จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 23

อ่านนิยายจีนเรื่อง จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up ตอนที่ 23 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


ตอนที่ 23 ข้าจะฆ่าเจ้า!
ทักษะศักดิ์สิทธิ์เป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ‘คลุ้มคลั่ง’ เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับหลังจากบรรลุความแข็งแกร่งของกายเนื้อ ทักษะนี้ของกอลิล่าดุร้ายนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมาก
สามคลั่งต่อเนื่องเป็นทักษะที่ทรงพลัง
กอลิล่าดุร้ายได้อยู่ระดับสูงสุดของระดับที่ห้า อีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นระดับที่หก สำหรับการที่มันสามารถใช้สามคลั่งต่อเนื่องออกมาได้นั้นแสดงให้เห็นว่าพลังปีศาจของมันได้กลั่นเป็นแก่นที่ทรงพลัง
พลังปีศาจของสัตว์ปีศาจนั้นก็คล้ายกับพลังปราณของผู้ฝึกตน
สัตว์ปีศาจอาจจะปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงออกมา กระทั่งยังสามารถป่นภูเขา ผ่าแยกแม่น้ำ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ในเวลานี้ พลังปีศาจภายในร่างของมันได้หมดลงไปแล้ว กระนั้นภายใต้สภาวะคลุ้งคลั่งของมัน มันก็สามารถดูถูกผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นกลั่นวิญญาณได้ทั้งหมด
ฉินเทียนหลบซ่อนตัวอยู่ที่ข้างทางและเห็นว่าบุรุษผู้นั้นไม่ได้ตั้งท่าต่อสู้อีก หากแต่มันกำลังจะหนี กระนั้นเขาก็ทราบว่าบุรุษผู้นั้นยืนอยู่ที่ปากเหวแห่งความตายแล้ว
หากว่าบุรุษผู้นั้นตายไป การที่ฉินเทียนจะสังหารกอลิล่าดุร้ายได้ก็ไม่ต่างอะไรกับการเพ้อฝัน มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย
เขาต้องหาทางช่วงชิงเวลาให้บุรุษผู้นั้นได้พักหายใจ หากว่าเขาไม่อาจสังหารกอลิล่าดุร้ายได้ ภารกิจของเขาก็จะไม่สำเร็จ ซึ่งเขาก็อาจจะต้องตาย อวิ๋นม่านเองก็จะถูกฉุดลากลงมาด้วยเช่นกัน
นั่นเป็นผลลัพธ์ที่เขาไม่ต้องการ
หลังจากที่ขบคิดใคร่ครวญแล้ว ฉินเทียนก็ตัดสินใจได้ เขาดึงเอาขวดเม็ดยาหยางเฉิงออกมาและตะโกนขึ้นว่า “ข้าจะถ่วงเวลามันเอาไว้ครู่หนึ่ง ใช้เวลานั้นหลบออกจากระยะโจมตีของมัน ฟื้นฟูพลังปราณของเจ้าซะ นี่เป็นเม็ดยาหยางเฉิงห้าเม็ด รับไป”
บุรุษผู้นั้นตกตะลึงและอดคิดไม่ได้ว่าฉินเทียนกำลังล้อเล่นอันใด ผู้ฝึกตนจะสามารถถ่วงเวลาสัตว์ปีศาจระดับห้าได้หรือ? นั่นเป็นไปไม่ได้!
กระนั้นฉินเทียนก็ไม่ได้กล่าวให้มากความอีก หลังจากที่โยนขวดยาไปให้บุรุษผู้นั้นแล้ว เขาก็พุ่งเข้าหากอลิล่าดุร้ายขณะเรียกใช้เคล็ดมังกรฟ้า….
บุรุษผู้นั้นหลบการโจมตีของกอลิล่าดุร้ายและคว้าขวดยาเอาไว้ มองดูฉินเทียนที่พุ่งเข้าใส่กอลิล่าดุร้ายแล้ว มันก็ค่อนข้างประหลาดใจ เม็ดยาหยางเฉิงไม่ใช่ของราคาถูก การที่สามารถโยนมันทิ้งได้เช่นนี้แสดงว่ามันต้องมีความเป็นมาไม่ธรรมดา
ตูม
ฉินเทียนกระโดดเข้าไปในระยะโจมตี โคจรพลังปราณห่อหุ้มมือทั้งสองข้างเอาไว้ เคล็ดมังกรฟ้าพลุ่งพล่านปั่นป่วนอยู่ภายในร่างของเขา คล้ายกับว่ามีมังกรและคชสารกำลังอาละวาดอยู่ภายใน
ฉับพลันรัศมีอันยิ่งใหญ่ของกอลิล่าดุร้ายก็หายไป มันกลับกลายเป็นรัศมีที่ดุร้ายเกรี้ยวกราดแทน กอลิล่าดุร้ายกลายเป็นดุดันขึ้นมา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจับจ้องอยู่ที่ฉินเทียน มันได้สังหารมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสิบห้าวัน กระทั่งสัตว์ปีศาจที่เชื่องเชื่อก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นดุร้าย ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงกอลิล่าที่มีความดุร้ายแฝงอยู่ในสายโลหิตอยู่แล้ว
การปรากฏตัวของฉินเทียนราวกับราดน้ำมันลงบนกองเพลิง กระทั่งผุ้ที่อยู่ในขั้นฝึกตนก็ยังกล้าเข้ามาตอแยมัน ความน่าเกรงขามของสัตว์ปีศาจระดับห้าใช่ไมีมีอีกต่อไปแล้วหรือไม่?
กอลิล่าดุร้ายหยุดไล่ล่าบุรุษและหันมาโจมตีเข้าใส่ฉินเทียน
ฉินเทียนพุ่งตัวหลบอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจต่อความโกรธเกรี้ยวที่พุ่งเป้ามาที่เขา
ปัง!
ปัง!
ปัง!
………………………………..
ภายใต้การโจมตีของกอลิล่าดุร้ายก่อให้พื้นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่น หมัดที่หนักหน่วงทุบทำลายพื้นดิน เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที พื้นที่รอบตัวฉินเทียนก็เกิดเป็นหลุมบ่อมากมาย
หากว่าเขารับการโจมตีเข้าไปสักครั้งแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้หายใจ
ความกดดันอันรุนแรงสามารถเป็นที่จินตนาการได้
“ใช้ค่าพลังปราณสิบจุด ใช้ค่าพลังปราณสิบจุด….”
เสียงของระบบยังคงดังอยู่ภายในจิตใจของเขาอย่างต่อเนื่องจนทำเขารู้สึกหงุดหงิดกับมันขึ้นมา ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโมโห หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เขาจะต้องหาโอกาศโจมตีกลับไป
ฉินเทียนทะยานตัวขึ้นและหยิบเม็ดยาหยางเฉิงออกมากลืนลงไปสองเม็ด มันสามารถฟื้นฟูพลังปราณให้กับเขาได้ทันทีหนึ่งพันจุด เขาร่อนลงบนแขนของกอลิล่าดุร้ายที่กำลังพยายามจะโจมตีเขา
สองมือยึดจับขนเส้นยาวสีดำบนลำแขนของมัน เขาค่อยๆไต่ขึ้นไปจนถึงตำแหน่งที่หยานเทียนสร้างบาดแผลเอาไว้
“อา….”
หมัดอันหนักหน่วงทั้งสองสองข้างต่อยไปยังบาดแผลนั้นจนลึกถึงกระดูก
“โฮกกกก…..”
กอลิล่าดุร้ายคำรามด้วยความเจ็บปวดและพยายามเหวี่ยงแขนไปมา ฉินเทียนไม่มีตำแหน่งให้ซ่อนตัว ดังนั้นจึงถูกเหวี่ยงลงมา
ระหว่างที่กำลังอยู่กลางอากาศ พลังชีวิตของฉินเทียนก็ลดลงไปมากกว่าครึ่ง โชคดีที่เขาได้กลืนเม็ดยาหยางเฉิงลงไปสองเม็ดก่อนหน้า ดังนั้นพลังปราณของเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบ เขาหมุนตัวกลางอากาศร่อนลงไปยังกิ่งไม้ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงไปอีกหนึ่งในสามส่วน
ฉินเทียนกล้ำกลืนความเจ็บปวดและล้วงเอาเม็ดยาหยางเฉิงออกมาอีกห้าเม็ด พลังชีวิตของเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาเล็กน้อย ความเจ็บปวดก็ค่อยๆลดลงไป ขณะที่เขากำลังจะโจมตีอีกครั้ง บุรุษผู้นั้นก็ฟื้นฟูกลับมาแล้ว
สองมือของมันรวบรวมพลังปราณสร้างเป็นค้อนเพลิงขนาดใหญ่ออกมา
ควบรวมพลังปราณเป็นอาวุธ!
ภายในขอบเขตขั้นกลั่นวิญญาณเมื่อพลังปราณเสถียรมั่นคงแล้ว มันก็จะสามารถควบรวบพลังปราณให้กลายเป็นอาวุธได้ อาวุธเช่นนี้กระทั่งยังแหลมคมยิ่งกว่าอาวุธระดับสูงบางชิ้น
บุรุษผู้นั้นร้องตะโกนออกมาขณะชูค้อนในมือขึ้นเหนือศีรษะ คนคล้ายกับเป็นร่างจุติเทพ รังสีสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมาจนสามารถสัมผัสได้….
ครืนนนนนน
กอลิล่าดุร้ายรับการโจมตีเข้าไปอย่างรุนแรง มันไม่สนใจฉินเทียนและหันไปปล่อยหมัดเข้าใส่บุรุษผู้นั้น
บุรุษผู้นั้นหันมามองฉินเทียน เขาเห็นมันยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ดูเบิกบาน
ฉับพลันฉินเทียนก็นึกขึ้นได้ถึงบางสิ่ง เขารีบตะโกนออกมา “อวิ๋นม่าน!”
อวิ๋นม่านที่กำลังลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าก็พลันทิ้งตัวลงและซัดผ้าแพรออกมาคล้ายมังกรทะยาน
ผ้าแพรทั้งคู่ทิ่มแทงเข้าไปในสองตาของกอลิล่าดุร้ายอย่างไร้ความปราณี
โฮกกกกกกกกกกกกกกก
กอลิล่าดุร้ายชักมือกลับมาและฟาดตบออกไป ผ้าแพรคู่ของอวิ๋นม่านขาดกระจุยขณะที่ร่างของนางพุ่งไปกระแทกกับต้นไม้
กอลิล่าดุร้ายรับการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปสองครั้งจนเหลือพลังชีวิตอยู่ไม่มาก
มันหลงเหลือพลังชีวิตเพียงก้นหลอด
โอกาสมาแล้ว เป็นโอกาสครั้งสำคัญ
พลังปราณของฉินเทียนพลันถูกรีดเค้นออกมาเพื่อปลดปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายด้วยพลังปราณทั้งหมดที่เขามี….
“ตาย!”
ฉินเทียนทะยานร่างเข้าหากอลิล่าดุร้าย
หมัดอันหนักหน่วงทั้งสองข้างต่อยเข้าใส่ร่างของกอลิล่าดุร้าย
“บัดซบ หากว่าเจ้าไม่ตาย ข้าก็คงไม่รอด!”
เปรี้ยงงงงง!
โลหิตฉีดพุ่งออกมา ด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้กอลิล่าดุร้ายเปลี่ยนเป็นเลื่อนลอย
ความเร็วของฉินเทียนไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาโจมตีเข้าใส่อีกครั้งหนึ่ง
โฮกกก!
กอลิล่าดุร้ายคำรามออกมาเป็นครั้งสุดท้ายและล้มฟาดไปกับพื้นดิน
ลมหายใจของมันขาดห้วงไป
มันตายแล้ว
ในที่สุดมันก็ตายแล้ว!
ฉินเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปเก็บแก่นปีศาจนั้นเองก็มีเสียงแทรกเข้ามา
“ฮ่าฮ่า….คาดไม่ถึงจริงๆ ข้าใช่โชคดีอย่างยิ่งหรือไม่?”
ฉินคุน ฉินหยางและศิษย์สายนอกอีกห้าคนพลันเดินออกมาจากหลังต้นไม้ พวกมันยิ้มออกมาอย่างเย็นชาขณะที่จ้องมองมาที่ฉินเทียน….

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด