อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 109

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 109 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 109 วัสดุล่องหนของจริง

 

การมาถึงของอู๋ ฮ่าวเหรินเรียกความสนใจของเหล่านักวิจัยที่กำลังง่วนกับงานวิจัยหลายชิ้นไม่น้อยเลย ตอนนี้ชื่อเสียงของพวกเขาค่อนข้างที่จะโด่งดังไปทั่วแล้ว และไม่กี่วันก่อนพวกเขาเองก็เพิ่งจะได้รับข้อความจากสถาบันคอมพิวเตอร์ว่าทางสาขานั้นเพิ่งจะมีความก้าวหน้าครั้งสำคัญเกิดขึ้นเกี่ยวกับการวิจัยระบบอัจฉริยะ

 

และด้วยผลลัพธ์ดังกล่าว นั่นทำให้พวกเขาพอจะรู้ว่ามันน่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวของกับอู๋ ฮ่าวเหรินแน่ๆ

 

ดูจากข่าวคร่าวของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอยากมากในอินเตอร์เน็ต พวกเขาเองก็อยากจะได้บ้างเช่นกันหากแต่คำสั่งซื้อยังมาไม่ถึง

 

ตอนนี้เหล่าผู้คนในสถาบันวิจัยไม่ได้หวาดระแวงปีศาจเช่นนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เขาได้รับข้อมูลบางอย่างจากหน่วยงานของรัฐ ดูเหมือนว่าชายคนนี้เองก็จะยังมีงานวิจัยชิ้นอื่นที่ยังไม่ได้เผยแพร่อยู่อีก

 

แน่นอนว่าสิ่งที่คนเหล่านี้ไม่รู้ก็คือสิ่งที่รัฐพูดถึง มันเกี่ยวกับเทคโนโลยีซึ่งแท้จริงแล้วก็คือระเบิดควันที่ถูกทิ้งไว้โดย อู๋ ฮ่าวเหริน  และ จี้ บนอินเตอร์เน็ต สิ่งนั้นมันช่วยปูทางให้เกิดการสรรสร้างขึ้นมาจริงๆในบางเทคโนโลยี

 

ตัวอย่างเช่น บันทึกการวิจัยเกี่ยวกับวัสดุใยพืช ฟอรั่มวิทยาศาตร์ภายใต้บัญชีชื่ออู๋ ฮ่าวที่ซึ่งตอนนี้ถูกลบข้อมูลบันทึกนั้นไปแล้ว

 

นอกจากนั้นยังมีข้อมูลของงานวิจัยเกี่ยวกับเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพอยู่บ้างนิดหน่อย ซึ่งไม่ละเอียด

 

อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลลวงที่ AI สร้างขึ้นมานั้น ก็คือสิ่งที่อู๋ ฮ่าวเหรินศึกษาสิ่งแปลกๆและความรู้ทางวิทยาศาตร์ขั้นสูงในทฤษฏีที่อยู่ในห้องเรียนตอนเรียน ม.ปลายเฉยๆ

 

การอ่านหนังสือบางเล่มยังทำให้คนทั่วไปปวดหัว และนั่นคือเหตุผลที่อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้โชว์ความสามารถอะไรในตอนนั้น นั่นเพราะเขากลัวว่าจะถูกจับกุมอันเนื่องมาจากงานวิจัยบางอย่างที่ไม่ได้เผยแพร่

 

และสำหรับเหตุผลว่าทำไมอู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้กลัวอะไรในตอนนี้แล้ว นั่นก็เพราะในหมู่วัสดุที่สร้างขึ้นมาโดยจี้ เขาค่อนข้างจะเข้าใจถึงหลายๆความคิดแปลกๆของตัวเองและงานวิจัยหลายๆชิ้นที่ได้ทำในหลายปีมานี้ ก็เกิดขึ้นได้เพราะเขามีเงินทุนมหาศาลจากการขายแร่หยกรวมไปถึงเขาเองก็ได้ความรู้จักสังคมรอบๆตัวมาด้วย

 

เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินถูกสอบสวนโดยรัฐ วัสดุเหล่านี้ก็จะถูกส่งมอบให้พวกเขาในขั้นแรกของการพบเจอ

 

ข้อมูลนี้มีรายละเอียดมากมาย และมันคือสิ่งที่สร้างภาพให้อู๋ ฮ่าวเหรินคือปีศาจที่มีมันสมองเป็นเลิศที่กำลังหลบซ่อนอยู่

 

อย่างไรก็ตาม นี่คือสิงที่เหล่าคนที่มองมายังอู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่ซ่อนและศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆอยู่เบื้องหลัง

 

อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปยังทุกคนที่เดินเข้ามาก่อนจะถาม “พวกเขาเป็นอะไร?”

 

“มาดูกันดีกว่าอัจฉริยะจะหน้าตาเป็นยังไงแล้วก็จะแสดงให้เห็นถึงผลการวิจัยพวกนี้”

 

“โอ้ งานวิจัยวัสดุมายานี่พร้อมใช้งานแล้วเหรอ?” อู๋ ฮ่าวเหรินเกิดความตื่นเต้น

 

“วัสดุมายานั่นยังไม่ได้ทดสอบน่ะ แต่ช่วงกลางๆของงานวิจัย มันมีผลผลิตอื่นโผล่ออกมา และพวกเราพบว่ามันมีผลประโยชน์ต่อการทหารมากๆหากนำไปใช้”

 

อู๋ ฮ่าวเหรอนมองตามไปยังพวกเขาที่เดินไปยังบอร์ดที่สูงกว่า 2 เมตร เขารู้สึกงุนงงและไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะทำอะไร

 

“เห็นนี่ไหม? นี่คือผลิตภัณฑ์ที่เราพัฒนามันขึ้นมาได้ นับเป็นผลพลอยได้ของการวิจัย”

 

“ฟังก์ชั่นของมันคืออะไร?”

 

ผู้อำนวยการโบกมือให้สัญญาแก่คนที่อยู่ด้านหลังให้พวกเขาเดินสายต่างๆได้เลย อู๋ ฮ่าวเหรินเดินไปดูด้านหลังเข้าก็พบว่ามีเพียงอุปกรณ์หลายๆชิ้นที่เชื่อมต่อกันอยู่เท่านั้น

 

“ไม่มีอะไรผิดปกติกับฉันนะ”

 

“ทางฉันดีกว่า”

 

“เรียบร้อย”

 

“ต่อจากนี้ ให้อัจฉริยะผู้นี้ดูหน่อยซิว่าผลพลอยได้ที่เราได้มาจากการพัฒนาโดยยึดตามข้อมูลที่เขาให้มานั้นคืออะไร”

 

หลังจากที่มองพวกเขาเปิดสวิตซ์ต่างๆนาๆเสร็จแล้ว สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาก็ทำให้เขาถึงกับสับสนเลย บอร์ดขนาดใหญ่ตรงหน้านั้นหายวับไปราวกับปฏิหาริย์

 

“นี่มัน…วัสดุล่องหนงั้นเหรอ?”

 

“ใช่ มันคือวัสดุล่องหนจริงๆ มันสร้างจากวัสดุพิเศษและข้อมูลที่คุณให้มา”

 

“ไม่ ถ้ามันเป็นวัสดุล่องหน มันควรจะฉายภาพสีดำขึ้นไปบนด้านหน้าของบอร์ดนั้น แต่มันดูไม่เหมือนการฉายภาพเลย”

 

“มันไม่ใช่การฉายภาพ แต่ตัวแผ่นวัสดุนั่นโปร่งแสงจริงๆเลย ถ้าคุณไม่จับอะไร นี่คือวัสดุที่ล่องหนได้ของจริง” นักวิจัยในนั้นให้คำแนะนำด้วยท่าทีที่ภูมิใจสุดๆ

 

อู๋ ฮ่าวเหรินเองก็ตกใจในตอนแรกที่มองเช่นกัน แต่เขาก็พบว่านั่นมันคือความผิดพลาด

 

วัสดุประเภทนี้ดูไม่น่าจะมีประโยชน์มากนัก

 

นิมะ มันกลายมาเป็นวันถุโปร่งแสง หรือจะบอกว่าถ้าเอามันไปทำผ้าคลุมล่องหน ต่อให้มันถูกคลุมไปบนตัวคน มันก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนล่องหนได้อยู่ดี เพราะมีแค่วัสดุเท่านั้นที่ล่องหน!

 

“ดี แล้ว…จะเอาเจ้านี่ไปใช้กับอะไรล่ะ?”

 

เมื่อผู้อำนวยการและนักวิจัยได้ยินคำถามของอู๋ ฮ่าวเหริน พวกเขาที่กำลังตื่นเต้นที่ได้โชว์นั้นก็พากันทรุดลงไปเลย

 

ตามที่อู๋ ฮ่าวเหรินถาม พวกเขายังไม่ได้จัดการเลยว่าจะเอาไปทำอะไร

 

วัสดุนี้มันล่องหนจริงๆ และปัญหาก็คือมันทำได้แค่ล่องหน ยิ่งไปกว่านั้น มันจำเป็นต้องเอาไปใช้กับเครื่องมือต่างๆมากมาย

 

ในกรณีนี้ วัสดุชิ้นนี้จะแทบไม่มีประโยชน์เลย ไม่มีประโยชน์พอๆกับผ้าคุมล่องหนที่ใช้เครื่องฉายภาพทำนั่นแหละ

 

มองไปยังความหมดหวังที่ปรากฏ อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าไม่ควรถามอะไรแบบนั้นออกไป ยิ่งกับพวกคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงเช่นนี้

 

“จริงๆแล้วพวกคุณลองเอาเจ้านี่ไปผสมกับทฤษฏีภาพลวงตาดูไหม? เผื่อมันจะช่วยสร้างความสำเร็จใหม่ๆได้”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่าเขาควรจะออกไปได้แล้ว แต่เดิมกลุ่มนี้ก็เหมือนกับเด็กๆที่เพิ่งทำบางอย่างสำเร็จ พวกเขาเชิญชวนให้พวกผู้ใหญ่มาบริจาคและตอบสนองต่อผู้ใหญ่เหล่านั้นโดยตรง คือในความเป็นจริงเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่ได้มีค่าอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาหรอก

 

สถานการณ์ตอนนี้เริ่มจะน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว ถ้าคุณไม่รีบออก คุณอาจจะโดนคนพวกนี้โต้กลับจนพ่ายแพ้ได้

 

เนื่องจาก อู๋ ฮ่าวเหรินได้พูดบางอย่างกับผู้อำนวยการไปแล้วและนั่นทำให้เขาออกจากสถาบันวิจัยไปเลย ปล่อยให้เขาอยู่กับกลุ่มคนที่กำลังสิ้นหวังนี้

 

“จี้ ไอ้เจ้าวัสดุนี่เอาไปทำอะไรได้บ้าง?”

 

“ในปัจจุบัน ยังไม่มีอะไรที่ใช้คู่กันได้ครับ เพราะในการสร้างวัสดุเช่นนี้ ต้องใช้เครื่องมือหลายชิ้นช่วยสนับสนุน มันอาจจะง่ายในอนาคต และมันอาจจะใช้ได้กับบางอย่าง”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินฟังจี้คำนวนมาแล้วก็ไม่คิดถึงเจ้านี่อีกต่อไป ในตอนนี้เขามีเทคโนโลยีการพรางตัวแล้ว แต่มันยังคงล่องหนแค่ผ่านเลนส์เฉยๆ

 

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงของเครื่องสแกนขั้นสูง วัสดุล่องหันพวกนี้ก็ยังไม่มีค่าเหมือนเดิมนั่นแหละ

 

จากสถาบันกลับสู่บริษัท ก่อนที่จะกลับเข้าไปในสำนักงาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์ และหลังจากได้รับโทรศัพท์แล้วสีหน้าก็ยู่ลงไปทันที เขารีบโทรไปหาลู่ เปงเฟย ณ เดี๋ยวนั้น

 

“ผู้จัดการลู่ คุณอยู่ไหนแล้วตอนนี้?”

 

“ผมกำลังติดต่อกับบริษัทต่างชาติอยู่ เกี่ยวกับวัตถุดิบทั้งสองชิ้น แต่วันนี้มันก็แปลกๆอยู่นะ บริษัทที่เราตกลงกันไว้จู่ๆก็มีปัญหาจนไม่สามารถขายวัตถุดิบให้เราได้ซะงั้น”

 

“ดี ไว้อนาคตค่อยว่ากันใหม่ คุณกลับมาได้แล้วล่ะ มันมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับวัตถุดิบ 2 ชิ้นนั้น ซึ่งคุณอาจจะไม่สามารถหามันได้จากบริษัทต่างประเทศ”

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณไม่ซื้อมันล่ะ? มันเป็นแค่วัตถุดิบทั่วๆไปทางการทหารเองนี่นา”

 

“กลับมาก่อนแล้วจะอธิบายให้ฟังนะ”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ประเทศพวกนี้ช่างน่าละอายเสียจริง บังอาจมาตัดสายการผลิตด้วยการไม่ขายวัตถุดิบให้งั้นเหรอ

 

โทรศัพท์เมื่อครู่นั้นมาจากเบื้องบน หลักๆก็เพื่อบอกเขาว่าประเทศเหล่านั้นเข้าร่วมกับกองกำลังและขัดขวางการขายวัถุดิบให้กับจีน เพื่อบีบบังคับให้เราเลือกว่าจะหยุดเพิ่มคำสั่งซื้อเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพ หรือจะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ

 

เหมือนจะยังโชคดีที่วัตถุดิบสำหรับ 50 ล้านเครื่องนั้นเพิ่งจะมาส่งเมื่อ 2 วันก่อน ไม่อย่างนั้นคงต้องเสียเงินมากมายเพื่อซื้อวัตถุดิบที่เป็นปัญหาเสียแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้กระบวนการผลิตของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพคงจะไม่ลื่นไหลซะแล้ว

 

ตอนนี้ตามที่เบื้องบนได้พูดไว้ว่ามันเหลือวัตถุดิบทั้ง 2 อยู่ไม่มากแล้วภายในประเทศ ณ เวลานี้ เพราะงั้นมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้มันผลิตเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพทั้งหมด

 

ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้เราพยายามเอาวัตถุดิบจากประเทศก็คงไม่ได้แล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินเริ่มรู้สึกกดดันเล็กน้อย

 

“ฮ่า พวกนายบีบบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ อย่ามาโทษทีหลังล่ะ”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่า ในเมื่อพวกเขาพยายามทำให้ตัวพวกเขาเองขัดความสะดวกสบาย ถ้างั้นก็ขัดไปให้มากๆเลย เจอกันอีกทีตอนเป็นข่าวบนหนังสือพิมพ์เลยละกัน!

——————–

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด