POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) – ตอนที่ 218

อ่านนิยายจีนเรื่อง POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) ตอนที่ 218 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

EP 218 ความเข้าใจผิดของดงซูบิน

By loop

วันนี้มันเป็นวันที่แสนสดใสในช่วงฤดูร้อนและดวงอาทิตย์นั้นส่องแสงกระทบลงมาทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกดูอบอุ่น

 

ดงซูบินนั้นทานแป้งโดว์ 2 แท่งจากร้านอาหารเช้าระหว่างเดินทางไปธนาคาร ICBC เพื่อโอนเงิน 5 ล้านหยวนคืนให้กับฉูหยวนแน่นอนว่าบริษัทประมูลของเขา ยังคงต้องการเงินจำนวนนี้ในการดำเนินการและ ดงซูบินเองเก็บเงินได้เพียง 1.8 ล้านที่เขาได้รับจากตลาดหุ้น เงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับเขาที่จะซื้อรถใหม่และอพาร์ตเมนต์ ส่วนที่เหลือน่าจะเพียงพอเหลือเก็บไว้ใช้ในอนาคต

 

ระหว่างทางกลับไปที่ที่พัก ดงซูบินได้พบกับหยูเหมยเซียว ที่กำลังกลับมาจากตลาด

 

หยูเหมยเซียวนั้นไม่เห็น ดงซูบินและเธอกำลังใช้โทรศัพท์ของเธออยู่ เสียงของเธอนุ่มนวลและเขินอาย “ ฉัน…ฉันถึงบ้านแล้ว…แล้ววันอื่นล่ะ? วันนี้ฉันยุ่ง…ฉันต้องทำอาหารให้หัวหน้าซูบิน…. ใช่…ขอโทษ…ครั้งหน้า…โอเค…” หยูเหมยเซียพูดเบา ๆ และดูเหมือนจะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเธอ หลังจากวางสายเธอก็ถอนหายใจ

 

ดงซูบินเดินผ่านไป “ พี่หยู พี่กำลังคุยกับใครอยู่หรอ”

 

หยูเหมยเซียวตกใจและโบกมืออย่างรวดเร็ว “ ไม่มีใคร…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉากับคนที่อยู่ปลายสายของหยูเหมยเซียว แต่พยายามยิ้มเพื่อกบเกลื่อน “ ผู้ชายเหรอ” หยูเหมยเซียวก้มหัวลง ดงซูบินมองไปที่เธอและถาม “ แสดงว่าชายคนนั้นน่าจะอยากจีบพี่และอยากเดทกับพี่หรือเปล่า”

 

 

 

 

 

 

 

หยูเหมยเซียวลดศีรษะลงและหน้าแดง “ เขาเป็นตำรวจซึ่งฉันรู้จักตอนโอนทะเบียนบ้าน เขา…สองสามวันนี้…เขาเอาแต่โทรมาถามฉัน แต่หัวหน้าซูบิน ฉันไม่เห็นด้วยเลยที่จะเจอกับเขา…ฉันทานอาหารกับเขาในวันที่เขาช่วยฉันลงทะเบียนให้เสร็จเท่านั้น เขาช่วยเหลือฉันแล้วและฉันก็ปฏิเสธคำเชิญของเขาไม่ได้ ถ้าไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างงี้ฉันก็จะไม่ไปทานอาหารกับเขาแน่นอน…จริงๆนะ…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีแต่เก็บอารมณ์ซ่อนไว้ “ทุกอย่างปกติดี. ถ้าเขาถามพี่อยู่อีกครั้งในครั้งหน้า พี่เองไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉันจะไม่พอใจนะ”

 

หยูเหมยเซียวเองถึงกับตื่นตระหนก “ ฉัน…ฉันจะลบเบอร์เขาตอนนี้และจะไม่ติดต่อเขาอีกในอนาคต”

 

ดงซูบินเองยิ้มออก “ พี่หยูไม่จำเป็นต้องลบเบอร์ของเขา ไปกันเถอะ. ถ้าพี่ไม่ได้ออกไปเดทกับเขา เราก็จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ใบหน้าของหัวหน้าซูบินอย่างลับๆ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าดงซูบินกำลัง โกรธอยู่หรือเปล่า

 

ดงซูบินเองก็ไม่ได้โกรธหยูเหมยเซียวมากนัก แน่นอนว่าหยูเหมยเซียวเองก็ควรที่จะมีเพื่อนบ้าง นอกจากนี้เธอยังอายุไม่มากและยังมีลูกสาวด้วย แม้ว่าเธอต้องการจะหาใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ดงซูบินเองก็ก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ดงซูบินก็ยังรู้สึกอิจฉาชายคนนั้น เพราะลึกๆแล้วดงซูบินเองก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเธออยู่

 

หลังจากเข้าไปในบ้านหยูเหมยเซียว ถามหยูเซียวเซียว “ พี่สาวลวนกลับไปแล้วเหรอ”

 

หยูเซียวเซียววางหนังสือลงและพยักหน้า “ อาจารย์ลวนกลับไปโรงเรียนแล้ว พี่ใหญ่ พี่กลับมาแล้ว!”

 

ดงซูบินยิ้มและลูบหัวหยูเซียวเซียว “ ทำไมวันนี้เธอไม่ไปอยู่ที่โรงเรียนล่ะ”

 

“ ใกล้จะสอบปลายภาคเรียนแล้วครูของหนูก็ให้นั่งทำการบ้านอยู่ที่บ้าน”

 

“ตกลง. เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบของเธอให้ดี เธอต้องทำให้ดีที่สุด” ดงซูบินสัญญากับหยูเซียวเซียวว่า “ ถ้าเธอสอบได้ที่ต้นๆได้ ในโรงเรียน ฉันจะซื้ออะไรก็ได้ที่เธอต้องการให้”

 

หยูเซียวเซียวกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอย่างตื่นเต้นและกลับไปที่ห้องเพื่อตั้งใจอ่านหนังสือต่อ

 

หลังจากประตูห้องนอนปิดดงซูบินยิ้มและถาม “ แม่ของฉันมาที่นี้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า”

 

หยูเหมยเซียวพยักหน้า “ พี่สาวลวนเอาผลไม้มาให้นะคะ”

 

หลังจากนั้นไม่นานหยูเหมยเซียวก็ไปที่ห้องครัวเพื่อล้างผลไม้

 

บี๊บบี๊บบี๊บ เป็นการแจ้งเตือนทาง SMS ดงซูบินซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นเห็น หยูเหมยเซียวมองออกไปนอกห้องครัวอย่างลับๆจากมุมตาของเขา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและอ่าน SMS หลังจากนั้นเธอก็เช็ดมือและเริ่มแตะโทรศัพท์ ดูเหมือนเธอจะพิมพ์ตอบกลับ แต่เธอช้ามาก เธอใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการพิมพ์คำตอบ

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉาอีกครั้งและเข้าไปในห้องของหยูเซียวเซียว

 

“พี่ชาย.” หยูเซียวเซียวเงยหน้าขึ้นมองดงซูบิน

 

ดงซูบินปิดประตูตามหลังเขาและถามเบา ๆ “ แม่ของเธอกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า”

 

หยูเซียวเซียวเองก็หน้าแดง “ หนู…หนูก็ไม่รู้ แต่ไม่กี่วันมานี้มีคนโทรหาเธอ หนูถามเธอว่าเป็นใครเธอก็บอกว่าเป็นตำรวจจากแผนกทะเบียนบ้าน”

 

ดงซูบินถามต่อ “ เธอเคยเจอเขาไหม? เขาหน้าตาเป็นยังไง?”

 

“ ไม่ หนูไม่เคยเจอเขาเลย”

 

“ตกลง. ทุกอย่างปกติดี. ตั้งใจอ่านหนังสือต่อไปนะ” ดงซูบินออกจากห้องและไปที่ห้องครัว

 

หยูเหมยเซียวที่ยังคงพยายามตอบกลับ SMS รีบวางโทรศัพท์ของเธอ “ ผลไม้ใกล้ปลอกเสร็จแล้วนี้ รอสักครู่นะคะ”

 

ดงซูบินเองก็ยิ้ม “ พี่หยูส่ง SMS ต่อเถอะ ฉันไม่ได้รีบร้อนเลย โอ้ผู้ชายคนนั้นจากทะเบียนบ้านเหรอ? นิสัยของเขาเป็นอย่างไร”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบินและตอบกลับเบา ๆ “ ฉันคิดว่าบุคคลิกของเขาค่อนข้างดี”

 

ดงซูบินถาม “ สภาพครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร? ครอบครัวของเขามีกี่คน”

 

“ เขาเป็นลูกชายคนเดียวและสภาพครอบครัวของเขาถือว่าดี เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขา” หยูเหมยเซียว ตอบและอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเป็นคนที่บอกฉันเกี่ยวกับครอบครัวของเขา หัวหน้าซูบิน…ที่จริง…ฉัน….” หยูเหมยเซียว พูดติดอ่าง “ หัวหน้าซูบินฉันขอพูดคุยกับคุณได้ไหม? ฉัน…ฉันอยากจะย้ายออกไปกับหยูเซียวเซียว”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจและอารมณ์ของเขาก็ดูแย่ลงด้วย

 

หยูเหมยเซียวอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันแค่รู้สึกว่าการอยู่ที่นี่จะ…รบกวนคุณ”

 

ดงซูบินถอนหายใจในใจ “ พี่หยูจะออกไปเมื่อไหร่”

 

“ ฉันจะมองหาอพาร์ตเมนต์ใกล้ ๆ ในช่วงบ่ายวันนี้” หยูเหมยเซียว พูดต่อ “ ฉันจะยังคงกลับมาทุกวันเพื่อเตรียมอาหารให้คุณนะ”

 

ตงซู่ปิงโบกมือ “ วางผลไม้ไว้ที่นั่นและนำบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านมาด้วย”

 

หยูเหมยเซียวตะลึง แต่ไม่กล้าถามว่าดงซูบินจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไร เธอไปที่ห้องของเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนำบัตรประจำตัวมาด้วย พวกเขาเดินออกจากที่พักของครอบครัวและเธอก็ถาม “ หัวหน้าซูบินพวกเรา…พวกเราจะไปเช่าอพาร์ทเมนต์กันไหม”

 

“ใช่.”

 

อสังหาริมทรัพย์หัวเหมย. นี่คืออสังหาริมทรัพย์ระดับกลางมันตั้งขึ้นมาอายุหนึ่งปีในบริเวณใกล้เคียงและอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกสบาย มีร้านค้าและอาหารอยู่ใกล้ ๆ รถแท็กซี่จอดอยู่หน้าที่ดินและ ดงซูบินเข้าไปในที่นั้นโดยมีหยูเหมยเซียวอยู่ข้างหลังเขา หยูเหมยเซียวเองก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าซูบิน ถึงพาเธอมาที่นี่ ค่าเช่าสถานที่นี้แพง นอกจากนี้ยังเป็นตึกใหม่ จะมียูนิตให้เช่าอย่างงั้นหรอ?

 

ห้องตัวอย่างนี้ถูกถอดออกมาให้ผู้สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องก่อนและเป็นผู้บริหารอาคารที่ดูแลการขายอยู่ในขณะนี้

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และรู้ว่าหน่วยงานส่วนใหญ่ถูกยึดไปแล้ว เขาเข้าไปในสำนักงานบริหารอาคารและถาม “ มีหน่วยงานใหม่หรือป่าว”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตะลึง “ หัวหน้าซูบิน คุณคือ…”

 

ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทธุรกิจตอบ “ ขายหมดแล้วและเราเหลือห้องตัวอย่างเพียงห้องเดียว”

 

ดงซูบินคิดชั่วขณะ “ เอาล่ะ. พาผมไปดูห้องนั้นหน้อย”

 

ห้องตัวอย่างมีไว้เพื่อรองรับผู้ซื้อในการดูห้องชุดจริง พาร์ติชันและรูปแบบของยูนิตเหมือนกับส่วนที่เหลือของอพาร์ทเมนต์ในอาคาร แต่โดยปกติแล้วจะอยู่ชั้นล่าง ยูนิตเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดและราคาถูกกว่าเล็กน้อย

 

ห้องตัวอย่างนี้ตั้งอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์ 1 ยูนิต 101 และมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และพอใจกับมัน “ ยูนิตนี้ใหญ่แค่ไหนและราคาเท่าไหร่”

 

ผู้หญิงคนนั้นตอบ “ ยูนิตนี้เป็นแบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ประมาณ 80 ตรม. รวมอยู่ที่ประมาณ 300,000 หยวนและ 4,100 หยวนต่อตรม. ” อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ถือว่ามีราคาแพงมาสำหรับเมืองหยางไท่ แต่เมื่อเทียบกับปักกิ่งที่ต่อตรมราคาเป็นหมื่นนี่ถือเป็นราคาที่ถูกมาก

 

ดงซูบินถามรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยและเดินไปรอบ ๆ หน่วย

 

หยูเหมยเซียวชอบยูนิตนี้เช่นกันและเธอก็มองไปรอบ ๆ

 

ดงซูบินรู้ว่าความรู้สึกของ พี่สาวหยูเป็นอย่างไร ไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากครอบครัวของดงซูบินขายบ้านของพวกเขาแม่ของเขาและเขาก็คิดที่จะหาบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง แตกต่างจากการเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยที่ไม่ว่าบ้านเช่าจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นของพวกเขา

 

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาดงซูบินก็บอกกับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น “ขอบคุณ. เราจะขอดูรอบ ๆ ก่อน”

 

หลังจากผู้หญิงคนนั้นจากไหยูเหมยเซียว ก็ถาม “ ทำไมคุณถึงพาฉันมาดูอพาร์ทเมนต์นี้”

 

ดงซูบินไม่ได้พูดอะไรมากและหยิบบัตรธนาคารออกมาและส่งให้หยูเหมยเซียว “ รหัสของบัตรคือวันเกิดของฉัน ฉันเป็นข้าราชการและไม่เหมาะที่จะใช้ชื่อตัวเอง พี่หยูจะซื้ออพาร์ทเมนต์นี้ภายใต้ชื่อของพี่และชำระเงินเต็มจำนวน หากฝ่ายบริหารอาคารไม่สามารถดำเนินธุรกรรมได้ในวันนี้พี่หยูต้องวางเงินมัดจำก่อน”

 

หยูเหมยเซียวอ้าปากค้าง “ หัวหน้าซูบิน…คุณต้องการซื้ออพาร์ทเมนต์นี้อย่างงั้นหรอ”

 

ดงซูบินพยักหน้า “ ฉันจะรอพี่อยู่ที่นี่”

 

หยูเหม่ยเซียว รู้ว่าหัวหน้าซูบินั้นร่ำรวยและเมื่อเขาช่วยเธอจ่ายหนี้เขาก็เอาเงิน 200,000 หยวนออกไปในคราวเดียว หยูเหมยเซียวไม่รู้ว่าหัวหน้าซูบินได้เงินมาจากไหนและยังสงสัยว่าเขารับสินบนหรือป่าว แต่จนกระทั่งเธอได้เห็นดงซูบิน ซื้อขายหุ้นเมื่อวันก่อนเธอก็เข้าใจ หยูเหมยเซียวเห็นหัวหน้าซูบินเงียบและเธอไม่กล้าถามอะไร เธอหยิบบัตรธนาคารติดตัวแล้วเดินไปที่สำนักงานบริหารอาคาร

 

หยูเหมยเซียวกลับมาหลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงและคืนบัตรธนาคารและใบเสร็จรับเงินให้ ดงซูบิน “ การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์”

 

ดงซูบินหยิบบัตรธนาคารจากเธอและถาม “ชำระเต็มจำนวนหรือไม่”

 

“ใช่. พวกเขาบอกว่าวันนี้เราสามารถย้ายเข้าได้ แต่ยังมีเอกสารบางอย่างที่เราต้องกรอกเพิ่มเติมอีก”

 

ดงซูบินเองก็พยักหน้า “ไปกันเถอะ.”

 

หยูเหมยเซียวยื่นใบเสร็จให้ดงซูบิน “ นี่คือใบเสร็จรับเงิน คุณ…”

 

“ ฝากไว้กับพี่หยูก่อน”

 

เป็นเวลาประมาณเที่ยงเมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน หยูเซียวเซียวอยู่ในห้องนั่งเล่นดื่มโค้กหนึ่งกระป๋อง “ แม่ค่ะพี่ใหญ่ไปไหนมากัน? หนูหิวแล้ว.”

 

ดงซูบิน ตอบด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง “ เราไปซื้ออพาร์ตเมนต์มา”

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเบิกกว้างขึ้น “ ซื้ออพาร์ทเมนต์? พี่ใหญ่ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่มีอพาร์ตเมนต์หรือ?”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดหน้าลูกสาวเบา ๆ “ อพาร์ตเมนต์พี่ใหญ่ของลูกอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นของทางราชการ”

 

ดงซูบินนั่งลงบนโซฟาและโบกมือให้พวกเขา “ เซียวเซียวพี่หยูมานี้หน่อย ฉันมีบางอย่างจะพูดกับทั้งสองคน” คู่แม่และลูกสาวเดินผ่านไปและ ดงซูบินก็พูดต่อ “ ทั้งสองไปเก็บข้าวของกันหมดแล้ววันนี้ทั้งสองคนจะย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ฮัวเหม่ย”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตกใจ “ เราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?! เรา…เช่าห้องก็พอแล้ว!”

 

ดงซูบินส่ายหัว “พี่สาวหยูฉันจะให้อพาร์ตเมนต์นี้กับพี่และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันช่วยพี่ด้วย”

 

หยูเหมยเซียวจับมือของเธอ “ ไม่…ไม่…เราไม่สามารถรับสิ่งต่างๆจากคุณได้อีกแล้ว อพาร์ทเมนต์นั้นเกือบ 400,000 หยวน ฉัน…”

 

ดงซูบินพูดขัดเธอขึ้นมา “ นั่งลงและฟังฉัน พี่สาวหยู ฉันอายุน้อยกว่าพี่สาวหยูมากและฉันไม่ควรบอกเรื่องนี้กับพี่ แต่…เมื่ออายุมากแล้วหยูเซียวเซียวเองก็ยังเด็ก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถเลี้ยงเธอได้ตามลำพัง พี่สาวหยูควรไปพบเจอคนที่ดูแลพี่สาวหยู เอิ่ม…เจ้าหน้าที่จากแผนกทะเบียนบ้านก็ยินดีกับพี่สาวหยูใช่มั้ย? พี่ควรตัดสินใจด้วยตัวพี่เอง ถ้าพี่คิดว่าผู้ชายคนนั้นดีกับพี่และเซียวเซียวพี่ควรจะไปสานสัมพันธ์กับเขาต่อและออกไปอยู่กันสองคน”

 

หยูเหมยเซียวกำลังจะหลั่งน้ำตา “ ไม่…หัวหน้าซูบิน…ไม่ใช่แบบนี้!”

 

ดงซูบินขัดจังหวะเธออีกครั้ง “ การเป็นผู้ช่วยของฉันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวและพี่ควรใช้ชีวิตของตัวเอง ผู้ชายคนนั้นยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง? หากทั้งสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน ทุกคนสามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันแล้ว แค่ถือว่าอพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญแต่งงานจากฉัน โอ้ฉันจะช่วยพี่หางานหลังจากนี้ด้วย ถ้าพี่สาวหยูต่งงานพี่ควรหยุดทำงานเป็นผู้ช่วย”

 

แม้ว่า ดงซูบินจะไม่เต็มใจมากนัก แต่เขาก็ยังคงเคารพการตัดสินใจของหยูเหมยเซียว ทุกคนที่รู้จักดงซูบิน รู้ดีว่าเขาปฏิบัติต่อเพื่อนและญาติของเขาดียิ่งกว่าการปฏิบัติต่อตัวเอง เขาได้พิจารณาเกี่ยวกับอนาคตของหยูเหมยเซียวด้วยอพาร์ทเมนต์สามีและงานใหม่เธอไม่ควรมีความทุกข์ในอนาคต

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเปลี่ยนเป็นสีแดง “แม่! เราต้องไปไหม”

 

หยูเหมยเซียวกัดริมฝีปากล่างของเธอและกลั้นน้ำตาของเธอ

 

หยูเซียวเซียว มองไปที่ดงซูบินและจับแขนแม่ของเธอ “แม่! หนู…หนูไม่อยากไป! เราอยู่ที่นี่ได้ไหม” หยูเซียวเซียวไม่ได้พบกับเจ้าหน้าที่คนนั้นจากแผนกทะเบียนบ้าน แต่เธอรู้ว่าไม่มีใครปฏิบัติกับเธอได้ดีไปกว่าหัวหน้าซูบินแล้ว เธอรักที่นี่และชอบพี่ใหญ่คนนี้

 

หยูเหมยเซียวกัดฟันและพูด “ หัวหน้าซูบินฉันไม่ต้องการงานอื่น ฉัน…ฉันจะเป็นผู้ช่วยของคุณไปตลอดชีวิต”

 

ดงซูบินหัวเราะ “ พี่หยูพูดแบบนี้ได้อย่างไร? rujจะยังคงเป็นผู้ช่วยของฉันหลังจากแต่งงานได้อย่างไร? นี้ไม่ถูกต้อง.”

 

“ ฉัน…ฉันจะไม่แต่งงานอีกแล้ว! เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉัน … เราไม่ได้คบกัน! จริงๆ!”

 

“ แล้วถ้าพี่หยูพบว่านั้นเป็นผู้ชายในอนาคตล่ะ? ฟังฉันและยอมรับอพาร์ทเมนต์นั้น อย่างไรก็ตามบ้านหลังนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของพี่และพี่สามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากแต่งงานแล้ว” ดงซูบินกลัวว่าคำพูดของเขาจะดูเหมือนเป็นการห้ามเธอ “ เอาล่ะ. ไปเก็บข้าวของของพี่”

 

หยูเซียวเซียวตื่นตระหนก “แม่! แม่!”

 

ดงซูบินลูบหัวหยูเซียวเซียว “ เซียวเซียวเธอเป็นคนดีนะ ฉันจะไปเยี่ยมเธอเมื่อฉันว่าง”

 

หยูเหมยเซียวไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอได้อีกต่อไปและร้องไห้!

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกปวดใจมาก “ พี่สาวหยูอย่าทำแบบนี้ นี้ไม่ใช้การอำลากัน”

 

หยูเหมยเซียวร้องไห้ดังขึ้น “ หัวหน้าซูบิน…สะอื้น…เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉันไม่ได้อยู่ด้วยกัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขา…เขาเป็นคนที่ติดพันฉัน…ฉัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไง…สะอื้น…ฉันไม่ ไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานอีกครั้ง…ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน…สะอื้น…ฉันไม่ต้องการอพาร์ทเมนต์นั้น…ฉันไม่ต้องการอะไร…” ต

 

ดงซูบินเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหยูเหม่ยเซียวอย่างรวดเร็ว “ อย่าร้องไห้…มันเป็นความผิดของฉันเอง…ฉันขอโทษโอเค”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดน้ำตาและพูด “ โปรดเชื่อฉัน…ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา!”

 

ดงซูบินเองรู้สึกหนักใจ เขายิ้ม. “ เอาล่ะ…ฉันเชื่อพี่ หยุดร้องไห้. อย่าปล่อยให้ลูกสาวของพี่หยูหัวเราะเยาะคุณ”

 

“ สะอื้น…ที่ฉันอยากเช่าห้องข้างนอกคือ…เป็นเพราะพี่สาวลวนบอกฉัน…สะอื้น…บอกฉันว่าคุณมีปัญหามากมาย…และคุณยังบังคับให้เลขาธิการพรรคของมณฑลออกไปด้วย พี่สาวลวนกลัวว่า…สบ…อาจมีคนใช้ประโยชน์จากเซียวเซียวกับฉันเป็นข้ออ้างในการแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับคุณ…และมันอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพการงานของคุณ…เธอต้องการให้เราย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ…สะอื้น…ฉันรู้ว่าคุณทำให้หลายคนขุ่นเคือง เพราะฉัน…และฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณอีกแล้ว…นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการเช่าห้องข้างนอก…สะอื้น…ฉันไม่อยากย้ายออก…ฉันอยากอยู่ที่นี่

 

ดงซูบินตระหนักว่าเขาเข้าใจ หยูเหมยเซียวผิดมาตลอด หยูเหมยเซียวไม่ต้องการย้ายออกเพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นแม่ของเขาที่กลัวว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่ ดงซูบินทุบรถเบนซ์ระหว่างงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องแม่ของเขากังวลว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องการให้ หยูเหมยเซียว และหยูเซียวเซียว ย้ายไปอยู่กับเธอ!

 

อา! นี้ฉันเข้าใจผิดมาตลอดเลยหรอ!

 

ดงซูบินใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของหยูเหมยเซียว และปลอบใจเธอ “ เอาล่ะ. ถ้าไม่อยากจากไปก็อยู่ต่อเถอะ พี่สาวหยูสามารถอยู่ได้นานเท่าที่พี่ต้องการ”

 

หยูเหมยเซียวส่ายหัว “ ฉันสร้างปัญหากับคุณไม่ได้อีกแล้ว สะอื้น…ฉันเช่าห้องอยู่และอาศัยอยู่กับเซียวเซียว แต่ฉันจะยังคงทำงานให้คุณ”

 

ดงซูบินลูบผมยาวของหยูเหมยเซียว “ เอาล่ะเอาล่ะ…ทำในสิ่งที่พี่หยูต้องการ หยุดร้องไห้ได้ไหม”

 

หยูเหมยเซียวหยุดสะอื้นหลังจากได้ยินคำตอบของดงซูบิน “ จากนั้นฉันจะมาทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้คุณทุกวันและจะกลับไปที่ห้องเช่าในตอนกลางคืน”

 

ดงซูบินพยักหน้า

 

ในที่สุดหยูเหมยเซียวก็หยุดร้องไห้และเช็ดน้ำตาด้วยทิชชู่

 

ดงซูบินส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ถูกการร้องไห้การขว้างปาอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอาวุธของผู้หญิงที่ต่อสู้กับผู้ชาย ในที่สุดเขาก็ได้ประสบกับมันในวันนี้ หลังจากที่หยูเหมยเซียว สงบลงดงซูบิน กล่าว “ พี่สาวหยูเราจ่ายค่าอพาร์ทเมนต์แล้วและไม่สามารถขอเงินคืนได้ ย้ายไปที่ฮัวเหม่ยด้วยกันเถอะ เราจะยังอยู่ด้วยกันและจะไม่มีใครนินทาฉันที่นี้ ฉันกลับไปที่อพาร์ทเมนต์นี้เพื่อพักสักครั้ง คุณคิดยังไงกับสิ่งนี้?”

 

หยูเหมยเซียวหน้าแดง “ ฉัน…ฉันจะเชื่อคุณ”

 

หยูเซียวเซียวส่งเสียงเชียร์และกอดแม่ของเธอ

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบิน “ แต่อพาร์ทเมนต์นั้นต้องอยู่ภายใต้ชื่อของคุณ”

 

“ ฉันบอกว่านั่นคือของขวัญของฉันสำหรับพี่สาวหยู ถ้าพี่สาวหยูจะแต่งงานในอนาคตอพาร์ทเมนต์…”ดงซูบินชะงักเมื่อเห็นดวงตาของหยูเหม่ยเซียเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง “ เราควรคิดถึงเซียวเซียวด้วย แม้ว่าพี่สาวหยูจะไม่ต้องการพี่สาวหยูก็สามารถเก็บไว้เป็นสินสอดของเซียวเซียวได้”

 

หยูเซียวเซียวก้มหน้าลงอย่างเขิน ๆ และพึมพำอะไรบางอย่าง

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ลูกสาวของเธอและเช็ดน้ำตาของเธอด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณ. ฉันจะหาเงินมาตอบแทนคุณให้เร็วที่สุด”

 

“ มีอะไรให้ที่จะต้องตอบแทนหรอก? อพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญของฉันสำหรับเซียเวียว และไม่ใช่สำหรับพี่สาวหยูแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ”

 

หยูเหมยเซียวเองก็ไม่มีที่อยู่อาศัยแล้วและสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือลูกสาวของเธอ เธอไม่สามารถปฏิเสธอพาร์ตเมนต์ของ ดงซูบิน ได้อีกต่อไปเพราะเธอต้องพิจารณาอนาคตของลูกสาวของเธอ หลังจากที่เฉียนเฉียนเติบโตขึ้นเธอก็จะแต่งงานและต้องการบ้านของเธอเอง

ดงซูบินเองพอใจกับผลลัพธ์นี้ เขายิ้มและกล่าวว่า “ ไปเก็บของแล้วย้ายไปอพาร์ทเมนต์ใหม่กันเถอะ!”

 

หยูเซียวเซียววิ่งกลับไปที่ห้องของเธอด้วยความตื่นเต้นเพื่อเก็บของ

 

ขณะที่ หยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียว กำลังเก็บของดงซูบินเดินไปที่ระเบียงและโทรหาแม่ของเขา “ แม่ผมเพิ่งซื้ออพาร์ทเมนต์ให้พี่สาวยู อยู่ที่ ฮัวเหม่ย เอ่อ… แต่หยูเซียวเซียวคิดถึงผมและผมอาจจะอยู่ที่นั่นสักสองสามวันเมื่อตอนผมว่าง” ดงซูบินเองนั้นแหละที่เป็นคนที่คิดถึงพวกเธอและไม่ต้องการให้พวกเธอจากไป แต่เขาบอกเรื่องนี้กับแม่ไม่ได้

 

กลางดึก.

 

ฮัวเหมยเอสเตท.

 

หยูเซียวเซียวยังคงรู้สึกตื่นเต้นกับอพาร์ทเมนต์ใหม่ เธอเข้าออกทุกห้องตั้งแต่ช่วงบ่าย

 

หยูเหมยเซียวเองก็ดูอารมณ์ดีเช่นกัน หลังจากไม่มีที่อยู่อาศัยมานานในที่สุดเธอก็มีที่อยู่

 

ดงซูบินเคยคิดจะซื้ออพาร์ทเมนต์สำหรับหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวมาก่อนหน้านี้แล้วเขายังคงสับสนว่าฉูหยวน หรือ เสี่ยวหลานใครเป็นแฟนของเขา แต่เขารู้ดีว่าถ้าคนใดคนหนึ่งมาเยี่ยมเขาหยูเหมยเซีว และ หยูเซียวเซียว จะไม่สามารถอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของครอบครัวของเขาได้ เขาจะต้องแย่แน่หากปล่อยให้พวกเธออยู่ที่นั่น กล่าวอีกนัยหนึ่งคู่แม่ลูกคู่นี้เป็นระเบิดเวลาและฉูหยวน และ เสี่ยวหลานจะต้องไม่พบพวกเธอ ตอนนี้ด้วยอพาร์ทเมนต์ใหม่สำหรับพวกเขาดงซูบินเองรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

 

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ดงซูบินก็รู้สึกหนักใจและไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากเขาไม่รู้จะทำอย่างไรเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดคิดถึงเรื่องนี้และมีความสุขกับชีวิตของเขาในตอนนี้

 

“ พี่ใหญ่หนูควรวางแจกันนี้ไว้ที่ไหน” หยูเซียวเซียวถือแจกันใบใหญ่ออกมา

 

ดงซูบินหัวเราะ “ เธอเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์นี้ เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองได้เลย”

 

“ โอ้…งั้นหนูจะวางไว้ข้างคอนโซลทีวี!”

 

หยูเหมยเซียว กลัวลูกสาวของเธออาจทำแจกันแตกจึงไปช่วยเธอ “ระวัง.”

 

ดงซูบินก็พับแขนเสื้อขึ้นและเข้าไปช่วย

 

อพาร์ทเมนท์มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่เครื่องใช้ในบ้านจะถูกส่งในวันพรุ่งนี้เท่านั้น ตอนนี้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้ง 3 ก็นั่งลงบนโซฟาพลางหอบ หยูเหมยเซียว หยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของดงซูบิน และ หยูเซียวเซียว กำลังกอดแขนของดงซูบินไว้

 

ดงซูบิน ยิ้มอย่างมีความสุขและโอบแขนรอบเอวหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวเขาลุกขึ้นยืนและพาพวกเขาไปที่ห้อง “ ฉันซื้ออพาร์ทเมนต์แล้วตอนนี้ฉันเองก็ยังต้องการรถ ช่วยเลือกรถที่เหมาะกับตัวฉันให้หน่อย”

 

หยูเหมยเซียวรู้สึกว่าแขนของดงซูบินรอบเอวของเธอและเธอก็หน้าแดง เธอรู้สึกได้ว่าดงซูบิน ปฏิบัติต่อเธอในฐานะสมาชิกในครอบครัวของเขาและเธอก็ไม่ได้หยุดเขา ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตและหลังจากสามีของเธอติดการพนันเธอก็ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้อีกเลย

 

ดงซูบินมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา สินทรัพย์รวมของ บริษัท ประมูลของเขามีมูลค่าเกือบ 10 ล้านและเขาถือได้ว่าเป็นเศรษฐี แต่ในขณะนี้เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ การมีอพาร์ตเมนต์และรถยนต์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาอย่างมีนัยสำคัญ ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดงซูบินใฝ่ฝันเมื่อสี่ปีก่อน

 

ครอบครัวบ้านรถเงินอาชีพที่ดี…

 

ดงซูบิน รู้สึกว่าชีวิตของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด