อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 106

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 106 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 106 มันคือโลกยุคโบราณจริงๆ

 

มองไปยังสิ่งของต่างๆนอกบ้าน อู๋ ฮ่าวเหรินครุ่นคิดว่าจะเอาอะไรส่งเป็นซองแดงให้พวกเขาดี

 

ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องการของโบราณที่มาจากโลกยุคโบราณหรอกเหรอ? สิ่งที่เราต้องการจะหยิบไปจริงๆก็คือของที่อยู่ข้างนอกแล้วค่อยเอาไปเช็คทีหลัง?

 

แน่นอนว่าถ้าเราต้องการที่จะทำแบบนั้นจริงๆ เทียนหยู่กรุ๊ปจะสามารถตรวจสอบตัวตนของเราได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

 

“กำลังมองอะไรอยู่เหรอลูก?”

 

เมื่อเห็นว่าแม่กำลังเดินออกจากครัวมา ตาของอู๋ ฮ่าวเหรินก็เป็นประกาย เขามีความคิดในใจแล้ว “ผมไม่ได้ดูอะไรเป็นพิเศษหรอกครับแม่ ออกมาพักผ่อนนิดหน่อยเฉยๆ”

 

“โธ่เด็กน้อย ลูกมีเงินมากมายแล้วแต่ลูกก็ยังต้องทำงานหนัก ถ้าลูกเหนื่อยมากๆ ลูกควรจะวางงานแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้านซัก 2-3 วันนะ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกรับแม่ อีกแปปเดียวก็คงจะดีขึ้นแล้ว แม่เองก็ไปพักผ่อนบ้างเถอะ”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินส่งแม่เขากลับไปยังบ้านจากนั้นก็แว้บกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อนำหม้อและกระทะที่เก็บอยู่ด้านในออกมา

 

ดี ตะเกียบทำไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถเก็บน้ำมัน เกลือ ซอสถั่วเหลืองแล้วก็น้ำส้มสายชูได้ เขาโฟกัสสายตาไปยังถ้วยและจาน

 

ถ้วยและชามที่บ้านของเขานั้นเป็นลายลูกไม้สีฟ้า พวกมันถูกใช้มาหลายปีแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินจำได้ว่าเมื่อเขายังเด็กมากๆ เขาเคยใช้ของพวกนี้ที่บ้าน

 

ถ้วยชามเหล่านี้หายากแล้วในเมือง และมีคนที่ใช้อยู่เป็นจำนวนน้อย

 

เหตุผลหลักที่โดนเลิกใช้นั่นก็เพราะว่าคนสมัยใหม่กินอะไรที่ดีเกินไป ทำให้ภาชนะใส่อาหารมันชิ้นเล็กลงและพวกเขาไม่ใช่ถ้วยใหญ่ๆเช่นนี้มาใส่อาหารน้อยๆหรอก

 

อู๋ ฮ่าวเหรินยังจำได้ว่าเมื่อเขาอยู่ในวัยเรียน คนที่กินได้มากที่สุดในหมู่บ้าน คือคนที่เอาก๋วยเตี๋ยวใส่หม้อเล็กๆ อ่างที่เต็มไปด้วยโจ๊ก และขนมปังก้อนใหญ่อีก 3-4 ชิ้น บางครั้งหัวของเขาแทบจะถือถุงซักถุงได้เลย

 

ตอนนี้คนในหมู่บ้านกำลังถือถุงข้าวจากภูเขาลงมากันอย่างระมัดระวัง และหลังจากนี้พวกเขาจะพักกันนิดหน่อย

 

ในท้ายสุดแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ตัดสินใจเลือกจานไป ชามนั้นเหลือน้อยแล้ว ในวันพรุ่งนี้แม่เขาคงจะรู้และคงบอกว่ามีขโมยเข้ามาในบ้านแน่ๆ

 

มันมีจานมากมายที่อยู่ด้านล่างนี้ที่ซึ่งเอาไว้ใช้สำหรับตรุษจีนโดยเฉพาะ และด้วยจำนวนที่มีเยอะ ยังไงแม่เขาก็ไม่รู้แน่ๆ

 

ขณะที่เลือกจาน เขาก็พบจานที่แตกอยู่บ้างและนั่นทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินหลุดยิ้มออกมา พวกแกจะได้ของโบราณสมใจอยากกันแล้ว

 

เมื่อเลือกได้แล้วเขาก็กลับไปยังห้อง ขั้นแรกเขาเริ่มจากทำจาน 8 ใบให้กลายเป็นซองแดงจากนั้นจึงเข้าระบบไป

 

“มานี่เร็วเศรษฐีพ่อค้าของเก่า”

 

“มาเร็วทุกคน ใครที่ไม่ออนไลน์ตอนนี้คงได้ช้ำใจตายแหงๆ”

 

กลุ่มคนเหล่านั้นกำหมัดแน่นและเตรียมพร้อมที่จะแข่งกันเพื่อรับซองแดงที่อู๋ ฮ่าวเหรินจะแจกกันแล้ว

 

“ทุกคนพร้อมแล้ว ผมจะส่งซองแดงให้ทีหลังนะ ก่อนอื่นเลยต้องทำให้มั่นใจก่อนว่าของพวกนี้เป็นของที่มาจากโลกยุคโบราณจริงๆและถูกห่อไว้อย่างดี ส่วนในด้านของมูลค่าทางโบราณวัตถุ ผมไม่สามารถยืนยันได้”

 

“ไม่เป็นปัญหา ตราบใดที่มันเป็นของโลกเก่า”

 

ในมุมมองของพวกเขา ตราบใดที่ของสิ่งนั้นๆมันมาจากโลกยุคโบราณ และมันไม่ได้ถูกใครพบเจอมานานแล้ว มันคือการตีสองหน้า เพราะยังไงซะคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณอยู่แล้ว พวกเขาก็แค่ต้องการสิ่งเหล่านี้ไปตกแต่งบ้านเฉยๆ

 

แน่นอนว่าถ้ามันมีมูลค่าสูง มันก็น่าจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมาก

 

“ขอยืนยันแค่ว่าของพวกนี้มาจากยุคโบราณจริง และ…จะส่งละนะ สำหรับ 4 ชิ้นในตอนนี้”

 

จานอีก 4 ใบที่เหลือ อู๋ ฮ่าวเหรินกะจะเอาไปให้ในกลุ่มของเชฟเพื่อถามพวกเขาว่าพอจะขายต่อได้หรือเปล่า

 

หากสามารถทำได้ มันจะเป็นอีก 1 ทางเลือกที่สามารถทำให้ได้รับส่วนผสมต่างๆได้เลย

 

หลังจากส่งซองแดงทั้ง 4 ไปแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินยังไม่ทันดูอะไรเลยก็พบว่าพวกมันโดนคนเหล่านี้เก็บไปแล้ว

 

เขาพูดอะไรไม่ออก แม้เขาจะอยู่โสดๆมากว่า 20 ปี ความเร็วของเขายังเทียบไม่ได้กับเหตุการณ์เมื่อครู่เลย

 

ชายคนหนึ่งรีบส่งภาพกลับมาและเอ่ยถาม “มันเหมือนจานเลย พวกเครื่องสังคโลกประเภทนี้ไม่ได้ใช้มานานแล้วด้วย”

 

“ใช่จริงด้วย นี่คือจานจริง มันเคยใช้สำหรับเสิร์ฟอาหารต่างๆบนโลกยุคโน้น ที่รู้เพราะฉันอ่านข้อมูลของวัตถุโบราณมาเยอะ มันไม่ได้ดีเท่าคริสตัลควบคุมอุณหภูมิ  มันง่ายที่จะใช่เจ้านี่ เพียงแค่วางมันลงไปเท่านั้นแต่มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิขึ้นบนจานนี้และนั่นทำให้รสชาติอาหารมันเปลี่ยนไปในทางที่แย่”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินพูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง ผู้คนไม่ได้ใช้เครื่องสังคโลกแล้ว แต่ไอ้คริสตัลควบคุมอุณหภูมิอะไรนั่นก็ฟังดูน่าสนใจไม่น้อยเลยแฮะ

 

แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถามคำถามโง่ๆแบบนั้นออกไป เพราะมันน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนในนี้ควรจะรู้จักอยู่แล้ว รวมถึงเขาด้วย

 

โดยปกติแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่ถามคำถามประเภทนี้เพราะมันจะทำให้คนอื่นสามารถรับรู้ถึงตัวตนของเขาได้

 

จากนั้นไม่นานชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ถูกนำไปตรวจด้วยระบบซองแดง และเมื่อผลออกมานั่นก็ทำให้ทั้ง 4 คนถึงกับช็อคไปเลย

 

ใครบางคนพูดขึ้นมา “มันเป็นของโบราณจริงๆด้วย ของๆยุคโบราณนั้นเลย แต่ถึงแม้จะเป็นของโบราณ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีราคามากนักหรอก”

 

“อ่า มันไม่ค่อยมีค่ามาก ของเหล่านี้ควรจะถูกค้นคว้าวิจัยโดยสถาบัน เปรียบเทียบกับหยกโบราณ ค่าของเจ้านี่ก็เฉยไปเลย”

 

“ฮ่าๆๆ ไม่เห็นเป็นอะไรเลยถ้ามันจะไม่มีค่า ตราบใดที่มันมาจากโลกเก่ายังไงมันก็มีค่าน่า มาคุยกันก่อน ตอนนี้ฉันจะไปกลุ่มอื่นแล้วเพื่อทำให้พวกเขาเชื่อฉัน ว่าฉันอยู่กลุ่มเดียวกับเศรษฐีพ่อค้าของเก่า”

 

“ใช่เลย ไปด้วยกันดีกว่า มันไม่สำคัญว่าจะได้เงิน ได้ราคาหรือไม่ ตราบใดที่มันเป็นของที่มาจากโลกยุคนั้น ยังไงมันก็โอเค เรื่องนี้มันตายตัวอยู่แล้ว”

 

ถึงแม้ว่าพอจะเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้วแต่มันก็ยังแอบเจ็บปวดอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นวัตถุโบราณแต่ก็ไม่ได้มีค่ามาก ในใจของอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นมีความผิดหวังเล็กๆอยู่ ดูท่าว่าถ้าหากจะแลกเปลี่ยนเหรียญพลังงานเยอะๆ คงจะต้องใช้ของที่พิเศษกว่านี้ ของที่หายากจริงๆและเป็นของพิเศษที่มีค่าสูงมากๆ

 

ยิ่งไปกว่านั้น ของบางอย่างก็ต้องหาคนที่เหมาะที่จะโชว์มันเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มัน ตัวอย่างเช่น ถ้าโทรศัพท์มือถือไม่ได้ถูกส่งให้เรดาร์ ป่านนี้มันก็คงไม่ต่างอะไรกับเจ้าจานนี่นักหรอก

 

ในความคิดที่วิ่งไปมาในหัวของอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นพอจะรู้แล้วว่าเขาต้องไปหาของเหล่านี้จากที่ไหนดี

 

ถ้าเป็นหยกใหม่ซักชิ้นหรือแร่เจไดต์ก็คงจะมีค่าไม่มากนักถึงแม้จะส่งและโดนยืนยันแล้วว่าเป็นของโลกยุคโบราณจริงๆ

 

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีใครซักคนเคยใช้มันและคนเหล่านั้นช่วยอธิบายเกี่ยวกับสิ่งนี้ได้ มันก็มีโอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ

 

อู๋ ฮ่าวเหรินดูผู้โชคดีทั้ง 4 ที่กำลังถูกทุกคนในที่นี้พูดถึง และหลังจากที่พูดคุยกับพวกเขาเสร็จ อู๋ก็สลับไปยังกลุ่มพิเศษของพวกเชฟทันทีเลย

 

ในกลุ่มนั้น นอกจากกล่องของเค้กคริสตัลแล้วก็ยังมีกล่องที่เขาได้มาจาก หนุ่มน้อยที่ซุกซน อีกด้วยซึ่งเอาจริงๆตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เอามันออกมา ปัจจุบันนี้เขาไม่ได้รับซองแดงอะไรเลยและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนกลุ่มนี้จึงค่อนข้างห่างเหินกันมาก

 

“ขอโทษนะครับ ที่นี่สามารถส่งเครื่องใช้บนโต๊ะที่ใช้โดยเชฟได้หรือเปล่าครับ?”

 

“ถ้าเป็นพวกภาชนะล่ะก็ได้นะ นายใช่พ่อค้าของเก่าที่ดังๆนั้นนี้หรือเปล่า? คนที่ทำให้พ่อหนุ่มซนคนนั่นถึงกับยอมเปลี่ยนกฏการแลกเปลี่ยนเลย?” ศิลปินหลอดอาหารเอ่ยถาม

 

“ใช่แล้ว ผมเอง ดีเลย พอดีว่าผมมีภาชนะบนโต๊ะที่มาจากยุคโบราณมานำเสนอ ไม่แน่ใจว่าพวกคุณจะต้องการมันหรือเปล่า”

 

“ถ้ายังไงก็เอามาดูก่อนก็ได้ ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่มันเป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารล่ะก็นะ ไม่มีปัญหาหรอก”

 

พวกเขาพูดเหมือนๆกัน อู๋ ฮ่าวเหรินจึงตัดสินใจส่งจานไปและนั่นก็ทำให้พบว่า สิ่งของประเภทนี้ไม่มีจำนวนของวัตถุดิบขึ้นมา

 

“อ่า เจ้าพวกนี้คือของที่ใช้บนโต๊ะอาหารในยุคนั้น มันทั้งหยาบแล้วก็ไม่มีความปราณีตเอาเสียเลย แต่เหมือนว่านายเองจะมีหัวใจของเจ้าพวกนี้ ฉันจะขอรับมันไว้หมดเลยละกัน”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังซองแดงที่ถูกเก็บไปโดยคนๆเดียวในตอนนี้ และเขาพบว่าเขามีค่าวัตถุดิบกว่า 40 พ้อยท์ในตอนนี้ นี่มันน่าพึงพอใจมาก ครั้งสุดท้าย เขาจะสามารถแลกค่าวัตถุดิบนี้ได้ 25  คะแนนเท่านั้น

 

ในขณะที่เขาเตรียมพร้อมจะออกจากกลุ่ม เขาเห็นพวกเชฟคุยถึงเขา และมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากๆขณะที่มองอยู่

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด