กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 99 – 100: การสอบประจำเดือน, โกง?

อ่านนิยายจีนเรื่อง กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Reincarnation Of The Businesswoman At School ตอนที่ 99-100 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 99: การสอบประจำเดือน

เมื่อกู้ม่านและกู้ชิงกลับมาถึงบ้านก็พากันล้างผักที่ซื้อมา กู้ม่านและกู้ชิงวางผักที่ล้างไว้แล้วเดินมาคุยกับกู้หนิงเกี่ยวกับรถคันใหม่อย่างตื่นเต้น กู้หนิงรู้สึกขำ

เมื่อพวกเธอกลับไปทำกับข้าวต่อ กู้หนิงก็มีเวลาปลีกตัวไปคุยกับเจียงซู่เรื่องจัดตั้งบริษัท

กู้หนิงบอกเขาแค่ว่าเธอได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อของเพื่อนคนหนึ่ง เธอกับเพื่อนคนนี้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้นพ่อของเขาจึงใจดีช่วยเหลือเธอ

กู้หนิงบอกนิดหน่อยถึงข้อตกลงเรื่องการจัดหาวัสดุก่อสร้าง พ่อของเพื่อนทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเจียงซู่ยินดีเป็นดีลเลอร์จัดหาวัสดุก่อสร้าง พวกเขาจะได้ทำงานร่วมกันในอนาคต

เมื่อได้รับฟังข้อมูลจากกู้หนิง เจียงซู่ก็ตื่นเต้นดีใจ แต่ก็รู้สึกละอายใจที่ต้องให้กู้หนิงจัดการทุกอย่างให้เขา ถึงแม้กู้หนิงจะบอกว่าจะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง เจียงซู่ไม่ได้ว่าอะไรกับสิ่งที่เธอทำวันนี้ นอกจากนี้สิ่งที่กู้หนิงทำนั้นช่วยเขาได้มาก

เช้าวันต่อมาเป็นวันศุกร์และการสอบประจำเดือนกำลังจะเริ่มขึ้น

กู้หนิงและเพื่อนรวมตัวกันที่สนามฟุตบอลตามปกติ แต่วันนี้พวกเขาไม่วิ่ง พวกเขาเดินไปคุยกันไป

“ฉันเกลียดการสอบประจำเดือนที่สุด สอบกับไม่สอบก็ไม่เห็นมีอะไรต่างกัน ถ้าครอบครัวของฉันไม่บังคับให้ฉันมาโรงเรียน ป่านนี้ฉันหยุดเรียนกลางคันไปนานแล้ว” ฮ่าวหรันพูดด้วยความหงุดหงิด การเรียนหนังสือเปรียบเหมือนฝันร้ายสำหรับเขา

“ฉันก็เหมือนกัน แต่ฉันยังต้องเรียนต่อ” ฉู่เพ่ยหานก็พูดขึ้นบ้าง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงยังได้คะแนนดีทั้งที่เธอขาดเรียนบ่อย คนที่เกิดมาฉลาด พวกเขาใช้เวลาเรียนนิดเดียวก็สามารถเข้าใจมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ฉู่เพ่ยหานก็เป็นหนึ่งในนั้น

ฮ่าวหรันกับเพื่อนก็เป็นคนเรียนเก่งเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่บริหารธุรกิจบาร์ได้ดี พวกเขาแค่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่านั้นเอง ถ้าพวกเขาตั้งใจเรียน ก็อาจจะได้เป็นนักเรียนดีเด่นก็ได้

อย่างไรก็ตามคะแนนของพวกเขาก็ดีว่ากู้หนิง การที่พวกเขาอยู่ห้องเรียนท้ายสุดเป็นเพราะพวกเขาชอบเล่นและสร้างปัญหา

“ฉันคิดว่าเรียนต่อดีกว่านะ ถึงแม้พวกนายจะมีพื้นฐานครอบครัวดีและไม่ขาดอะไร พ่อแม่ของพวกนายก็ซัพพอร์ตทั้งชีวิตของพวกนายได้ แต่อย่าลืมว่าพวกนายต้องสืบทอดกิจการของที่บ้าน ถ้าพวกนายไม่มีความสามารถก็อาจถูกขับออกไปได้หรือถูกคนเก่งเข้ามาแทนที่ ความสามารถต้องใช้ความรู้ระดับมืออาชีพ ประสบการณ์ทางสังคมและเครือข่ายที่กว้างขวาง และมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนรู้” มู่เค่อที่เป็นนักเรียนดีเด่นกล่าว

“มู่เค่อพูดถูก มหาวิทยาลัยนั้นสำคัญ” กู้หนิงเห็นด้วย

“ฉันต้องเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้และจะตั้งใจเรียนให้หนักเพื่อให้สำเร็จ ครอบครัวของฉันจะได้มีชีวิตที่สุขสบายในอนาคต” หยูหมิงซีมีความหวัง เธอต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอและครอบครัวของเธออย่างมาก

“เธอทำได้แน่นอน” กู้หนิงให้กำลังใจ

กู้หนิงไม่ปล่อยให้หยูหมิงซีใช้ชีวิตจนๆไปตลอดหรอก เธอจะช่วยหยูหมิงซีให้เติบโตและประสบความสำเร็จในอนาคตสักวันหนึ่ง

เธอจะรอจนกว่าอาณาจักรธุรกิจของเธอก่อตั้งขึ้นมาซะก่อน

จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องเรียนของใครของมัน

การสอบประจำเดือนคล้ายกับการสอบปกติ วิชาแรกคือภาษาจีน เวลาในการสอบหนึ่งร้อยนาที สามารถส่งข้อสอบหลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปได้ แต่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้คำตอบแต่ก็นั่งจนกว่าเวลาจะหมด

กู้หนิงทำข้อสอบเสร็จก็ยื่นข้อสอบคืนอาจารย์ จากนั้นก็เดินออกนอกห้องไป

ทุกคนประหลาดใจที่เห็นกู้หนิงส่งข้อสอบเป็นคนแรก ปกติเธอมักจะเป็นคนสุดท้ายเสมอ กู้หนิงไม่ใช่คนเรียนเก่งดังนั้นพวกเขาจึงสันนิษฐานว่ากู้หนิงคงส่งคำตอบเปล่าๆ เลยทำข้อสอบได้เร็ว

อาจารย์ไม่ว่าอะไรที่กู้หนิงส่งข้อสอบคืน เพราะยังอยู่ในเงื่อนไขการส่งหลังจากสามสิบนาที อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นคำตอบของกู้หนิง เธอก็ตกใจ

ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยและคำตอบถูกต้องทั้งหมด! พาร์ทการเขียนเกือบได้คะแนนเต็ม แน่นอนว่าอาจารย์ที่สอนไม่เคยให้ใครได้คะแนนเต็มในส่วนนี้มาก่อน อย่างน้อยก็ให้หนึ่งหรือสองคะแนน

หยูหมิงซีรู้ว่ากู้หนิงทำได้เพราะกู้หนิงช่วยเธอติว เธอรู้ว่ากู้หนิงตอนนี้เก่งกว่าเธอ ดังนั้นเธอจึงพอจะรู้ว่าคะแนนของกู้หนิงต้องออกมาดีแน่นอน

กู้หนิงเดินไปที่สวนหลังจากส่งข้อสอบ เธออยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร

ห้านาทีต่อมาฮ่าวหรันและเพื่อนก็มาหาเธอ พวกเขาตกลงกันว่าจะมาที่สวนหลังจากทำข้อสอบเสร็จ

ฮ่าวหรันและเพื่อนทำข้อสอบยังไม่เสร็จแต่ก็ส่งก่อน พวกเขาเลยได้ออกมาเร็ว เมื่อพวกเขาเห็นกู้หนิงพวกเขาก็พากันประหลาดใจ กู้หนิงเรียนไม่เก่งไม่ใช่เหรอ? พวกเขาเข้าใจว่ากู้หนิงคงตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกัน

“บอส เธอทำข้อสอบเสร็จแล้วเหรอ? หรือไม่รู้ก็เลยออกมา?”

“ฉันทำเสร็จหมดทุกข้อ!” กู้หนิงตอบ

“ว้าว เธอคิดว่าเธอจะได้คะแนนเท่าไหร่?” ฉินซีหุนเอ่ยถามบ้าง

“เก้าสิบเปอร์เซ็น”

การจะได้เก้าสิบเปอร์เซ็นก็ต้องได้เก้าสิบคะแนน ฮ่าวหรันและเพื่อนทึ่ง

“เธอแน่ใจเหรอ?”  ฮ่าวหรันไม่อยากเชื่อ ใครกันที่พูดว่ากู้หนิงเรียนไม่เก่ง?

กู้หนิงรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงตกใจ ตอนที่เธอช่วยหยูหมิงซีทำการบ้าน หยูหมิงซีเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน

“เดี๋ยวพวกนายก็รู้” กู้หนิงไม่อธิบายอะไรต่ออีก

“ได้” เมื่อกู้หนิงไม่บอกพวกเขา พวกเขาก็ไม่ถาม จากนั้นฮ่าวหรันก็เอ่ยขึ้นมาว่า

“บอส วันนี้เป็นวันศุกร์ งั้นพวกเราไปที่บาร์คืนนี้กัน!”

นี่เป็นครั้งที่สองที่ฮ่าวหรันชวนเธอ ถ้าเธอไม่ไปก็คงดูไม่ดี “ได้สิ กี่โมงและที่ไหน? ฉันจะไปเจอนายที่นั่น”

“หลังจากสอบเสร็จพวกเราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วค่อยไปบาร์พร้อมกัน ดีไหม?” ฉินซีหุนกล่าว

“ไม่ใช่วันนี้ ฉันมีกินข้าวกับที่บ้าน อาจจะไปช้านิดหน่อย” กู้หนิงตอบ

“ได้ ร้านอยู่ถนนหยงเล่อ ชื่อร้าน V5 bar ตัวอักษร V ตัวเลขอารบิก 5 มันเป็นคำพ้องเสียงอันยิ่งใหญ่และยังมีความหมายอันยิ่งใหญ่ ฮ่าฮ่า!” ฮ่าวหรันกล่าว

“ว้าว ฉันชอบชื่อนี้นะ” กู้หนิงเอ่ยชม

ถึงแม้ว่าฮ่าวหรันกับเพื่อนจะภูมิใจกับชื่อร้านตัวเองมาก แต่พวกเขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยที่ถูกกู้หนิงชมต่อหน้า

มู่เค่อและฉู่เพ่ยหานออกมาก่อนเวลาหมดยี่สิบห้านาที ถึงทั้งคู่จะเป็นเด็กเรียนดี แต่ก็ยากที่จะเสร็จภายในเจ็ดสอบห้านาที

กู้หนิงเร็วกว่าพวกเขาเพียงเพราะเธอมีพลังพิเศษ

Chapter 100: โกง?

 

หยูหมิงซีทำข้อสอบเสร็จเป็นคนสุดท้าย เธอทำข้อสอบเสร็จก่อนหมดเวลาเพียงสิบนาที

 

เมื่อทุกคนมาถึง ฮ่าวหรันก็บอกว่าพวกเขาจะไปที่บาร์คืนนี้ ได้ยินแบบนั้นฉู่เพ่ยหานก็ตื่นเต้นแม้ว่าเธอจะเคยไปบาร์มาแล้วหลายครั้ง เธอไปที่บาร์กับพี่ชายของเธอทุกครั้งที่โอกาสอำนวย

 

มู่เค่อเองก็ตกลงจะไปด้วย มีเพียงหยูหมิงซีที่ไม่รู้จะอธิบายกับครอบครัวของเธอว่าอย่างไรดี ดังนั้นเธออาจจะไม่ได้ไปกับพวกเขา

ฮ่าวหรันบอกหยูหมิงซีว่าให้บอกครอบครัวว่าเธอจะมาร่วมงานวันเกิดเพื่อน ถ้าพ่อแม่เธอไม่เชื่อ พวกเขาจะซื้อเค้กและแกล้งว่ามีงานปาร์ตี้วันเกิดจริงๆ จากนั้นก็ส่งรูปให้พ่อแม่ของเธอเพื่อนเป็นการยืนยัน ราคาเค้กไม่แพง พวกเขาอาจจะเก็บไว้กินเป็นของหวานก็ได้

ทุกคนเห็นด้วยกับไอเดียของฮ่าวหรัน พวกเขาจึงตกลงไปกัน

หลังจากการทดสอบวิชาภาษาจีนจบลง อาจารย์ก็กลับไปที่ห้องทำงานและพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเรื่องกู้หนิงกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ทุกคนดูประหลาดใจที่ว่ากู้หนิงทำข้อสอบเสร็จในเวลาสี่สิบห้านาที และผลที่ออกมาคือทำถูกหมด

อัจฉริยะ!

ไม่มีใครที่จะดีใจไปมากกว่าอาจารย์ประจำชั้นของกู้หนิง จางฉิวฮวา เธอรู้ว่าผลคะแนนคราวก่อนของกู้หนิงไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดี จางฉิวฮวาแทบไม่อยากเชื่อว่ากู้หนิงทำได้

เธอโกงหรือเปล่า?

มีอาจารย์ท่านอื่นที่รู้ผลคะแนนครั้งที่แล้วของกู้หนิง ใครจะเชื่อว่าเธอทำถูกหมด แต่ถ้าจะบอกว่าเธอโกงก็ไม่น่าใช่

หรือว่าข้อสอบจะรั่ว?

จางฉิวฮวาโทรหากู้หนิงทันทีเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เผื่อว่านักเรียนของเธอได้ทำสิ่งที่ผิดลงไป

กู้หนิงยืนกรานว่าเธอทำข้อสอบด้วยตัวเอง ถ้าอาจารย์ไม่เชื่อก็สามารถทดสอบเธอได้อีกครั้ง

วิชาต่อไปภาษาอังกฤษ กู้หนิงใช้เวลาทำเพียงสั้นๆแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น แต่เธอรออีกสิบนาทีถึงเดินไปส่งข้อสอบ

อาจารย์สงสัยกับการทำข้อสอบครั้งล่าสุดของเธอ ดังนั้นเขาจึงจับตามมองเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่พบพฤติกรรมน่าสงสัยจากกู้หนิง เธอก้มหน้าเขียนคำตอบลงในข้อสอบอย่างเดียว

แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือเธอทำข้อสอบเสร็จในเวลายี่สิบนาที ลายมือของเธอเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาไม่ใช่อาจารย์สอนภาษาอังกฤษดังนั้นจึงไม่รู้ว่าคำตอบเธอถูกหรือไม่ถูก ถ้าคำตอบออกมาถูกหมดหรือถูกอย่างน้อยแปดสิบเปอร์เซ็น ก็ยังถือว่ากู้หนิงเป็นอัจฉริยะ

กู้หนิงส่งข้อสอบหลังจากเวลาผ่านไปสามสิบนาที

อาจารย์คุมสอบส่งข้อสอบกู้หนิงให้อาจารย์สอนภาษาอังกฤษทันทีหลังจากเวลาหมด ผลปรากฏว่าถูกหมดทุกข้อ

“ภาษาอังกฤษของกู้หนิงดีมากและสำเนียงเธอเหมือนเจ้าของภาษา ผมเองยังรู้สึกละอายใจ มีครั้งหนึ่งผมขอให้เธอแปลบทความจากจีนเป็นอังกฤษ ขนาดนักเรียนระดับท็อปยังไม่สามารถแปลได้หมด หรืออาจต้องให้เวลาพวกเขาสักพักถึงจะแปลได้ แต่กู้หนิงเธอสามารถทำได้ ถ้าผมไม่ได้มองหน้าเธอ ผมคงคิดว่าเธอเป็นคนต่างชาติ!” แม้ว่าเฉินหมิงจะหาเรื่องกู้หนิงเพราะเฉินจื่อเหยา แต่เขาก็ไม่ใช่คนไม่มีคุณธรรม ภาษาอังกฤษของกู้หนิงทำให้เขาประทับใจจริงๆ ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงพูดเพื่อช่วยเธอ

เขาถึงกับไปที่ห้องเรียนระดับท็อป ห้องหนึ่ง และให้เด็กห้องหนึ่งแปล แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครแปลได้แม้จะใช้เวลานาน

“อะไรนะ? เธอเก่งอย่างนั้นเลย?”

อาจารย์ทุกคนประหลาดใจ

“ก่อนหน้านี้เธอเรียนแย่ไม่ใช่เหรอ?”

ไม่ว่าอาจารย์จะพยายามคิดหาเหตุผลมารองรับ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็หาเหตุผลไม่ได้

เกือบๆเที่ยง กู้หนิงก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินอี้ฟาน เครื่องประดับของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาขอให้เธอแวะมารับตอนที่เธอมีเวลาว่าง

วันนี้และวันพรุ่งนี้กู้หนิงไม่ว่าง เธอเลยบอกว่าเธอจะเข้าไปไม่วันอาทิตย์ตอนบ่ายไม่ก็วันจันทร์ แต่ฉินอี้ฟานอยากจะเจอกู้หนิงมาก เขาเสนอจะเอามาให้เธอที่โรงเรียน คงจะถึงอีกครึ่งชั่วโมง

กู้หนิงต้องการปฏิเสธ เธอไม่อยากรบกวนเขาแต่ฉินอี้ฟานยืนกรานจะมาให้ได้ กู้หนิงจึงยอมในที่สุด

กู้หนิงออกไปกินข้าวข้างนอกโรงเรียนกับเพื่อน เธอบอกให้ฉินอี้ฟานมาเจอเธอที่ร้านอาหาร เธอไม่ได้ปิดบังว่าเธอรู้จักเขาดังนั้นเธอจึงไม่มีความตั้งใจที่จะหลบเลี่ยงเขา แต่วันนี้พวกเธอมีสอบและเวลาว่างตอนบ่ายมีจำกัด ดังนั้นเธอจึงไม่รอกินข้าวกับฉินอี้ฟาน

ฉินอี้ฟานอยากเจอกู้หนิง แต่เขาลืมรายละเอียดไปหนึ่งอย่างคือราคาเครื่องประดับมีมูลค่าอย่างน้อยร้อยล้านหยวน มันไม่ปลอดภัยที่จะมอบให้เด็กสาวตรงๆแบบนี้ กู้หนิงเองก็ไม่ใส่ใจในจุดนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจว่าฉินอี้ฟานจะมาหรือไม่มา

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉินอี้ฟานก็มาถึงพร้อมกล่องไม้ขนาดใหญ่เท่าลูกฟุตบอล ทุกคนรู้ว่าจะมีเพื่อนของกู้หนิงเอาของมาให้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อฉินอี้ฟานปรากฏตัว ทุกคนนอกจากหยูหมิงซีและฉู่เพ่ยหานล้วนแปลกใจ โดยเฉพาะฉินซีหุน

จู่ๆฉินซีหุนก็ผุดลุกขึ้นจากโซฟา “สวัสดีครับ พี่อี้ฟาน”

กู้หนิงเองก็แปลกใจ เธอไม่คิดว่าฉินอี้ฟานจะรู้จักฉินซีหุน

“สวัสดีครับ” ฮ่าวหรัน จางเทียนปิงและมู่เค่อก็ลุกขึ้นทักทายฉินอี้ฟานอย่างสุภาพ

“ทำไมพวกนายถึงมาอยู่ที่นี่?” ฉินอี้ฟานเองก็ประหลาดใจที่เห็นพวกเขา

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพวกฉินซีหุนอยู่โรงเรียนเดียวกับกู้หนิง เขาก็ไม่คิดว่าจะรู้จักกัน ผ่านไปสองวิเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาคงเป็นเพื่อนกันเพราะพวกเขาอยู่โรงเรียนเดียวกัน และเป็นรุ่นพี่ม.ปลายเหมือนกัน ไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้จักกัน แต่อย่างไรก็ตามฉินซีหุนและเด็กหนุ่มคนอื่นก็ประหลาดใจที่ฉินอี้ฟานรู้จักกับกู้หนิง

“นั่งลงเถอะ” กู้หนิงเอ่ย

ทุกคนจึงนั่งลง

ฉินอี้ฟานรู้ว่ากู้หนิงไม่ได้ปิดบังเรื่องเขา ดังนั้นเธอจึงนัดเขาให้มาที่นี่ ฉินอี้ฟานยื่นกล่องไม้ให้กู้หนิง

“กู้หนิง นี่ของเธอ ฉันจะโอนเงินค่าหยกส่วนที่เหลือให้เธอทีหลัง”

“ได้ ขอบคุณค่ะ” กู้หนิงรับกล่องไม้มา

“กู้หนิง อะไรอ่ะ?” ฉู่เพ่ยหานจ้องกล่องไม้และถามด้วยความสงสัย ไม่เพียงแต่ฉู่เพ่ยหานแต่ยังรวมถึงคนอื่นๆอีกด้วย

“เครื่องประดับที่ร้านอี้ซุยออกแบบให้ครอบครัวฉันน่ะ” กู้หนิงบอก

ทุกคนดูเหมือนจะหมดความสนใจเมื่อได้ยินว่าเป็นเครื่องประดับ เพราะฉินซีหุนและคนอื่นๆอยู่ที่นี่ ฉินอี้ฟานจึงรู้สึกไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับกู้หนิงมากนัก เขารู้ว่าพวกเธอมีสอบช่วงบ่าย ดังนั้นเขาจึงกลับไป

กู้หนิงและเพื่อนก็เดินกลับโรงเรียนเช่นเดียวกัน และการสอบวิชาที่เหลือก็เริ่มตอนบ่ายสองโมง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด