Physicians Odyssey – บทที่ 33 แพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์และศาสตร์แพทย์แห่งลัทธิเต๋า

อ่านนิยายจีนเรื่อง Physicians Odyssey ตอนที่ 33 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 33 แพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์และศาสตร์แพทย์แห่งลัทธิเต๋า

 

 

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ได้มีชายกลางคนพร้อมกับกลุ่มคนอีก 5 คนตรงเข้ามาก่อนจะแนะนำตัว “คุณคือ Broken Finger ใช่มั้ย ? , ผมเป็นเพื่อนของโต๋ว”

 

 

ไคซงพูยังคงร่างกายอ่อนแอเพราะพึ่งฟื้นจากพิษ เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “ทั้งหมดไม่เกี่ยวกับลูกสาวและซูเถา , ชั้นจะตามพวกนายไปเอง”

 

 

ชายวัยกลางคนพยักหน้า “เร็วเข้าเถอะ , ถ้ามัวแต่ช้าเดี๋ยวพวกเราจะเดือดร้อนกันหมด ยังไงซะ ดูเหมือนนายจะสร้างศัตรูเอาไว้มากทีเดียว มีคนหลายคนเลยล่ะที่ต้องการฆ่านาย”

 

 

ไคซงพูถอนหายใจ “ชั้นหวังว่าพวกนายคงจะปกป้องลูกสาวชั้นได้ ! ชั้นจะให้ความร่วมมือกับพวกนายในการสะสางเรื่องนี้เอง”

 

 

ชายวัยกลางคนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า “วางใจได้เลย เราจะทำให้ดีที่สุด เดี๋ยวพวกเราจะปล่อยข่าวลวงออกไป มันจะทำให้คนอื่นไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวแบบสุ่มสี่สุ่มห้า สุดท้ายพวกมันก็ไม่กล้าที่จะเผยตัวออกมา ซึ่งมันจะทำให้ร้านขายของเก่ามรกตนี่ปลอดภัย”

 

 

ไคซงพูถูกชายสองคนพาออกไป ในขณะที่ไคหยานใจสลายและเริ่มอาละวาด

 

 

ไคซงพูเดินเข้าไปใกล้ไคหยานก่อนจะกระซิบที่หูของเธอ “พ่อได้บอกซูเถาไว้แล้วว่าให้ดูแลลูกด้วย , ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อ พ่อแค่ต้องชดใช้ในสิ่งที่ได้ก่อเอาไว้เท่านั้นเอง”

 

 

เมื่อรถขับออกไปจากย่านถนนเก่า ไคหยานรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนแทบจะลงไปกองกับพื้น แต่ก่อนที่เธอจะร่วงลงไปบนพื้น เธอรู้สึกว่าได้มีมือมาโอบเอวเธอไว้ และซูเถาได้ยืนอยู่ข้างๆเธอ

 

 

ไคหยานได้เผลอเอาหัวซุกไปที่ไหล่ของซูเถาโดยไม่รู้ตัว เธอรูสึกว่ามันแข่งแกร่งมากซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ

 

 

“แล้วพ่อชั้นจะเป็นยังไง ?” ไคหยานกลั้นน้ำตาก่อนจะผลักซูเถาออกไป

 

 

“ตราบใดที่พ่อของเธอยังไม่ตาย มันก็ไม่เป็นไรหรอก ทางที่เขาเลือกนั้นมันเป็นทางเดียวที่เขาเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องเธอ” ซูเถาวิเคราะห์ต่อ “ศัตรูของเขาจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเนื่องจากพ่อของเธอนั้นได้ยอมแพ้แล้ว ในตอนนี้ไม่มีใครคิดจะแตะต้องเธอและร้านของเก่ามรกตหรอก พวกตำรวจจับตาดูเรื่องนี้อยู่”

 

 

ไคหยานเช็ดน้ำตาก่อนจะกำหมัด “ชั้นจะต้องช่วยพ่อ”

 

ซูเถาพยักหน้า “เพื่อการนั้น เธอจำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งขึ้น”

 

 

ในตอนนี้ซูเถาทำได้เพียงแค่ปลอบไคหยานได้เท่านั้น อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเธอที่อยู่ในสภาวะซึมเศร้า

 

 

ทันใดนั้น ซูเถาก็ได้นึกถึงคำขอสุดท้ายของไคซงพู เขาไม่เพียงแค่ต้องปกป้องไคหยานเท่านั้น แต่ต้องทำให้เธอแข็งแรงและมีความสุขด้วย

 

 

ณ ดินแดนทางทิศตะวันออกของมลฑลหัวเป่ย เมืองเหอซึ่งรู้จักกันในนามสวนของแพทยศาสตร์ราชันย์ที่มีไว้เพื่อเก็บเกี่ยวสมุนไพร มีพวกตระกูลเนี่ยเป็นแกนนำในการดูแลซึ่งพวกเขานั้นเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคของแพทย์แผนจีน พวกเขายังมีส่วนในการขึ้นราคาของตัวหนอนเชื้อราในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย

 

 

อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ดีว่าการที่ตระกูลเนี่ยนั้นร่ำรวยเป็นเพราะการปล้นสุสาน ถึงแม้พวกเขาจะพยายามล้างชื่อของตัวเองให้สะอาดแค่ไหน แต่ชื่อโจรปล้นสุสานก็จะติดตัวพวกเขาไปตลอด

 

 

สวนแพทย์ราชันย์นั้นมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งนอกจากจะมีฟาร์มแล้วยังมีตลาดที่เหล่าพ่อค้าทั่วสารทิศมักจะมารวมตัวกันทุกๆปี มีคำกล่าวไว้ว่า ไม่มีสมุนไพรชนิดไหนที่ไม่สามารถขายได้ที่นี่ และถ้าคุณมีเงินมากพอ คุณก็สามารถซื้อกิจการของที่นี่ได้ และมันจะสร้างรายได้ให้คุณอย่างไม่สิ้นสุด

 

 

ห่างออกมาจากตลากประมาณหนึ่งกิโลเมตร ได้มีบังกะโลที่สุดหรูสูงสามชั้นตั้งอยู่ ซึ่งมันถูกสงวนเอาไว้ให้ตระกูลเนี่ย

 

 

ที่ใจกลางของบังกะโล มีอยู่หลังนึงซึ่งดูใหญ่กว่าที่เหลือ มันเป็นอาคารหลักที่เอาไว้สำหรับจัดการประชุมของพวกตระกูลเนี่ย

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนนั่งอยู่กลางโต๊ะด้วยท่าทางเคร่งเครียด ในขณะที่น้องชายของเขา เนี่ยไฮ่โผพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อซักครู่ , ทางแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์ได้ส่งข่าวมาที่ทางเราว่าเหยาจงได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว แม้แต่ทางนั้นเองก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ พี่ใหญ่ , เขาเป็นบุคคลพรสวรรค์ที่ตระกูลเนี่ยของเราได้ดูแลอย่างดี พวกเราจะต้องแก้แค้นให้เขา !”

 

 

แพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์นั้นเป็นผู้นำในด้านการวิจัยทางการแพทย์ , และด้วยการสสันบสนุนของพวกเขา ทำให้ตระกูลเนี่ยสามารถสร้างชื่อในด้านนี้ได้จนถึงทุกวันนี้

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนยังคงนั่งเงียบอยู่ มิสฉีก็ได้พูดขึ้น “ชั้นมีข้อสงสัย , ทำไมเหยาจงถึงได้ปิดบังชั้นแล้วแอบกลับไปที่ร้านของเก่ามรกต ?”

 

 

เนี่ยไฮ่โผขมวดคิ้วก่อนจะตอบกลับ “พี่สะใภ้ , เขาแค่จะย้อนกลับไปทำลายหลักฐานหลังจากที่ไคซงพูตายแล้วก็เท่านั้นเอง”

 

 

มิสฉียิ้มอย่างเย็นชา “ชั้นไม่คิดว่ามันจะแค่นั่นหน่ะสิ ,ชั้นได้วางแผนเตรียมเอาไว้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกลับไปทำลายหลักฐานหรอก , ไม่ใช่ว่าเขาดูจะถูกใจลูกสาวของไคซงพูถึงได้ย้อนกลับไปหรอกเหรอ  ?”

สีหน้าของเนี่ยไฮ่โผเปลี่ยนไปก่อนจะชี้ไปยังมิสฉี “นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ !?”

 

 

มิสฉีถอนหายใจ “ตอนที่อยู่ในรถ , เขาได้กล่าวชมรูปลักษณ์ของไคหยาน , ถ้าตามที่ชั้นคิด เหยาจงดูเหมือนจะไม่ได้หักห้ามใจเลย ถึงแม้ว่าไคหยานกับเหยากั๋วจะไม่ได้แต่งงานกันโดยสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็ยังคงแต่งงานกันในนาม ดูเหมือนเหยาจงจะสนใจเกี่ยวกับไคหยานมากทีเดียว มันคงจะเกินไปหน่อยสำหรับเขาที่กล้าคิดเรื่องแบบนี้กับลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง”

 

 

“ไร้สาระ !” เนี่ยไฮ่โผยืนขึ้นก่อนจะพูดต่อ “พี่ใหญ่ , ตอนนี้เรากำลังหารือกันเพื่อที่จะแก้แค้นให้เหยาจง แต่พี่สะใภ้ดันกลับมากล่าวหาเขา ถ้าพวกนายไม่อยากจะทำ ชั้นจะจัดการด้วยวิธีของชั้นเอง”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ไฮ่โผ , ไม่ใช่ว่าชั้นจะไม่อยากช่วยนายหรอกนะ แต่ชั้นได้ข่าวมาว่าไคซงพูนั้นมอบตัวแล้ว เรื่องเมื่อ 20 ปีที่แล้วอาจจะถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่พวกเราตระกูลเนี่ยเท่านั้น แต่มันมีคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องพลอยจะโดนหางเลขไปด้วย นี่ไม่ใช่จังหวะที่ดีที่จะเคลื่อนไหวหรอก”

 

 

“เรื่องมันก็ตั้งหลายปีแล้ว ,  แถมไคซงพูก็เป็นแค่คนนอก มันจะไปรู้อะไร ?” เนี่ยไฮ่โผเถียง

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนได้กวักมือเรียกผู้ช่วยของเขา “เอาจดหมายให้ไฮ่โผดูหน่อย”

 

 

สายตาของไฮ่โผเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “นี่มัน เรื่องมันไปไกลถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ?”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนกล่าว “คนที่ทำคดีนี้อยู่เป็นที่รู้จักกันในนามตำรวจมือปราบที่ดีที่สุด โต๋วฉิงหู เขายังรับผิดชอบคดีนี้เมื่อหลายปีก่อนด้วย เมื่อไม่กี่วันก่อนชั้นเห็นเขาที่จงหนานไห่ ชั้นกลัวว่าเขาอาจจะเจอเบาะแสบางอย่าง”

 

 

นั่นเป็นหลักฐานว่าเขาไปที่จงหนานไห่ในฐานะตำรวจกองปราบอาชญากรรม

 

 

เนี่ยไฮ่โผหัวเราะ “ชั้นไม่คิดเลยว่าเขายังจะตามเรื่องนี้อยู่อีก เราได้เตือนเขาไปแล้วว่า เขาจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ถ้ายังยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้อยู่”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนเหลือบมองไปยังเนี่ยไฮ่โผก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “พ่อมักจะพูดเสมอว่าอารมณ์ร้ายของนายนั้นรุนแรงเกินไป ถ้านายไม่ได้ไปทำร้ายลูกและภรรยาของเขา ทำไมเขาถึงยังพยายาทไล่ตามเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเนี่ยของเราอยู่อีก ?”

 

 

เนี่ยไฮ่โผเย้ยหยัน “เขาเป็นแค่ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมธรรมดาเท่านั้น ชั้นจะส่งคนไปจัดการกับเขา !”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนถอนหายใจ “ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว , การฆ่ากันน่ะมันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว พวกมันต้องการให้เราจนมุมแล้วจึงค่อยฉวยโอกาสเพื่อที่จะเล่นงานพวกเรา”

 

 

ถึงแม้ว่าเนี่ยไฮ่โผจะเห็นด้วย แต่เขาก็ยังรู้สึกลังเลในจิตใจ ลูกชายของเขานั้นเป็นทายาทของตระกูลเนี่ยที่มีพรสวรรค์และเป็นศิษย์โดยตรงของแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์

 

 

ในตอนแรกเนี่ยเหยาจงถูกเลือกให้เป็นคนที่จะได้รับการดูแลโดยมีสิทธิพิเศษอย่างดี แต่มีบางคนทำให้เขากลายเป็นคนพิการ แล้วเขาจะปล่อยไปได้อย่างไร เขาถึงได้ตัดสินใจที่จะใช้วิธีการอื่นเพื่อที่จัดการกับคนที่ทำลูกชายเขา

 

 

ไม่นานหลังจากการประชุม มิสฉีได้เดินตามเนี่ยไฮ่เถียนเมื่อการประชุมสิ้นสุดลง เธอถอนหายใจ “ไฮ่โผเริ่มจะกระวนกระวายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา , เขามักจะปีนเกลียวกับนายเนื่องจากความที่เหยาจงนั้นเป็นทายาทของตระกูล เหยาจงยังคงอ่อนประสบการณ์ในเรื่องนี้ ร้านขายของเก่ามรกตควรจะตกเป็นของเราตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังทำพลาด”

 

เนี่ยไฮ่เถียงส่ายมือเพื่อให้มิสฉีนั้นหยุดพูด  “เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ในตอนนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการตามหาไคซงพู”

 

 

มิสฉีพยักหน้า “ชั้นได้ส่งคนไปจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว , พวกเราจะได้รับข่าวดีในอีกสองวัน”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนกำหมัด “เราได้วางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายปี ทำไมแผนถึงล่มได้ ? มันเป็นเพราะอะไร ชั้นไม่เข้าใจจริงๆ !”

 

 

มิสฉีตอบกลับด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “เป็นเพราะไอ้หนุ่มร้านขายยาที่อยู่ข้างๆร้านขายของเก่ามรกตนั่นแหละ”

 

 

“โอ๊ะ ?” เนี่ยไฮ่เถียนดูมีทีท่าว่าจะสนใจกับเรื่องนี้มากทีเดียว

 

 

“ชื่อของมันคือซูเถา” เธอถอนหายใจ “ถึงแม้เหยาจงจะมีทักษะการต่อสู้ที่ดี แต่เขาก็ได้ดูถูกคู่ต่อสู้มากเกินไป คู่ต่อสู้ของเขานั้นได้ใช้เทคนิคลับในการปิดผนึกจุดฝังเข็มของเขานับสิบ และทำให้เขากลายเป็นคนพิการ”

 

 

“ปิดผนึกจุดฝังเข็มงั้นเหรอ ?” สีหน้าของเนี่ยไฮ่เถียนเปลี่ยนไป “ลองให้คนไปสืบดู ชั้นอยากจะรู้ว่าใครกันที่บังอาจต่อต้านตระกูลเนี่ยของพวกเรา !”

 

 

“จัดการเรียบร้อยแล้ว” มิสฉีพยักหน้า “เพียงแต่ชั้นรู้สึกว่าไฮ่โผคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ เขาจะไม่สร้างปัญหาให้พวกเราเหรอ ?”

 

 

เนี่ยไฮ่เถียนรู้สึกรำคาญและตอบกลับ “ไฮ่โผน่ะมันเป็นคนที่มักจะมีอารมณ์ชั่วร้ายเสมอๆ ปล่อยให้เขาทรมานกับมันซักหน่อยแล้วกัน มันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของตระกูลเนี่ยของพวกเรา”

 

 

“อารมณ์ชั่วร้าย ? นายหมายถึงความโลภงั้นเหรอ !” มิสฉีถอนหายใจ “หากต้องเผชิญกับอำนาจ ใครจะต้านทานการล่อลวงได้ ?”

เนี่ยไฮ่เถียนเลิ่กคิ้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ในฐานะที่เขาเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเนี่ย เขารู้สึกได้ว่ามิสฉีกำลังยุให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องนั้นเกิดการไม่ลงรอยกัน

 

 

หลังจากเนี่ยไฮ่โผออกไปจากตึก เขาได้ถ่มน้ำลายลงบนพื้น สุดท้ายแล้ว พี่ใหญ่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแก้แค้นให้เหยาจง ถ้าเหยาจงยังคงไม่เป็นอะไร พี่ชายของเขาอาจจะสอนบทเรียนบางอย่างให้รู้ถึงศักดิ์ศรีของความเป็นทายาท แต่การที่กลายเป็นคนพิการไปแล้ว มันทำให้เนี่ยเหยาจงสูญเสียสิทธิ์ในการเป็นทายาท ดังนั้นเนี่ยไฮ่เถียนจึงทอดทิ้งเขา เขาไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับปัญหา นี่คือความโหดร้ายของครอบครัวที่มีอิทธิพลใหญ่

 

 

แต่สำหรับพ่อของเขา เนี่ยไฮ่โผ จะต้องล้างแค้นให้ลูกชายของเขาให้ได้

 

 

เนี่ยไฮ่โผได้เข้ามานั่งในรถก่อนโทรศัพท์ไปหาแพทยศาสตร์ราชันย์ ซูเถียน “เป็นไปตามที่ชั้นคิด พี่ชายชั้นไม่อยากจะยุ่งเรื่องนี้”

 

ปลายสายของโทรศัพท์ตอบกลับ “ชั้นจะล้างแค้นให้กับลูกศิษย์ของชั้น”

 

 

เนี่ยไฮ่โผตอบกลับ “ถ้างั้น , ผมจะเพิ่มการสนับสนุนให้แก่แพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์ให้อีกในปีหน้า”

 

 

“รอข่าวจากชั้น” แพทยศาสตร์ราชากล่าว

 

 

อย่างไรก็ตาม เนี่ยไฮ่โผยังคงต้องการยืนยันสภาพของลูกชายของเขา “เหยาจงหมดทางรักษาจริงๆงั้นเหรอ ?”

 

 

แพทยศาสตร์ราชันย์ตอบกลับ “อีกฝ่ายใช้เทคนิคการฝังเข็มที่ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อน ชั้นทำอะไรไม่ได้เลย ! อย่างไรก็ตาม ชั้นจะลองถามไปยังลัทธิอื่นดูว่าจะมีใครช่วยได้ไหม”

 

 

แพทยศาสตร์ราชันย์มีความเชี่ยวชาญในการใช้ยา ในขณะที่ลัทธิอื่นเช่นลัทธิเต๋านั้นมีความเชี่ยวชาญในการฝังเข็ม

 

 

เมื่อเห็นว่าเริ่มมีความหวัง ไฮ่โผตอบกลับ “ผมต้องรบกวนคุณแล้วเรื่องนี้”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด