The Boss Behind The Game – ตอนที่ 17 : การขายเหรียญวิญญาณ

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Boss Behind The Game ตอนที่ 17 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เย่เสี่ยวเอ้อคาดว่าจะได้เหรียญวิญญาณจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะถึง 500 และเธอก็คิดว่าฟังผิด

 

“นายบอกว่ามีเหรียญวิญญาณอยู่เท่าไหร่นะ?” เย่เสี่ยวเอ้อทวนคำถามเพราะไม่อยากจะเชื่อ

 

“ฉันมีเหรียญวิญญาณอยู่ 500 เหรียญ! ฉันจะขายให้เธอทั้งหมดถ้าเธอสามารถจ่ายไหว!” ลู่หวู่พูดพลางยิ้ม

 

เมื่อสังเกตุเห็นสีหน้าที่ดูสงสัยของเย่เสี่ยวเอ้อ ลู่หวู่ก็ก้าวเข้าไปเปิดหน้าต่างบัญชีเงินขึ้นมา เขาโชว์จำนวนเหรียญวิญญาณทั้งหมดให้เธอดูก่อนที่จะกดปิดมันลงไป

 

“เชื่อหรือยังล่ะ?”

 

เมื่อได้เห็นเหรียญวิญญาณจำนวน 500 เหรียญอยู่ในบัญชี เย่เสี่ยวเอ้อก็รู้สึกตื่นตาขึ้นมาทันที ถึงอย่างไร เธอก็เก็บได้แค่ 60 เหรียญวิญญาณจากการต่อสู้ที่ผ่านมาทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น ชายคนนี้ ผู้ที่สวมใส่แค่อุปกรณ์ธรรมดาพื้นฐาน แต่กลับมีเหรียญวิญญาณถึง 500 เหรียญ มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้เธอถึงกับช็อก

 

“ได้ ฉันจะซื้อมันทั้งหมด!” เย่เสี่ยวเอ้อพูดด้วยน้ำเสียงคมเข้ม

 

“ได้เลย งั้นไปที่เว็บไซต์การโอนเงินกันเลย มันปลอดภัยดี”

 

“นั่นไม่จำเป็นหรอก นายแค่เอาเลขบัญชีมาให้ฉัน ฉันจะโอนเงินไปให้เธอในทันที”

 

ลู่หวู่ประหลาดใจกับคำพูดของเธอเพราะมันไม่ใช่การโอนเงินจำนวนน้อยๆ 500 เหรียญวิญญาณมันมีค่าเทียบเท่ากับ 350,000 ดอลล่า!

 

แต่เย่เสี่ยวเอ้อก็ไว้ใจเขา ลู่หวู่ตกลงกับการขายโดยไม่ผ่านเว็บไซต์การโอนเงิน ลู่หวู่ส่งเลขบัญชีไปให้เย่เสี่ยวเอ้อโดยไม่ลังเล

 

“เปิ่นซี โอนเงินไปให้เขา!” เย่เสี่ยวเอ้อตะโกนสั่งเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ

 

เด็กสาวที่ถูกเรียกว่า เปื่นซี พยักหน้าอย่างเร็วก่อนที่จะหายไปในอากาศ

 

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กสาวก็กลับมา “เสี่ยวเอ้อ ฉันได้ทำการโอนเงินไปให้เขาเรียบร้อยแล้ว” เธอรายงาน

 

เย่เสี่ยวเอ้อพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เธอจะไปบอกกับลู่หวู่ “ฉันได้โอนเงินไปให้นายแล้ว นายสามารถเช็คบัญชีได้เลย!”

 

ลู่หวู่พยักหน้า “ถ้าเธอไว้ใจฉัน ฉันก็จะไว้ใจเธอเช่นกัน ฉันจะส่งเหรียญวิญญาณให้ธอตอนนี้เลย”

 

เมื่อเขาพูดจบ ลู่หวู่ก็เปิดหน้าบัญชีเงินขึ้นมาและส่งเหรียญวิญญาณจำนวน 500 เหรียญไปให้เย่เสี่ยวเอ้อ

 

แน่นอน 350,000 ดอลล่ามันเป็นเงินจำนวนมหาศาลและลู่หวู่เองก็ไม่ได้ไว้ใจเย่เสี่ยวเอ้อแบบหน้ามืดตามัว เป่ยลี่ได้บอกกับเขาเอาไว้ก่อนแล้วเมื่อการโอนเงินสำเร็จ ลู่หวู่เพียงแค่แกล้งทำเป็นว่ายังไม่ได้เช็ครายการเงินเข้าของเขาเท่านั้น

 

หลังจากที่เธอได้รับเหรียญวิญญาณแล้ว เย่เสี่ยวเอ้อก็ไปที่ร้านค้าด้วยความสุข เลือกเสื้อคลุมหนังสีแดงและสวมใส่มันทันที

 

ชั่วพริบตาเดียว แสงประกายหลากสีก็สว่างขึ้นมารอบๆตัวของเย่เสี่ยวเอ้อ เธอได้ใส่เสื้อคลุมยาวที่ดูประณีตสง่างาม

 

เมื่อเห็นว่าลู่หวู่กำลังจะกลับไป เย่เสี่ยวเอ้อบังเขาเอาไว้ด้วยมือเธอ

 

“มีอะไรอีกไหม?”

 

“นายหาเหรียญวิญญาณพวกนี้มาได้ยังไง? นี่นายเคลียภารกิจลับอะไรแบบนั้นเหรอ?” เย่เสี่ยวเอ้ออยากรู้แทบขาดใจ

 

“อ้อ มันมีภารกิจสำหรับคนรวบรวมวิญญาณ ตอนที่ฉันเดินเล่นไปรอบๆ ฉันโชคดีที่ได้ไปเจอเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมจำนวนห้าชิ้นแล้วฉันก็เอามันไปขายให้กับร้านค้า”

 

ในตอนแรก เย่เสี่ยวเอ้อพยายามค้นหาว่าเขานั้นเปิดภารกิตลับได้ยังไง แต่คำตอบของลู่หวู่ก็ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้น

 

คนๆหนึ่งจะต้องมีโชคมากแค่ไหนถึงจะได้เจออะไรแบบนี้?

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ ฉันจะพยายามไปตามหาโชคอีกสักครั้ง บางทีฉันอาจจะได้เจอกับวิญญาณดั้งเดิมอีกสักหน่อย”

 

คำพูดของลู่หวู่ทำให้บรรยากาศรอบๆเงียบงันอีกครั้ง

 

เมื่อลู่หวู่จากไป เย่เสี่ยวเอ้อก็หันไปถามสมาชิกของเธอ “มีใครเคยเจอกับวิญญาณดั้งเดิมมาก่อนไหม?”

 

คนพวกนั้นส่ายหน้า

 

ในขณะเดียวกัน ชายคนหนึ่งวิ่งออกมาจากภูเขาแห่งภูตผีด้วยสีหน้าที่ตกใจสุดขีด

 

“พี่เสี่ยวเอ้อ พรรคพวกของเราถูกซุ่มโจมตี!”

 

สีหน้าของเย่เสี่ยวเอ้อแสดงออกถึงความตกใจเมื่อได้ยินชายคนนั้นพูด “พวกเขาถูกโจมตีจากพวกที่มาล้างแค้นอีกแล้วเหรอ?”

 

“ไม่ใช่ พวกเขาถูกโจมตีจากพวก NPC ของเกม!”

 

ด้วยความช็อก เย่เสี่ยวเอ้อพูดขึ้นมาว่า “บอกฉันมาทุกรายละเอียดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง!”

 

“เมื่อทีมของเราจำนวนสิบคน กำลังตามหาผู้เล่นที่จะมาแก้แค้นในภูเขาแห่งภูตผี พวกเราก็ไปเจอเข้ากับกองทัพทหารผีที่ขี่หลังหมาป่ามา พวกนั้นมันสวมชุดเกราะและพวกลูกน้องก็มีไฟลุกท่วมไปทั้งตัว ทำให้มันดูอันตรายและน่ากลัวมาก เมื่อพวกมันมาเจอพวกเราสิบคน พวกนั้นอยากรู้ว่าผู้นำภูตผีตนไหนที่พวกเรากำลังตามหาอยู่”

 

“แล้วนายตอบมันไปว่ายังไง?”

 

“ฉันบอกมันไปว่าพวกเราคือสายเลือดของราชาแห่งเป่ยฉี จากนั้นพวกมันก็เริ่มตามล่าและโจมตีพวกเรา ไม่นานนักทุกคนในทีมของเราก็ถูกฆ่าตายจนหมดเกลี้ยง ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่มีโอกาสที่จะหลบหนีออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เสี่ยวเอ้อก็นึกขึ้นได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่ได้บอกไว้เมื่อตอนเปิดเกม ดูเหมือนว่าพวกราชาและผู้นำแห่งภูตผีนั้นจะเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ทรยศต่อราชาแห่งเป่ยฉี

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้น เย่เสี่ยวเอ้อก็เข้าใจได้ว่าทำไมผู้ติดตามของเธอถึงถูกโจมตีเมื่อพวกเขาเปิดเผยตัวตนเกี่ยวกับการเป็นสายเลือดของราชาแห่งเป่ยฉี

 

“พรรคพวก พวกเรามุ่งหน้าไปที่ภูเขาแห่งภูตผีและสังหารพวกทรยศกันเถอะ!” เย่เสี่ยวเอ้อพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

 

เมื่อได้ดูเนื้อเรื่องตอนเปิดเกมก่อนหน้านี้ เย่เสี่ยวเอ้อก็ระเบิดพลังความโกรธแค้นต่อพวกทรยศ เธอเข้าใจเหตุผลว่าทำไมราชาแห่งเป่ยฉีถึงยอมสละชีพเพื่อสิ่งมีชีวิตอีกนีบล้านชีวิตในดินแดนแห่งเป่ยฉี แต่ไม่ใช่แค่เพียงพวกนั้นจะไม่รู้สึกขอบคุณแล้ว มันยังกล้าที่จะทรยศต่อราชาแห่งเป่ยฉีอีกด้วย สำหรับเย่เสี่ยวเอ้อแล้ว พวกมันได้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายจนเกินกว่าจะให้อภัยได้

 

ยิ่งกว่านั้น เย่เสี่ยวเอ้อยังคิดว่าทหารภูตผีพวกนี้อาจจะสามารถเปิดภารกิจลับบางอย่างได้ด้วย

 

ฝูงชนนับร้อยคนมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งภูตผีโดยไม่มีความกลัวใดๆ

 

หลังจากที่ลู่หวู่ได้ออกจากเกมแล้ว เขาก็รีบเช็คโทรศัพท์ของเขา

 

เงินจำนวน 350,000 ดอลล่าได้ถูกโอนมาที่บัญชีของคุณ เลขลงท้ายด้วย 6573 ยอดเงินปัจจุบัน 351,236

 

“อาหารแสนอร่อย… อาหารแสนอร่อย…” สายตาที่เปล่งประกายด้วยความสุขและตื่นเต้นของเป่ยลี่จ้องมองมา

 

นี่หาเงินได้ง่ายๆเลย เมื่อดูยอดของเหรียญวิญญาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในบัญชีของลู่หวู่ เขารู้สึกพึงพอใจมาก

 

เพื่อฉลองให้กับเงินก้อนแรก ลู่หวู่พาเป่ยลี่ไปที่โรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองเพื่อกินอาหารแพงๆและอร่อยที่สุด นอกจากนี้เขายังซื้ออาหารพวกนั้นกลับบ้านให้เป่ยลี่ผู้ตะกละอีกมากมาย เป่ยลี่ที่เอาใจไม่ยากยิ้มด้วยความสุขจนรอยยิ้มแทบจะเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์

 

พระอาทิตย์ตกดินพอดีเมื่อลู่หวู่กลับมาถึงบ้าน เขานั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ของเขาและเข้าไปที่หน้าหลักของแพลตฟอร์ม173 เพื่อเช็คสถานะของโพลที่ทำขึ้นสำหรับเกมของเขา

 

เป็นดั่งที่เขาคาดเอาไว้ แบทเทิลออนไลน์เป็นผู้นำของโพล จำนวนของผู้เข้าร่วมในตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกิน 80,000 คนไปแล้ว

 

ในตอนนี้ ซึ่งที่ลู่หวู่ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือการรวบรวมเหรียญวิญญาณจำนวน 50,000 เหรียญเพื่อที่จะปลดพลังของทักษะทั้งหมด

 

จริงๆแล้ว เกมเมอร์หลายๆคนก็ครอบครองเหรียญวิญญาณเอาไว้ แต่เขาจะต้องหาวิธีที่จะทำให้พวกผู้เล่นนั้นใช้จ่ายเหรียญวิญญาณ

 

ลู่หวู่ยังตัดสินใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาควรจะประกาศสงครามต่อพวกผู้นำภูตผีแห่งตะวันออกเลยดีไหม เมื่อมันมีสงครามผู้คนก็จะเริ่มใช้เหรียญวิญญาณอย่างแน่นอน

 

หลังจากไตร่ตรองอยู่สักพัก ลู่หวู่ก็ส่ายหน้าและตัดสินใจที่จะยกเลิกแผนนี้ แม้ว่าจำนวนผู้เล่นจะถึง 80,000 คนแล้วก็ตาม แต่ความสามารถของพวกเขามันยังไม่สามารถต่อกรกับพวกทหารผีจำนวนนับหมื่นตนได้ การพ่ายแพ้อย่างราบคาบมันจะยิ่งทำให้กำลังใจของผู้เล่นนั้นหายใจ และยังทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมเสียไปอีกด้วย

 

เมื่อเขาได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เขาก็ได้ไอเดีย ด้วยการช่วยเหลือจากสิ่งประดิษฐ์ ลู่หวู่สร้างภารกิจขึ้นมาให้เหล่าผู้เล่นที่มีเลเวล 15 ขึ้นไป

 

[ภารกิจสอดแนม : มุ่งหน้าไปที่ทิศตะวันออกของคฤหาสน์แห่งความตายเพื่อตรวจสอบอาณาเขตของผู้นำภูตผี รางวัลจะตัดสินจากพื้นที่ทั้งหมดที่ตรวจสอบได้]

 

ภารกิจนี้นั้นมันท้าทายอย่างปฏิเสธไม่ได้เพราะแม้แต่ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่สามารถต่อกรกับทหารผีธรรมดาๆได้

 

แต่ถึงอย่างไร ผู้เล่นก็ได้เปรียบมากกว่าเพราะพวกเขาไม่มีวันตาย มันจะดีที่สุดถ้าส่งพวกผู้เล่นไปเพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของกองทัพภูตผี จากนั้นเป่ยลี่ก็สามารถคัดกรองสถานะของผู้เล่นและรายงานให้กับเขา

 

ลู่หวู่ตั้งใจจะร่างกลยุทธ์หลังจากที่เขาได้ข้อมูลสำคัญของสถานการณ์ทั้งหมด

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่ภารกิจได้ปล่อยออกไป ผู้เล่นจำนวนมากกำลังเดินทางไปที่ภูเขาแห่งภูตผีเพื่อพยายามทำภารกิจนี้

 

ในขณะที่ลู่หวู่กำลังรู้สึกภูมิใจและมีความสุขกับการตัดสินใจของเขา ประกาศสาธารณะก็ปรากฏขึ้น

 

[ขอแสดงความยินดีกับเฉินซีหยูในการก่อตั้งกิล ‘เกรทดราก้อน’ พวกเรากำลังรวบรวมผู้ที่มีความสามารถในเกมเพื่อก่อตั้งกองกำลังในการฟื้นฟู เป่ยฉี!]

 

ลู่หวู่ประหลาดใจมากเมื่อได้เห็นการปรากฏขึ้นของกิลด์แรก เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเฉินซีหยูจะเป็นผู้ก่อตั้งที่เลเวลถึง 20 ได้เร็วขนาดนี้

 

เขาหลับตาลงและจ้องมองไปที่อันเดอร์เวิลด์

 

มีผู้เล่นจำนวนมากมายห้อมล้อมคฤหาสน์แห่งความตายในอันเดอร์เวิลด์และตรงกลางระหว่างผู้เล่นเหล่านั้น เฉินซีหยูก็ยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจอยู่ข้างๆ NPC ลู่โม่

 

เฉินซีหยูเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในขณะนั้น เพื่อที่จะสร้างกิลด์เป็นกิลด์แรก เขาและพรรคพวกของเขาได้ฝึกฝนเพื่อเก็บค่าประสบการณ์อยู่ที่ภูเขาแห่งภูตผีทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดพวกเขาก็เก็บรวบรวมเหรียญวิญญาณจำนวน 50 เหรียญได้สำเร็จและนั่นก็ทำให้พวกเขาก่อตั้งกิลด์ขึ้นมาได้

 

ทันทีนี่กิลด์ได้สร้างขึ้น หน้าต่างการตั้งค่าสำหรับกิลด์ก็ปรากฏขึ้นมาที่หน้าต่างควบคุมของเขา ตราบใดที่ผู้เล่นอยู่ในกิลด์เดียวกัน พวกเขาก็จะสามารถตรวจดูสถานที่ๆผู้เล่นนั้นอยู่ได้ ในขณะเดียวกันห้องพูดคุยสำหรับสมาชิกกิลด์ก็ปลดล็อคออกมา ซึ่งมันมีประโยชน์มากจนปฏิเสธไม่ได้เลยที่มันจะช่วยพัฒนากิลด์ให้แข็งแกร่งขึ้นไป

 

“พี่ชาย ยังรับคนอยู่ไหม?”

 

“พี่ชาย ช่วยแนะนำฉันด้วยนะ ฉันไม่มีทักษะอะไรนอกจากการเปย์เงินให้กับเกม!”

 

“ขออนุญาตเข้าร่วมกิล โปรดตอบรับคำขอร่วมกิลของฉันด้วย!”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด