POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) – ตอนที่ 103

อ่านนิยายจีนเรื่อง POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) ตอนที่ 103 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 103 หนทางสุดท้าย!

ผู้แปล loop

ในเช้าวันศุกร์.

ดงซูบินที่มีท่าทางโมโหมากๆเดินเข้ามาในสำนักงานและเห็นฉางจี้ที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเขา

“ พี่จี้ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” ชายหนุ่มจากสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะที่หกกำลังแสดงความยินดีกับฉางจี้

ฉางจี้ได้แต่ยิ้ม:“ ไม่ต้องแสดงความยินดีขนาดนั้นก็ได้ ฉันก็แค่ได้รับเลือกไปอบรมเท่านั้นเอง”

และยังมีอีกสองสามคนจากแผนกการเมืองและฝ่ายการเงินเดินผ่านมาและทักทายฉางจี้กันอย่างยกใหญ่ “ พี่จี้ไม่มีใครสามารถเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรมกับพรรคคอมมิวนิสต์ได้ง่ายๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ พี่จี้จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีกในไม่ช้าแน่ๆ แล้วเมื่อถึงตอนนั้นพี่จี้ก็อย่าลืมพวกเราล่ะ” แน่นอนว่าหัวหน้าของสำนักจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และทุกคนรู้ว่าโจวเกาพยายามผลักดันฉางจี้อย่างแน่นอน อีกทั้งเขายังส่งให้ฉางจี้ไปอบรมในหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้โง่และรู้ว่าโจเกาต้องผลักดันให้ฉางจี้เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วไปคนใหม่อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกคนเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเขาและเริ่มให้ความสนใจกับเขา

ฉางจี้เองก็รู้สึกดีกับความรู้สึกนี้และเริ่มทำท่าทีเหมือนเขาได้รับตำแหน่งไปแล้ว เขายิ้มและพูดคุยกับพวกเขา

ในทางกลับกันดงซูบินเองรู้สึกเหมือนกับโจวฉางจูที่เคยผ่านช่วงเวลาที่เขาเกษียณอายุก่อนกำหนด ตอนนี้ดงซูบินเหมือนกับเขาเป็นตัวประหลาดที่ทุกคนไม่อยากเข้าใกล้เนื่องจากเขามีปัญหากับโจวเการวมไปถึงเพื่อนทีมฟุตบอลที่อยู่ๆแถวนั้นก็ไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ พวกเขาเพียงพยักหน้าแทนการทักทายปกติและเดินหนีเขาไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงพวกเขาไม่ได้กล่าวถึงดงซูบินในฐานะหัวหน้าอีกด้วย ตอนนี้ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับดงซูบิน

ฉางจี้หันกลับมาและเห็นว่าทุกคนไม่สนใจดงซูบินมันทำให้เขายิ้มแย้มขึ้นมา ‘มันถึงตาของฉันแล้ว!’

ความโกรธของดงซูบินก็มาถึงจุดเดือด ทันทีที่เขาเดินมาถึงสำนักงานของเขาเขาเรียกว่าฉางจี้เข้าไปในห้องของเขา

“ มีอะไร” ในอดีตที่ผ่านมาฉางจี้จะยังคงพูดกับดงซูบินในฐานะหัวหน้าของเขาอย่างไม่เต็มใจ แต่วันนี้เขาไม่ได้ทักทายดงซูบินเลย เขามองดงซูบินที่อยู่ตรงหน้าเขาโดยที่เขาเชิดหน้าทำตัวสูงสง น้ำเสียงของเขาเหมือนเป็นคนที่เหนือกว่าเหมือนกับว่าเขาเป็นหัวหน้าของดงซูบินแล้ว!

“ ท่าทางแบบนี้คืออะไรกัน นายรู้หรือป่าวว่านายกำลังพูดกับใครอยู่” ดงซูบินขมวดคิ้ว “ ฉางจี้อย่าคิดนะว่า ฉันไม่รู้ว่านายกำลังทำอะไรไป ฉันปิดตาข้างหนึ่งเมื่อคุณสร้างปัญหาเล็กน้อยให้ฉัน แต่นายดีกล้าเกินไป นายกล้าเปลี่ยนเอกสารการประชุมและทำตัวเหย่อยิ่งเช่นนี้หรอ”

ฉางจี้จ้องไปที่ดงซูบินและตอบอย่างเย็นชา:“ อย่ามากล่าวโทษฉัน!”

“ นายรู้ดีว่านายทำอะไรลงไป!”

“ คุณต้องมีหลักฐาน หลักฐานอยู่ที่ไหน เอามาโชว์สิ!”

ดงซูบินเองก็พยายามหาหลักฐานเมื่อวานนี้หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว แต่เครื่องถ่ายเอกสารในสำนักงานไม่มีฟังก์ชั่นในการเก็บบันทึก รูปภาพไม่กี่รูปเหล่านั้นอาจไม่ถูกพิมพ์ในสำนักงานด้วยซ้ำและฉางจี้อาจนำภาพเหล่านั้นมาจากบ้าน เขาไม่พบหลักฐานใด ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ถึงแม้ว่าดงซูบินจะรู้ว่าคนที่ทำผิดเป็นฉางจี้ ที่กลั่นแกล้งพวกเขา เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับฉางจี้ได้ นอกจากนี้ถ้าเขาไปหาผู้บริหารระดับสูงแล้วจะไม่มีใครเชื่อเขา!

“ อย่ากล่าวหาฉันถ้าคุณไม่มีหลักฐาน!” ฉางจี้ยิ้มอย่างเย้ยหยันบนใบหน้าของเขา “ คุณกำลังทำการกล่าวหาผิด ๆ !” ฉางจี้นั้น รอคอยมาจนถึงวันนี้ เขารู้สึกยอดเยี่ยม เขาคิดกับตัวเองว่า ‘แกดงซูบิน ……ฉันทนกับแกมานานแล้ว! ฉันรอวันนี้มานานและจะดูว่าฉันจะจัดการกับแกหลังจากที่ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้า! ถ้าฉันไม่จบอาชีพของแกอย่ามาเรียกฉันว่าฉางจี้!’

“ มันเร็วเกินไปที่นายจะฉลองชัยชนะครั้งนี้!” ดงซูบินกัดฟันของเขาแล้วพูดว่า:“ นายจะเสียใจกับสิ่งที่นายทำไป รอก่อนเถอะ!”

ฉางจี้ยิ้ม:“ ได้เลย มารอดูกัน หากไม่มีอะไรฉันขอตัวก่อน โอ้บอกให้คนอื่นพิมพ์เอกสา ให้ฉันด้วย ผู้ว่าการทางเมืองการโจว ต้องการพบฉัน ฉันยุ่ง” หลังจากพูดอย่างนั้นฉางจี้ก็เดินออกจากห้องของดงซูบินพร้อมรอยยิ้ม ‘จะเสียใจกับสิ่งที่ทำไปหรอ! ฮ่าๆๆๆ มาดูกันว่าใครจะต้องเสียใจ’

‘เวรเอ๋ย!’ ดงซูบินกระแทกโต๊ะทำงานของเขา!

ไม่เพียง แต่ดงซูบินถูกกลั่นแกล้งแต่คนทำผิดยังได้รับประโยชน์จากมันอีก ตอนนี้เขาโกรธมาก! ‘ไม่!ฉางจี้จะถูกส่งไปอบรมไม่ได้!’ หากฉางจี้ไม่เข้าร่วมการฝึกอบรมจะเป็นการยากที่เขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากรองหัวหน้าส่วนไปยังหัวหน้าส่วน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะต้องได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วนรองก่อน วิธีเดียวที่จะทำให้ดงซูบินรอดจากวิกฤตในครั้งนี้ คือหยุดฉางจี้ไม่ให้เขาเข้าร่วมการฝึกอบรมได้!

หลังจากโทรศัพท์สอบถามตารางการอบรมดงซูบินพบว่าหลักสูตรการฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขอให้หัวหน้าผู้ว่าการทางการเมืองโจวถอนตัวฉางจี้ออกจากการอบรมในครั้งนี้ ดังนั้นความหวังสุดของดงซูบินในครั้งนี้ก็คือหัวหน้าสำนักงานสาขาอย่างเช่นหัวหน้า หยานเหลียงแต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของหยานเหลียงในฐานะหัวหน้าสาขาเขตแห่งนี้ นั่นก็หมายความว่า……ดงซูบินมีเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้นที่จะหยุดฉางจี้ไว้ได้! นี้เป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะสามารถลบชื่อของฉางจี้ออกจากการอบรมได้! ถ้าวันนี้เขาทำไม่สำเร็จ มันก็เป็นวันสุดท้ายของการเป็นราชการของดงซูบินเช่นกัน!

ในตอนนี้ดงซูบินไม่มีตัวเลือกอื่น เขาเลยตรงไปที่ห้องทำงานของหยานเหลียง

วันนี้มีผู้บริการจากสำนักความมั่นคงแห่งชาติมาถึงสำนักงานสาขาเขตตะวันตกเพื่อตรวจสอบสำนักงานสาขาทั้งหมด ดังนั้นตอนนี้ในอาคารทั้งก็กำลังยุ่งกับการทำความสะอาดบริเวณรอบๆสำนักงานกันอยู่

‘เตาะ เตาะ เตาะ’ ดงซูบินสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก็เคาะประตูห้องทำงานของหยานเหลียง

“เชิญ!.”

เนื่องจากหยานเหลียงจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและตอนนี้เขาดูท่าทางอารมณ์ดีมากๆ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยานั้นกลับไม่ดีเท่าไร เมื่อเขาได้ยินว่าเขาจะถูกย้ายไปอีกจังหวัดทางตอนใต้และทุกคนในครอบครัวต้องย้ายไปอยู่กับเขามันทำให้ภรรยาของหยานเหลียงเริ่มทะเลาะกับเขา เพราะเธอยืนยันที่จะอยู่ในปักกิ่งกับลูก ๆ และปฏิเสธที่จะย้ายไปกับเขาด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมหยานเหลียงถึงอารมณ์เสียเป็นอย่างมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

“ หัวหน้าหยานครับผมมีเรื่องที่จะต้องรายงานหัวหน้า” ดงซูบินพูดอย่างตรงไปตรงม

หยานเหลียงเงยหน้าขึ้นมองดูดงซูบิน “รายงานเรื่องอะไร?”

ดงซูบินกล่าวว่า:“ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการจัดประชุมครั้งก่อนเรื่องเอกสาร ผม……”

หยานเหลียงขัดจังหวะเขา:“ ไปรายงานเรื่องนี้กับผู้ว่าการทางการเมืองโจวนู้นสิ!”

“ หัวหน้าหยานแต่มันเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น” ดงซูบินไม่สนใจเขาและได้พูดต่อไปว่า “ ความผิดพลาดนั้นไม่ได้เกิดจากการพิมพ์เอกสารของต้าหลินเหม่ยและฉางจี้แต่มันเกิดจากการที่ฉางจี้พยายามกลั่นแกล้งผมโดยการแทรกเอกสารแผ่นนั้นเข้าไปแทน หัวหน้าหยานน่าจะรู้เรื่องที่ฉางจี้ไม่ค่อยชอบผมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ดังนั้นในการประชุมครั้งก่อนเขาจึงแอบเข้าไปในห้องทำงานของผมและแอบเปลี่ยนเอกสารการประชุม ให้กับผู้ว่าการทางการเมืองโจวตอนที่พวกผมไปทานมื้อกลางวันกัน”

หยานเหลียงขมวดคิ้ว:“ นายมีหลักฐานไหม!”

ดงซูบินตอบว่า:“ มีคนที่สามารถเป็นพยายานได้ว่าฉางจี้อยู่คนเดียวในสำหนักงานตอนที่พวกผมไปทานมื้อเย็น ส่วนหลักฐานอื่น ๆ ……ผมกำลังค้นหามันอยู่ รูปภาพของเค้กเหล่านั้นยังอยู่กับผม ถ้าเราสามารถตรวจสอบลายนิ้วมือหรือ……”

หยานเหลียงส่ายหัว “ อย่างงั้นมาหาฉันอีกครั้งเมื่อนายมีหลักฐานชัดเจน”

ดงซูบินเองก็ไม่ยอมแพ้ “ คอร์สฝึกอบรมของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มอบหมายให้ฉางจี้เข้าอบรม การกระทำเช่นนี้ของเขาไม่เหมาะสมกับการถูกมอบหมายการฝึกอบรมครั้งสำคัญในครั้งนี้หัวหน้าหยาน ผมหวังว่าเขาจะถูกถอนออกจากการอบรมจนกว่าการสอบสวนเหตุการณ์นี้จะสิ้นสุดลง!”

นี่เป็นวันสุดท้ายของหยานเหลียงที่สาขาเขตตะวันตก จริงๆแล้วเขาไม่ต้องการยุ่งกับเรื่องเหล่านี้อีกแล้ว “ ฉันต้องการหลักฐาน ไม่มีหลักฐานทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์ นายสามารถไปคุยเรื่องนี้กับผู้ว่าการทางการเมืองโจวได้” ‘แหวนแหวนแหวน’ โทรศัพท์ที่โต๊ะของหยานเหลียงก็ดังขึ้น หยานเหลียงตอบรับและเขาก็ลุกยืนขึ้นทันที่ หลังจากวางสายเขาก็โทรออกไปอีกสายหนึ่งในทันที “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงจะมาถึงที่นี้แล้ว ทุกอย่างพร้อมหรือยัง”

ในตอนนี้ดงซูบินทำได้แค่เดินออกมาจากห้องทำงานของหยานเหลียงได้เท่านั้น

‘ทำได้เท่านี้แหละ’

‘ทุกอย่างจบแล้วเหรอ?’

‘อาชีพของฉันในการรับราชการได้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว!’

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด