ศพ – ตอนที่ 219 ฝามือมังกรคู่

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 219 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 219 ฝามือมังกรคู่

 

ผีเมียตนนี้ของผม “ ชอบโมโหผิดปกติ ” และยังชอบเอาผมไปเป็นคู่ซ้อมมือ

 

พวกเราเพิ่งเจอกัน เธอก็ลงมือกับผมแล้ว

 

แม่งเอ๊ย โชคร้ายที่ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ จึงทําได้เพียงยอมรับชะตากรรมเท่านั้น

 

ยัยผีเมียตนนี้ทั้งบีบข้อมือผม บีบคอ และยังทําร้ายร่างกายผมอีกหลายแห่ง

 

ความเจ็บปวดพวกนั้นทําให้ผมได้แค่ร้อง “ โอ๊ยโอ๊ย” ออกมา ในใจผมกําลังทุกข์ทรมาน ! ตอนนั้นทําไมผมถึงได้เอายัยตัวร้ายนี้มาทําเมียได้นะ

 

สวรรค์ คืนนี้ผมกําลังถูกผู้หญิงรังแก ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ผมจะต้องถูกหัวเราะจนตายแน่

 

จนกระทั่งผ่านไปพักใหญ่ ยัยเจ้าอารมณ์นั้นถึงได้สงบลง ดูเหมือนเธอจะหายโกรธไปไม่น้อย

 

เธอจ้องผม หลังจากนั้นก็พูดกับผมว่า “ ไม่เลวนิ พักนี้พลังพัฒนาขึ้นนะ ! จัดการยากหน่อย แต่ผิวนายด้านเกินไป ฉันเจ็บมือไปหมดแล้วเนี่ย”

 

ขณะที่พูด ยัยมู่หลงเหยียนก็ลูบนิ้วเรียวๆของตัวเอง แสดงสีหน้าพอใจในผลงานตัวเอง

 

แม้ยัยมู่หลงเหยียนจะกักแรงเอาไว้อย่างดีแล้ว และไม่ได้ทําผมบาดเจ็บจริงๆ แต่ยังไงมันก็ทําให้ผมเจ็บตัวไปพักหนึ่ง

 

ไม่ใช่แค่นั้น ตอนที่ผมโดยยัยมู่หลงเหยียนทําร้าย ผมยังมองออกว่าในใจของเธอกําลังไม่พอใจและโมโหอย่างมาก

 

แต่ผม กลับกลายเป็นตัวระบายอารมณ์ให้เธอ

 

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ถึงจะเจ็บตัวจริงๆ แต่มันก็ไม่อันตรายถึงชีวิต

 

ผมแค่โกรธมาก โกรธที่ยัยมู่หลงเหยียนมาหาเรื่อง ผมยังไม่ทันรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอแล้ว

 

ผมหดหู่ พร้อมพูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ อย่ารังแกกันเกินไปนะ !”

 

“ โห! เดี๋ยวนี้กล้ามากนิ มาลองกันอีกสักยกไหมละ” มู่หลงเหยียนเห็นผมโกรธนิดหน่อย เธอไม่โมโหแต่กลับยิ้ม และยังพูดยั่วโมโหใส่ผม

 

นี่ทําให้ผมโมโหสุดๆ ตอนนี้ผมอยู่ใกล้มู่หลงเหยียนมาก และอยากเอาคืนเธอด้วย

 

เมื่อไฟได้ถูกจุดแล้ว ผมก็เตรียมตัวกลับเข้าสนามรบอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นผมก็แสดงท่าทางหวาดกลัวมองไปข้างหลัง มู่หลงเหยียนแล้วพูดว่า “ นั้น นั้นคืออะไร !”

 

ขณะที่พูด ผมก็ใช้นิ้วชี้ไปที่ข้างหลังมู่หลงเหยียน

 

มู่หลงเหยียนไม่ได้คิดมาก เธอหันหลังไปมองทันที

 

วินาทีที่มู่หลงเหยียนหันไป ผมก็ดีดตัวขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว และกระโดดเข้าไปทับมู่หลงเหยียน

 

ยัยผีเมียตนนี้ทําให้ผมโมโหสุดๆ การโจมตีอย่างกระทันหัน จะต้องทําให้เธอหลบไม่ทันแน่นอน ดังนั้นผมจึงคิดจะลอบโจมตีเธอ

 

แต่สิ่งที่ทําให้ผมคิดไม่ถึงคือ ขณะที่ผมกําลังจะกระโดดทับมู่หลงเหยียน มู่หลงเหยียนกลับยกมือขึ้น บีบคอของผมไว้อย่างรวดเร็ว

 

วินาทีนั้น ผมรู้สึกว่าเรี่ยวแรงกว่าครึ่งถูกดูดไป จนร่างกายของผมแทบไม่เหลือแรงสู้

 

ไม่ใช่แค่นั้น ผมยังรู้สึกเจ็บที่คอจนหายใจได้อย่างยากลําบาก

 

แต่มู่หลงเหยียนกลับส่ายหัวไปมา “ เจ้ากาก ยังคิดจะลอบโจมตีฉันเหรอ ยอมแพ้ซะ แล้วฉันจะปล่อยนายไป !”

 

มู่หลงเหยียนพูดกับผมด้วยน้ำเสียงได้ใจ มือที่บีบคอผมเอาไว้ยังไม่คลายลงเลยแม้แต่น้อย

 

ผมเองก็กําลังโมโห สู้ไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดนทําร้ายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ให้ผมยอมแพ้งั้นเหรอ มันเป็นไปไม่ได้ ชั่วชีวิตนี้ก็เป็นไปไม่ได้

 

พูดบ้าอะไร ไม่ว่าจะพูดยังไง ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายก็ยังค้ำคอผมอยู่

 

“ ไม่มีทาง ชาตินี้ก็ไม่มีทาง ! ” ผมพูดด้วยความยากลําบาก

 

มู่หลงเหยียนเห็นผมเป็นแบบนั้น เธอจึงยิ้มออกมาอีกครั้ง “ เจ้ากาก ถึงฉันจะฆ่านายไม่ได้ แต่ฉันมีวิธีบางอย่างที่ใช้ลงโทษนายได้นะ นายอยากลองดูสักหน่อยไหม”

 

หลังจากพูดจบ สายตาของมู่หลงเหยียนก็ไล่จากบนลงล่าง และสุดท้ายสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่จุดอันตรายของผม

 

แม่เจ้า! สายตาของยัยมู่หลงเหยียน ทําให้ผมรู้สึกหนาวสุดๆ ตอนนี้ผมรู้สึกชาไปครึ่งตัวแล้ว

 

“เธอ เธอจะทําอะไร ?

 

มู่หลงเหยียนทําปากมุ่ย และไม่อาย เธอทําหน้าตาขี้เล่นใส่ผม “ ไม่ได้ทําอะไร อีกเดี๋ยวฉันจะถอดกางเกงนายออก ! แล้วก็โยนนายไว้ที่ถนนใหญ่ !”

 

เมื่อคําพูดนี้หยุดออกมา หน้าผมก็ถอดสี

 

ยัยขี้โมโหโหดมาก เรื่องพันนี้เธอก็คิดออกมาได้

 

มู่หลงเหยียนเห็นสีหน้าของผมเปลี่ยนไป เธอจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ กลัวละซิ ! งั้นนายก็พูดว่ายอมแพ้ซิ บอกว่าต่อไปจะฟังคําสั่งฉัน ตอนฉันโมโหก็เรียกนายได้ตลอด 24 ชั่วโมง นายจะมาเป็นกระสอบทรายพิเศษให้ฉัน”

 

พระเจ้าช่วย ถ้าผมตอบตกลงกับเงื่อนไขที่ไร้เหตุผลแบบนี้ ต่อไปชีวิตวันข้างหน้าของผมจะอยู่อย่างสุขสบายได้ยังไง ผมจะต้องถูกยัยมู่หลงเหยียนเรียกมาเป็นกระสอบทรายบ่อยๆ แน่

 

“ ไม่ ฉันไม่ตกลง !”

 

มู่หลงเหยียนเงียบไปแป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดว่า “ ไม่ ตกลงก็ได้ ! งั้นฉันจะลงมือแล้ว !”

 

หลังจากพูดจบ แววตาของมู่หลงเหยียนก็เปลี่ยนไป เธอส่งสัญญาณว่าจะลงมือแล้วจริงๆ

 

หัวใจผมเต้นแรง รู้สึกกลัวนิดหน่อย

 

แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆผมกลับนึกถึงศิลปะป้องกันตัวของ อุ้ยเสี่ยวป้อได้ทุกครั้งที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุก เขาก็จะทดสอบผู้หญิงเหล่านั้น

 

ในเมื่อมู่หลงเหยียนโหดนัก งั้นผมก็อย่ามาโทษว่าผมหน้าด้านไร้ยางอายก็แล้วกัน

 

หัวใจของผมเต้นรัว ผมยกฝ่ามือมังกรคู่ออกไปตรงๆ

 

มู่หลงเหยียนเป็นคนดื้อ ไม่ชอบเป็นฝ่ายแพ้ ที่จริงก็แค่อยากขู่ผมเท่านั้น อยากให้ผมยอมเธอ

 

แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ ยังไม่ทันทําให้ผมยอมแพ้ได้ ทันใดนั้นฝ่ามือของผมก็เข้ามาอย่างกระทันหัน

 

มู่หลงเหยียนไม่ระวังผมอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อฝามือของผมยกขึ้นไป ผมก็ออกแรง บีบมันจนเสียรูป

 

วินาทีนั้น ผมเองก็ตกตะลึง ราวกับสัมผัสกับลูกระเบิด ทั้งสองมือยากที่จะควบคุมได้

 

มู่หลงเหยียนที่อยู่ตรงหน้า เมื่อกี้เธอยังทําหน้าได้ใจอยู่เลย แต่ตอนนี้สีหน้าของเธอกลับเปลี่ยนเป็นตกใจ เหมือนกับโดนไฟฟ้าช็อต ร่างกายเธอสั่นทันที

 

ไม่ใช่แค่นั้น หน้าของเธอยังเหมือนกับอายมาก

 

แต่นี้เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้น สีหน้าของมู่หลงเหยียนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เธอเผยสีหน้าโกรธจัดออกมา

 

ทันใดนั้นเธอก็รีบปล่อยมือจากคอผมอย่างรวดเร็ว หันมามองหน้าผมทันที พร้อมตะโกนด้วยความโมโห “ ไอ้หน้าด้าน !”

 

หลังจากนั้น เธอก็คิดจะปัดมือผมออก

 

แต่ตาผมเร็วกว่า วินาทีนั้นผมผลักเธอไปข้างหน้า และจับเธอกดไว้ทันที ใช้มือทั้งสองข้างจับมือของมู่หลงเหยียนเอาไว้ ป้องกันไม่ให้เธอสู้กลับ

 

สิ่งนี้ผมทําให้หัวใจของพวกเราเต้นแรง ผมทาบตัวลง กดเธอไว้อยู่หมัด

 

ตอนนี้ ผมสองคนจ้องตากัน ร่างกายทาบทับอยู่ด้วยกัน

 

แม้เธอจะดิ้นสองสามครั้ง แต่มันกลับยิ่งทําให้เธอหมดแรง

 

ช่วงเวลานั้น ดูเหมือนในสายตาของอีกฝ่าย ได้มีประกายไฟลุกโชนขึ้นมา ราวกับถูกไฟดูดวินาทีนั้นเรี่ยวแรงที่มีก็หายไปทันที

 

ไม่รู้ว่าทําไม ผมกลับหายใจเร็วขึ้น หัวใจเริ่มเต้น “ ตึกตึกตึก” เร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายก็ร้อนขึ้นด้วย

 

ความรู้สึกแบบนั้นมันแปลกมาก ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

 

ทันใดนั้นเอง ในห้องก็ถูกแช่แข็ง เงียบราวกับคนในห้องได้ตายไปหมดแล้ว..

 

การกระทํานี้ใช้เวลาสองวินาทีเต็มๆ ทําให้ผมสองคนทําอะไรไม่ถูก ไม่มีใครขยับเขยื้อนเลยสักนิด

 

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆข้างนอกก็มีเสียงยายโม่ดังขึ้น “ คุณหนู คุณผู้ชาย ! แขกมาถึงแล้วเจ้าค่ะ รีบออกมาต้อนรับ แขกเถอะเจ้าค่ะ !”

 

เสียงเธอแหบแห้ง แต่ก็สงบมาก

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มู่หลงเหยียนที่อยู่ด้านล่างก็ได้สติ

 

เมื่อเห็นว่าตัวเองยังถูกทับอยู่ เธอก็ค่อยๆขมวดคิ้ว กัดริมฝีปากของตัวเอง จากนั้นก็แสดงสีหน้าเขินอายออกมาเล็กน้อย เธอกดเสียงลงต่ำ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวเล็กน้อย “ เจ้ากาก นายยังไม่ลุกขึ้นอีก !”

 

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผมถึงได้สติ รู้สึกร้อนวาบที่ลําคอทันที

 

พูดตามความจริง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกล้าทํากับผู้หญิงแบบนี้ และยังสามารถปราบอีกฝ่ายได้

 

เมื่อก่อน ผมไม่กล้าเลยสักนิด แต่ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ผมเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้กล้าทําเรื่องแบบนี้ลงไป

 

ผมอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ผมค่อนข้างอาย หลังจากนั้นก็รีบลุกขึ้น “ ขอ ขอโทษที !”

 

ขณะที่พูด ผมก็ลุกขึ้นยืนแล้ว

 

แต่ยัยมู่หลงเหยียนกลับกลอกตาใส่ผม จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็พูดกับผมด้วยความโมโห “ คิดไม่ถึงว่านอกจากนายจะกากแล้ว ยังหน้าด้านแบบนี้ ทั้งกากและยังต่ำช้า.”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด