จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 103

อ่านนิยายจีนเรื่อง จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up ตอนที่ 103 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 103

 

การเฝ้าระวังของเมืองขอบนภาในเวลานี้ถูกยกระดับจนเข้มงวด

 

นับตั้งแต่ทหารเกราะทองนําข่าวเรื่องที่ฉินเทียนประกาศจะปลิดปลงศีรษะของหยางฮงในอีกสามวันกลับมา หยางฮงซึ่งโกรธจัดก็สั่งเพิ่มเวรยามอย่างแน่นหนา หากฉันเทียนกล้าเหยียบย่างเข้ามาในเมืองขอบนภา เช่นนั้นเขาก็จะถูกสับเป็นชิ้นๆจนจําแนกศพไม่ได้

 

เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปปากต่อปากจนทําให้ผู้คนจํานวนมากให้ความสนใจ โดยเฉพาะราชวงศ์ต้าหลี่ การเคลื่อนไหวของฉันเทียนได้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ทหารกว่าสามแสนนายถูกเรียกรวมพลเป็นการลับ เตรียมพร้อมเคลื่อนกําลังได้ทุกเมื่อ

 

ทางด้านหยางฮงเองก็ตัดสินใจได้แล้วเช่นกัน พวกเขาจะไม่ยอมให้พวกราชวงศ์ต้าหลี่ล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของตระกูลหยางอย่างเด็ดขาด

 

หยางฮงเองก็ทราบว่าสงครามกับอาณาจักรต้าหลี่ใกล้เข้ามาแล้ว

 

แม้กระนั้น เขาเองก็คิดไม่ถึงเวลาอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นก็เพราะเรื่องของฉินเทียน หากไม่มีฉินเทียนปรากฏตัวขึ้นมา อาณาจักรต้าหลี่ก็ยังคงรีรอลังเลจนไม่สั่งระดมพลทัพแกร่งสามแสนนายรวดเร็วแบบนี้ เรื่องนี้ทําให้หยางฮงเกลียดชังฉินเทียนเข้ากระดูกดํา

 

และในทางกลับกัน ฉินเทียนเองก็เกลียดชังหยางฮงจนเข้ากระดูกดําเช่นเดียวกัน…

 

สามวันต่อมา ที่หน้าประตูเมืองขอบนภา ลมหนาวหอบหนึ่งพัดผ่านไป

 

พวกทหารยามสั่นสะท้าน ฉินเทียนก้าวเท้าขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง พวกทหารยามก็ถอยหลังก้าวหนึ่ง ใบหน้าของพวกเขาขาวซีด เหงื่อเม็ดโป้งหลั่งไหลจนเปียกชุ่มศีรษะ หอกที่กําอยู่ในมือส่ายไป ส่ายมาไม่มั่นคงเพราะความหวาดกลัวของผู้เป็นเจ้าของ

 

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ข่าวเรื่องความน่ากลัวของฉินเทียนได้กระจายไปทั่วทั้งเมือง ในหมู่ข่าว เหล่านั้นย่อมมีจริงบ้างเท็จบ้างประปนกันไป บางข่าวก็ผิดเพี้ยนจนทําให้ภาพลักษณ์ของฉินเทียนกลายเป็นโหดเหี้ยมยิ่งกว่ามัจจุราช และการที่เขาจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาก็ทําให้พวกทหารที่ตื่นกลัวอยู่แล้วกลายเป็นกลัวหนักยิ่งกว่าเก่าเมื่อได้พบฉินเทียนตัวจริง ทหารใหม่บางนายกระทั่งฉี่ราดจนกางเกงเปียกชุ่ม

 

” หลีกไป”

 

ฉินเทียนขมวดคิ้วก่อนจะกล่าวพร้อมปล่อยจิตสังหารออกมา ทหารหลายนายพลันรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนไม่อาจหยัดยืน ในสายตาของพวกทหารแล้ว ฉินเทียนก็คือปีศาจที่ปินกลับออกมาจากขุมนรก น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างที่สุด

 

ภายในเมือง ทหารหลายพันนายต่างกุมกระชับหอกไว้อย่างตื่นตัว สีหน้าทั้งหมดราบเรียบไร้อารมณ์ พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปยังประตูตะวันออก

 

ฉืนเทียนยกยิ้มเย็นก่อนจะก้าวเท้าออกเดินด้วยท่าทีผ่อนคลายที่ด้านหลังของเขายังมีฉินเหลียนที่สีหน้าเย็นยะเยือกดุจนางเซียนน้ำแข็งติดตามมา ทุกการก้าวเดินของนางจะสร้างเป็นรอยน้ำแข็งขึ้นมา

 

“หลีกไป หลีกไป.”

 

ที่ประตูเมือง อาชาสีแดงหลายตัวพุ่งฝ่าแถวทหารออกมา ผู้นําของทหารม้ากลุ่มนี้มีรูปร่างสูงใหญ่กํายํา ในมือถือดาบเหล็กเล่มหนึ่ง บุรุษผู้นี้ปลดปล่อยจิตสังหารพลางคํารามขึ้น พวกเจ้าทั้งหมดถอยไป!”

 

เห็นทัพทหารปรากฏตัวขึ้น ความกลัวของพวกทหารยามก็ลดลง หอกในมือถูกยึดกุมไว้แน่นไม่สั่นเทาดังเช่นก่อนหน้านี้อีก

 

“ผู้บัญชาการทหารม้ามาแล้ว!”

 

“ผู้บัญชาการทหารม้าที่อยู่ในขั้นกลั่นวิญญาณมาแล้ว!”

 

ผู้บัญชาการทหารม้านั้นขึ้นตรงกับหยางฮง มีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณ เป็นบุคคลที่มีความสามารถและแข็งแกร่ง การมาถึงของเขาทําให้พวกทหารมีขวัญกําลังใจ สายตาเปลี่ยนเป็นแน่วแน่มั่นคง

 

“ผู้บัญชาการทหารม้า?” ฉินเทียนหัวเราะ “บิดาจะเปลี่ยนเจ้าเป็นโถส้วม*เอง”

 

หม่าถง = ผู้บัญชาการทหารม้า ซึ่ง

 

[หม่าถงหลิง เรียกย่อๆว่า เขียนแบบเดียวกับโถส้วม]

 

บุรุษร่างใหญ่กระโดดลอยตัวจากหลังม้าขณะที่ดาบในมือก่อเป็นเงาดาบนับพัน พวกทหารที่อยู่โดยรอบรีบถอยห่างเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว “ไอ้หนูที่หยิ่งผยอง ลองรับทราบความแข็งแกร่งของเราหม่าชานดู!”

 

พละกําลังอันเปี่ยมล้นราวสัตว์ป่าถูกระเบิดออกมาจากร่างกํายํานั้น

 

พลังส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไปไว้ที่ดาบ ยามที่ดาบฟันลงมาก็ก่อเกิดเป็นเสียงฉีกอากาศ ที่ด้านหลังของเขา เทพเจ้าเริ่มก่อรูปขึ้นมาจากพลังฟ้าดิน

 

พวกทหารที่อยู่โดยรอบต่างพากันตื่นเต้น พวกเขาต่างพากันเฝ้ารอฉากที่ผู้บัญชาการทหารม้าฟันศีรษะของฉุนเทียนลงมา

 

” เหอะ”

 

ฉินเทียนแค่นเสียงโดยไม่แม้แต่จะชายตามองบุรุษที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ “ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณก็กล้ามารนหาที่ตาย หรือหยางฮงไม่ได้บอกเจ้าว่าข้าทะลวงผ่านแล้ว?”

 

กล่าวจบ กลิ่นอายของเขาก็เปลี่ยนไป กระบี่สองเล่มปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นเขาจึงพุ่งตัวออก

 

ฉึก!

 

บังเกิดรูโลหิตขึ้นสองรู วินาทีถัดมา เกราะปีศาจโลหิตสงครามก้เริ่มดูดซับแก่นโลหิตของหม่าชานอย่างหิวกระหาย ไม่ถึงครึ่งลมหายใจ หม่าชานก็กลายเป็นศพแห้งกรัง ดวงตาของหม่าชานยังเบิกโพรงอย่างโกรธแค้นและไม่ยินยอมพร้อมใจ

 

หม่าชานที่อยู่ในระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณตายแล้ว

 

ตายภายในท่าเดียว…..

 

“อ๊า…………..”

 

ในกลุ่มคนพลันมีเสียงกรีดร้องดังออกมา ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณกลับถูกฆ่าตายใน ดาบเดียว ความแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่เหนือความเข้าใจของผู้คนไปแล้ว มีเพียงการกรีดร้องออกมาจึงจะระบายความหวาดกลัวที่มีอยู่ในใจออกไปได้

 

กองทัพทหารที่ประกอบขึ้นด้วยจํานวนหลายพันพลันพังทลาย

 

ขวัญกําลังใจของพวกเขาหดหาย แตกกระจายไม่มีชิ้นดี แตกพ่ายตั้งแต่ยังไม่ทันสู้รบ สําหรับ พวกทหารระดับล่างแล้ว ฉินเทียนไม่แม้จะเปลืองเวลาไปจัดการ ค่าประสบการณ์จาการกําจัดทหารเลวพวกนี้น้อยนิดจนน่าอดสู อีกทั้งที่มาด้วยกันยังมีท่านน้าของเขา เขาจึงไม่อาจฆ่าฟันตามอําเถอใจได้ เป้าหมายของพวกเขามีเพียงคนตระกูลหยาง

 

แต่แน่นอนว่าเขาย่อมต้องฆ่าบุคคลที่เต็มใจจะตาย

 

ทหารหลายพันนายแตกสานซ่านเซ็นกันไป ทิ้งท้องถนนที่ว่างเปล่าเอาไว้ ประตูเมืองถูกปิดอย่างว่องไว ผู้คนที่พบเห็นฉันเทียนต่างมีการตอบสนองราวกับเห็นผี ทั้งหมดไม่แม้แต่จะกล้าหายใจเสียงดัง

 

“เทียนน้อย ไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกข้าหรอก เจ้าเดินอยู่บนเต๋แห่งการฆ่า เต๋านี้จะก่อกําเนิดขึ้นได้ก็ด้วยการฆ่า ไม่จําเป็นต้องสะกดระงับจิตฆ่าฟันเอาไว้” ฉินเหลียนที่เรียนอยู่ในนิกายสายพุทธย่อมมองออกว่าฉันเทียนระงับความต้องการฆ่าฟันเอาไว้

 

ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะนั้นมีเต๋าอยู่มากมายหลายหลาก แม้ว่าฉินเทียนจะไม่ได้เป็นผู้บ่มเพาะปีศาจ แต่เขาก็เดินอยู่วิถีแห่งการฆ่า นับตั้งแต่ที่มาที่นี่ นางก็รู้ว่าเพราะมีนางอยู่ด้วย ฉินเทียนจึงสะกดความต้องการฆ่าอย่างแรงกล้าเอาไว้ภายใน

 

ฉินเทียนชะงักก่อนจะยิ้มบาง ” ท่านน้า ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ฉินเทียนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ฉินเหลียนใส่ใจทุกการกระทําของเขา วางความสําคัญของเขาเอาไว้แรกสุด การเดินทางมายังเมืองขอบนภาครั้งนี้มีโอกาสรอดชีวิตไม่สูงนัก กระนั้นนางก็ยังเลือกที่จะติดตามเขามา

 

นอกเหนือจากช่วงปลายขั้นกลั่นวิญญาณอย่างหยางฮงแล้ว ที่นี่ยังมีผู้ที่น่ากลัวยิ่งกว่าอยู่ นั่นก็คือบรรพชนตระกูลหยาง ผู้บ่มเพาะขั้นสู่สวรรค์ที่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปี กระนั้นฉินเหลียนก็ยังติดตามมา นี่ทําให้ฉันเทียนซาบซึ้งยิ่ง เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมให้ฉินเหลียนต้องบาดเจ็บแม้เพียงปลายเล็บ

 

ทั้งสองเดินเคียงกันอย่างไม่รีบไม่ร้อน

 

นับตั้งแต่ที่ฉินเทียนเหยียบเข้าสู่เขตเมือง กลิ่นอายนักล่าก็ถูกแผ่ออกไป ทําให้เขารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายโดยรอบ เขากังวลว่าหยางฮงจะลอบโจมตี

 

หลังจากเดินไปได้พักหนึ่ง ฉินเทียนก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าวออกมา “มีสองคนรนหาที่ตาย”

 

หยางเปียว บุตรชายคนโต ระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณ อารมณ์มทะลุดุร้าย ศิษย์สายในของสํานักคลั่งสังหาร

 

หยางคุน บุตรชายคนเล็ก ระดับห้าขั้นกลั่นวิญญาณ นิสัยชั่วร้าย ฝึกฝนเคล็ดวิชาจื้อยินที่มีกลิ่นอายความตายหนาแน่น ศิษย์สายในของสํานักยินชาน.

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด