หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 208 สำรับล่องหน

อ่านนิยายจีนเรื่อง หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 208 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

เพียงได้เจอเกอซี ต้านต้านก็วิ่งเข้ามาเกาะแข้งขาเริ่มร้องห่มร้องไห้ส่งเสียงสะอื้น “ท่านแม่ ข้างหน้ามีสัตว์ประหลาด ! ต้านต้านกลัวจังเลย !”

 

หญิงสาวเริ่มรู้สึกหวั่นหวาด สัตว์ประหลาดกระนั้นหรือ ? นอกจากเหล่าสัตว์ป่าเวทที่น่ากลัวไม่กี่ตัวพวกนั้น คงไม่มีสัตว์ประหลาดอื่นใดหลบซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาฉางแห่งนี้อีกใช่ไหม ? หรือ เจ้าสิ่งที่ต้านต้านวิ่งหนีหน้าตื่นมานี้จะเป็นสัตว์เวท ?

 

หญิงสาวพยายามปลอบใจต้านต้านด้วยความยากเย็น ก่อนจะติดตามต้านต้านไปด้วยความระมัดระวังทุกฝีก้าว

 

แค่เพียงไม่นาน เงาร่างของสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาก็สะท้อนตกต้องสู่สายตาของเกอซี ทว่าแค่เพียงได้เห็น หญิงสาวกลับถอนใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น

 

สัตว์เวทอันใดกัน ! นี่มันโครงกระดูกเจ้าสัตว์เวทตัวยักษ์เท่านั้นเอง !

 

ทว่าจะอย่างไรเสีย แม้เพียงโครงกระดูกของมันก็เป็นกองขนาดมโหฬารอย่างแท้จริง ! เจ้าสัตว์เวทตนนี้เห็นจะสูงใหญ่กว่าเกอซีถึงสามเท่า หากมันยังมีลมหายใจอยู่ ย่อมต้องเป็นสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาที่สามารถสะเทือนขวัญทุกผู้คนได้อย่างแน่แท้

 

เกอซีเขกหัวต้านต้านเย้าเล่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “เจ้ามันช่างตาขาวนัก กับแค่เพียงโครงกระดูกยังกลัวเสียแทบแย่”

 

ต้านต้านยังคงหดตัวห่องุด ๆ ซ่อนอยู่หลังเกอซี ขณะแอบเหลือบมองเจ้าโครงกระดูดยักษ์ด้วยอาการประหม่าเนื้อตัวสั่นระริก

 

เกอซีย้ายความสนใจออกมาจากต้านต้านก่อนจะตรงเข้าสำรวจโครงกระดูกเบื้องหน้า

 

นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าเจ้าโครงกระดูกสรีระเช่นนี้น่าจะมาจากสัตว์เวทตนใด สภาพของโครงกระดูกนับได้ว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มองจากลักษณะเท่าที่เห็นยังไม่ปรากฏรอยแผล ทั้งไม่ปรากฏร่องรอยแห่งการถูกพิษ

 

หญิงสาวหยิบเศษกระดูกขึ้นมาชิ้นหนึ่งเพื่อตรวจดูมวลความหนานแน่นจึงพบว่าสัตว์เวทตนนี้อยู่ในช่วงชีวิตที่มีพลังเวทอย่างเต็มเปี่ยม  และจากสีของโครงกระดูกสามารถบ่งชี้ได้ว่ามันสิ้นใจมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยปี

 

สิ่งใดจะเป็นเหตุของการตายคาที่แห่งเจ้าสัตว์เวทขนาดมหึมาโดยไร้รอยขีดข่วนเช่นนี้ ?

 

หญิงสาวยังคงงุนงง ในช่วงเวลานั้นเกิดอะไรขึ้นในเทือกเขาฉางกันแน่ ?

 

เกอซี และต้านต้านติดตามค้นหาร่องรอยจากโครงกระดูกของเจ้าสัตว์เวทเข้าไปถึงป่าลึกในเทือกเขาฉาง ยิ่งกล้ำกรายลึกเข้าไป ทั้งคู่กลับพบโครงกระดูกมากมายก่ายกอง โครงกระดูกของเหล่าสัตว์เวทหลากหลายสายพันธุ์ ตลอดไปถึงกระทั่งโครงกระดูกมนุษย์ !

 

สภาพของโครงกระดูกทุกกองล้วนสมบูรณ์สิ้น ทุกชิ้นส่วนไร้รอยขีดข่วน ไร้สภาพที่ถูกตัดฟันทำร้าย คล้ายดั่งพวกมันทั้งหมดสิ้นใจลงภายในเสี้ยวอึดใจยังไม่ทันรู้สึกตัวด้วยซ้ำ

 

ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกหวั่นใจ สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายตายเกลื่อนไร้สภาพดิ้นรน ไร้รอยขีดข่วนได้เช่นนี้ ช่างเป็นขุมพลังที่น่าเกรงขามอะไรปานนี้ หรือคำกล่าวแห่งเทือกเขาฉางที่ทุกคนเอ่ยถึงนั้นมีอยู่จริง ?

 

ขณะที่ความคิดยังคงประมวลไปนั้น เกอซีพลันได้ยินเสียงท้องร้องจ๊อกกกก

 

เมื่อก้มลงมาจึงเห็นต้านต้านกำลังยกอุ้งเท้าน้อย ๆ ทั้งสองขึ้นกุมท้อง และครั้นต้านต้านรู้สึกตัวว่าเกอซีกำลังดูอยู่ เขาเพียงหัวเราะแก้เขินออกมาเบา ๆ

 

ในคราแรกที่ได้เห็นโครงกระดูกเจ้าสัตว์เวทนั้น ต้านต้านแตกตื่นตกใจอย่างหนัก ทว่าเมื่อได้เห็นซากโครงกระดูกที่เกะกะปะป่ายรายทางเช่นนี้ ต้านต้านจึงค่อยสงบจิตใจลงได้ เช่นนั้นยามนี้เมื่อต้องมานั่งจ้องเจ้าโครงกระดูกเนื้อเกลี้ยงเกลาพวกนี้จึงทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสำรับชุดลูกหมูย่างเกรียมแสนโอชะ ผลของมันจึงทำให้ภายในท้องเริ่มปั่นป่วนร้องโอดครวญ

 

เกอซีแหงนมองท้องฟ้า ครั้นเมื่อเห็นแสงตะวันลอยสูงอยู่เหนือม่านเมฆาย่อมเป็นการบ่งชี้ว่าในยามนี้คล้อยเข้าสู่ช่วงบ่าย ถึงเวลาสำรับมื้อกลางวันแล้ว

 

หญิงสาวนำสำรับที่ได้ตระเตรียมไว้ในมิติเวทออกมา : เนื้อย่าง น้ำแกงข้น ผักสด ขนมแป้งหลากชนิด ผลไม้คลุกปรุงรส กระทั่งน้ำผลไม้ซึ่งได้มาจากผลไม้เวทก็ยังถูกยกขึ้นโต๊ะ คล้ายทั้งคู่กำลังเตรียมตัวลงนั่งเที่ยวเล่นกินอาหารนอกบ้านเพื่อสำราญอิริยาบถ

 

ต้านต้านคว้าเนื้อย่างขึ้นกัดคำโตจนเปื้อนเปรอะไปทั้งปากพลางส่งเสียงเอะอะ “ท่านแม่…อาหารที่ท่านแม่ทำอร่อยที่สุดในโลกเลย….เยี่ยมไปเลย !”

 

เขมือบน่องไก่ไปเต็ม ๆ หนึ่งชิ้นแล้ว อุ้งเท้าน้อย ๆ ยังเหยียดยื่นมุ่งหาเจ้าขาไก่ชิ้นต่อไป

 

หากแต่อุ้งเท้าสั้นตันนั้นกลับไม่ได้สัมผัสความนุ่มนิ่มจากชิ้นเนื้อย่างแสนหอมที่คุ้นเคย ทว่ากลับกลายเป็นต้องโขกลงไปบนถาดน้ำเข็งเย็นยะเยียบ

 

ต้านต้านต้องจำยอมฝืนใจขยับกีบสั้น ๆ ไปหาสำรับชุดอื่นเพียงเพื่อจะพบว่า มันพลันว่างเปล่าไปแล้วเช่นกัน !

 

 

เสียงลมพ่นฮึดฮัดที่ปลายจมูกของต้านต้านก่อนร่างตุ้ยนุ้ยจะคลานต้วมเตี้ยมขึ้นไปบนผ้าปูโต๊ะเพื่อส่องถาดสำรับทั้งหมด หากทว่าสิ่งที่ตกต้องสายตากลับเป็นภาพที่น่าฉงน

 

บนโต๊ะที่เคยท่วมท้นจัดเรียงสำรับหลากหลายเมื่อครู่ก่อนยามนี้กลับว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ! สำรับในทุกถ้วยชาม ทุกถาดวางล้วนล่องหนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ! ไม่เว้นกระทั่งน้ำแกงก็ยังไม่เหลือทิ้งไว้แม้เพียงครึ่งหยดให้ได้ลิ้มลอง

 

***จบบท สำรับล่องหน***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด