องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 59 : ไม่ตาย!

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 59 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“อา!  น่าเกลียดมาก!  อย่างที่องค์หญิงแปดพูด  นางดูน่ากลัวจริงๆ!”  หญิงหน้ากลมในชุดผ้าไหมสีชมพูดพีชกรีดร้องด้วยความสยดสยอง

 

“นางเป็นคนจงใจทำให้เจ้าจมน้ำตายในเมืองชุนหยางใช่หรือไม่?  ช่างเป็นหญิงเลวทรามมาก!”  ผู้หญิงในชุดสีน้ำเงินก็ดูหวาดกลัวเช่นกัน

 

“อย่าพูดเรื่องนั้นเกี่ยวกับพี่สาวคนโตของข้าเลย  นางแค่ล้อเล่นกับข้า”

 

“คนคนหนึ่งจะสามารถล้อเล่นกับชีวิตของอีกคนได้อย่างไร!?”

 

ก่อนที่ซูมู่เกอจะกลืนขนมลงไป  นางถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มหญิงสาวที่พูดพล่อยๆ เหล่านั้น

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนางถูกชี้นำโดยซูจิงเหวิน  น้องสาวของนางที่เป็นคนนำความลำบากมาสู่นาง

 

คุณหนูสาวทั้งหลายกำลังมองไปที่ซูมู่เกอราวกับว่านางเป็นสัตว์ร้ายในสวนสัตว์  ทำให้นางอารมณ์เสียจริงๆ

 

“อย่างพูดอย่างนั้น  พี่สาวคนโตของข้าได้รับการยกย่องจากองค์จักรพรรดิในเรื่องทักษะทางการแพทย์ของนาง….”  ซูจิงเหวินกล่าวขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล    นั่นยิ่งทำให้เหล่าคุณหนูสูงศักดิ์เหล่านั้นถึงกับโกรธ

 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ารางวัลขององค์จักรพรรดิเป็นเกียรติอย่างยิ่ง  แต่ผู้หญิงที่น่าเกลียดและเลวทรามคนนี้จะได้รับมันได้อย่างไร?

 

“พี่ใหญ่  ท่านต้องอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างน่าเบื่อ  ทำไมไม่มาร่วมสนุกกับเราเจ้าค่ะ”  ซูจิง   เหวินเดินไปข้างหน้าด้วยรูปลักษณ์เหมือนน้องสาวแสนดี  แสดงให้เห็นถึงความกลัวในสายตาของนางที่มองไปยังซูมู่เกอ

 

ในสายตาของผู้อื่น  ดูเหมือนนางจะมีความกลัวโดยสัญชาตญาณราวกับว่านางถูกซูมู่     เกอรังแกและกดขี่ข่มเหงเป็นเวลานาน

 

ตอนนี้นางกำลังแสดงละคร  แต่ซูมู่เกอก็มีพรสวรรค์ในการทำเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

 

ซูมู่เกอแอบบีบฝ่ามือของนางและดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที  จากนั้นนางก็มองไปที่ซูจิงเหวินด้วยท่าทางประจบยกยอ

 

“จริงๆนะ?  นั่นเยี่ยมมาก!”

 

ซูจิงเหวินต้องการเพียงแค่นำสตรีสูงศักดิ์เหล่านี้มาเพื่อหัวเราะเยาะนาง  นางจะเต็มใจให้ซูมู่เกอรู้จักพวกเขาได้อย่างไร!

 

ชั่วขณะหนึ่ง  รอยยิ้มบนใบหน้าของซูจิงเหวินดูแข็งกระด้างขึ้น

 

“องค์หญิงแปดเสด็จแล้ว!  อา องค์หญิงเก้าก็เสด็จที่นี่เช่นกัน!”

 

ด้วยเสียงโห่ร้องในฝูงชนทุกคนหมุนตัวกลับไปมองข้างหลังทันที

 

ซูจิงเหวินไม่มีเวลาจัดการกับซูมู่เกอ  นางหันกลับไปและก้าวไปข้าหน้า

 

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเห็นองค์หญิงแปดในชุดผ้าโปร่งสีชมพูอมเทาอ่อน  ตามด้วยองค์หญิงเก้าในชุดสีฟ้าอมชมพูคนที่เรียกนางเข้าเฝ้าเป็นการเฉพาะเมื่อวันก่อน

 

ซูมู่เกอไม่ประทับใจองค์หญิงทั้งสองนี้  นางแค่อยากจะใช้โอกาสนี้เรียนรู้เมืองหลวงให้รอบๆ

 

“ขอถวายบังคมเพค่ะ องค์หญิงแปด  องค์หญิงเจ้า”

 

องค์หญิงแปดนั่งลงบนที่นั่งแรกพร้อมกับดวงตาที่แข็งแกร่งคู่หนึ่งเชิดขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งของเชื้อพระวงศ์

 

องค์หญิงเก้านั่งลงข้างๆนางด้วยท่าทางเฉยเมยมากราวกับทุกสิ่งรอบตัวไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง  อย่างไรก็ตาม  นางกำลังค้นหาในฝูงชนราวกับว่านางกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

 

“ลุกขึ้นเถิด  วันนี้ข้าค่อนข้างเบื่อในวังและแค่อยากออกมาพักผ่อน  ไม่จำเป็นต้องเป็นพิธีการนัก”

 

เหมือนดวงจันทร์ที่ล้อมรอบด้วยดวงดาวมากมาย  องค์หญิงแปดถูกห้อมล้อมในเวลาไม่นาน

 

“นั่น  นั่นคือองค์ชายสองที่อยู่ตรงนั้นใช่หรือไม่?”

 

“องค์ชายสอง  มันเป็นพระองค์จริงๆ พะย่ะค่ะ?”

 

ด้วยเสียงตุ้งติ้งบนเรือ  เหล่าสาวๆผู้สูงศักดิ์ที่อยู่รอบๆองค์หญิงแปดทุกคนหันไปมองเรือที่อยู่ตรงข้ามกับพวกนาง

 

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นซูมู่เกอมองขึ้นไปอีกด้านหนึ่ง  เพียงเท่านั้นก็ได้เห็นร่างเพรียวที่คุ้นเคยลางๆ

 

“ปัง – ปัง”

 

“ดอกไม้ไฟ!  ดูสิ  มันเป็นการแสดงดอกไม้ไฟ!”

 

ทันใดนั้น  ดอกไม้ไฟก็ระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า  ดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

ซูมู่เกอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า   สงสัยว่าทำไมมีคนมาจุดดอกไม้ไฟในตอนกลางวันเช่นนี้เมื่อมันมองไม่เห็นอะไรเลย

 

“มันเป็นฝั่งตรงข้าม…..”

 

“ดูสิ  มีคนโปรยดอกไม้ลงในน้ำด้วย  ว้าว  สวยมาก!”

 

“จริงด้วย!  สวยมาก!  มันคือใครกัน?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้  ผู้คนบนเรือต่างพากันขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเรือเพื่อชมความคึกคัก  ชั่วขณะ ดาดฟ้าเรือก็วุ่นวายเล็กน้อยพร้อมกับเสียงดังทำให้เรือสั่นอยู่ใต้เท้า

 

องค์หญิงแปดยังเดินไปดูที่เกิดเหตุด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

“บูมมม”

 

“องค์หญิงเก้า  พระองค์ทรงรู้สึกไม่สบายหรือเพค่ะ?”

 

คำอุทานที่คมชัดก็ระเบิดออกมา  น่าเสียดายเนื่องจากดอกไม้ไฟดังเกินไปและบนดาดฟ้าก็มีเสียงดังเกินไปจึงมีคนเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็นสถานการณ์ดังกล่าว

 

ซูมุ่เกอเดิมยืนอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านน้อย  เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์รีบวิ่งไปที่ดาดฟ้าโดยเว้นที่ว่างไว้รอบตัวนาง

 

เมื่อได้ยินเสียง นางหันไปมองหาแหล่งที่มาและพบว่าองค์หญิงเก้าซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตอนนี้กำลังขดตัวและเอามือกดที่หน้าอกของนางด้วยท่าทางเจ็บปวด

 

“เร็วเข้า!  องค์หญิงเก้าหัวใจวาย  ไปเอายาของพระองค์มาเร็วเข้า!” นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตะโกนลั่น

 

“ยา  ข้าไม่ได้นำมันมาด้วย  ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้!”

 

ในเวลานี้  องค์ชายสองเซี่ยโฮวคุณ ซึ่งยืนอยู่บนเรืออีกลำมองดูผู้คนที่โปรยดอกไม้ลงน้ำด้วยการขมวดคิ้วและหันไปหาผู้ติดตามของเขา  “ไปดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”

 

“พะย่ะค่ะ”

 

ซูมู่เกอพบว่าสตรีสูงศักดิ์ไม่กล้าออกไปข้างหน้าอีกต่อไปหลังจากเห็นอาการขององค์หญิง  ด้วยกลัวว่าจะมีปัญหา

 

การนอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ขององค์หญิงเก้าด้วยอาการหายใจไม่ออก  ครั้งสุดท้ายเมื่อนางได้เข้าเฝ้าองค์หญิงในวังหลวง  ซูมู่เกอสังเกตเห็นผิวที่ผิดปกติของนาง

 

ซูมู่เกอมองไปที่ริมฝีปากของนางที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีม่วงและขมวดคิ้ว  โดยไม่ลังเล  นางผลักฝูงชนออกไปและเดินหน้าเข้าไป

 

ในฐานะแพทย์  นางจะไม่ยืนดูชีวิตที่อยู่ตรงหน้าพินาศไปต่อหน้านาง

 

“เจ้าเป็นใคร?  เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

 

นางกำนัลข้างตัวองค์หญิงเก้ามองนางด้วยความตื่นตัว

 

“ข้าสามารถรักษาชีวิตขององค์หญิงได้จนกว่าเจ้าจะได้ยามา”

 

นางกำนัลตะลึงงัน  และก่อนที่นางจะพูด  ซูมู่เกอก้าวไปข้างหน้าและจับมือขององค์หญิงเก้า

 

เพียงแค่นางจับชีพจร  องค์หญิงเก้าหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน!

 

เมื่อรูม่านตาของนางแคบลง  ซูมู่เกออุ้มองค์หญิงเก้าขึ้นจากเก้าอี้และวางนางนอนราบกับพื้น

 

“เจ้า  เจ้ากำลังทำอะไรกับองค์หญิงเก้า!”

 

ในเวลานี้  ผู้คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์บนดาดฟ้าก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สุด

 

“อา!  เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงเก้า?”

 

จากนั้สไม่นานผู้คนมากมายมารวมตัวกัน

 

ในฝูงชน  ซูจิงเหวินมองไปที่ซูมู่เกออย่างสงสัย  คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆองค์หญิงเก้าอย่างสงสัยว่านางกำลังทำอะไร

 

“องค์หญิงเก้าหัวใจวายหรือ?”

 

“ข้ากลัวจะเป็นอย่างนั้น  ใคร  ใครเป็นอะไร?  นางกำลังทำอะไรกับองค์หญิงเก้า?”

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้  ซูจิงเหวินตระหนักว่าซูมู่เกอตั้งใจจะช่วยเหลือองค์หญิงเก้า  นางคิดว่านางเป็นใคร? นางไม่รู้หรือว่ากำลังช่วยองค์หญิง?

 

นางคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของนางยอดเยี่ยมขนาดนั้นจริงหรือ?

 

แต่ถ้าองค์หญิงเก้ามีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด  ซูมู่เกอจะถึงคาด!  เมื่อนึกถึงสิ่งนี้  ซูจิงเหวินแอบรู้สึกยินดี

 

“คลายร่างของนาง”  ซูมู่เกอกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง  ตอนนี้พบภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน  นางต้องได้รับการช่วยชีวิตฉุกเฉินทันที  มิฉะนั้นองค์หญิงอาจจะตาย

 

“เจ้าทำบ้าอะไรกับองค์หญิงเก้า?”

 

“ตอนนี้องค์หญิงหยุดหายใจแล้ว  หากไม่มีความช่วยเหลือฉุกเฉินพระองค์ก็สามารถตายได้เท่านั้น”  ดวงตาของซูมู่เกอสงบ แต่คำพูดของนางทำให้นางกำนับเป็นอัมพาต

 

“อะไรนะ?  เก้า  องค์หญิงเก้า  หยุด  หยุดหายใจ…”  นางกำนัลเอื้อมมือที่สั่นระริกของนางไปที่ใต้จมูกขององค์หญิงพร้อมกับทั้งร่างของนางแข็งทื่อทันที

 

องค์หญิงเก้า  จริง จริงไม่มี  ไม่มีลมหายใจ!

 

“จริงๆ  จริงไม่มีลมหายใจ…”  นางกำนัลตกใจกลัว

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือ  ซูมู่เกอทำได้เพียงวางร่างขององค์หญิงเก้าลงอย่างรวดเร็ว  จับมือและปั๊มหน้าอกหลาย ๆ ครั้ง  แต่การเต้นของหัวใจนางไม่แสดงอาการว่าจะฟื้นตัว

 

นางปั๊มหน้าอกภายนอกของนางซ้ำ ๆ โดยใช้มือวางทับกัน

 

“องค์หญิงเก้าไม่มีลมหายใจ  เจ้า  เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!”  นางกำนัลตกใจเมื่อเห็นการกระทำของซูมู่เกอ

 

“อะไรนะ? องค์หญิงเก้าไม่มีลมหายใจ?”

 

“อา  น่ากลัวมาก!”

 

เมื่อได้ยินว่าองค์หญิงเก้าเสียชีวิตแล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็พลันหน้าซีดและกลับและไม่กล้ามองไปที่คนที่นอนอยู่บนพื้น

 

“ภายนำไม่กี่นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้น  มีโอกาสที่ดีที่จะช่วยนางได้”

 

ซูมู่เกอไม่ได้หยุดการปั๊มหน้าอกขององค์หญิงเก้า  แต่นางกดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นางดูสงบและจริงจังราวกับว่าไม่มีอะไรมารบกวนนางได้

 

เซี่ยโฮวคุณยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรืออีกลำสังเกตห็นเหตุการณ์ที่นั่น

 

สตรีผู้สูงศักดิ์เหล่านี้มักจะมีสง่าราศีและมีเกียรติที่เหมาะสมต่อหน้าผู้คน  ความยุ่งเหยิงเช่นนี้หายากจริงๆ

 

“ส่งคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”

 

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท  หม่อมฉันรับคำสั่ง”

 

ไม่กี่นาทีต่อมาทหารที่ไปสอบถามข้อมูลก็กลับมา

 

“ว่าอย่างไร?”

 

“องค์ชายสองพะย่ะค่ะ  มันคือองค์หญิงเก้าโรคหัวใจกำเริบพะย่ะค่ะ”  เมื่อได้ยินเช่นนี้  เซี่ยโฮวคุณก็ขมวดคิ้ว  “ไปดูกันเร็วเข้า”

 

เซี่ยโฮวคุณไม่ต้องการมีปัญหาใดๆ  แต่ถ้าเขาไม่ดำเนินการใดๆ  เหตุการณ์นี้จะต้องถูกท่านพ่อทรงทราบแน่นอน  เขาคนที่จะกลายเป็นคนเลือดเย็นเกินไปและไม่สนใจน้องสาวของตัวเอง

 

“องค์ชายสองเสด็จแล้ว  ถวายบังคมฝ่าบาท”

 

“มันคือองค์หญิงเก้า ฝ่าบาท”

 

“ฝ่าบาทเพค่ะ  องค์หญิงเก้า  องค์หญิงเก้าหยุด  หยุดหายใจ….”

 

เซี่ยโฮวคุณเดินเข้าไปในฝูงชนและเห็นซูมู่เกอคุกเข่าอยู่ที่พื้นและทำการช่วยฟื้นคืนชีพให้กับองค์หญิงเก้า

 

การเคลื่อนไหวของนางเรียบง่ายและแปลกประหลาดและยังคงทำซ้ำๆ

 

“เจ้ากำลังทำอะไร?”  เซี่ยโฮวคุณถามด้วยความสงสัยที่สั่นไหวในดวงตาสีอ่อนของเขา

 

“ข้ากำลังช่วยชีวิตนาง”

 

ซูมู่เกอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง

 

“ช่วยนาง….”

 

“ท่านพี่ใหญ่  ท่านไม่ควรสร้างความขุ่นเคืองกับองค์หญิงเก้านะเจ้าค่ะ  ตอนนี้องค์หญิงเก้าได้หยุดหายใจไปแล้ว  ทำไมท่านยังรั้งนางไว้  ท่านยังต้องการที่จะได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท องค์ชายสอง โดยใช้องค์หญิงเก้า!”  ซูจิงเหวินพบคำบอกกล่าวต่อเซี่ยโฮวคุณเกี่ยวกับซูมู่เกอและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับสะอึกสะอื้น

 

คำพูดของนางหมายความว่าซูมู่เกอไม่ได้ช่วยองค์หญิงเก้า  แต่เพื่อขโมยความสนใจของสาธารณชนและเอาชนะความสนใจของเซี่ยโฮวคุณ!

 

“พี่ใหญ่  โรคหัวใจขององค์หญิงเก้าเป็นเรื่องยากที่จะรักษาให้หายขาด  แม้แต่หมอหลวง  ท่านคิดว่าจะช่วยนางได้จริงหรือ?”

 

นางช่างชั่วร้ายเพียงใดที่ดึงดูดความสนใจจากการตายขององค์หญิง!

 

ทันใดนั้น  สายตาของทุกคนที่มีต่อซูมู่เกอก็เปลี่ยนไป

 

ซูมู่เกอสงบนิ่งโดยใช้มือกดปั๊มหัวใจต่อไป

 

เซี่ยโฮวหยินไม่ได้คาดคิดว่าซูมู่เกอจะมา  นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้  นางเอื้อมมือไปและผลักนางด้วยความไร้ปรานีในการแสดงออกของนาง

 

ซูมู่เกอลดสายตาลงและหลีกเลี่ยงมือของนางอย่างคล่องแคล่ว

 

คิ้วที่ดูดีของเซี่ยโฮวคุณขมวดเล็กน้อย  เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของซูจิงเหวินในระดับหนึ่ง  เมื่อเขากำลังจะสั่งให้พานางออกไป  องค์หญิงเก้าที่ไม่มีลมหายใจขยับตัวกะทันหัน

 

“ฮู้วววว”

 

“ฮา”

 

ทันใดนั้นองค์หญิงเก้าก็หอบหายใจ  ทำให้เหล่าขุนนางตกใจกลัว

 

“นางยังมีชีวิตอยู่!”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด