องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 52 : ทุกอย่างจบลงแล้ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 52 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ฝ่าบาท  นี่เป็นของซุ…ชุดเครื่องมือแพทย์ของคุณหนูใหญ่ซูมอบให้แด่ฝ่าบาทเมื่อคืนนี้พะย่ะค่ะ”

 

ด้วยแสงแดดสีทองที่ส่องผ่านก้อนเมฆและส่องสว่างไปทั่วโลก  เซี่ยโฮวโม่กลับไปที่บ้านพักหย่าเหมินหลังรุ่งสาง

 

เขาเปิดชุดอุปกรณ์การแพทย์ซึ่งมีขวดยาหลายขวดวางตามใบสั่งแพทย์อย่างเป็นระเบียบ

 

ดวงตาของเซี่ยโฮวโม่มือลง  “เกิดอะไรขึ้น?”

 

ตงหลินเล่าว่า  “คุณหนูซูรีบร้อนผลักชุดเครื่องมือแพทย์นี้มาให้หม่อมฉันแล้วจากไปพะย่ะค่ะ  ในเวลานั้น  คนของหม่อมฉันดูเหมือนจะเห็นผู้ติดตามขององค์ชายสองตามนางพะย่ะค่ะ”

 

เซี่ยโฮวโม่รู้สึกตกใจกับคำพูดที่ทำให้ดวงตาของเขามืดลงพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นและมืดมน

 

หลังจากปิดชุดเครื่องมือแพทย์แล้ว  เซี่ยโฮวโม่ก็เดินไปที่ประตู

 

ช่างบังเอิญ  เซี่ยโฮวคุณเพิ่งถึงประตูของเขาเช่นกัน

 

เซี่ยโฮวคุณหยุดเซี่ยโฮวโม่  “เจ้าจะไปไหน น้องเก้า?”

 

เซี่ยโฮวโม่มองเขาอย่างเย็นชาและเดินผ่านเขาไป

 

ในเวลานี้ประตูของซูมู่เกอเปิดออกและซูหลุนก็ก้าวออกจากห้อง

 

เซี่ยโฮวโม่หยุดชะงัก  แต่ไม่หยุดเดิน

 

ซูหลุนยืนตัวตรงและมองไปรอบๆ  หลังจากเห็นเขาดวงตาของเซี่ยโฮวโม่ก็มืดลง

 

เมื่อเห็นทั้งสองคน  ซูหลุนรีบโค้งคำนับและถวายบังคม  “ยินดีที่ได้พบท่าน  องค์ชายสอง และ….ใต้เท้าเซี่ย”

 

เซี่ยโฮวคุณเดินไปหาซูหลุนด้วยความเย็นชาในสายตาของเขา  “ใต้เท้าซู  เจ้าจะไปพบคนไข้เหล่านั้นอีกหรือ?”

 

ซูหลุนพูดไม่ออกไปชั่ววินาที  จากนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของซูมู่เกอ  และทำได้เพียงจำใจกัดฟันตอบว่า  “ขอรับ”

 

“มันเป็นการเอาใจใส่ต่อผู้อื่นอย่างยิ่งของใต้เท้าซูในการดูแลประชาชน  ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจนัก”

 

ซูหลุนตื่นตระหนก  “องค์ชายสอง  ท่านชื่นชมข้าน้อยเกินไปพะย่ะค่ะ  มันเป็นหน้าที่ของหม่อมฉัน”

 

เซี่ยโฮวคุณพบว่ามันน่าเบื่อที่ได้เห็นรูปลักษณ์ที่อ่อนน้อมของซูหลุน  ซึ่งไม่น่าสนใจเท่า  “ซูหลุน”  ที่ผอมเหมือนลูกแมวเมื่อคืนนี้

 

ทันทีที่ซูหลุนปรากฏตัว  เซี่ยโอวโม่รู้ว่านี่คือตัวจริงของ  “ใต้เท้าซู”  แต่เขาก็ไม่รู้ว่าซูมู่เกอและซูหลุนตั้งใจจะทำอะไร

 

เซี่ยโฮวโม่หมุนตัวกลับไปที่ห้องของเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงทำให้ตงหลินค่อนข้างงงวย

 

“ซูหลุนอยู่ที่ไหนก่อนหน้านี้?”  เซี่ยโฮวโม่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“ในโรงแรมริมถนนด้านหลังของหย่าเหมินพะย่ะค่ะ”

 

เซี่ยโฮวโม่ก็ลุกขึ้นยืน  นั่นทำให้ตงหลินประหลาดใจ

 

“ข้าจะไปขี่ม้า”   ตงหลินหมุนตัวกลับและเดินไปที่ประตู

 

“กลับมา  เมื่อไหร่ที่ข้าบอกว่าจะออกไปข้างนอก?”

 

เอ่อ….

 

ท่าทางของท่านมีความหมายอย่างไรนอกจากการออกไปข้างนอก…?

 

ด้วยบรรยากาศที่หดหู่ใจอย่างมากภายในห้อง  ตงหลินสามารถทำได้เพียงพูดว่า  “พะย่ะค่ะฝ่าบาท  ข้ากำลังไปและหาคุณหนูซูว่า….”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ  เขารู้สึกว่าอากาศหนาวเกินไปที่จะหายใจ

 

“ทำไมข้าถึงต้องไปหานาง?  ออกไป”

 

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท  หม่อมฉันขออภัย”

 

ตอนนี้เซี่ยโฮวโม่อยู่คนเดียวในห้อง

 

เขาปิดตาสีดำลงและหมุนแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มือเบาๆ  ความเร็วของการหมุนค่อยๆเร็วขึ้นๆ

 

ตงหลินต้องประหลาดใจเมื่อเห็นพฤติกรรมของเขาในตอนนี้  เพราะมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่าบาททรงไม่พอพระทัย

 

โจวฉิ่วเดินออกจากห้องและรู้สึกอยากรู้เมื่อเห็นใบหน้าอันขมขื่นของตงหลิน  “ดูหน้าเจ้าสิ  เจ้าครองความโสดมานานเกินไปหรือเปล่า?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ตงหลินก็ต่อยเขา  “ไร้สาระ”

 

โจวฉิ่วยิ้มเล็กน้อย  “ฝ่าบาทประทับที่นี่งั้นหรือ?”

 

“ใช่”  ตงหลินเสียงดังขึ้น  “ฝ่าบาทพะย่ะค่ะ  โจวฉิ่วกลับมาแล้ว”

 

ไม่มีเสียงตอบรับมาจากในห้อง

 

คิดถึงอารมณ์ที่ไม่ดีของเซี่ยโฮวโม่ในวันนี้  ตงหลินรวบรวมความกล้าและพูดอีกครั้งว่า  “ฝ่าบาท  โจวฉิ่งมีบางอย่างจะรายงานพะย่ะค่ะ”

 

ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากห้องพัก

 

ทั้งสองมองหน้ากับและกัน  แม้ว่าพระองค์จะไม่ต้องการเห็นหน้าพวกเขา  พระองค์จะไม่นิ่งเฉยเช่นนี้

 

ตงหลินผลักประตูให้เปิดออก  แต่ไม่มีร่องรอยของเซี่ยโฮวโม่ในห้องพัก

 

“มันแปลกมาก  เมื่อกี้พระองค์อยู่ในห้องแน่นอน…..”

 

โจวฉิ่งเหลือบมองไปที่หน้าต่างด้านหลังของห้อง  “อาจมีมือสังหารหรือไม่?”

 

ตงหลินดูซีดลงเล็กน้อย

 

พวกเขารู้จักกังฟูอันทรงพบังของฝ่าบาทเป็นอย่างดี  ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยว่านักฆ่าประเภทใดที่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างเงียบๆ โดยไม่ทำให้คนอื่นสังเกตเห็น

 

ในเวลานี้เซี่ยโฮวโม่ที่หายไป  ปรากฏตัวในโรงแรมหลังหย่าเหมิน

 

ตั้งแต่น้ำท่วมได้ลดลงไปแล้ว  โรงแรมขนาดเล็ก  ร้านอาหาร  และร้านค้าก็กลับมาดำเนินการ ค้าขายได้อย่างช้าๆ

 

บริกรวางศีรษะบนโต๊ะเพื่องีบหลับ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงอากาศเย็นรอบตัวเขาและเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา

 

มองขึ้นไปเห็นชายร่างสูงเพรียวยืนอยู่ตรงหน้า  เขากลัวมากจนตกจากเก้าอี้!

 

“ท่าน….ขอรับท่านที่เคารพ  คือ..คือท่านจะพักที่นี่หรือขอรับ?”

 

เซี่ยโฮวโม่เดินออกไปจากโรงแรมทันทีโดยไม่ได้มองไปที่เขา

 

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสาวน้อยจะจากไปแล้ว!

 

“อ่า-โชวว!”

 

ซูมู่เกอซึ่งนั่งอยู่บนรถม้า  ทันใดนางก็จามออกมา  นางลูบจมูก  ดังม่านเปิดออกและมองไปนอกหน้าต่าง

 

นางออกเดินทางก่อนรุ่งสางวันนี้  ถ้านางเร็วพอ  นางน่าจะกลับถึงเมืองชุนหยางได้ก่อน มืด

 

ดึงม่านปิด  ซูมู่เกอพิงผนังรถม้าและหลับตาลง

 

วันนี้นางเหนื่อยมากเกิน

 

นางเอื้อมมือไปคลำหน้าอก  มันคือ…แบนเกินไป!

 

ผู้หญิงทุกคนต้องการที่จะสวยงาม  ดูเหมือนว่านางจะต้องมีการทำพิธีกรรมความงามที่บ้านแล้ว

 

“ท่านลุง  ถนนค่อนข้างเรียบ  โปรดเร่งความเร็วเถิด”

 

“ได้ขอรับ!”

 

คนขับรถม้ายกแส้ขึ้นหวด  ทำให้รถม้าวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

 

หลังจากนั้นไม่นาน  การเดินทางผ่านถนนหลุมเป็นบ่อ  ในที่สุดพวกเขาก็เข้าสู่ประตูเมืองชุนหยาง

 

แม้ว่านางจะออกจากเมืองชุนหยางเป็นจำนวนหลายวัน   ซูมู่เกอรู้สึกเหมือนผ่านไปเป็นทศวรรษ

 

ทันทีที่ซูมู่เกอลงจากรถม้า  หลี่มาม่ากลับมาจากข้างนอกพอดี

 

หลี่มาม่าแทบไม่เชื่อสายตานางเองเมื่อมาที่ประตูและได้เห็นซูมู่เกอที่ข้างประตู  ใช้เวลาสักครู่  นางคิดว่าตานางคงเฝื่อนฝาด นางยืนนิ่งด้วยความงุนงง

 

เมื่อซูมู่เกอลงจากรถม้านั้น  นางเห็นหลี่มาม่าในทันที  นางเดินเข้าไปกาและเหลือบมอง  “หลี่มาม่า แค่ภายในเวลาสิบกว่าวันท่านจำข้าไม่ได้เทียวหรือ?”

 

ทันใดนั้นหลี่มาม่าก็ได้รู้สึกตัวพร้อมกับความประหลาดใจไม่น้อยในสายตาของนาง  แต่นางระงับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและลดสายตาลง  “มันคือคุณหนูใหญ่นี่เอง  เชิญเข้ามาข้างใน”

 

อย่างไรก็ตาม  ซูมู่เกอออกจากคฤหาสน์ตระกูลซูเพื่อไปตามหาซูหลุน  ซึ่งถูกปกปิดจากนางอัน  นางไม่ต้องการให้ซูมู่เกอถูกยกย่องว่าเป็นลูกสาวกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ในเมืองชุนหยาง  ในขณะเดียวกัน  นางกลัวว่าซูมู่เกอจะสร้างปัญหาเมื่ออยู่นอกเรือน  ซึ่งอาจลากนางเข้าไปพัวพันด้วย

 

หลังจากเข้าสู่คฤหาสน์ตระกูลซู  ซูมู่เกอมุ่งหน้ากลับไปที่ลานดอกท้อบาน

 

ทุกอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก  มันยังคงเงียบและสงบ

 

ซูมู่เกอก้าวเข้ามาในสนามด้วยรอยยิ้มที่หายไปนาน

 

ตอนนี้อากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ  นางจ้าวจะอุ้นเหวินโม่ตัวน้อยไปที่สนามเพื่อเดินเล่นทุกวัน

 

มันเป็นเวลามืดแล้วและไฟก็สว่างขึ้นแล้ว

 

นางจ้าวใช้เวลาทั้งคืนในการเย็บปักถักร้อยใต้โคมไฟ  และเมื่อนางรู้สึกเหนื่อยล้า  นางจะไปดูเหวินโม่ตัวน้อยและตรวจดูว่าเจ้าตัวเล็กหลับสนิทหรือไม่

 

เมื่อไม่มีซูมู่เกอในคฤหาสน์ เยว่รู่ไม่มีงานต้องทำมากนัก  นางจึงเข้านอนแต่หัววัน

 

หงส์เหมยถือกาน้ำชาออกมา  ทันใดนั้นก็เห็นซูมู่เกอยืนอยู่ที่ลานบ้าน  นางตกใจมากจนเกือบจะทิ้งกาน้ำชาลงกับพื้น

 

“คุณหนู…คุณหนู…คุณหนูใหญ่!”

 

“อะไรนะ?  มู่มู่!  มู่มู่อยู่ที่ไหน?”

 

เสียงตะโกนดังของหงส์เหมยดึงดูดนางจ้าว  ที่รีบวิ่งออกมาและเห็นซูมู่เกอเดินมาที่ประตู  นางโผไปข้างหน้าและโอบกอดซูมู่เกอไว้ในอ้อมแขน  ตาของนางเป็นสีแดงและมีน้ำตาไหลนอง

 

“มูมู่ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว  เจ้ากำลังทำให้แม่ของเจ้าเป็นห่วงมาก”  นางจ้าวหายใจไม่ออกพร้อมกับสะอื้น  กอดซูมู่เกอไว้ในอ้อมแขนแน่น  ซูมู่เกอรู้สึกได้ถึงการเต้นของหัวใจที่ดังก้องและน้ำตาอันร้อนแรงของนาง

 

รู้สึกอบอุ่นภายใน  จู่ๆซูมู่เกอก็รู้สึกเจ็บจมูก

 

แม่เป็นคนที่ห่วงใยนางอย่างแท้จริง  แม้ว่านางจะไม่ได้มีพลังมากมาย  นางเป็นฝ่ายสนับสนุนที่น่าเชื่อถือที่สุดของนาง  พวกมันเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด

 

“ท่านแม่  อย่าร้องไห้  ข้าแค่เพิ่งออกไปเรียนรู้กฎและมารยาทจากคนอื่น … ”

 

นางจ้าว  น้ำตาไหล  ปล่อยตัวซูมู่เกอออกจากอ้อมแขน  ซับตาด้วยผ้าเช็ดหน้า  และดึงซูมู่เกอเข้าไปในห้อง

 

หงส์เหมยคงไม่มีความสุขไปมากกว่านี้แล้วที่ได้เห็นซูมู่เกอกลับมา  ดังนั้นนางจึงรีบไปปลุกเยว่รู่และคนอื่นๆ

 

“อืม  อย่ามาขวางทางข้า  ให้ข้าได้คุยกับมู่มู่”

 

นางจ้าวบอกให้สาวๆถอยห่าง

 

“ทำไมนายหญิงถึงจัดให้เจ้าไปเรียนรู้กฎและมารยาทในเวลานี้?  ข้าได้ยินมาว่าบางเมืองนอกเมืองชุนหยางถูกน้ำท่วม   ซึ่งอยู่ในความยุ่งเหยิง”

 

เมื่อออกจากคฤหาสน์ซู  ซูมู่เกอได้ทำข้ออ้างกับนางอันที่จะออกจากคฤหาสน์  มีข้ออ้างว่าแม่เฒ่าคนหนึ่งในวังหลวงได้เกษียณอายุแล้วและกลับไปบ้านเกิดในเมืองชุนหยาง  ดังนั้นนางอันจึงต้องการคว้าโอกาสนี้และส่งซูมู่เกอไปเรียนรู้กฎและมารยาท

 

แต่มาม่ามีอารมณ์แปลก ๆ  นางจะไม่อยู่ในคฤหาสน์ของผู้อื่น   แต่คุณหนูแต่ละบ้านทั้งหมดถูกส่งไปที่บ้านของนางเพื่อเรียนรู้กฎและมารยาท  เพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ดีขึ้น  พวกเขายังสามารถอาศัยอยู่กับนางได้

 

ข้อแก้ตัวไม่ดีนัก แต่เป็นไปได้

 

วันก่อน  นางอันเข้ามาหานางจ้าว  คนที่สงสัยอยู่บ้าง  แต่ก็ไม่ได้สังสัยนักเพราะนั่นเป็นผลประโยชน์ของซูมู่เกอ  แต่นางก็ยังคงกังวลอยู่ทุกวัน  และไม่สามารถปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกเก็บกดไว้ของนางได้ต่อเมื่อซูมู่เกอกลับมาได้กลับมาแล้ว

 

“ท่านแม่  ไม่ต้องกังวล  ข้าเพิ่งเรียนรู้กฎและมารยาทในบ้านของมาม่าและไม่ได้ออกไปข้างนอก  วันนี้น้องชายของข้าประพฤติตัวดีหรือไม่?”

 

เมื่อพูดถึงลูกชาย  นางจ้าวยิ้มแย้ม  “แน่นอน  เขากินดีและนอนหลับสนิท  เขาจะไม่ดีได้อย่างไร?”

 

“ข้ากำลังจะไปดูน้องชายของข้า”

 

เมื่อนึกถึงร่างกายที่เล็กและนุ่มของเหวินโม่ตัวน้อย  ซูมู่เกอไม่สามารถรอที่จะสัมผัสเขาได้ในตอนนี้

 

ในขณะนี้เจ้าตัวน้อยหลับอยู่  และพี่เลี้ยงดูแลทารกอยู่บนเก้าอี้ยาว  เมื่อเห็นซูมู่เกอกลับมาแล้ว  นางตกตะลึงและกำลังจะโค้งคำนับ  ก่อนที่นางจะทำเช่นนั้น ซูมู่เกอไดหยุดนางไว้

 

“เหวินโม่  พี่สาวกลับมาแล้ว”  ใกล้กับเปล  ซูมู่เกอจิ้มแก้มอวบอิ่มของเหวินโม่เล็กน้อย

 

เจ้าตัวเล็กดูเหมือนจะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว  เม้มริมฝีปากของเขา  และขยับมือของเขา

 

“นายน้อยนอนหลับสบายมากในตอนกลางคืน  และเขาตื่นขึ้นมาเพียงครั้งเดียวเพื่อดื่มนม  ข้าไม่เคยเห็นเด็กว่านอนสอนง่ายขนาดนี้”

 

ซูมู่เกอซุกผ้าห่มให้เหวินโม่ตัวน้อยก่อนที่นางจะลุกขึ้นยืน  “ดูแลนายน้อยให้ดี  และข้าจะรับประกันชีวิตที่ดีให้เจ้าในอนาคต”

 

“เจ้าค่ะ  เจ้าค่ะ  ข้าไม่กล้าแม้แต่น้อย”

 

ซูมู่เกอใช้เวลาอยู่กับนางจ้าวก่อนจะกลับไปที่ห้องของนาง  เมื่อรู้ถึงการกลับมาของซูมู่เกอ  เยว่รู่และคนอื่นๆ รออยู่ข้างนอกแล้วในเวลานี้ด้วยความกระตือรือร้น

 

“คุณหนู  ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว…”  ทั่วทั้งคฤหาสน์ซู  เยว่รู่เป็นคนเดียวที่รู้ว่าซูมู่เกอไปทำอะไร  นอกเหนือจากนางอันและหลี่มาม่า  เมื่อเห็นซูมู่เกอกลับมาอย่างปลอดภัยและมั่นคง  นางโล่งใจในที่สุด

 

“อืม  ข้ากลับมาแล้ว  เจ้าไม่ควรมีความสุขหรือ?  เตรียมน้ำร้อนสิ  ข้าอยากอาบน้ำสบายๆให้สะอาดๆ”

 

“เจ้าค่ะ  เดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”  ซินเอ๋อและเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ตอบสนองและเริ่มลงมือทำงาน

 

ในห้องทำความสะอาดที่ปกคุลมไปด้วยไอน้ำ  ซูมู่เกอจมลงไปในน้ำร้อน  และทุกเซลล์ในร่างกายของนางก็ผ่อนคลายและโล่ง

 

ดีมากจริงๆ  ทุกอย่างจบลงแล้ว…

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด