อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 108

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 108 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 108 ไลน์การผลิตเริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

จากการที่ประกาศรับสมัครพนักงานเข้าบริษัท นั่นทำให้ที่นี่มีพนักงานมากยิ่งขึ้น หลายๆสิ่งไม่จำเป็นต้องรอให้อู๋ ฮ่าวเหรินถามตัวเอง มันช่วยปลดปล่อยให้เขาหลุดออกจากการจัดการบริษัทและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจมอยู่กับปัญหาของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพ

 

จากการมาถึงของวัตถุดิบทั้งหมด และการที่เครื่องมืออุตสาหกรรมหลายๆอย่างก็ประกอบเสร็จแล้วดังนั้นโรงงานผลิตเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น

 

อู๋ ฮ่าวเหรินยังรับกลุ่มของทหารผ่านศึกที่มีความเกี่ยวข้องกับการดูแลปกป้องมาเพิ่มเพื่อดูแลความปลอดภัยในบริษัทด้วย

 

ตราบใดที่ยิ่งมีประเทศหลายประเทศสนใจสิ่งนี้ มันก็เสี่ยงที่จะเกิดการโจรกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจะไม่มีทางให้มันเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้แน่

 

จากการตรวจสอบของจี้ หลายวันมานี้มีสายลับกว่า 100 คนที่เข้ามายังบริษัทและได้ข้อมูลจากบุคลากรเราไป

 

อย่างไรก็ตาม โชคยังเข้าข้างเขาที่ไม่มีพนักงานคนไหนที่ขายความลับบริษัทเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

 

แต่สิ่งเหล่านี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตแน่ๆ ในการเผชิญหน้ากับพวกนั้น อู๋ ฮ่าวเหรินทำได้แค่เพียงเก็บบางสิ่งบางอย่างไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้น

 

สามวันหลังจากเริ่มต้น พนักงานที่อยู่ในส่วนการผลิตเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพก็เดินทางมาถึง ในความจริง พวกเขาก็แค่พนักงานควบคุมการบรรรจุหีบห่อเท่านั้น

 

ทั้งโรงงานและกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนในการที่จะผลิตเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพนั้นจะอยู่ในมือของเครื่องจักร มันไม่จำเป็นต้องใช้คนอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ควบคุมระบบทุกอย่างก็คือปัญญาประดิษฐ์ ประกอบกับทั้งโรงงานเองก็ติดตั้งเครื่องตรวจสอบต่างๆไว้เป็นจำนวนมากด้วย

 

ถ้าหากมันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น อู๋ ฮ่าวเหรินจะรู้ในทันที

 

พวกคนงานและบุคลากรในบริษัทคนอื่นๆมากันที่นี่แล้ว

 

“บอส เรารออะไรกันอยู่น่ะ?เริ่มกันเลยดีกว่า!”

 

“มาเลยฉันค่อนข้างตื่นเต้นเลยเกี่ยวกับการผลิตเจ้าเครื่องมือวิเศษนี่ แต่ทำไมพวกเครื่องจักรพวกนี้ถึงดูไม่ได้ล้ำหน้าเลยน้า”

 

“คุณมันคนแก่ ทุกๆครั้งที่คุณเห็นเครื่องมือพวกนี้ถูกติดตั้ง คุณไม่จำเป็นต้องคอยควบคุมถึงวิธีการต่างๆของมัน มันคือการผลิตแบบประกอบเองแบบครบวงจร ถ้าแบบนี้ยังไม่ล้ำหน้า แล้วแบบไหนกันที่เรียกว่าล้ำหน้า?”

 

“นายต้องไม่ดูแค่เครื่องจักรที่ผลิตแต่สิ่งง่ายๆนะ นายน่ะต้องลองดูเจ้าเครื่องนี้แล้วไปเปรียบเทียบกับไอ้สิ่งที่นายเคยเห็น เทียบทั้งฟังก์ชั่นและความซับซ้อนของมัน ทางที่ดีนายดูสิ่งที่เจ้าเครื่องที่ทำออกมาเลยดีกว่า ว่ามันซับซ้อนขนาดไหน ”

 

กลุ่มของพวกพนักงานที่มีประสบการณ์ต่างเรียนรู้การทำงานของเครื่องจักรนี่ในขณะที่คนงานกำลังแพ็คของอยู่ด้านนอก นี่เป็นเวลาแห่งการถกเถียงแล้ว

 

คนส่วนมากในนี้เป็นด่านหน้าของเหล่าพนักงาน และพวกเขาหลายๆคนเป็นช่างเทคนิคในโรงงานอื่น

 

ถ้าจะถามว่าทำไมคนพวกนี้ถึงออกจากงานของตนเองและมาร่วมงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะก็ คงตอบได้ว่า พวกเขาเล็งเห็นผลประโยชน์ของที่นี่และค่าแรงที่สูงกว่าระดับล่างสุด บวกกับความต้องการบริโภคของเขตหยุนหลงนี้ค่อนข้างจะอยู่ในเกณฑ์ต่ำด้วย

 

สำหรับพวกเขา การมีรายได้มากๆเป็นความคิดหลัก ในเมืองใหญ่นั้นไม่ค่อยมีงานอะไรที่เหมาะกับเขา คนส่วนใหญ่ในนั้นถ้าทำงานก็เป็นได้แค่แรงงานชั้นต่ำสุดๆ

 

“ช่วยอธิบายหน่อยครับบอส ว่าเครื่องพวกนี้ทำงานอย่างไร?”

 

“นายไม่รู้สินะว่าทำยังไง ฉันเองมาที่นี่เมื่อสองวันก่อน มองขั้นตอนการประกอบเครื่องมือพวกนี้กับตาก็ยังไม่เข้าใจเลย”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินพูดด้วยรอยยิ้ม “เครื่องมือพวกนี้ทำงานด้วยโปรแกรมที่บังคับเป็นส่วนๆ มันไม่ใช่เวทย์มนต์แบบที่พวกคุณเข้าใจกันหรอก คิดแค่ว่าหุ่นยนต์เคลื่อนไหวอย่างไร คุณก็น่าจะเข้าใจแล้วล่ะ”

 

ในความจริง การที่จะตั้งโปรแกรมให้กับเครื่องจักรเหล่านี้ มันก็ไม่ต่างกับตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ที่ไม่มีจิตวิญญาณตัวนึงเลย ทุกๆสิ่งคือการดำเนินตามโปรแกรมที่ได้วางไว้

 

อู๋ ฮ่าวเหรินต้องการที่จะใช้หุ่นยนต์ที่คล่องแคล่วในการทำงานพวกนี้ หากแต่ว่าในปัจจุบันเขายังไม่กล้าเอาหุ่นยนต์พวกนี้มาใช้เพราะกลัวว่ามันจะล้ำหน้าเกินไป

 

ท้ายสุดแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของจี้ ในการรวมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมรุ่นปัจจุบันของโลกเข้าไปด้วยกันเพื่อให้เกิดหุ่นยนต์ที่ไม่ซับซ้อนเกินไป รวมกับหุ่นยนต์มือถือที่ถูกบีบอัดลงไปในเครื่องจักรนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อผลิตเป็นหุ่นยนต์ขนาดไม่ใหญ่ขึ้นมา

 

ยิ่งไปกว่านั้น ฟังก์ชั่นของหุ่นยนต์เหล่านี้ก็เพียงเพื่อจะสร้างชิ้นส่วนของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพเท่านั้น ถึงแม้ว่าเครื่องจักรจะยังไม่ถูกประกอบ ไม่มีโปรแกรมคอยควบคุม มันจะไม่สามารถถูกคัดลอกได้

 

เขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงเครื่องที่เขาส่งไปยังรัฐบาลซึ่งป่านนี้คงโดนแยกชิ้นส่วนเพื่อวิจัยไปแล้ว

 

ช่างโชคร้าย

 

ไม่ว่าพวกเขาจะศึกษามันอย่างไร พวกเขาก็จะได้เพียงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงของบางชิ้นส่วนเท่านั้น หากแต่ในส่วนของการทำงานและการควบคุมสิ่งนี้พวกเราจะใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นตัวกระทำ

 

อู๋ ฮ่าวเหรินได้กระทำในสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง นั่นคือการกดปุ่มเริ่ม และเมื่อกดปุ่มแล้วก็มีเสียง ”ติ๊ด” ทันใดนั้นเครื่องจักรทุกเครื่องก็เริ่มทำงาน

 

เพราะว่าเครื่องจักรเหล่านี้ไม่ได้มีหุ่นยนต์มาเกี่ยวข้องที่ด้านนอก มันเลยทำให้พวกมันต้องใช้คนมาคอยส่งของและรับของบริษัทปากทางเข้าและออกของเครื่อง

 

หลังจากนั้น 3 นาที เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพก็ผลิตเสร็จและทุกคนต่างพากันไปมุงรอบๆ

 

ในปัจจุบันนี้ เจ้าเครื่องนี่ยังไม่เคยถูกใช้โดยใครมาก่อนยกเว้นทางกองทัพ พนักงานเก่าแก่ในบริษัท และภารโรง

 

“บอส ฉันอยากจะเป็นหนูทดลอง”

 

“ฉันจะทำเอง อย่ามาแย่ง”

 

“อย่าดันกันดิวะ บอสยังอยู่ตรงนี้นะเว้ย!”

 

กลุ่มคนกำลังเริ่มต่อสู้และถกเถียงกันเพื่อจะได้เป็นคนทดลองใช้เจ้าเครื่องนี้เป็นคนแรก คุณรู้ไหม อู๋ ฮ่าวเหรินพูดเอาไว้ว่า ใครก็ตามที่เป็นคนทดลองเจ้าเครื่องนี้ คนๆนั้นก็จะเป็นเจ้าของเจ้าเครื่องที่ใช้ทดลองไปเลย

 

ช่างเทคนิคนำอุปกรณ์นั้นไปจากมือของอู๋ ฮ่าวเหรินและใส่มันลงไปที่ข้อมือของตนเองเมื่อไม่มีใครทันสนใจเขา

 

“ไม่มองกันเองนะ ฉันใส่เจ้านี่เรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นคนที่ทดสอบคนแรกคือฉัน”

 

ทุกคนต่างหันไปมองยังเขาคนนั้นด้วยสายตาเดียวกันและเหมือนกับว่าทุกคนจะมีแรงกระตุ้นแบบเดียวกันในการที่จะล้มเจ้าช่างเทคนิคคนนี้ ช่างเป็นคนที่น่าละอายใจอะไรเช่นนี้นะ บอสเพียงแค่ให้เขาเชื่อมเครื่องมือเข้ากับแหล่งจ่ายไฟเท่านั้น อะไรดลใจให้แกเอาเครื่องนั่นไปไปใส่ข้อมือกันน่ะ!

 

อู๋ ฮ่าวเหรินและพนักงานอาวุโสของบริษัทพากันเดินออกจากความวุ่นวายนั้น ท้ายสุดแล้วพวกเขาค่อนข้างโล่งอกที่มันไม่มีปัญหากับเครื่องจักรและอุปกรณ์ ดังนั้นแล้วชิ้นต่อไปจึงสามารถผลิตออกมาได้

 

“ฉันขอพักซักหน่อยได้ไหมคะบอส จะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะลางานซักพัก?”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังลิว หมิงหยู่และพูดขึ้น “ต้องการได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ ตอนนี้เตรียมพร้อมกับงานแถลงข่าวกันก่อน”

 

“อ่า อันนั้นฉันรู้แล้ว พวกนักข่าวที่จะมาสัมภาษณ์ฉันก็จัดการให้แล้ว สถานที่เองก็เช่นกัน เป็นภายในห้องประชุมใหญ่ของสำนักงานเขต เหลือแค่รอผลิตภัณฑ์ที่จะเอาไปใช้ในงานนั่นแหละ”

 

“โอเค เมื่อสิ่งนี้เสร็จ ผมจะให้หยุดได้ละกัน ถ้ายังไงวันแถลงการณ์ขอเป็นวันอาทิตย์นะ”

 

ในเวลานั้นเอง หวัง หลัน เลขาคนใหม่ก็เข้ามาหาและพูดขึ้น “บอสคะ ตอนนี้ ฮิตาชิ โตชิบา และฟูจิทสึของญี่ปุ่น ซีเกท เวสเทิร์นดาต้า และไมโต้จากสหรัฐอเมริกา หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ETO ของจีน หนานฟ่าง ฮุยตง ซัมซุงจากเกาหลีใต้ และอีกหลายบริษัท ส่งอีเมล์มาคุยกับเราเรื่องเครื่องมือจัดเก็บค่ะ”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดว่ามันแปลก ในทางกลับกัน เขากลับคิดว่ามันแอบช้าเกินไปนิดหน่อยเสียด้วย

 

“เจ้าพวกนั้นคงคิดแค่ว่าการยื่นขอสิทธิบัตรจะเป็นการยืนยันข่าวล่ะสิ ดูท่าจะเดี๋ยวก็คงจะเตรียมตัวมาคุยเรื่องนี้กันแล้ว”

 

จื่อหยงที่ติดต่อเข้ามาเมื่อวันก่อน สิทธิบัตรทั้งหมดถูกเสนอไปหมดแล้ว เวลานี้มีไว้เพื่อรอให้ผ่านการตรวจสอบเท่านั้น

 

มันยังมีฟังก์ชั่นบางอย่างของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพที่มันล้ำหน้ามากๆอยู่ซึ่งเราไม่ได้เผยแพร่ออกมาแต่มันถูกบีบซ่อนไว้ในเครื่องนั่นแหละ เหลือแค่รอให้มันตอบสนองเท่านั้น

 

ฉันเชื่อว่าอีกไม่นาน บริษัทแบตเตอร์รี่คงจะเข้ามาคุยเกี่ยวกับแบตเตอร์รี่แหละ เพราะพวกเขาเองก็มีชิ้นส่วนที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ รวมถึงบริษัทหลายๆแห่งที่ทำชิ้นส่วนที่มีประสิทธิภาพสูงในด้านต่างๆเองก็คงกำลังให้ความสนใจกับชิ้นส่วนของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพนี้ไม่น้อยเลย

 

เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพ ไม่ได้นำมาซึ่งคุณค่าของตัวมันเองเท่านั้น เพราะมันยังนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆที่ยังไม่ถูกคิดค้นขึ้นมาอีกด้วย

 

“ผู้จัดการหลิว นี่ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว คุยกับพวกเขาเรื่องราคาที่เขาจะเสนอ”

 

หลิว ฮั่ว พยักหน้าและเอ่ยขึ้น “เข้าใจแล้วบอส จับตาดูได้เลย ฉันจะทำให้พวกเขารู้เองว่าความเจ็บปวดเป็นเช่นไร”

 

หลังจากกลับจากโรงงาน อู๋ ฮ่าวเหรินก็เดินทางต่อไปยังสถาบันวิจัยวัสดุมายา และมุ่งตรงไปดูความก้าวหน้าของงานวิจัย โดยที่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะทำสำเร็จบ้างแล้ว

 

ความสำเร็จมันก็ดี แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้จะทำอะไรเกี่ยวกับวัสดุมายานี้ แต่ถ้าหากเป็นวัสดุล่องหนล่ะก็ พอจะมีอยู่เหมือนกัน ไอ้สิ่งที่อยากทำน่ะ….

———————

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด