The Boss Behind The Game – ตอนที่ 71 : ตราประทับของราชาแห่งเป่ยฉี

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Boss Behind The Game ตอนที่ 71 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ชายแก่ผมขาวมองไปที่กู่หยูและซันฉีเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่แปลกประหลาด

 

“ทำไมพวกเจ้าจึงอยากจะขึ้นไปที่จุดสูงสุดเหนือผาแห่งนี้?”

 

ในตอนแรก กู่หยูเพียงแค่อยากจะพูดขำๆ แต่เขาก็ได้รู้ว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับเขาที่จะบอกอะไรกับคนพื้นเมืองในเกม หลังจากคิดได้ เขาก็พูดออกไปอีกครั้ง

 

“พวกเราได้ยินมาว่ามีสมบัติอยู่บนยอดผาแห่งนี้ พวกเราจึงอยากขึ้นไปเพื่อเสี่ยงโชคดูสักครั้ง!”

 

“แค่เจ้ากับสุนัขตัวนั้นน่ะนะ?”

 

ซันฉีปลอบกู่หยูที่กำหมัดแน่นและรีบส่งสัญญาณให้เข้าใจเย็นลง

 

ความโกรธของกู่หยูมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขานั้นได้ยินคำพูดพล่ามที่ออกมาจากปากของชายแก่ผมขาวคนนั้น

 

เมื่อเขากำลังจะระเบิดความโกรธออกมา ชายแก่ผมขาวก็เดินไปอีกห้องหนึ่ง เวลาผ่านไปพักหนึ่ง เขากลับมาด้วยม้วนกระดาษหนังแกะ

 

กู่หยูและซันฉีมองด้วยความสงสัย ชายแก่คลี่ม้วนกระดาษหนังแกะนั้นลงบนโต๊ะ

 

ทั้งสองเดินไปดูที่ม้วนกระดาษในทันที

 

มันมีผาที่สูงตระหง่านอยู่ที่กลางแผ่นกระดาษนั้น แต่ที่ทำให้พวกเขาสงสัยก็คือยอดเขานั้นแบ่งเป็นหลายส่วน และพื้นที่ในแต่ละส่วนนั้นมีรูปวาดของปิศาจดุร้ายอยู่ด้วย

 

“พวกเจ้าเห็นอะไรไหม?” ชายแก่ลูบเคราของเขาและถามคำถามด้วยความจริงจัง

 

กู่หยูพยักหน้า “ถ้าข้าเดินขึ้นไปบนผาแห่งความสิ้นหวัง ก็จะมีปิศาจคอยเฝ้าอยู่ในทุกๆจุด ซึ่งมันอันตรายมาก”

 

ชายแก่ผมขาวส่ายหัว “ปิศาจพวกนี้มันตายไปหมดแล้ว จึงไม่มีอันตรายใดๆ!”

 

กู่หยูพูดไม่ออก

 

เขากำหมัดแน่นอีกครั้ง แต่ซันฉีพยายามหยุดกู่หยูและส่งสัญญาณว่าเขานั้นจะต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้โมโห

 

“งั้นท่านบอกข้าได้ไหมว่าท่านเอารูปภาพพวกนี้มาให้พวกเราดูทำไม?” กู่หยูกัดฟันถามออกไป

 

ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็พร้อมที่จะรับฟังประโยคต่อไปจากตาแก่ปากไม่ดีคนนี้ “แค่สนุกๆน่ะ”

 

“ข้าแค่อยากแสดงข้อความนี้ที่อยู่บนกระดาษให้พวกเจ้าดู!” ชายแก่พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประโยคเล็กๆที่อยู่ตรงมุมขวาล่างของกระดาษ

 

เมื่อกู่หยูและซันฉีได้ฟังดังนั้น พวกเขาก็ชะโงกหัวไปดูด้วยความสงสัย

 

อย่างไรก็ตาม กู่หยูกับซันฉีนั้นไม่เคยเห็นคำพวกนี้ แม้แต่ภาษาที่เขียนเอาไว้พวกเขาก็ไม่รู้จัก พวกเขาแสดงออกถึงความสงสัยมากกว่าเดิม

 

แต่ด้วยการที่มีสิ่งประดิษฐ์ ระบบตรวจจับอัตโนมัตก็เริ่มแปลให้ทันที คำที่ปรากฏอยู่บนรูปภาพนั้นเริ่มเลือนราง

 

[ข้า เป่ยฉี ขอสาบานต่อผู้คนรุ่นหลังว่าจะปกป้องผาแห่งความสิ้นหวังแห่งนี้ ขับไล่ความชั่วร้าย รักษาความเชื่อมั่น!]

 

[มันหมายความว่ายังไง?”

 

ทั้งชายหนุ่มและสุนัขมองหน้ากันด้วยความสงสัยเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา

 

“เรื่องมันยาว” ชายแก่เงยหน้ามองท้องฟ้าและถอนหายใจ

 

“งั้นก็สรุปมาสั้นๆสิ!” กู่หยูตอบห้วนๆ

 

“พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?” สีหน้าของชายแก่จริงจังอีกครั้ง

 

ชายแก่ผมขาวคนนี้เป็นปิศาจอย่างแท้จริง!

 

แต่คำพูดเหล่านั้นมันอยู่แค่ในใจของกู่หยูและซันฉีเท่านั้น พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกไปจริงๆและส่ายหัวพร้อมกัน

 

“ข้าคือทายาทของราชาแห่งเป่ยฉี!” ชายแก่ผมขาวพูดด้วยความภาคภูมิใจ

 

หลังจากพูดจบ ชายแก่ก็คิดว่ากู่หยูกับซันฉีนั้นจะต้องประหลาดใจ แต่เขาก็พบว่าสองคนนั้นกำลังจ้องมองมาที่เขาเหมือนกับว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อน

 

“พวกเจ้าไม่เชื่อข้างั้นสิ?”

 

ครั้งนี้กู่หยูและซันฉีไม่ตอบเขา กลับกัน พวกเขาหันหน้าหนีและเดินไปที่ประตูพร้อมกัน

 

หลังจากจัดการกับเขาเป็นเวลายาวนาน เขาก็กลายเป็นแค่คนโง่!

 

“พวกเจ้าทั้งสองหยุดตรงนั้นแหละ!” ชายแก่ผมขาวกระวนกระวายเมื่อเขาเห็นว่าเขาโอ้อวดไม่สำเร็จ

 

“อะไร?” สองคนนั้นหันมาช้าๆและพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์

 

“ดูสิว่านี่คืออะไร!” ชายแก่หยิบตราประทับสีเทาออกมาจากกระเป๋า

 

กู่หยูและซันฉีมองหน้ากันและอยากที่จะออกไปจากที่นี่อีกครั้ง แต่เขาทั้งสองคนก็หันกลับมาพร้อมกันในทันที

 

[ตราประทับของราชาแห่งเป่ยฉี(ตำนาน)] : ผู้สร้างดินแดนแห่งเป่ยฉี ตราประทับของราชาแห่งเป่ยฉีถูกสร้างขึ้นโดยราชาแห่งเป่ยฉีองค์แรก และแต่งตั้งให้เป็นสัญลักษณ์ของพลังอันแกร่งกล้าและความรุ่งโรจน์ของดินแดนแห่งเป่ยฉี (ยุติแล้ว)

 

พวกเขาทั้งคู่ตะลึงเมื่อพวกเขาเห็นคำแนะนำของตราประทับของราชาแห่งเป่ยฉี

 

“แต่ทำไมมันถึงยุติ?” ซันฉีสงสัย

 

“อาจจะเป็นเพราะว่ามันเก่ามากแล้วและมันไม่มีผลอีกต่อไป” กู่หยูส่ายหัว

 

“ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อข้าหรือยัง!” ชายแก่พูดด้วยความปลื้มใจ

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันและนั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง พวกเขามองไปที่ชายแก่ รอฟังเรื่องราวจากเขา

 

เมื่อชายแก่เห็นเขาทั้งสองนั่งลง เขาก็ถอนหายใจ “เรื่องมันยาว!”

 

“งั้นก็สรุปมาสั้นๆสิ!” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน

 

ชายแก่กรอกตาขึ้น “บรรพบุรุษของฉันป็นผู้สร้างดินแดนแห่งเป่ยฉีขึ้นมา เขาปกครองดินแดนแห่งนี้มานานนับแสนปี ผาแห่งความสิ้นหวังแห่งนี้เป็นที่ที่เขานั้นปกป้องด้วยชีวิตทั้งหมดและเป็นที่ที่ฝังร่างของเขาไว้”

 

“ปิศาจที่พวกเจ้าเห็นบนกระดาษนั้นเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาและทำตามความปราถนาของเขาหลังจากที่เขานั้นตายจากไป มันคือเทพปิศาจผู้ที่ปกป้องดินแดนแห่งเป่ยฉี!”

 

“อะไรคือเทพปิศาจ? มันทรงพลังมากไหม?” กู่หยูถามด้วยความสงสัย

 

“ผาแห่งความสิ้นหวังแห่งนี้เป็นเหมือนเขาเดี่ยวๆที่อยู่บนหัวของเทพปิศาจ… สุดยอดใช่ไหม?” ชายแก่ดูไม่พอใจเล็กน้อยที่กู่หยูขัดจังหวะการเล่าประวัติศาสตร์ของเขา

 

กู่หยูกับซันฉีขนลุกเมื่อได้ฟังเรื่องราว

 

พวกเขารู้ว่าความสูงของผาแห่งความสิ้นหวังนั้นสูงเสียดฟ้า แล้วถ้านี่เป็นเขาบนหัวของเขา พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าเทพปิศาจนั้นจะมีขนาดใหญ่ขนาดไหน บอกได้เลยว่ามันสามารถบดบังพระอาทิตย์กับท้องฟ้าได้มิดชิดเลย

 

“นี่แปลว่าบรรพบุรุษของท่านนั้นได้พิชิตเทพปิศาจตัวนี้แล้วก็ผนึกมันเอาไว้ที่นี่ และทำให้มันเป็นทายาทเพื่อปกป้องที่นี่?”

 

“เป็นไปไม่ได้ แม้จะมีบรระบุรุษของข้าถึงสิบคน ก็ไม่สามารถปราบเทพปิศาจตัวนี้ลงได้” ชายแก่ตอบพร้อมกับกรอกตาขึ้น

 

“ข้าไม่รู้แน่ชัดถึงสาเหตุที่เทพปิศาจนั้นถูกผนึกเอาไว้ที่นี่หรอก แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัย แม้แต่เทพปิศาจที่ถูกผนึกแต่ความคิดที่ชั่วร้ายก็ยังรั่วไหลออกมาเป็นบางครั้ง มันถูกต้องเพราะว่าบรรพบุรุษของข้าต้องต่อสู้กับความคิดชั่วร้ายของเทพปิศาจ และได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายจนหมดและตายลงที่ผาแห่งความสิ้นหวังในระยะเวลาไม่ถึง 100 ปีหลังจากที่ปราบความคิดที่ชั่วร้ายของมันได้สำเร็จ!”

 

“แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับความยากในการปีนขึ้นเขาล่ะ?” กู่หยูถามอย่างสงสัย

 

“มันไม่ใช่เรื่องความยาก มันเป็นเรื่องง่ายๆเลยคือพวกเจ้าไม่สามารถปีนเขานี้ได้!” สีหน้าของชายแก่จริงจังมากขึ้น

 

“ทำไมล่ะ?”

 

“ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะกัดกร่อนจากความคิดชั่วร้ายของเทพปิศาจและยึดร่างของพวกเจ้าเอาไว้เพื่อที่จะกลายเป็นหุ่นเชิดสำหรับเทพปิศาจ”

 

“ปิศาจทุกตัวบนกระดาษแผ่นนี้ เดิมทีแล้วก็ถูกส่งมาโดยบรรพบุรุษของข้าเพื่อหยุดยั้งใครก็ตามที่จะปีนเขาขึ้นไป!”

 

“ช่างลึกลับจริงๆ!”

 

ทั้งกู่หยูและซันฉีมองหน้ากัน แต่กิเลสของพวกเขานั้นกลับลุกโชนไปด้วยไฟ

 

“ข้ากำลังเตือนพวกเจ้าอยู่ ห้ามปีนขึ้นเขา ไม่เช่นนั้นร่างกายที่ถูกยึดไปของพวกเจ้านั้นจะเป็นปัญหา ถ้าพวกเจ้ากลายเป็นหุ่นเชิดของเทพปิศาจเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นหายนะแห่งดินแดนเป่ยฉี”

 

การได้เจอกับคำเตือนที่จริงจังจากชายแก่ผมขาวนั้น ทั้งสองคนมองหน้ากันอีกครั้ง พวกเขาพูดขึ้นมาอย่างชอบธรรม

 

“ได้โปรดอย่ากังวลเลย เพื่อความปลอดภัยของดินแดนแห่งเป่ยฉี พวกเขาจะไม่มีทางปีนเขาลูกนี้ขึ้นไปเด็ดขาด!”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด