ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 80 มีสิทธิ์อะไรไปให้ท่าผู้ชาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าคือหงส์พันปี ตอนที่ 80 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เมื่อฉินหรูเหลียงหันหน้ากลับมา เขาโกรธจนเส้นเอ็นปูดขึ้นมาบนขมับ แต่เขากลับไม่ได้ปล่อยเฉินเสียนเป็นอันดับแรก

เฉินเสียนแสยะยิ้มขึ้นที่มุมปาก พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “คอยดูว่าใครจะขายหน้ากว่ากัน!”

ในตอนแรกมีหลายคนที่หยุดเดินเพื่อจะดูเรื่องวุ่นวายนี้ แต่กลับไม่เห็นการกระทำทารุณกรรมของฉินหรูเหลียง ผู้คนจึงพากันแยกย้ายจากไป หลังจากนั้นฉินหรูเหลียงก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายเฉินเสียนอีกเลย

เฉินเสียนพาอวี้เยี่ยนเดินๆ หยุดๆ ชมตลาดยามเช้าไปตลอดทาง

ฉินหรูเหลียงที่เดินตามหลังเธอมาด้วยอดทน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก : “ชายชู้ก็คงเป็นเหลียนชิงโจวสินะ?”

“หา?”

ฉินหรูเหลียงสายตาลุกโชน : “ท่านกับเขาแอบแทงข้างหลังข้าตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่?” พูดจบจู่ๆ เขาก็หัวเราะขึ้นมา เขาเกลียดชังจนสรรหาคำพูดที่หยาบคายที่สุดเพื่อใช้เปรียบเปรยเฉินเสียน : “ข้านึกไม่ถึงเลยว่า ตอนที่ท่านยังเป็นคนเดิมที่โง่เขลา ท่านเองได้กระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเยี่ยงนี้ตั้งแต่แรกแล้ว!”

“มือหนึ่งขอร้องวิงวอนฝ่าบาทเพื่อจะขอแต่งงานกับข้า อีกมือหนึ่งกลับกระทำเรื่องไร้ยางอายกับชายผู้อื่น หญิงเจ้าเล่ห์มารยาจิตใจโสโครกโสมมแบบท่าน นอกจากท่านแล้วคงไม่มีผู้อื่นอีก เฉินเสียน!”

เฉินเสียนสีหน้าสงบ ในแววตาไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น พูดขึ้นว่า : “ท่านรู้หรือไม่ว่าสีหน้าท่าทางเวลาที่ท่านด่าผู้อื่น มันน่าขยะแขยงแค่ไหน อย่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าท่านกำลังสนใจข้า”

พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินไปข้างหน้าต่อ

ฉินหรูเหลียงพูดตามหลังว่า : “เป็นอะไรไป? กล้าทำแต่กลับกลัวคนอื่นจะว่างั้นรึ? ท่านมันเจ้าเล่ห์มารยาและจิตใจโสโครกโสมม ท้องโตขนาดนี้กลับไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยังจะกล้าไปค้างแรมบ้านชายชู้ไม่ยอมกลับบ้าน! ผู้หญิงแบบท่าน คนธรรมดาคงจะไม่สามารถสนองความใคร่ของท่านได้ ผีสางรู้ว่าเมื่อคืนท่านได้ทำอะไรลงไปบ้าง คงจะมัวแต่ไปเสพสุขจนไม่ได้สนใจไยดีท้องโตๆ นั่นสินะ?”

เฉินเสียนหยุดเดิน

อวี้เยี่ยนโกรธจัด กำลังจะหันกลับไปด่า แต่ถูกเฉินเสียนดึงเอาไว้ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ข้าเคยบอกว่ายังไง เวลาถูกหมากัด เราจะกัดตอบหรือ?”

เฉินเสียนหันกลับมาช้าๆ ฟังฉินหรูเหลียงหัวเราะเย้ยหยัน : “ท่านบอกว่าข้าสนใจท่านงั้นรึ? ท่านจะนอนกับผู้ชายสักกี่คน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า? ท่านคิดว่าข้าจะเปลี่ยนใจไปชอบท่านอย่างงั้นรึ? แล้วเรื่องอะไรจะให้ท่านมาทำลายภาพลักษณ์ของจวนแม่ทัพ? ท่านคู่ควรหรือ?”

เฉินเสียนหัวเราะ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ท่านรีบร้อนอยากจะสวมเขาขนาดนี้ ข้าเองไม่ถือ เดี๋ยวกลับไปแล้วข้าจะสวมให้ท่านอย่างแน่นอน”

คำพูดที่ฉินหรูเหลียงพูดมา ราวกับว่าไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด เสียงพูดที่ค่อนข้างเบา และไม่สามารถให้คนทั้งถนนมาได้ยินด้วย

ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างพากันเหลียวหลังกลับมาดู แต่เพียงแค่รู้สึกว่าสองสามีภรรยากำลังทะเลาะกันเท่านั้น

เขาเพียงแค่ต้องการให้เฉินเสียนอับอายขายหน้า เขาไม่ได้สุขใจจึงไม่ยอมให้เฉินเสียนได้สุขใจด้วย เพียงแค่ต้องการให้เธอได้รู้สึกถึงความอับอายและความอัปยศอดสู เท่านี้เขาก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว!

อย่างไรก็ตาม เฉินเสียนเป็นผู้หญิงที่หน้าหนายิ่งกว่าผนังกำแพงเหล็ก

เฉินเสียนออกนอกบ้านทั้งที เพื่อที่หลีกเลี่ยงการเจอหน้าที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ที่ข้างหูจึงคล้องผ้าปิดหน้าไว้

จู่ๆ ฉินหรูเหลียงก็ยื่นมือมาปลดผ้าปิดหน้าของเธอออก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นถูกเปิดเผยต่อสายตาผู้คนกลางถนน

ฉินหรูเหลียงเบียดจนเธอเข้าไปในซอกหลืบ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “เจ้าหน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนี้ มีสิทธิ์อะไรไปให้ท่าผู้ชาย?” เขามองใบหน้าของเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม แสยะยิ้มขึ้นที่มุมปาก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน : “ใช้เรือนร่างนี่รึ?”

เฉินเสียนแววตามืดสนิท ถึงแม้ว่าจะมีแสงสว่างจ้าสาดส่องลงมาจากชายคา แต่ก็มิอาจส่องสว่างให้แววตาที่มืดมิดนี้ได้

ผู้คนที่สัญจรไปมาจำนวนหนึ่งหยุดเดินเพื่อดูเหตุการณ์นี้

เฉินเสียนยืนอยู่ตรงหน้าฉินหรูเหลียง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา

ไม่นานนัก จู่ๆ เธอก็ยื่นมือออกมา กำผมที่ประบ่าของฉินหรูเหลียง แล้วดึงลงมาสุดแรง

กระดูกที่มือของเธอนูนขึ้นเล็กน้อย มือคู่ที่แข็งแรงม้วนเส้นผมที่เรียงรายชัดเจน ราวกับกำลังถอนหญ้าไม่มีผิด เธอออกแรงดึงสุดแรงเกิด จนถอนโคนผมของฉินหรูเหลียงออกมาด้วย

การกระทำที่ค่อนข้างรวดเร็วจนเขาไม่ทันจะตั้งตัว ฉินหรูเหลียงคิดไม่ถึงเลยแม้แต่นิดว่าเธอจะกล้าลงไม้ลงมือท่ามกลางผู้คนแบบนี้ ราวกับว่าได้ทำสำเร็จแล้ว เขาจำเป็นต้องก้มหน้าลงตามแรงดึงของเธอโดยปริยาย แล้วจ้องมองเฉินเสียนตาเขม็ง : “ปล่อย”

เฉินเสียนเมินเฉยไม่สนใจ เชิดหน้า เลิกคิ้วขึ้นสูง พูดขึ้นด้วยความใจเย็น : “ท่านแม่ทัพฉิน ตอนนี้ข้าจะบอกท่าน ว่าข้าใช้อะไรในการให้ท่าผู้ชาย”

พูดจบ มืออีกข้างของเธอก็กำหมัดแน่น ชกไปที่ใบหน้าของฉินหรูเหลียงอย่างเต็มแรง

หมัดนี้โดนหน้าของฉินหรูเหลียงเข้าอย่างจัง ผู้คนที่มามุงดูต่างพากันตกใจเฮือก

ต้องใช้แรงต่อยขนาดไหน ถึงได้ต่อยผู้ชายร่างสูงใหญ่อย่างฉินหรูเหลียงจนถอยหลังโซเซได้

หญิงตั้งครรภ์รังแกไม่ได้เชียว

โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์อย่างเฉินเสียน บทจะโหดขึ้นมาไม่เสียเวลาพูดจาไร้สาระแม้แต่นิด กำหมัดแล้วพุ่งใส่ทันที

มุมปากของฉินหรูเหลียงแตกจนมีเลือดซึมออกมา

เขาถูกหมัดนี้ของเฉินเสียนต่อยจนมึน ภาพตรงหน้าพร่ามัว มีอาการหัวหมุนอย่างรุนแรง

เฉินเสียนคลายหมัดแล้วสะบัดมือ อวี้เยี่ยนเห็นมือของเธอแดงขึ้นมา จึงรีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง : “องค์หญิง เจ็บหรือเปล่าเพคะ?”

เฉินเสียนดันอวี้เยี่ยนไปอีกฝั่ง สายตาจ้องตรงไปที่ฉินหรูเหลียง พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ไปยืนตรงนู้น เดี๋ยวเจ้าจะบาดเจ็บเอาได้”

พูดจบเธอก็เดินตรงเข้าไป ฉวยโอกาสขณะที่ฉินหรูเหลียงยังไม่ทันได้ตั้งตัว ยื่นมือไปหยิบแจกันเครื่องลายคราม จากนั้นก็ทุบไปที่หัวของฉินหรูเหลียงอย่างจัง

ตลาดยามเช้าที่แสนจะครึกครื้นในตอนแรก จู่ๆ ก็เงียบลงอย่างผิดปกติ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะสองสามีภรรยาที่ตีกันกลางถนน

เฉินเสียนพูดขึ้นว่า : “ฉินหรูเหลียง ฟังให้ดีนะ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องแบกคำก่นด่าสาปแช่งทั้งทั่วหล้า ขอแค่ไม่ต้องมีความข้องเกี่ยวกับท่าน ฉินหรูเหลียง ข้าจะต้องสะอาดกว่าท่านอย่างแน่นอน!”

แจกันดอกไม้ถูกทุบลงมาอย่างจัง ฉินหรูเหลียงยกมือขึ้นมาบัง เศษกระเบื้องกระจัดกระจายเต็มพื้น และปักโดนมือของเขาด้วย จนมือของเขาชุ่มไปด้วยเลือด

“เฉินเสียน ท่านเบื่อชีวิตแล้วหรือ?” ฉินหรูเหลียงยกมือข้างที่ไม่โดนเศษกระเบื้องของเครื่องลายครามขึ้นมาลูบใบหน้าของเขา จากนั้นก็ปัดเศษกระเบื้องที่ปักอยู่บนมือออก

ในขณะที่อารมณ์ของเขากำลังจะถึงจุดเดือดสุด

“เบื่อชีวิตแล้ว? ข้าจะบอกให้ว่าอะไรเรียกว่าเบื่อชีวิตแล้ว” เฉินเสียนสีหน้าไม่เปลี่ยน ตะโกนเสียงดังลั่น : “อวี้เยี่ยน! มาประคองข้าหน่อย!”

อวี้เยี่ยนรีบเข้าไปประคองเธอ เดินตรงเข้าไปหาฉินหรูเหลียง ฉวยโอกาสในขณะที่ฉินหรูเหลียงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เธอเอนหลังเล็กน้อย จากนั้นยกขาข้างหนึ่งถีบฉินหรูเหลียงเต็มแรงจนเขาล้มลงกับพื้น

ฉินหรูเหลียงสาบานได้เลย ว่าไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนแบบนี้มาก่อน

หลังจากนั้น จู่ๆ ฉากนี้ก็เปลี่ยนไปจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งเฉินเสียนและฉินหรูเหลียงต่างก็พากันตกตะลึง

เพราะในขณะที่เฉินเสียนถีบจนฉินหรูเหลียงลงไปกองกับพื้น เพียงชั่วอึดใจ จู่ๆ ก็มีลูกดอกสีดำที่ไม่รู้ว่าพุ่งมาจากทางไหน ทิศทางคมชัด พริบตาเดียวก็พุ่งผ่านเฉียดลำตัวของเฉินเสียน ปักโดนแผงกระดานไม้ของเครื่องลายคราม

และนอกจากกระดานนั่นแล้ว ก็ไม่มีผู้อื่นอีกเลย นอกจากฉินหรูเหลียงเพียงคนเดียว

ถ้าเกิดเฉินเสียนไม่เตะเขา เขาคงโดนลูกดอกนี่พุ่งเข้าตัวอย่างแน่นอน

สองสามีภรรยาที่ทะเลาะกันอย่างเมามันในตอนแรก จู่ๆ ก็มีอาวุธสังหารพุ่งเข้ามา ผู้คนที่พากันมุงดูอยู่ในตอนแรกกระจัดกระจายหนีไปคนละทิศคนละทาง

พอมีเรื่องศัตรูตามล้างฆ่าขึ้นมา ความวุ่นวายจึงน้อยลงไปบ้าง

เฉินเสียนและฉินหรูเหลียงลืมเรื่องทะเลาะกันไปเสียสนิท

ฉินหรูเหลียงเกร็งไปทั้งตัว เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น กลั้นหายใจใช้สมาธิเพ่งเล็ง สำรวจไปรอบๆ อย่างละเอียด

เฉินเสียนกวาดตามองไปรอบๆ ทำได้เพียงกะระยะจากตำแหน่งของกระดานโดยพิจารณาจากทิศทางของการยิงของลูกดอก เธอหันหน้ากลับไปมองแต่ไม่เจอกับบุคคลต้องสงสัยเลย อดไม่ได้ที่จะสบถขึ้นว่า : “***หมาตัวไหนเป็นคนยิงกัน? ขอร้อง คราวหน้าเล็งให้ตรงเป้าหน่อย อย่าให้ข้าที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาพลอยโดนหางเลขไปด้วย”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด