มองยอดเขาทะลุผ่านหมู่เมฆ กู่หยูรู้สึกท้อแท้

 

เขารู้สึกเหนื่อยเมื่อนึกถึงการปีนเขาอีกครั้ง

 

แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้เฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างเทพปีศาจและฮิเดริกามิ แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบและเมนูสถานะของเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ในสภาวะอ่อนแอ

 

กู่หยูทำได้เพียงถอนหายใจและเตรียมพร้อมจะปีนอีกครั้ง แต่จู่ๆก็มีเมฆหมอกสีดำลอยลงมาจากบนยอดเขา มาห่อเขาไว้ และสิ่งต่อไปที่เขารู้สึกคือเขารู้สึกไร้น้ำหนัก

 

เมื่อหมอกดำหายไป กู่หยูก็รู้ว่าเขาได้มาถึงยอดเขาแล้ว และดวงตาที่ชั่วร้ายจ้องมองมาที่เขา

 

“เอิ่มม…เทพปีศาจ ฉันต้องการพลัง” กู่หยูพูดอย่างหงุดหงิด

 

เทพปีศาจไม่ได้ตอบเขา แต่ทันใดนั้นหมอกดำก็หนาขึ้นและจากนั้นก็พุ่งไปที่กู่หยู

 

ขณะที่กู่หยูรู้สึกไม่มั่นคง ภาพของทะเลเลือดปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาและที่กลางทะเลเลือด มีเมล็ดสีม่วงที่ถูกหล่อเลี้ยงโดยทะเลเลือด โดยส่องแสงประกายขณะที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีม่วงหนาแน่น

 

ชุดข้อมูลจำนวนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาให้เขาเห็น

 

[สาวกของเทพปีศาจ] :

 

คำอธิบายอาชีพ : หลังจากทำเควสลับได้สำเร็จ คุณจะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากเทพปีศาจและได้รับคริสตัลเมล็ดพันธุ์จากอำนาจของเทพปีศาจเพื่อเชี่ยวชาญพลังเลือดดั้งเดิม คุณจะได้รับแถบพลังงานพิเศษที่เรียกว่า โลหิตชี

 

[ชี่เลือดระดับ 1] : หลังจากใช้กำลังหมด อัตราการฟื้นตัวจะอยู่ที่ 1% ต่อนาที ใช้โลหิตชีเพื่อเร่งการฟื้นตัวให้เร็วยิ่งขึ้นได้

 

สกิลของอาชีพ :  สาวกของเทพปีศาจ ร่างกายชั่วร้าย เปลวเพลิงโลหิต ดูดลือด จ้องตาชั่วร้าย

 

[สาวกของเทพปีศาจ] : การสืบทอดที่ถูกมอบให้โดยเทพปีศาจเป็นเหมือนพรของเทพเจ้า และเลือดจะได้รับการฟื้นฟู 1 จุดต่อวินาที

 

[ร่างกายชั่วร้าย – ระดับเริ่มต้น] : เมื่อเริ่มใช้สกิลนี้ โลหิตชี 30% จะถูกบริโภค โดยจะเพิ่มสถานะทุกอย่าง 150% เป็นเวลานาน 30 นาที และจะสามารถใช้สกิลอื่นๆได้

 

[เปลวเพลิงโลหิต] : เปลวเพลิงนารากะจะถูกอัญเชิญให้เผาในระยะวงกว้างขนาดใหญ่โดยมีสาวกเป็นจุดศูนย์กลาง ความเสียหายจะเกิดในระยะ 20 เมตร สกิลนี้จะสามารถใช้ได้ต้องอยู่ในสถานะร่างกายชั่วร้ายก่อน และจะบริโภค 30% พลังชี่เชือด

 

[ดูดเลือด] : เลือดที่อยู่ในระยะ 10-30 เมตรจากสาวก สาวกจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านการดึงดูดหลังจากสกิลถูกใช้งาน โดยจะสามารถเพิ่มโลหิตชีและเลือดของตัวเราได้  สกิลนี้จะสามารถใช้ได้ต้องอยู่ในสถานะร่างกายชั่วร้ายก่อน และจะบริโภค 10-50% พลังชี่เชือด

 

[จ้องตาชั่วร้าย] : เมื่อจ้องตาชั่วร้ายถูกเปิดใช้งาน เป้าหมายทั้งหมดที่สบตากับคุณจะถูกกัดเซาะด้วยอารมณ์ด้านลบ และมีโอกาสทำให้เกิดความสับสน ความอ่อนแอและสถานะเชิงลบอื่นๆที่จะเกิดขึ้น สกิลนี้จะสามารถใช้ได้ต้องอยู่ในสถานะร่างกายชั่วร้ายก่อน และจะบริโภค 40% พลังชี่เชือด

 

คำแนะนำในการพัฒนาขั้นอาชีพ : ไม่มีทิศทางที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการพัฒนาขั้นอาชีพของคุณ พยายามขอคำแนะนำจากเทพปีศาจ!

 

ในขณะที่ได้รับพลังจากเทพปีศาจ สิ่งประดิษฐ์ยังคงปรับโครงสร้างร่างกายของกู่หยู โชคดีที่การปรับโครงสร้างนี้เป็นการปรับให้เข้ากับการสืบทอดพลังที่มีข้อจำกัดโดยเทพปีศาจ ขณะที่เป่ยลี่เพียงต้องสร้างภาชนะร่างกาย ถึงกระนั้นมันก็มีค่าเหรียญวิญญาณ 1000 เหรียญ

 

อย่างไรก็ตามรูปแบบรูนมาสเตอร์ที่กู่หยูมีอยู่นั้นถูกถอดออกจากสิ่งประดิษฐ์โดยตรง และลู่หวู่ไม่ได้วางแผนที่จะส่งคืนวัสดุที่ใช้ในการสร้างร่างกายของรูนมาสเตอร์ ดังนั้นเขาจึงเก็บมันไว้

 

หลังจากปรับโครงสร้าง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในร่างกายของกู่หยู

 

กล้ามเนื้อของเขาใหญ่ขึ้นเหมือนกับมังกร และร่างกายของเขาก็สูงกว่าเมื่อก่อน ที่หลังของเขามีรอยสักดวงตาคู่หนึ่งเหมือนดวงตาที่ชั่วร้ายมีเปลวเพลิงห้อมล้อม

 

กู่หยูรู้สึกถึงพลังที่ไหลผ่านร่างของเขา ซึ่งทำให้กู่หยูตื่นเต้นอย่างมาก

 

“เจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกหรือไม่?” ดวงตาที่ชั่วร้ายจ้องมองที่กู่หยู พร้อมพูดเสียงที่น่าดึงดูดสะท้อนในจิตใจของกู่หยู

 

กู่หยูตกใจ และเขาคิดว่าเขาจะต้องสอบถามเทพปีศาจเกี่ยวกับการพัฒนาขั้นอาชีพของเขาซึ่งได้บอกในเมนูอาชีพ ดังนั้นเขาจึงอ้าปากพูดอย่างรวดเร็ว “เทพปีศาจ ฉันจะต้องทำยังไงถึงให้แข็งแกร่งขึ้นและมีพลังมากขึ้น?”

 

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าได้ให้เมล็ดพันธุ์โลหิตให้เจ้า? หากเจ้าฝึกฝนมันสำเร็จ แล้วเจ้าจะสามารถเชี่ยวชาญกฎของโลหิตแห่งความมืด ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎของอันเดิลเวิล์ด เจ้าเข้าใจไหมว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร?”

 

กู่หยูสับสน “มันหมายถึงอะไร?”

 

“หากเจ้าเชี่ยวชาญกฎใดๆของโลก เจ้าจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นพระเจ้า ตราบใดที่จักรพรรดิใหญ่ให้การอภัยเจ้า เจ้าจะสามารถเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ได้”

 

เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ กู่หยูก็นึกถึงความทรงจำของเขาในการต่อสู้ระหว่างเทพปีศาจและฮิเดริกามิซึ่งเกือบทำลายโลก ทำให้เขากระวนกระวายและรีบตะโกน “แค่บอกราคามา”

 

เทพปีศาจแสดงท่าทางสงสัย

 

เมื่อรู้ว่าเขาพูดสิ่งผิดปกติ กู่หยูยิ้มอย่างอายๆ “เทพปีศาจ คุณเป็นหัวหน้าของฉันตอนนี้ สอนฉันถึงวิธีที่จะเป็นคนแข็งแกร่ง”

 

“ความยากลำบากในการฝึกฝนเมล็ดพันธุ์นั้นไกลเกินจินตนาการของเจ้า อาจจะต้องใช้เวลาหลายร้อยหลายพันปีในการฝึกฝนและอาจมีการล้มเหลวระหว่างกระบวนการฝึกฝนเมล็ดพันธุ์ แต่ข้าสามารถช่วยให้เจ้าเร่งความเร็วฝึกได้” เสียงเทพปีศาจปรากฏขึ้นอีกครั้งในจิตใจของกู่หยู

 

กู่หยูตระหนักถึงบางสิ่งและรีบพูดไปทันที “หัวหน้า ฉันจะพยายามทำทุกอย่างที่คุณปรารถนา”

 

“ข้าสัมผัสได้ถึงการคงอยู่ของฮิเดริกามิ เป็นมันแน่ๆ ค้นหามันและฆ่ามันซะ!”

 

ทันทีที่เทพปีศาจพูดเสร็จ ก็มีภาพก็ปรากฏขึ้นในใจของกู่หยู

 

เมืองที่งดงามตั้งอยู่บนผืนดิน และเหนือเมืองมีโรงศพที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตามเมืองนี้ว่างเปล่าสเหมือนเมืองผี

 

[ความเกลียดชังที่ไม่จางหาย (เควสยกระดับอาชีพ)] :

 

อธิบายเควส : ไปที่ อีวิ้วไนท์แมร์ซิตี้ ฆ่าฮิเดริกามิที่อ่อนแอและทำตามที่เทพเจ้าปีศาจบอกให้สำเร็จ ไม่มีเวลาจำกัดสำหรับเควสนี้

 

รางวัลเควส : รับรางวัลจากเทพปีศาจ (การพัฒนาขั้นอาชีพ)

 

กู่หยูตกตะลึงเป็นเวลาสักครู่หลังจากที่ได้เห็นเควสใหม่ และจากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างรุนแรงต่อดวงตาชั่วร้ายเพื่อแสดงว่าเขายอมรับเควสนี้

 

แม้ว่าเควสนี้จะยากมาก อย่างน้อยก็ไม่มีเวลาจำกัด ตราบใดที่เขายังสามารถยกระดับและเติบโตให้แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้กิลด์ของเขาก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเขามีโอกาสทำเควสสำเร็จ

 

“เจ้าไม่กลัวงั้นหรือ?” เห็นได้ชัดว่าทัศนคติของเขาทำให้เทพปีศาจรู้สึกแปลกใจ

 

“จะกลัวไปทำไม ฉันไม่กลัวตาย” กู่หยูหัวเราะหึๆ

 

“ข้าเริ่มชอบเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ข้าพบว่าเจ้าไม่กลัวตั้งแต่แรกจนจบ แม้ว่าข้าจะควบคุมร่างของเจ้าก่อนหน้านี้ก็ตาม เจ้า…พอได้” เสียงของเทพปีศาจปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

กู่หยูหัวเราะหึๆ “เทพปีศาจ มีอะไรอีกบ้างที่ท่านต้องการอีกไหม? ถ้าไม่มี ท่านช่วยส่งผมลงภูเขาได้ไหม?”

 

เทพปีศาจไม่ได้ตอบกลับในเวลานี้ แต่หมอกสีดำปรากฎตัวและล้อมรอบกู่หยู

 

เมื่อหมอกสีดำหายไปอีกครั้ง กู่หยูก็รู้ว่าเขามาถึงบ้านไม้

 

ในขณะนี้ กู่หยูอารมณ์ดี เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะได้รับการสืบทอดอย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรสามารถทำให้เขามีความสุขกว่านี้อีกแล้ว แน่นอนว่าเขาจะผจญภัยไปทั่วทุกที่ในเกมนี้เพื่อหาโอกาสได้รับเควสลับอื่นๆ

 

ก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว กู่หยูก็ยื่นมือไปเคาะประตูไม้ “ชายชรา ฉันมารับสุนัขแล้ว เปิดประตูให้หน่อย”

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูก็มีเสียงแล้วถูกเปิดออก ชายชราเดินออกมาโดยถือซันฉีที่มีใบหน้าสีแดง

 

“พาไอ้หมาโง่นี้ออกไป”

 

หลังจากพูดเสร็จแล้ว ชายชราก็โยนซันฉีที่เมาออกไป

 

“ฉันไม่ต้องจากไป ฉันยังอยากดื่มต่ออีก ฉันจะไม่ไปถ้าฉันไม่ชนะวันนี้” ซันฉีโซเซเมื่อมันพยายามลุกขึ้น เมื่อเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวมันก็ล้มลงไปบนพื้นอีกครั้ง

 

“ไปกันเถอะ เจ้าสุนัข” กู่หยูก้าวไปข้างหน้าและอุ้มซันฉีขึ้นมา

 

“ฉัน…ฉันจะไม่จากไป เติมอีก เราจะต่อสู้กันจนถึงรุ่งเช้า!”

 

ซันฉีผลักมือกู่หยูออกไปและล้มลงไปที่พื้น จากนั้นมันก็ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคงและวางมือซ้ายไว้บนเอวของมัน  โดยมือขวาชี้ไปที่ชายชราและพูดด้วยใบหน้าสีแดง “คุณ…คุณอย่าดูถูกฉัน…ฉันยังสมารถ…ดื่มได้!”

 

“มันสนุกมากที่ได้เห็นสุนัขของเจ้าเมา” ชายชรายืนพิงกรอบประตูและดื่มไวน์ผลไม้จากถ้วยตามด้วยหัวเราะ

 

“เจ้าสุนัขโง่ หยุดอะไรโง่ๆซะ” กู่หยูที่ไม่พูดอะไรเลยในตอนนี้ก็ดึงขาข้างหนึ่งของสุนัขและเหวี่ยงซันฉีไปที่ไหล่ของตัวเอง

 

หลังจากกล่าวคำอำลากับชายชรา กู่หยูเริ่มเดินลงไปจากภูเขาในขณะที่แบกซันฉีไว้

 

ตลอดการเดินทาง ซันฉีพูดเรื่องไร้สาระและทำให้หงุดหงิดไปตลอดทาง สิ่งนี้สร้างความรำคาญให้กับกู่หยูมากจนเขาแทบทนไม่ได้ที่จะทุบซันฉีไปที่พื้นและแสดงให้เห็นถึงทักษะการตีสุนัข