หลังจากทัวน์นาเม้นต์ผ่านไปห้าชั่วโมง กราฟสถิติปรากฏบนหน้าจอขนาดใหญ่บนเวที

 

ด้วยสถิติ สมาชิกผู้ชมทั้งหมดที่ดูทัวน์นาเม้นต์การยึดครองต้องประหลาดใจ

 

จากข้อมูล พบว่าจำนวนผู้เล่นทั้งหมดที่เสียชีวิตในแผนที่ทัวร์นาเมนต์ภายในช่วงเวลาห้าชั่วโมงมีประมาณ 5.32 ล้านครั้ง มีอาวุธพัง 35,212 ชิ้นและชุดเกราะ 34,212 ชิ้นที่พัง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมอุปกรณ์ในร้านเพียงอย่างเดียวมีจำนวนถึง 500,000 เหรียญวิญญาณและการบริโภคยาชนิดต่างๆนับไม่ถ้วน

 

มีการยกธงของป้อมปราการทั้งหนึ่งร้อยแห่งรวมกันมากกว่า 3,000 ครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วธงป้อมปราการแต่ละแห่งก็ถูกเปลี่ยนไปสองสามครั้งในหนึ่งชั่วโมง

 

สกายดราก้อนซิตตี้ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกมีสิบกิลด์สับเปลี่ยนกันป้องกันในหนึ่งชั่วโมง การต่อสู้น่าเร้าใจอย่างมากขณะที่ผู้ชมเดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น

 

สุดยอดการต่อสู้นี้ได้โหมแรงมาสู่ขั้นตอนที่บ้าคลั่งในชั่วโมงสุดท้ายแล้ว ความดุร้ายของการต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกิลด์ที่ยังไม่ได้ยึดป้อมปราการเริ่มบุกอย่างบ้าคลั่งจนกว่าจะตายกันไปข้าง

 

……

 

สำหรับเมืองเป่ยฉีที่เป็นเมืองที่เป็นจุดที่น่าสนใจมากที่สุดในทัวน์นาเม้นต์การยึดครอง เจ้าของป้อมปราการถูกสับเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง แม้แต่กิลด์ที่ทรงพลังเช่นกิลด์มิธก็ไม่สามารถปกป้องป้อมปราการได้นานกว่ายี่สิบนาที

 

ในการต่อสู้เพื่อยึดเมืองเป่ยฉี กิลด์ที่โดดเด่นที่สุดนอกเหนือจากกิลด์มิธอันทรงพลังนั้นก็คือกิลด์เดโมลิชั่น

 

กิลด์เดโมลิชั่นได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันน่าทึ่งของพวกเขาในการต้องการพิชิตทัวร์นาเมนต์ป้อมปราการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการบังคับบัญชาส่วนตัวของหัวหน้ากิลด์อย่างหลิ่วไช่ พวกเขาสามารถปกป้องเมืองเป่ยฉีได้อย่างไม่คาดคิดเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงโดยสร้างสถิติใหม่สำหรับเวลาป้องกันป้อมปราการในหนึ่งร้อยป้อมได้นานที่สุด

 

โดยอาศัยความร่วมมือของสมาชิกกิลด์ พวกเขาสามารถพิชิตเมืองได้ถึงสามครั้ง พวกเขาเป็นกิลด์ที่สามารถยกธงขึ้นในเมืองเป่ยฉีได้เป็นเวลานานที่สุด

 

ในการต่อสู้ในทัวน์นาเม้นต์นี้ทำให้เกิดอริเกิดความเกลียดชังของแต่ละกิลด์ได้เป็นอย่างดี อาจกล่าวได้ว่าการต่อสู้นี้ทำให้ผู้ชมได้ดูฉากบู้ที่มันส์ยดย้อย

 

ในช่วงชั่วโมงสุดท้าย กิลด์ที่ปกป้องป้อมปราการยังเป็นกิลด์มิธ

 

หลังจากทำลายประตูป้อมปราการได้ จำนวนสมาชิกขนาดใหญ่จากกิลด์ต่างๆก็เริ่มพุ่งเข้าไป พวกเขารีบไปที่ศูนย์กลางของป้อมปราการที่มีการวางธงป้อมปราการ

 

“ทุกคน ไม่ต้องกังวลกับการใช้ยา ทำให้เลือดคุณเต็มตลอดเวลาและปกป้องเมืองเป่ยฉีจนกว่าคุณจะตาย ตราบใดที่เราสามารถยึดมั่นได้ เราจะเป็นผู้ชนะ” เสียงคำรามของกู่หยู่ดังสนั่นไปทั่วช่องพูดคุยกิลด์

 

หากพวกเขาสูญเสียเมืองเป่ยฉีอีกครั้ง แม้แต่กู่หยูก็ไม่กล้ารับประกันได้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะป้อมปราการได้อีกครั้งภายใต้การโจมตีอย่างชมมุลของกิลด์ต่างๆ

 

ดังนั้นในมุมมองของกู่หยู นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขา

 

สำหรับกิลด์อื่นๆ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นการโจมตีของพวกเขาจึงโจมตีอย่างดุเดือดอย่างถึงที่สุด

 

เวทมนตร์คาถานับพันชนกันภายในเมืองเป่ยฉี อาคารโดยรอบทั้งหมดถูกทำลายและคลื่นของการโจมตียังคงมาเรื่อยๆ

 

ในฐานะผู้ป้องกันของป้อมปราการ กิลด์มิธได้สร้างวงกลมแห่งการป้องกันรอบธงและพยายามดิ้นรนเพื่อปกป้องป้อมปราการจากผู้รุกราน

 

การโจมตีแบบกลุ่มคราวนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ในขณะที่พวกเขาโจมตีกิลด์มิธ พวกเขายังคงเฝ้าสังเกตการณ์กระทำของกิลด์อื่นๆ

 

ท้ายที่สุดป้อมปราการมีได้แค่หนึ่งธง พวกเขาจะไม่ยอมแพ้โอกาสสุดท้ายให้กับคนอื่นๆ

 

หลิ่วไช่พูดขึ้น “ทุกคน ก่อตัวเป็นรูปขบวนกองดาบแหลม อ้างฉันเป็นจุดแหลมของมีดและแผ่ไปข้างหลัง รีบเข้าเร็ว!”

 

หลังจากหลิ่วไช่ตะโกนออกไป สมาชิกกิลด์ก็ย้ายมาอยู่เบื้องหลังหลิ่วไช่ด้วยการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสร้างแนวการโจมตีเหมือนใบมีดที่แหลมคม

 

การก่อตัวด้านข้างเป็นพวกอาชีพนักรบที่สามารถต่อสู้และแบกรับดาเมจในขณะที่นักฆ่าที่ยืนอยู่ด้านหลังปกป้องนักเวททุกคนที่อยู่จุดตรงกลาง จากนั้นพวกเขาก็แทงเข้าไปที่แนวป้องกันของกิลด์มิธเหมือนใบมีดที่แหลมคม

 

ในขณะนี้ความสามารถของซีออฟวอร์ได้ถูกใช้งาน ด้วยพรการรักษาและการเร่งความเร็ว กิลด์มิธระเบิดความสามารถที่แข็งแกร่งและฉีกการป้องกันจนเป็นช่องโหว่ของแนวป้องกันของกิลด์มิธ จากนั้นพวกเขาพุ่งเข้าหาธงป้อมปราการ

 

การจู่โจมครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปและทำให้กู่หยู่ไม่ทันตั้งตัวทำให้เขาประหลาดใจ ซึ่งตัวกู่หยูยังป้องกันอยู่อีกด้านอยู่

 

เมื่อมองไปที่กิลด์เดโมลิชั่นที่อยู่ใกล้กับธงป้อมปราการ กู่หยูถูกเติมเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง

 

เมื่อกิลด์เดโมลิชั่นกำลังจะมาถึงด้านหน้าธงป้อมปราการ พันธมิตรนักฆ่าที่นำโดยลู่ฉานก็ทำลายแนวป้องกันด้านนอกของกิลด์มิธจากด้านข้างแล้วพุ่งเข้ามาชนกับกิลด์เดโมลิชั่นพอดี

 

แม้แต่กู่หยูก็ไม่ได้คาดหวังว่าพันธมิตรนักฆ่าจะสร้างความกดดันให้เขา

 

เหลือเวลาอีกไม่ถึงสามสิบนาที ลู่ฉานรู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ หากหลิ่วไช่สามารถคว้าธงได้และใช้เวลาในการคุ้มกันห้านาทีของการเพิ่งยึดป้อมได้ หลิ่วไช่น่าจะเป็นผู้ชนะในที่สุด ดังนั้นเขาต้องหยุดเขา

 

ในขณะนี้แนวป้องกันหลายเส้นก็พังทลายลงเช่นกัน หวู่กัวอี้ เย่เสี่ยวเออร์ และคนอื่นๆก็รีบมุ่งตรงที่จุดกลางธงอยู่ การจ้องมองซึ่งกันและกันเกิดขึ้นในระหว่างกิลด์ทั้งหกทันที

 

ครั้งนี้ไม่มีพันธมิตร ตราบใดที่กิลด์ใดมาขวางกั้นสายตาพวกเขานั้นคือศัตรู

 

กิลด์ใดก็ตามที่เข้าใกล้ธงป้อมปราการจะเปลี่ยนเป็นเป้าหมายของกิลด์อื่นทันที สงครามจิตวิทยาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

“หัวหน้าไช่ ฉันจะสร้างเส้นทางให้คุณ ไปข้างหน้าและคว้าธงป้อมปราการให้ได้”

 

ทันทีที่ชี่หมิงพูดจบ เขาก็กระแทกไม้คทาของเขากับพื้นและผีหลายตัวก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน จากนั้นชี่หมิงก็โบกมือและผีก็กลายเป็นลมหมุนวนพัดผ่านไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน ทำให้ฝูงชนแยกออกเปิดเป็นเส้นทาง

 

“ขอบคุณ” หลิ่วไช่หันหัวของเขาและพยักหน้าอย่างเคร่งเครียดที่ชี่หมิง อัญมณีในร่างกายของเขาก็เริ่มส่องแสงในทันทีและเขาก็พุ่งไปข้างหน้าเหมือนเสือ

 

“ฉันอยู่ที่นี่ ใครจะกล้าข้าม” อยู่ดีๆก็มีเงาปรากฏขึ้นในทันทีและดาบจิตวิญญาณสีแดงก็เฉือนอย่างเต็มกำลังออกไป ทำให้หลิ่วไช่ต้องล่าถอย

 

ร่างของเอ้าเจี้ยนปรากฎขึ้นในทันที

 

กิลด์มิธได้มอบวัสดุจำนวนมหาศาลให้แก่เอ้าเจี้ยนเพื่อสนับสนุนดาบจิตวิญญาณของเขา ดังนั้นในที่สุดผู้เชี่ยวชาญดาบคนนี้ก็ปรากฏตัวในการต่อสู้ในรอบสุดท้ายนี้

 

“ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของคุณเอง” ชี่หมิงก้าวไปทางด้านหน้าของเอ้าเจี้ยนที่กำลังจะฆ่าหลิ่วไช่

 

“มันเป็นคุณนั้นเอง” รูม่านตาของเอ้าเจี้ยนหดตัว

 

“ฉันเอง” ชี่หมิงหัวเราะ

 

“ผู้แพ้”

 

“ไม่มีอะไรที่แน่นอน คุณอาจไม่สามารถเอาชนะฉันได้ในครั้งนี้”

 

“เดี๋ยวก็รู้” เมื่อเสร็จคำพูด เอ้าเจี้ยนก็โบกมือซ้ายและมีดาบยาวสีม่วงพุ่งออกมาจากหลังของเขา จากนั้นเขาก็ถือมันไว้ในมือซ้าย

 

ในเวลาเดียวกัน ชี่หมิงก็เปิดใช้งานความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ผี มันทำให้มันเติมโตขึ้นและกล้ามเนื้อบนแขนของมันก็แข็งแกร่งพอๆกับมังกรโบราณ ผิวของมันถูกปกคลุมไปด้วยสีดำราวกับว่าเป็นรูปปั้นปีศาจดำ

 

ผู้ฝึกตนทั้งสองได้มาต่อสู้กันอีกครั้ง