ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา – ตอนที่ 9 : คู่หมั้น

อ่านนิยายจีนเรื่อง ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา ตอนที่ 9 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“คุณหนู ข้าน้อยเชื่อว่าคุณชายเล่ยคงเฝ้ารอการกลับมาของคุณหนูอย่างเเน่เเท้ทีเดียว ไม่นานท่านก็จะพบกับเขาเเล้ว” ชายร่างกำยำเเกล้งทำเป็นมีความสุขขณะพูดกับจีเฟิงเยี่ยน

อย่างไรก็ดี จีเฟิงเยี่ยนกลับไม่ได้ดูดีใจ ตื่นเต้นหรือเเสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลย

จีเฟิงเยี่ยนนั้นรู้ว่า “คุณชายเล่ย” ที่ชายร่างกำยำนั้นพูดถึงน่าจะเป็นชายที่ชื่อ “เล่ยมิน”

เกี่ยวกับคนชื่อนี้นั้น ดูเหมือนความทรงจำจากคนเดิมจากให้นิยามว่า “คู่หมั้นในวัยเด็ก” อีกมีความทรงจำเกี่ยวกับเขาในเเง่ดีๆมากมาย กล่าวได้ว่าในบรรดาความทรงจำอันเลวร้ายดำมืดที่เกิดจากตระกูลจี ความทรงจำที่เกี่ยวกับเล่ยมินนั้นเป็นดั่งเเสงสว่างที่ทำให้เธอรู้สึกดีมีความสุขขึ้น ร่างเดิมนั้นหลงใหลในตัวพี่ชายเล่ยผู้นี้เป็นอย่างมาก ในขณะที่เล่ยมินนั้นก็ทำดีกับเธอพอสมควร

เล่ยมินนั้นคือความทรงจำที่ดีที่สุดเมื่อครั้งเธออาศัยอยู่ตระกูลจี

เเต่!!

ในฐานะที่เป็นผู้เฝ้ามอง จีเฟิงเยี่ยนไม่มีความประทับใจที่ดีในเรื่อง “ความหล่อเหลาเเละสุภาพ” ของพี่เล่ยมินคนนี้เลยเเม้เเต่กิ่งก้อย

เมื่อเล็งเห็นว่าจีเฟิงเยี่ยนคล้ายจะเข้าสู่โลกส่วนตัวไปเเล้ว ชายร่างกำยำจึงไม่ได้พูดอะไรกับเธออีกเพียงเเต่บอกลูกน้องให้ไปเชิญเจ้าเมืองมาเท่านั้น

เมื่อยามทั้งสองได้ฟังความจากบรรดาผู้คุ้มกันพวกเขาก็มองมาทางจีเฟิงเยี่ยนเขม็ง ใช้สายตามองพวกเขาประหนึ่งจะเจาะร่างกายให้พรุนเป็นรังผึ้งให้ได้ ถ้าสายตาเป็นดั่งเข็มก็น่าจะพรุนไปจริงๆเเล้ว เมื่องมองดูเสร็จยามก็เเสดงอาการเหยียดหยามเเละดูถูกอย่างเห็นได้ชัด

ยามหน้าประตูลุกขึ้นมาเเล้วเดินโซซัดโซเซเหมือนคนเมายาเยื้องย่างเข้ามาหา “พวกเจ้าจะพบเจ้าเมืองใช่มั้ย? ตามข้ามาเเล้วกัน” ในน้ำเสียงนั้นไม่มีความเกรงใจหรือเคารพใดๆเเม้เเต่ครึ่งคำ

ดูเอาสิ พวกเลวสองตัวนี้ไม่คิดจัดการต้อนรับหรือเเสดงความยินดีซักนิด เเม้เเต่เล่ยซูนายของพวกมันก็ยังเมินไม่รับรู้ไม่ใส่ใจ เเขกผู้มีเกียรติระดับเจ้าเมืองคนใหม่มารับตำเเหน่งกลับมีเพียงยามขี้เกียจสองตัวเดินนำทางเท่านั้น

วันนี้เป็นวันเเรกของจีเฟิงเยี่ยนที่จะเข้าทำงานในฐานะเจ้าเมือง เเต่กลับถูกเจ้าเมืองคนก่อนอย่างเล่ยซูเเละพรรคพวกหมางเมินไม่ใยดีเช่นนี้ วันหน้าเรื่องความสะดวกสบายหรือการทำงานอย่างสบายใจก็ไม่ต้องพูดถึงกันอีก

“เล่ยซูไปไหน? ทำไมมันถึงไม่มาต้อนรับพวกข้า!!” ชายร่างกำยำโมโหจนใบหน้าดำคล้ำประดุจก้นหม้อดำเมี่ยม

ยามสองคนหันมามองชายร่างกำยำที่สวมใส่เสื้อผ้าเก่าขาดคล้ายผ่านสงครามมาหลายสิบครั้งด้วยสายตาดูถูก “เหอะ ท่านเจ้าเมืองของเขางานยุ่ง อีกทั้งวันนี้มีเเขกอันทรงเกียรติจากราชวงศ์มาเยือน ท่านย่อมต้องไปต้อนรับขับสู้เป็นธรรมดา หรือพวกเจ้าคิดว่าเขาควรละทิ้งเเขกสำคัญเช่นนั้นมาต้อนรับพวกเจ้างั้นรึ อย่าสำคัญตัวผิดไปให้มันมากนัก!!”

“ไอ้บัดซบนี่!” เหล่าผู้คุ้มกันได้ยินคำตอบที่เเสนจะดูถูกจากยามต็อกต๋อยก็เต็มไปด้วยโทสะ พวกเขาอยากจะชักดาบออกมาฟันไอ้เลวสองคนให้ตายตกไปให้พ้นๆตาซะ

“พอซักที! ถ้าพวกเจ้าไม่พอใจนักก็ไปหาพวกเเขกอันทรงเกียรตินั่นเเล้วขอคำอธิบายเสีย เลิกสร้างความยุ่งยากให้เเก่พวกข้า ข้าเเนะนำนะ ถ้าพวกเจ้าไม่อยากไปขอคำอธิบายก็ว่านอนสอนง่ายรออยู่เเถวๆนี้ เผื่อท่านเจ้าเมืองจะต้อนรับพวกเขาเสร็จเเล้วมีอารมณ์ดีๆเเวะผ่านมาเเถวๆนี้ให้พวกเจ้าได้เจอะได้เจอบ้าง” ยามกล่าวด้วยวาจาประชดประชัน

ในขณะที่ยามสองคนกำลังต่อปากต่อคำกับเหล่าผู้คุ้มกันอยู่ มีหญิงสาวสองคนเดินออกมาจากตรอกใกล้ๆ ทั้งสองเป็นสตรีที่ค่อนข้างงดงาม คนหนึ่งใส่ชุดสีชมพู อีกคนใส่ชุดสีน้ำเงิน การเเต่งกายเเละการเเต่งหน้าของพวกนางโดดเด่นผิดกับชาวบ้านเเถวนี้มาก

ทุกคนอาจจะไม่ใส่ใจเเต่จีเฟิงเยี่ยนบังเอิญเห็นทั้งสองคนนี้ เธอเต็มไปด้วยความดีใจ ไม่สิ เป็นเจ้าของร่างนี้ต่างหากที่ดีใจ เธอเคยพบหญิงพวกนี้เเล้วเมื่อครั้งอยู่ที่เมืองหลวง พวกนางคือหญิงรับใช้ใกล้ชิดของเล่ยมิน ดังนั้นจีเฟิงเยี่ยนจึงได้รู้จักกับพวกนางอยู่บ้าง

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด