุภาพของข้าน้อยเมื่อครู่นี้”

 

เซี่ยโฮวโม่หลังตาลงอีกครั้งและพูดว่า  “อย่าใส่ใจ”

 

รถม้าหยุดลงหลังจากนั้นไม่นาน

 

“ใต้เท้า  เรามาถึงแล้วขอรับ”

 

เซี่ยโฮวโม่ลืมตาขึ้นและหายออกไปจากรถม้า  เฉกเช่นแสงแวบผ่านหน้าซูมู่เกอไป  แล้วก็เหลือเพียงนางที่นั่งอยู่ตัวคนเดียว  เขาเร็วมาก!”

 

พร้อมด้วยกล่องเครื่องมือทางการแพทย์ในมือของนาง  ซูมู่เกอกระโดดลงจากรถม้า

 

นางพาเขาไปยังวัดซอมซ่อที่ซึ่งผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมดถูกรวบรวมให้พักที่นี่  จากนั้นก็พาเขาไปดูห้องรักษาผู้ป่วยชั่วคราว

 

“ใต้เท้าเซี่ย  โปรดรอด้านนอกขอรับ”

 

“ทำไม?”

 

ทำไม? ก็เพราะเจ้าขวางทางข้านะสิ!

 

“ข้ากลัวว่าโรคบางอย่างอาจจะติด….”

 

“ไม่ต้องห่วง”

 

หลังจากนั้น เซี่ยโฮวโม่ก็ก้าวเข้าไปโดยไม่รอคำตอบจากซูมู่เกอเลย  นางทำได้แค่เดินตามเขาเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ  มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งอันสูงส่งของราชสำนัก  ดูเขาประพฤติตัว!

 

มีชายคนหนึ่งวิ่งมาหาซูมู่เกอทันทีที่เดินเข้ามา

 

“ใต้เท้า  มี มีบางอย่างผิดปกติ!  เด็กตกอยู่ในอันตราย!”

 

ซูมู่เกอมองชายตรงหน้านางและพบว่ามันคือผู้ส่งข่าวหย่าเหมิน  หลี่ต้าเหมาที่ถูกขอให้ดูแลเด็กที่ป่วยเป็นไข้เมื่อวานนี้

 

“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนั้น?”

 

“เด็กคนนั้นไม่ได้ตัวร้อนมากเมื่อท่านกลับไปเมื่อคืนนี้  แต่เมื่อข้ามาหาเขาในเช้าวันนี้  ข้าพบว่าตัวเขาร้อนเหมือนเตาไฟและเขาก็ไม่ตอบสนองกลับข้าเลย”

 

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าของนางแข็งกระด้าง  ซูมู่เกอเดินไปหาเด็กพร้อมกล่องเครื่องมือแพทย์ของนาง  ทิ้งเซี่ยโฮวโมไว้

 

นางรู้สึกถึงชีพจรของเด็ก  และผิวหนังของเขาร้อนมากราวกับว่ามันจะลวกมือข้างนั้นได้เลย

 

สภาพชีพจรของเขาค่อนข้างอ่อนแอ  ริมฝีปากของเขาแห้ง  ทั้งตัวเป็นสีแดง  และหัวใจของเขาเต้นเร็ว  แต่เสียงชีพจรของอวัยวะอื่น ๆ ของเขาอ่อนแอมาก

 

เมื่อวานนี้นางได้สั่งยาต้านแบคทีเรียและยาต้านการอักเสบเพื่อลดไข้ของเด็กชาย  ตามเวลาตอนนี้  เด็กควรพากินยาไปอย่างน้อยสี่ครั้ง แต่อาการเหล่านั้นก็ยังไม่หายไป แต่กลับกำเริบทำให้เด็กแย่ลง

 

นางหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากกล่องยาและป้อนกับให้กับเด็กชายคนนั้น

 

“ไปหาเหล้าแรงๆมา  จากนั้นเช็ดตัวเขาเพื่อให้ตัวเขาเย็นลง”

 

เซี่ยโฮวโม่ซึ่งถูกซูมู่เกอเพิกเฉยตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในห้องยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบเชียบ และเฝ้าดูทุกช่วงเวลาของนาง

 

“ได้ ขอรับ   ขาจะไปเดี๋ยวนี้”

 

ซูมู่เกอเปิดเสื้อผ้าของเด็ก  วางหัวของนางแนบท้องของเขาและตั้งใจฟัง  จากนั้นนางก็เอื้อมมือไปกดมัน

 

“มันแปลก  ท้องของเขาดูใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อวาน….”

 

ท้องของเด็กชายคนนั้นพองราวกับมีลูกแตงโมอยู่ในนั้น  และไม่ใช่อาการท้องอืด  มันเป็นอะไร?  มีอาการท้องมานหรือ?

 

ซูมู่เกอรู้สึกถึงชีพจรของเขาอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง  และพบว่าสภาพชีพจรในปอดของเขายังไม่เสถียรราวกับว่าปอดถูกอันแน่นไปด้วยอากาศเสีย

 

“ใต้เท้าซู  นี่  นี่คือเหล้ารสเข้มแรงที่ท่านขอ  ข้าจะเช็ดตัวให้เด็กเดี๋ยวนี้ขอรับ”

 

“รอก่อน  รอสักครู่”

 

ด้วยความห้าวหาญบนใบหน้าของนาง  นางกดมือของนางหนักขึ้นที่หน้าท้องของเด็กคนนั้น

 

“อึกก เอออออ…..”

 

ทันใดนั้น  เด็กที่อยู่ในลักษณะตัวงอก็อ้าปาก และอาเจียนออกมา  “อั๊วะ!”

 

หน้าอกของซูมู่เกอแทบจะสั่นสะท้าน  นางสวมถุงมือและเดินไปตรวจสอบ

 

อาเจียนมีสีแดงเข้ม  เข้มมาก เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น

 

ซูมู่เกอจุ่มมือที่สวมถุงมือลงไปแล้วดมกลิ่นอย่างมีสมาธิ

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น  เซี่ยโฮวโม่ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย  และเกิดประกายอย่างผิดปกติในแววตาของเขา

 

“มันเป็นเลือดที่ออกมาคั่งอยู่ภายใน”

 

“เลือดคั่ง  เลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด?”  ใบหน้าของหลี่ต้าเหมาอยู่ในความสับสน

 

“มันไม่ดีเลยที่เกิดขึ้นแบบนี้  แล้วก็ไม่รู้สภาพอวัยวะภายใจของเขา  ดูเหมือนว่าเขาจะต้องได้รับการผ่าตัด”  ซูมู่เกอคว้าแปรงมาและจดใบสั่งยาสองสามใบ  นางส่งใบสั่งทั้งหมดให้หลี่ต้าเหมาและขอให้เขาซื้อยาตามรายการนั้นมา

 

“ไปรับยามาสามชุด”

 

หลี่ต้าเหมาพยักหน้าในขณะที่เขาเข้าไปรับใบสั่งยา  “ใต้เท้า  ไม่ต้องกังวล  ข้าจะนำยากลับมาให้โดยเร็วที่สุดขอรับ”

 

ซูมู่เกอยืนขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้เขาเล็กน้อย

 

แม้ว่าเด็กจะได้รับการผ่าตัดที่ดีที่สุด  นางไม่มีเครื่องมือสำหรับมันยกเว้นยางบางชนิด  การผ่าตัดที่ไม่ได้เตรียมการทำโดยรีบร้อนอาจทำให้คนป่วยเสียชีวิตได้

 

เดินวนไปมา  นางได้หยุดเดินและมองไปที่เซี่ยโฮวโม่หลังจากเดินเป็นวงกลมสองรอบในห้องนั้น

 

“ข้ามีเรื่องขอให้ท่านช่วย  และท่านอยากให้ข้าทำความดีความชอบให้หรือไม่  ใต้เท้าเซี่ย?”

 

นางมีความรู้สึกนี้ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้สามารถทำทุกอย่างที่นางขอได้  รวดเร็วและดี

 

เซี่ยโฮวโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและถามว่า  “ใต้เท้าซู  เจ้าต้องการขออะไร?”

 

“อย่างที่ท่านเห็นเด็กมีอาการป่วยแปลก ๆ  ตอนนี้เราต้องหาสิ่งที่ผิดปกติกับเด็กในเวลาอันสั้นที่สุดเพื่อที่จะรักษาและเยียวยาเขาให้ได้  ข้าจะผ่าตัดให้เขา”

 

ใบหน้าของเซี่ยโฮวโม่ดูสับสน  “ผ่า….ผ่าตัด?”

 

“ใช่  มันเป็นการบำบัดแบบหนึ่ง”

 

ซูมู่เกออธิบายโดยอ้อมในกรณีที่ใต้เท้าเซี่ยคนนี้แสดงปฏิกิริยามากเกินไปกับการรักษาด้วยวิธีเปิดท้องของใครคนหนึ่ง

 

“ใต้เท้าซู  ต้องการให้ข้าทำอะไร?”

 

“ข้าต้องการเครื่องมือบางอย่าง  อยากให้เตรียมไว้ให้ภายในเย็นวันพรุ่งนี้”

 

“ไม่มีปัญหา”

 

มันเป็นไปตามความคาดหมายของซูมู่เกอที่เซี่ยโฮวโม่เห็นด้วยกับนางโดยไม่ลังเลใดๆ

 

“ขอบคุณท่านมาก  ใต้เท้าเซี่ย  ข้าน้อยจะวาดเครื่องมือที่ต้องการให้เดี๋ยวนี้ขอรับ”

 

ซูมู่เกอไปที่ห้องแยกและขอให้คนนำแปรงและหมึกมาให้นาง  จากนั้นนางก็วาดสิ่งที่นางต้องการลงบนกระดาษทีละขั้นตอน

 

ในขณะนี้  นางรู้สึกโชคดีที่นางรักการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาดหมึกในโรงเรียน  แม้ว่าตอนนี้จะมีร่างกายที่แตกต่างกัน  นางยังคงมีพื้นฐานในทักษะด้านนี้

 

ภาพที่นางวาดมีรายละเอียดมากโดยมีการทำเครื่องหมายทุกส่วนแม้แต่ส่วนเล็กๆ  นางมีสมาธิมากและนางไม่ได้สังเกตเห็นเซี่ยโฮวโม่ที่ด้านหลังของนาง

 

มีทั้งความประหลาดใจและความสับสนในดวงตาสีดำของเขาเมื่อเซี่ยโฮวโม่มองไปที่ภาพวาด

 

หลังจากซูมู่เกอวาดเสร็จ  ข้อมือของนางรู้สึกชา  นางทำให้กระดาษแห้งด้วยพัด  และเห็นเซี่ยโฮวโม่ยืนอยู่ข้างหลังนางเมื่อนางหันหัวไปโดยบังเอิญ

 

“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการให้ข้าทำ?”

 

เซี่ยโฮวโม่คว้าภาพวาดแห้งจากโต๊ะและเขาไม่สามารถเข้าใจมันได้

 

“ขอรับ”

 

“จื่อชิว”

 

จื่อชิวที่เฝ้าอยู่นอกประตูเดินเข้ามา

 

“ใต้เท้า  ท่านต้องการอะไรขอรับ?”

 

ด้วยสายตาของเขาอยู่ที่ภาพวาดเซี่ยโฮวโม่เปิดปากของเขาด้วยเสียงทุ้ม  “เตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมก่อนค่ำวันพรุ่งนี้”

 

จื่อชิวเข้ารับภาพวาดและมองภาพวาดที่อยู่บนกระดาษ  สิ่งของที่อยู่บนนั้นไม่มีความคล้ายคลึงกับอาวุธที่ซ่อนอยู่หรือกริชใดๆเลย  แต่เขาตอบว่า  “ขอรับ”

 

จื่อชิวจากไป  พร้อมกับนำภาพวาดไปด้วย

 

ก่อนที่ซูมู่เกอจะแสดงความขอบคุณเซี่ยโฮวโม่  นางเงยหน้าขึ้นและพบว่าเขาอยู่ตรงหน้านางแล้วโดยห่างกันไม่ถึงครึ่งก้าว

 

“ใต้เท้าเซี่ย  ท่าน….”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด