กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 79 – 80: ซื้อบ้านจ่ายเต็ม, กู้ม่านออกจากโรงพยาบาล

อ่านนิยายจีนเรื่อง กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Reincarnation Of The Businesswoman At School ตอนที่ 79-80 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 79: ซื้อบ้านจ่ายเต็ม

 

ภายในห้องนั่งเล่น มีแชนเดอเลียร์ โซฟา โต๊ะเก้าอี้ พรม ตู้วางทีวีพร้อมด้วยทีวีขนาดห้าสิบนิ้ว

 

ในห้องทานอาหาร มีโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้

 

ในห้องครัวมีตู้เย็น เตาอบ เตาแก๊ส หม้อและกระทะ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกคลุมไว้ ของใช้ทั้งหมดเป็นของใหม่ มีเพียงสิ่งเดียวที่ขาดคือข้าวสาร น้ำมันและกระเทียม นอกจากนี้ยังมีระเบียงพร้อมเครื่องซักผ้าอัตโนมัติในห้องครัว

 

ในห้องทำงานมีตู้หนังสือ โต๊ะ โซฟาตัวเล็กสามตัว และโต๊ะกาแฟ

 

ในห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำ ห้องแต่งตัว เตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง ยังมีห้องน้ำ เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะและเก้าอี้อยู่ในห้องนอนที่สองอีกด้วย

 

ส่วนในห้องนอนที่สาม มีเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะและเก้าอี้ แต่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว

 

บ้านถูกทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นมันจึงสะอาดและไม่มีฝุ่นเกาะให้เห็น

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเธอย้ายเข้ามา มันต้องถูกทำความสะอาดอีกรอบหนึ่ง

 

“คุณกู้ คุณเป็นเพื่อนกับอี้ฟาน ดังนั้นผมไม่มีวันโกหกคุณครับ การตกแต่งที่นี่นั้นมีมาตรฐานสูง เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ทุกอย่างล้วนคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีใบรับรอง มีใบแจ้งราคาและใบรับประกัน คุณไม่ต้องกังวลอะไรเลยทั้งนั้น” เว่ยจื่อลุ่ยกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

จริงๆแล้วกู้หนิงก็พอจะรู้ว่าของทุกชิ้นนั้นมีคุณภาพดีเยี่ยมเพียงแค่ใช้ตามองและมือสัมผัส

 

พวกเขาไปบ้านอีกหลัง ซึ่งมันก็เหมือนๆกัน กู้หนิงเลยตัดสินใจซื้อทั้งสองหลัง

 

ถึงแม้เว่ยจื่อรุ่ยจะรู้ว่ามีโอกาสสูงที่กู้หนิงจะซื้อบ้าน แต่เขาก็ยังตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากกู้หนิง

 

 

เว่ยจื่อรุ่ยและฉินอี้ฟานเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่เขาไม่ได้มาจากครอบครัวคนรวย เขาเก็บสะสมทุกอย่างเองจากการทำงานหนัก เขาขายบ้านได้หนึ่งหลัง เขาก็ได้ค่าคอมมิชชั่น แล้วจะไม่ให้เขายิ้มหน้าบานมีความสุขได้ยังไง?

 

เว่ยจื่อรุ่ยกลายมาเป็นผู้จัดการเฟิ่งหัวแมนชั่นซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ตอนที่เขาอายุยังน้อย เขาเป็นคนที่มีความสามารถ

 

“คุณกู้ คุณจะจ่ายเต็มจำนวนหรือผ่อนชำระครับ?” เว่ยจื่อรุ่ยเอ่ยถาม

 

“เต็มจำนวนค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

เว่ยจื่อลุ่ยตกใจอีกครั้ง

 

เต็มจำนวน?

 

บ้านตกแต่งแล้วพื้นที่หนึ่งร้อยหกสิบตารางเมตรตั้งอยู่ในตึกด้านหน้ามีราคาราวๆสามสิบล้านหยวน

 

เด็กสาวคนนี้ต้องรวยมากแน่ๆ!

 

พูดตามตรงถึงแม้ว่าเฟิ่งหัวแมนชั่นจะเป็นสถานที่พักอาศัยที่มีแต่คนรวยอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกผ่อนชำระ มีครอบครัวกว่าสองพันครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่เฟิ่งหัวแมนชั่นแห่งนี้ แต่มีครอบครัวไม่กี่หยิบมือที่จ่ายเต็มจำนวน

แม้แต่คนที่รวยมีเงินหลายสิบล้านหยวนก็ยังแบ่งชำระ พนักงานขายสามารถแยกค่าคอมมิชชั่นจากดอกเบี้ยได้ และค่าคอมมิชชั่นทั้งหมดจะได้มากกว่าลูกค้าจ่ายเต็มจำนวน

แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะสามารถทำงานที่นี่ได้นานแค่ไหน คงเป็นการดีกว่าที่จะรับค่าคอมมิชชั่นเต็ม

“เจ้าของบ้านทั้งสองหลังไม่ใช่คนๆเดียวกัน ตอนนี้ฉันมีแต่สำเนาบัตรประชาชนของแม่กับของฉัน ฉันจะซื้อหลังหนึ่งก่อนและจ่ายมัดจำสำหรับอีกหลัง พรุ่งนี้ฉันมาจ่ายส่วนที่เหลือค่ะ

“ไม่มีปัญหาครับ” เว่ยจื่อรุ่ยตอบ เขาช่วยกู้หนิงดำเนินการกระบวนการทางกฎหมายด้วย

กู้หนิงเตรียมสำเนาบัตรประชาชนกู้ม่านเอาไว้แล้ว เธอเขียนแค่ชื่อกู้ม่านเป็นเจ้าของบ้าน เพราะการซื้อบ้านหลังแรกโดยชำระเต็มจำนวนใช้แค่สำเนาบัตรประชาชนก็พอ หลังที่สองก็ลำบากหน่อยเนื่องจากเป็นบ้านที่ซื้อหลังการแต่งงานจึงจำเป็นต้องมีทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนและทะเบียนสมรส

กู้หนิงไม่ได้เขียนแต่ชื่อกู้ชิงเป็นเจ้าของบ้านคนเดียวเพราะว่าเธอเป็นญาติทางสายเลือด กู้หนิงยังเขียนชื่อลุงเจียงซู่ด้วยเพราะเขาเป็นคนดี เขาปฏิบัติตัวดีต่อกู้ชิงและเจียงซินหยู

ดังนั้นกู้หนิงจึงถือว่าเจียงซู่ไม่ใช่คนนอก

“คุณกู้ บ้านตกแต่งแล้วทั้งสองหลังหนึ่งร้อยหกสิบตารางเมตร ราคาทั้งหมดอยู่ที่สิบสามล้านหกแสนหยวน หักส่วนลดแล้วจะอยู่ที่สิบสองล้านเก้าแสนสองหมื่นล้านหยวน” เว่ยจื่อลุ่ยแจ้งราคาให้กู้หนิงทราบ

“ขอบคุณมากค่ะ” กู้หนิงขอบคุณเขาด้วยใจจริง

กู้หนิงรู้ว่าเขาทำงานดีมาก และเธอก็ซาบซึ้งใจที่เขาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อเธอ นอกจากนี้เว่ยจื่อรุ่ยยังได้ค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายนี้เกือบหนึ่งแสนหยวน

“ราคาบ้านหนึ่งหลังหกล้านสี่แสนห้าหมื่นหยวนและมัดจำอีกหนึ่งหลังหนึ่งแสนหยวน วันนี้คุณกู้ต้องจ่ายหกล้านห้าแสนห้าหมื่นหยวน” เว่ยจื่อรุ่ยบอก

เมื่อเว่ยจื่อรุ่ยพากู้หนิงไปยังเคาร์เตอร์ชำระเงิน พนักงานก็ตกตะลึง

อะไรนะ? จ่ายเต็ม? ลูกค้าคนนี้ต้องรวยมากๆแน่!

ไม่นานเว่ยจื่อรุ่ยก็จัดการเอกสารสัญญาซื้อขายเรียบร้อย กู้หนิงได้รับกุญแจบ้านมา เธอกับกู้ม่านสามารถย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย

กู้ม่านฟื้นตัวเต็มที่แล้วและพร้อมออกจากโรงพยาบาล

ก่อนที่กู้หนิงจะกลับออกไป เธอก็ฝากกุญแจไว้กับเว่ยจื่อรุ่ย เธอขอให้เขาหาคนทำความสะอาดบ้านให้เธอ เธอต้องการให้บ้านสะอาดก่อนที่เธอจะย้ายเข้าไปอยู่

แน่นอนว่าเว่ยจื่อลุ่ยสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

กู้หนิงกลับไปแล้ว ข่าวที่เว่ยจื่อรุ่ยขายบ้านได้โดยลูกค้าชำระเต็มถูกกระจายไปทั่วทั้งแผนกขาย พวกเขาเอาแต่ถามว่าเว่ยจื่อลุ่ยทำยังไง

เว่ยจื่อรุ่ยเองก็ไม่ได้เก็บเป็นความลับ เขาบอกเพื่อนร่วมงานว่าคนซื้อเป็นเพื่อนของเพื่อนเขา เขายังบอกอีกว่าลูกค้าซื้อบ้านสองหลังแบบจ่ายเต็มจำนวนวันนี้ แต่เอกสารเธอยังไม่ครบ เธอเลยมัดจำไว้ก่อนอีกหลัง เธอจะกลับมาจ่ายส่วนที่เหลือพรุ่งนี้

ทุกคนตกตะลึงไปตามๆกัน

เด็กสาวคนนี้คงจะเป็นเศรษฐีที่รวยสุดๆ!

ตอนที่กู้หนิงออกมาก็เป็นเวลาห้าโมงกว่าแล้ว เธอรีบโทรหากู้ม่านทันทีเพื่อเชิญครอบครัวป้ากู้ชิงให้มาเจอกัน เธอตั้งใจจะกินข้าวกับพวกเขาเพื่อเฉลิมฉลอง

ช่างบังเอิญที่วันนี้ครอบครัวป้ากู้ชิงอยู่ที่โรงพยาบาลกับกู้ม่าน ดังนั้นกู้หนิงจึงตรงไปที่โรงพยาบาลเลย

เธอวางแผนไปเยี่ยมกู้ม่านก่อนจากนั้นค่อยไปซื้อของใช้จำเป็นตอนกลับ จากนั้นเธอก็เรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาล

เฟิ่งหัวแมนชั่นอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ใช้เวลาเพียงสิบสองนาทีก็มาถึงถ้ารถไม่ติด แต่ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนก็อาจใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึง

เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาล เธอโทรหาอันเฉียนเพื่อบอกว่าแม่ของเธอกำลังจะออกจากโรงพยาบาล และเธออยากเชิญอันเฉียนมาร่วมทานอาหารด้วยกัน กู้หนิงต้องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลคืนให้อันเฉียนด้วย

อันเฉียนปฏิเสธไม่รับเงินจากกู้หนิง มันไม่ได้มากมายสำหรับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นกู้หนิงเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ซึ่งมันประเมินค่าไม่ได้กับสิ่งที่ทำให้กู้หนิงด้วยซ้ำไป

แต่เธอตอบรับคำเชิญไปร่วมทานข้าวด้วย เธออยากจะเป็นเพื่อนกับกู้หนิงจริงๆ

กู้หนิงไม่อยากเถียงกับอันเฉียนผ่านโทรศัพท์ ถึงยังไงเธอก็จะหาทางคืนเงินอยู่ดี

กู้หนิงทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้กู้ม่านเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงค่อยขึ้นไปชั้นบน

Chapter 80: กู้ม่านออกจากโรงพยาบาล

ในห้องคนป่วย กู้หนิงทักทายครอบครัวป้ากู้ชิงทีละคน กู้หนิงมีความสุขที่เห็นแม่ของเธอมีน้ำมีนวลขึ้นและมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน

กู้ม่านได้บอกกู้ชิงกับเจียงซู่ว่ากู้หนิงออกไปหาบ้านหลังใหม่

“หนิงหนิง หนูหาบ้านได้รึยังจ้ะ?” กู้ชิงถามกู้หนิงเมื่อเธอเข้ามาในห้อง ถ้ากู้หนิงยังหาบ้านไม่ได้ กู้ชิงก็จะให้น้องและหลานอาศัยอยู่บ้านเธอไปก่อน จะได้มีเวลามากขึ้นในการหาบ้านอยู่ในภายหลัง

“หนูหาได้แล้วค่ะ” กู้หนิงตอบ

“จริงหรือจ้ะ? ดีจัง แล้วที่ไหนจ้ะ? ปลอดภัยไหม? ค่าเช่าต่อเดือนเท่าไหร่?” กู้ชิงถามหลานสาว

กู้หนิงซาบซึ้งใจที่ได้รับความเมตตาและการดูแลจากกู้ชิง เธอยิ้มด้วยความอบอุ่น

“มันอยู่ใกล้ถนนโหยวอวี้ ปลอดภัยและราคาพอรับได้ค่ะ”

กู้หนิงยังไม่ได้ลงรายละเอียดแบบเจาะจง มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

เมื่อรู้ว่ากู้หนิงจะซื้อบ้านแทนที่จะเช่า กู้ม่านก็แปลกใจ ถนนโหยวอี้อยู่ใกล้กับตัวเมืองมีตึกหลายตึก แน่นอนว่ากู้ม่านไม่คิดว่าจะเป็นเฟิ่งหัวแมนชั่น แต่บ้านที่เหลือในย่านนั้นก็ไม่ได้ถูกๆเหมือนกัน

ราคาบ้านแต่ละหลังอย่างน้อยก็สองล้านหยวน

ไม่ใช่หนิงหนิงวางแผนจะใช้เงินกับการทำธุรกิจหรอกเหรอ?

กู้ม่านคิดมาตลอดว่ากู้หนิงจะซื้อบ้านในพื้นที่ห่างไกลในราคาหนึ่งล้านหยวนซึ่งเป็นราคาที่มากที่สุดแล้ว

กู้หนิงส่งสายตาให้แม่สบายใจ เธอไม่ต้องการอธิบายอะไรตอนนี้

แม้ว่ากู้ม่านจะประหลาดใจ เธอก็ยังมีความสุขที่เห็นกู้หนิงสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้

จากนั้นกู้หนิงก็เอ่ยเสริมขึ้นมา “หนูจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วค่ะ เรามาเก็บของและกลับบ้านไปฉลองกันเถอะค่ะ

“โอ้ กู้ม่านออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว? ดีมากๆๆ พวกเราต้องฉลองกันซักหน่อย!” ทุกคนดีอกดีใจที่กู้หนิงหาบ้านได้แล้วและกู้ม่านก็ได้ออกจากโรงพยาบาล

กู้ชิงคิดว่ากู้หนิงกับกู้ม่านคงเหลือเงินไม่มากแล้วตอนนี้ หลังจากที่พวกเขาจ่ายค่าห้องและค่ารักษา ดังนั้นเธอจึงเป็นคนชวนพวกเขา “มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง ไม่ต้องแย่งพี่จ่ายเลยนะ”

“ไม่ ไม่ค่ะ มื้อนี้หนูจัดการเอง ตอนนี้ทุกคนต้องเตรียมพร้อมจิตใจให้ดี เพราะหนูมีบางอย่างจะบอกค่ะ” กู้หนิงพูดเสียงจริงจัง

“เรื่องอะไร?” กู้ชิงและเจียงซู่เป็นกังวลนิดหน่อยที่เห็นกู้หนิงทำหน้าจริงจัง ถึงแม้กู้หนิงจะทำสีหน้าจริงจังแต่ก็คงไม่มีอะไรมั้ง ดังนั้นกู้ชิงและเจียงซู่จึงค่อยๆผ่อนคลาย มีเพียงกู้ม่านที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้ากู้ม่านรู้ว่ากู้หนิงซื้อบ้านสองหลังในย่านแพงหูฉี่ของเมือง F เธอก็คงช็อคเหมือนกัน

ส่วนเจียงซินหยู เธอเพียงแค่อยากรู้แต่ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น

“กลับบ้านกันเถอะค่ะ หนูจะบอกทุกคนทีหลัง” กู้หนิงเอ่ย

ในเมื่อกู้หนิงไม่ต้องการบอกพวกเขาตอนนี้ ทุกคนก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วพากันเก็บของ

“หนิงหนิง ใครส่งของพวกนี้มากัน? ทำไมเยอะขนาดนี้และมีแต่ของแพงๆ!” กู้ชิงที่ยังไม่รู้ว่ากู้หนิงก็มีของขวัญมาให้พวกเธอด้วย

“เพื่อนหนูเอามาฝากค่ะ บางอันก็ของคุณหมอ เธอเป็นเพื่อนหนูทำงานที่โรงพยาบาลนี้” กู้หนิงตอบ

“เพื่อน? พวกเขาเป็นคนรวยสินะ!” กู้ชิงกล่าวอย่างแปลกใจ

กู้หนิงไม่พูดอะไร

ทุกคนลงมาข้างล่างและกู้หนิงก็ได้โทรเรียกแท็กซี่ไว้แล้ว

เมื่อแท็กซี่จอดรถตรงข้ามเฟิ่งหัวแมนชั่น ทุกคนต่างทึ่งไปกับตึกทันสมัยหรูหรา พวกเขาเกือบเชื่อไปแล้วว่านี่คือที่ที่พวกเขาจะย้ายเข้าไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเชื่อ มันเกินสิ่งที่พวกเขาคิดไว้มากว่ากู้หนิงจะสามารถซื้อหรือเช่าบ้านที่นี่ได้

อย่างไรก็ตามแถวนี้มีแต่ตึกสูง ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมอยู่รอบๆ ยกเว้นบ้านพักอาศัยที่หรูหรา

กู้ชิงจึงถามขึ้นว่า “หนิงหนิง แถวนี้มีบ้านให้เช่าด้วยเหรอ?”

แม้แต่กู้ม่านก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมกู้หนิงถึงพาพวกเธอมาที่นี่

“พวกเรายังขาดของใช้จำเป็นอยู่ค่ะ ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกันก่อนเถอะค่ะ” กู้หนิงเอ่ย

ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เข้าใจได้ทันที

กู้ชิงพูดขึ้นว่า “โอ้ ใช่ พวกเธอเพิ่งจะเช่าบ้าน ในบ้านน่าจะยังไม่มีอะไร” จากนั้นทุกคนก็พากันเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต

พวกเขาส่วนใหญ่ซื้อหม้อหุงข้าว วัตถุดิบและอาหาร รวมทั้งสิ่งจำเป็นอื่น ๆ พวกเขาไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ในเวลาสั้นๆ ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อแต่ของจำเป็นสำหรับวันนี้

กู้ม่านออกจากงานแล้ว กู้หนิงมีแผนจะให้บัตรเครดิตวงเงินหนึ่งล้านหยวนให้เธอ เธอจะได้ซื้อของที่เธออยากจะได้

เมื่อพวกเขาเดินไปจ่ายเงิน คนที่เหลือก็ยืนรอกู้หนิงข้างนอกในระหว่างที่กู้หนิงจ่ายเงิน ไม่มีใครรู้ว่าจ่ายไปทั้งหมดเท่าไหร่

จากนั้นทุกคนก็พากันออกจากซุปเปอร์มาร์เกตพร้อมกับหอบหิ้วถุงใบใหญ่

ในเมื่อกู้หนิงรู้ทิศทางอยู่คนเดียว ทุกคนจึงได้แต่เดินตามเธอไป แต่เมื่อทุกคนเดินมายังประตูทางเข้าเฟิ่งหัวแมนชั่น ทุกคนก็หยุดเดินและเบิกตากว้างยกเว้นกู้หนิง

“หนิงหนิง หนูกำลังจะบอกพวกเราว่าบ้านหนูอยู่ข้างในนี้หรอจ้ะ?” กู้ชิงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

“หนิงหนิง ราคาบ้านที่นี่แพงมาก แล้วลูก…..” แม้แต่กู้ม่านก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้ ตอนนี้เธอกำลังสับสน

“อย่าเพิ่งพูดอะไรกันตอนนี้เลยค่ะ เข้าไปข้างในกันก่อน หนูสัญญาว่าจะบอกทุกอย่างเมื่อเราอยู่ที่บ้านแล้ว”

ทุกคนที่เหลือล้วนประหม่าเดินตามกู้หนิงเข้าไปยังข้างใน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกำลังเดินเข้าไป พวกเขายังไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

พวกเขาขึ้นรถกอล์ฟและพากันทึ่งกับสิ่งที่เห็น พวกเขาไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้เข้ามาเหยียบที่เฟิ่งหัวแมนชั่นแห่งนี้

รถหยุดที่โซนจี พวกเขาลงจากรถและเดินเข้าไปด้านใน

ระหว่างทางพวกเขามีคำถามวนเวียนอยู่ในหัวนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะครอบครัวกู้ชิง ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขารู้ว่ากู้หนิงจะไม่พูดอะไรจนกว่าจะถึงบ้าน

ทุกคนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นหก กู้หนิงเอากุญแจออกมาและเปิดประตูเข้าไปในบ้านของเธอ ห้อง901 เมื่อประตูถูกเปิด ทุกคนก็ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด