The Boss Behind The Game – ตอนที่ 74 : เจ้าต้องการพลังอำนาจหรือไม่?

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Boss Behind The Game ตอนที่ 74 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

กู่หยูยังคนงุนงงหลังจากเขาออกมาจากเหตุการณ์ในอดีต

 

“หัวหน้า คุณสบายดีไหม? ทำไมคุณถึงแข็งทื่ออยู่กับจุด?” ซันฉีตะโกนใส่เขาขณะที่เขาเกาะติดข้างขากู่หยู

 

“ไปให้พ้น” กู่หยูเตะซันฉีออกไป จากนั้นการแสดงออกของเขาก็จริงจังมาก

 

ฉากก่อนหน้าเป็นเหมือนความฝัน แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาชั่วร้ายของเทพปีศาจที่ต้องการทำลายล้างโลก

 

ตั้งแต่การเกิดของเทพปีศาจจนถึงการตื่นขึ้นของเขา กู่หยูกังวลอย่างแท้จริงกับการเปลี่ยนแปลงในความคิดที่เขาเคยผ่านมา ความรู้สึกนั้นเป็นเหมือนเดจาวู  ราวกับว่าเขาเคยเป็นเทพปีศาจ

 

เขาจ้องที่เสาเจดีย์ เห็นได้ชัดว่าเจดีย์ถูกสร้างมานานแล้ว โครงกระดูกจะต้องเป็นของราชาแห่งเป่ยฉี

 

กู่หยูตกอยู่ในความคิดลึก เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมซันฉีถึงถูกผลักออกเมื่อมันสัมผัสเสาขณะที่เขามีประสบการณ์ที่แตกต่างเมื่อเขาทำสิ่งเดียวกัน?

 

“เจ้าต้องการพลังอำนาจหรือไม่?” เสียงก้องในใจของเขา

 

เป็นเสียงที่คุ้นเคยกับเขามาก แม้ว่ามันจะฟังดูแก่กว่าและเหนื่อยล้ามาก แต่เขาก็ยังจำได้ว่าเสียงนั้นเป็นของเทพปีศาจ

 

“คุณคือเทพปีศาจใช่มั้ย?” กู่หยูถามในใจของเขา

 

“เจ้าต้องการพลังอำนาจหรือไม่?” เสียงซ้ำ

 

“คุณกำลังพูดเรื่องโง่เง่าอะไร? อธิบายมันมาให้ดีๆหน่อย” กู่หยูตะคอกเสียงอย่างไม่เกรงกลัว

 

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของเทพเจ้าปีศาจมาจากการแทรกแซงจากภายนอก แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทพเจ้าปีศาจเองนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของความชั่วร้าย กู่หยูคิดว่าเทพเจ้าปีศาจพยายามล่อลวงเขาให้ทำสิ่งชั่วร้าย

 

หลังจากกู่หยูตอบโต้ไป เสียงยังคงนิ่งเงียบสักครู่ก่อนพูดอีกครั้ง

 

“ช่วยข้าสักอย่างได้มั้ย และข้าจะตอบแทนเจ้าด้วยพลังอันไร้ขอบเขต!”

 

“เออ เออ” กู่หยูไม่รู้สึกประทับใจเลย

 

……

 

ในขณะนั้นการแสดงออกของลู่หวู่และเป่ยลี่นั้นเคร่งขรึม

 

พวกเขาเป็นพยานให้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับกู่หยูในตอนนี้ รวมถึงเรื่องย้อนหลังที่แสดงส่วนหนึ่งของความทรงจำของเทพเจ้าปีศาจ

 

ลู่หวู่หันไปมองเป่ยลี่ที่กระโดดเหมือนกวางโดนไฟส่องใส่

 

“ฉันยังไม่ได้ถามคำถามสักคำถามเดียวเลย…” ลู่หวู่พูดอย่างท้อแท้

 

เป่ยลี่หัวเราะอย่างเชื่องช้าหลังจากได้ยินอย่างนั้น

 

“บอกฉันมาซะดีๆ คุณเป็นผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า ‘ลี่’ ใช่มั้ย?” ลู่หวู่จ้องที่เธออย่างไม่กะพริบตา เหมือนพ่อที่ตั้งคำถามลูกว่าทำการบ้านเสร็จหรือยัง

 

“ไม่” เป่ยลี่ตอบโดยไม่ลังเล

 

เมื่อเห็นว่าลู่หวู่ไม่ได้เชื่ออย่างมั่นใจ เป่ยลี่ก็ยกมือขวาของเธอแล้วสาบาน “ฉันสาบานว่ามันไม่ใช่ฉัน แต่ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร”

 

ลู่หวู่ไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะพูดอีกครั้ง “ก่อนหน้านี้คุณบอกฉันว่าคุณอายุประมาณ 300 ปี แต่หญิงสาวที่ปรากฏตัวในที่เกิดเหตุดูเหมือนว่าเธอมีอายุอย่างน้อยหลายหมื่นหรือหลายแสนปี คุณอธิบายได้ไหมว่าคุณรู้จักกันได้อย่างไร?”

 

เป่ยลี่เริ่มดูอึดอัดใจอีกครั้งขณะที่เธอยังคงนิ่งเงียบ

 

“คุณมีเวลาสามสิบวินาทีในการจัดระเบียบความคิดของคุณหรือสร้างเรื่องราวขึ้นมา”

 

คิ้วของเป่ยลี่ขมวดขณะที่เธอคิดอย่างลึกซึ้ง

 

หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที เป่ยลี่ก็เงยหน้าขึ้น เธออ้าปากแล้วหยุดอีกครั้งก่อนที่งับปากไว้เหมือนเดิม เธอมองไปที่ลู่หวู่เหมือนกับลูกสุนัขที่เบิกตากว้างก่อนที่เธอจะกล่าวว่า “น่าเศร้า ฉันไม่อาจสร้างเรื่อวราวขึ้นมาได้”

 

ลู่หวู่นิ่งเงียบ

 

“แล้วแค่บอกความจริงกับฉัน” เขาถอนหายใจขณะที่เอามือประกบใบหน้า

 

“ไม่สามารถบอกได้ ถ้าฉันบอกคุณตอนนี้ แล้ววิญญาณของคุณจะสลายตัวทันที เพราะมันไม่สามารถจัดการความลับของฉันได้!” ใบหน้าของเป่ยลี่บิดเบี้ยงไปด้วยสีหน้าของความเจ็บปวด

 

“มันมีพลังมากเหรอ?” ลู่หวู่รู้สึกประหลาดใจ

 

“ใช่ ดังนั้นในระหว่างนี้ ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณของคุณ ฉันจะบอกคุณเกี่ยวกับทุกสิ่งเมื่อคุณพร้อม” เป่ยลี่ตอบด้วยเสียงจริงจัง

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลู่หวู่ไม่สามารถตัดสินใจได้สักครู่ แต่ในที่สุดเขาก็พยักหน้า

 

เนื่องจากเขาเลือกที่จะเชื่อในเป่ยลี่ แล้วเขาก็จะเชื่อเธอต่อไป ท้ายที่สุดเธอเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของเขามีสีสันและน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม และพวกเขาก็ผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป

 

เขารู้สึกว่าเป่ยลี่ต้องมีเหตุผลของเธอเองที่ไม่บอกเขาทุกอย่าง

 

แต่เมื่อรู้ว่าเธอมีความลับ และยิ่งเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

 

“ยังไงก็ตาม เนื่องจากเทพปีศาจทรงพลังอย่างมาก มันจะไม่เป็นอันตรายต่อวิญญาณของกู่หยูหรอ?” แม้ว่าเป่ยลี่จะบอกเขาเกี่ยวกับคุณสมบัติลึกลับของสิ่งประดิษฐ์ ลู่หวู่ก็ไม่สามารถลดความกังวลเกี่ยวกับกู่หยูได้

 

“ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ความแข็งแกร่งของเทพปีศาจนั้นใกล้เคียงกับพระเจ้าปกติ แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่มีพลังดังกล่าว แต่ก็มีพวกเขาอยู่นับไม่น้อย อย่างไรก็ตาม อำนาจของพวกเขากระจอกไปเลยเมื่อเทียบกับพลังที่ได้จากหกเส้นทางกลับชาติมาเกิด ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลย”

 

เมื่อเขาได้ยินอย่างนี้ ลู่หวู่ก็พยักหน้า แล้วจากนั้นเขาถามว่า “นอกจากนี้ฮืเดริกามิที่ถูกเทพเจ้าปีศาจตามไล่ล่าอ่ะ? เขาอยู่ที่ไหนตอนนี้?”

 

เป่ยลี่ยิ้มอย่างลึกลับขณะที่เธอพูดว่า “ศพอยู่ในสุสานที่เป็นของชายลึกลับที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุดในเป่ยฉี”

 

……

 

“ฆ่าฮิเดริกามิให้ข้า ในทางกลับกัน ข้าจะให้พลังที่ไม่จำกัดแก่เจ้า” เสียงของเทพปีศาจดังสะท้อนในใจของกู่หยูอีกครั้ง

 

“ฮิเดริกามิเหรอ? มันอยู่ที่ไหนตอนนี้?”

 

กู่หยูประทับใจฮิเดริกามิอย่างมาก ฮิเดริกามิสูงกว่า 300 ฟุต และมีกองทัพซอมบี้อันทรงพลัง แม้ว่าเขาจะถูกซัดจนกระเด็นโดยเทพปีศาจ แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

 

“เขาอยู่ตรงนี้!”

 

เมื่อคำพูดสุดท้ายของเทพปีศาจจบลง ฉากหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

พื้นดินเกลื่อนไปด้วยซากศพ ในขณะที่กระดูกจำนวนมากซ้อนกันเป็นภูเขา มีซากโครงกระดูกของมังกรยักษ์หลายตัวระหว่างโครงกระดูก สถานที่เหล่านี้ดูเหมือนจะแห้งแล้งและดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยให้ใครหลุดรอดจากการเห็นมัน

 

“มันซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ช่วยข้าฆ่ามัน และข้าจะมอบพลังที่ไม่มีที่เปรียบให้กับเจ้า”

 

ในขณะที่กู่หยูได้ยิน การแสดงออกของเขากลายเป็นทุกษ์ เอาจริงๆเลยเขาไม่ชอบคนอย่างฮิเดกามิเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เทพปีศาจจะยังคงเป็นเด็กน้อยของเผ่ายักษ์ โดยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป

 

อย่างไรก็ตามเขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของฮิเดกามิ แม้ว่าผู้เล่นนับล้านจะพยายามโถมใส่เขา แต่พวกเขาก็จะจ่ายอย่างหนักในการเอาชนะเขา

 

“ฉันไม่แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับเขา” กู่หยูกล่าวอย่างซื่อสัตย์

 

ในขณะนี้ภายใต้ภูเขาลึก ดวงตาที่ดูชั่วร้ายก็เปิดออก ภายใต้ม่านตามีภาพที่มีลาวาและเปลวเพลิงลุกโชติช่วง

 

ในเวลาเดียวกันคลื่นแห่งความชั่วร้ายก็ระเบิดออกมาจากใต้ดิน และพุ่งผ่านเขาเพื่อไปยังยอดเขา

 

ชายชราผมขาวซึ่งกำลังดื่มในกระท่อมของเขาก็เปิดตากว้าง ใบหน้าของเขาดูตกใจ แต่เขาก็ส่ายหัวทันที เขาหยิบเหยือกเหล้าขึ้นมาและเพลิดเพลินไปกับความสุขของมันต่อไป

 

“ข้าจะไม่หยุดเจ้าในครั้งนี้ หวังว่าเจ้าจะยุติการกระทำที่ชั่วร้ายของเจ้าเมื่อสิ่งที่ครอบงำเจ้าถูกเติมเต็ม”

 

ที่จุดสูงสุดของภูเขา หมอกสีดำหนาแน่นเริ่มก่อตัว ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในหมอกโดยส่องแสงสีแดงเลือด

 

“เจ้าทำไม่ได้ แต่ข้าทำได้!”

 

เมื่อเสียงตะโกนดังก้อง หมอกสีดำก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นเคลื่อนไหว โดยมุ่งไปที่ร่างกายของกู่หยู

 

หัวใจของลู่หวู่เต้นข้ามจังหวะเมื่อเขาเห็นฉากนี้

 

“อ๊ากก” กู่หยูตะโกนด้วยความเข็บปวดขณะที่คลื่นอารมณ์เชิงลบโหมกระหน่ำใส่จิตใจของเขา

 

หลังจากนั้นไม่นาน…

 

“อ๊ากก!”

 

เทพปีศาจเงียบไปสองลมหายใจ

 

“เหตุใดข้าถึงครอบงำไม่ได้? ทำไมวิญญาณของเจ้าถึงติดแน่นกับร่างกายของเจ้า? ทำไม? ข้าไม่เชื่อว่ามันทำไม่ได้!”

 

หมอกดำเริ่มพลุ่นพล่านเข้าออกร่างกายของกู่หยู โดยมันประทะกับร่างซ้ำไปซ่ำมา

 

“อ๊ากกกก อ๊ากกกกกกกกกกก!” กู่หยูร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เทพปีศาจก็งุนงงอย่างสมบูรณ์

 

“อ๊าก หัวของฉันกำลังจะระเบิด!”

 

“หยุดเสียงร้องของเจ้าซะ!”

 

เทพปีศาจตะโกนด้วยความกริ้วโกรธขณะที่หมอกสีดำพุ่งออกมาจากร่างกายของกู่หยู ดวงตาสีแดงปรากฏตัวด้านหน้ากู่หยูอีกครั้ง

 

“วิญญาณที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เจ้าเป็นเสื้อสายของเทพองค์ใด?”

 

“ไอ้บัดซบ! ตอนแรกฉันกำลังพิจารณาว่าฉันจะหาทางล้างแค้นให้ซะหน่อย แต่ตอนนี้มันเป็นแค่ความคิดไปแล้ว คุณกล้าที่จะครอบครองร่ายกายของฉันได้ยังไง!” กู่หยูตะคอกกลับด้วยความโกรธในขณะที่เขาจับหัวตัวเองไว้เพื่อลดอาการปวดหัว

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด