ปล้นสวรรค์ – SPH:บทที่ 5 สวัสดีคนหล่อ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ปล้นสวรรค์ ตอนที่ 5 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

SPH:บทที่ 5 สวัสดีคนหล่อ

มันใกล้เวลาเริ่มเรียนและมีนักเรียนหลายคนออกันอยู่ที่ประตู หลายคนหยุดรถและนักเรียนที่ใส่ชุดของโรงเรียนมันธยมต้นเซียงหยูเดินออกมาจากภายในรถ
“ขอบคุณนะฮันเสวี่ย !” ฉันแย่แน่ๆถ้าเธอไม่รับฉันมาด้วย”
คนที่พูดกับเด็กสาวที่น่ารัก ชุดเครื่องแบบนักเรียนที่เธอสวมดูเหมือนได้รับการแก้ ซึ่งเน้นให้เห็นรูปร่างที่เล็กและบอบบางของเธอ
“ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนี่นา!”
คนที่ตอบว่าเป็นผู้หญิงที่สูงเพรียว ผมยาวสีดำของเธอพาดอยู่บนไหล่ เธอหันศีรษะของเธอและผมของเธอไหวพลิ้วตามลม เผยให้เห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ มันเหมือนกับว่าดอกบัวบานในน้ำศักดิ์สิทธิ์และดูมีเสน่ห์
ชื่อของเด็กหญิงคือฮันเสวี่ย และคนมีบอกว่าเธอมีพรสววรค์โค่นล้มอาณาจักรได้ด้วยวัยเพียง สิบหก หรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น
คนที่ยืนข้างฮันเสวี่ยคือ ฉินชิง เป็นเพื่อนสนิทของฮันเสวี่ย
เมื่อ ฉินชิง เห็นใบหน้าด้านข้างของฮันเสวี่ยร่องรอยของความอิจฉาปรากฏในดวงตาของเธอก่อนที่เธอจะซ่อนมันไว้
ฮันเสวี่ยมาจากตระกูลที่ดีและพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยในเมืองหมิงโจว ไม่เพียงแค่เมืองหมิงโจวเท่านั้น เขายังเป็นเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด นอกจากนี้ ไม่แค่พื้นเพของฮันเสวี่ยที่เรียนดีแต่เธอมีลักษณะที่โดดเด่นอีกด้วย
ทำให้ฉินชิง ที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกอิจฉาและอิจฉาเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะมีเพื่อนเช่นนี้ ฉินชิง ต้องซ่อนความอิจฉาเอาไว้ในใจ
“ฮันเสวี่ย ฉันได้ยินว่าคนที่ชื่อโอวหยางหยู ในห้องเรียนของเธอกำลังไล่ตามจีบเธออยู่งั้น เขาเป็นผู้มีอิทธิพลของโรงเรียนของเราเลยนะ ครอบครัวของเธอก็รวยทำไมเธอไม่ชอบหล่ะ?”
“ฮึ ยังทำเป็นหยิ่งยโส!” ฉินชิงสาปแช่งอยู่ในใจและเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตายหล่ะ พี่เสวี่ย !” นี่มันยุคอะไรแล้ว? ยังมีนักเรียนมัธยมที่ล้าสมัยเช่นเธอได้อีกหรอ หากโอวหยางหยูอยากจะไล่ตามจีบฉันนะ ฉันแต่งงานกับเขาไปนานแล้ว”
ได้เยินเช่นนั้น ฮันเสวี่ยหัวเราะ “ฮาฮา ให้เขาจีบเธอก็ได้นะ!”
“ฉัน….แค่ ขณะที่ฉินชิงจะพูดบางอย่าง เด็กผู้หญิงหลายคนที่อยู่ไกลๆได้ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจของพวกเขา
“ว๊าว!”หนุ่มหล่อ คุณเรียนอยู่ห้องไหน?”
“ไหน? แล้วไหนหล่ะ?
“เขาหล่อจริงๆนะ !” เขาดูหล่อกว่า โอวหยางหยูจริงๆ !” โอ้พระเจ้าเขาเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่หรือ? ทำไมไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย?”
“ว๊า!” เขายิ้มให้ฉันด้วย ! เขาอยากจะเล่นกับฉัน! “
เย่หยูมองสาวน้อยหุ่นอวบอ้วนและมุมปากเขากระตุกขึ้น ฉันเกรงว่า ฉันไม่สามารถอุ้มคุณขึ้นได้
เย่หยูพูดจ้องมองสาว ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ดวงตาของเขามีประกายสีแดงไหววูบก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปในอาคารโรงเรียนอย่างรวดเร็ว
เมื่อฉินชิงได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของเด็กหญิงเหล่านั้น เธอบดริมฝีกปากด้วยความรังเกียจ จะมีเด็กคนไหนในโรงเรียนมัธยมเซียงหยูที่หล่อว่าโอวหยางหยูอีกหรือ?
ตาช่างต่ำจริงๆ ? ไม่มีแมวหรือหมาใดๆที่จะกล้าเอาไปเปรียบเทียบกับโอวหยางหยู! ” ในใจของฉินชิง โอหยางหยูไม่ได้แค่หล่อเท่านั้นแต่ยังรวย ประเภทที่รวยมากๆๆ !
“เขาหล่อกว่าโอวหยางหยู” ฮันเสวี่ยพูดเสียงเบาๆและรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงกว่าเดิม
จากระยะไกลพวกเขาจะเห็นได้เพียงรายละเอียดด้านข้างของเย่หยู ภายใต้ผมสีดำยุ่งเล็กน้อยของเขา มีดวงตาคู่หนึ่งสดใสเท่าอัญมณีสีดำ สันจมูกตั้งตรงของเขาที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา เขาดูดีมากๆ
“ว๊า !” ฮันเสวี่ย ดูสิ! เขาหล่อจริงๆ ! เขาอาจจะหล่อกว่าโอวหยางอยูที่อยู่ชั้นเดียวกับเธอก็ได้! ” ฉินชิงลืมไปทันทีเกี่ยวกับสิ่งที่เธอคิดตอนนี้และร้องเรียกขณะดึงแขนของฮันเสวี่ย
“เขาหรอ? ดูเหมือนอยู่ห้องเดียวกับเรา ! ” ฮันเสวี่ยมองไปยังรายละเอียดของเย่หยูและรู้สึกว่าเหมือนมาก แต่เธอไม่เชื่อว่าเป็นคนๆเดียวกัน
“ห้องเธอหรอ? ฮันเสวี่ย อย่ามาโกหกฉันนะ! จะมีนักเรียนคนไหนที่หล่อกว่าโอวหยางหยูอีก?” ฉินชิงไม่เชื่อเพราะเธอคุ้นเคยกับห้อง สามและห้องหนึ่งของฮันเสวี่ยเป็นอย่างมาก

“อืม….อาจจะไม่ใช่ก็ได้” เห็นเย่หยูเดินเข้าไปในตึกเรียน ฮันเสวี่ยเริ่มไม่แน่ใจ คนนี้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะเย่หยูหรือป่าว?
เคยอยู่ที่โต๊ะเดิมนี้มาสามปีแล้ว ฮันเสวี่ยพบว่าเธอไม่ค่อยได้พูดคุยกับเย่หยู ด้วยภาพลักษณ์ของเขาในใจเธอช่างมืดมัว
ในชั้นปีที่หนึ่ง เย่หยูก้าวเข้าสู่ห้องเรียนที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยอีกครั้ง สิ่งที่คุ้นคือเย่หยูเรียนที่นี้ได้สามปีแล้วและสิ่งที่แปลกคือในสามปีนี้เขาไม่ได้รับอะไรมากไปกว่าที่เขาได้ทำ และเขาทำได้น้อยกว่าสิ่งที่ได้ทำอยู่มาก
ในห้องเรียน นักเรียนส่วนมากเริ่มทยอยนั่งที่และกระซิบกระซาบกันเพื่อรอชั้นเรียนเริ่ม
เมื่อเย่หยูก้าวเข้าห้องเรียน พวกเขาเงียบลงทันทีและจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“อ๊า!” “หล่อ!” เด็กหญิงร้องทำลายความเงียบ
“คนนี้คือใครหรอ!? อยู่ห้องของเราหรือ?”
“คนหล่อ ชื่ออะไรคะ?” มีแฟนหรือยัง?”
เมื่อเปรียบเทียบกับนักเรียนหญิงที่ยิ้มแย้มและกระตือรือร้น นักเรียนชายหลายคนกลับเงียบดูหงอยลงกว่าเดิม
คนนี้คือโอวหยางหยู คนนี้ซึ่งคือคนที่เหยียดหยามเย่หยูหลังโรงเรียนเลิกเมื่อวาน
เขา โอวหยางหยู คือคนที่โดดเด่นก่อนที่เย่หยูจะเข้ามา เขาสนุกกับการได้รับการมองอย่างชื่นชมของสาวและจ้องมองอย่างอิจฉาของพวกผู้ชาย แต่ตอนนี้ตั้งแต่เย่หยูเข้ามาเขาเป็นเหมือนตัวตลกที่ถูกถอนตัวจากการแข่งขั้น
โอวหยางหยูค่อนข้างหล่อเช่นกันแต่การแสดงออกที่แผ่วลงของเขา เทียบกับความสูงและตาที่เรียวแคบซึ่งถูกทำลายด้วยแสงทำให้เขาเหมือนเย็นชามากขึ้น
“นี้คือชั้น 12 ห้อง 1!” แกเป็นใคร มาทำอะไรที่นี!” เสียงที่เย็นชาโอวหยางหยูทำลายความเงียบของนักเรียน
เย่หยูเงยหน้าและมองที่โอวหยางหยูที่ยืนอยู่หน้าเขา ชายที่เป็นตำนานวิเศษในโรงเรียน นักเรียนที่ครั้งหนึ่งเคยเปรียบเขาเหมือนกับมด หัวเราะเบาๆ
“แกจำไม่ได้หรอที่คนแกเห็นนะ? ชื่อของฉันคือเย่หยูและเป็นนักเรียนรุ่นนี้หเองหนึ่ง นอกจากนี้แกกำลังขวางทางของฉันอยู่!”
เย่หยูหรอ? จากปี 1หรอ โอวหยางหยูเกือบจะหัวเราะ แต่ปากของเขาเผยแค่รอยยิ้ม เขาจ้องมองที่เย่หยูอย่างปลุกปั่น “หากแกต้องการแทนที่เขา ทำไมแกต้องหาคนที่ชื่อ เย่หยู ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นคนประเภทไหนกัน! “
“โอ้? บอกสิ เย่หยูดูเป็นคนยังไง
เย่หยูก้าวไปข้างหน้า ตาของเขาจ้องที่โอวหยางหยูดังสายน้ำที่ไหลลึก แสงประหลาดเปล่งออกจากดาบวิญญาณเกิดขึ้นที่ร่างของเย่หยู เจาะไปยังโอวหยางหยูเหมือนดาบที่คมกริบ
“แก…แก…ตาของโอวหยางหยูเบิกกว้างและพูดไม่ออก ขาของเขาสั่นเทาและเหงื่อเย็นไหลลงมาที่หน้าผากของเขา
ขณะนั้น มันราวกับว่าโอวหยางหยูถูกแทงที่หน้าอกด้วยดาบคม
“แกอยากจะพูดอะไร? พูดมา อย่าโกหกเหมือนคางคกที่อยู่กลางถนน แกช่างน่ารำคาญจริงๆ” เย่หยูก้าวเข้าไปอีก พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม
การกดขี่โอวหยางหยู เป็นสาเหตุให้หน้าของเขาซีดลงราวกับกระต่ายน้อยสีขาวในปากของราชสีห์
“ได้” ใบหน้าของโอวหยางหยูที่ซีดและร่างกายที่สั่นเทา เขาขยับเท้าออกเพื่อหาทางออกให้เขา
หลังจากเย่หยูออกไป โอวหยางหยูค้นพบว่าเขาเคลื่อนที่ไปอย่างไม่รู้ตัวผิวสีซีดของเขากลายเป็นหมองลงทันทีเหมือนดั่งสายน้ำ
โอวหยางหยูไม่กล้ามองที่หลังของเย่หยูและแทนทีจะตะโกนอย่างโกรธแค้นในระหว่างนักเรียนคนอื่นในห้องเงียบ “เขาไม่ใช่เย่หยูแน่ๆ เขาทำได้ยังไง? เร็วตามเขาไป เขาไม่ใช่เย่หยู! “
นักเรียนคนอื่นมองที่โอวหยางหยูผู้ที่โกรธจากความอับอายหันหัวของเขามองไปที่เย่หยูที่กำลังนั่งลงที่โต๊ะของเขา
“เขาคือ เย่หยู เสียงเพราะเสียงหนึ่งดังขึ้น โดยที่ไม่รู้ ร่างของฮันเสวี่ยปรากฎขึ้นในช่องประตูของห้องเรียน มองร่างของเย่หยูด้วยอาการสับสน
ฮันเสวี่ย เขาจะเป็นเย่หยูได้อย่างไร อย่างไปหลงกลเขาหล่ะ! ดูสิ ฮันเสวี่ยจ้องมองเย่หยูด้วยความแปลกประหลาย โอวหยางหยูรีบหยุดเธอและเดินตามไปทันที
“โอหยางหยู นี้คือโต๊ะของเพื่อนชั้น ฉันรู้ดีกว่าคุณว่าเขาเป็นอย่างไร!” ออกไปให้พ้น!”ฮันเสวี่ยขมวดคิ้วและเดินรอบที่นั่งของเย่หยู
โอวหยางหยูยืนอยู่ข้างหลังฮันเสวี่ยและเผชิญหน้ากับรอยยิ้มของเย่หยู ความโกรธในใจทำให้เขาแทบบ้า
แต่หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับเยหยูเมื่อครู่เขาก็ยังกลัวอยู่เล็กน้อยดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ที่นั่งของเขาอย่างขมขื่น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด