อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 134

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 134 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 134 การพบกันครั้งแรก

สถานการณ์มักไม่เป็นไปตามที่เราคิดเสมอ ในตอนบ่าย, เขาได้รับโทรศัพท์มาจากเบื้องบน บอกว่าทางอเมริกาได้ส่งคนมาเพื่อจะเจรจากับเขาเรื่องการสั่งจองอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด

เมื่อได้ทราบเรื่องนี้, ในตอนแรกอู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้สึกว่าเบื้องบนจะต้องเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ก็เขาเข้าใจผิดเรื่องตัวตนของพวกโจรเมื่อคืนอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของเมื่อคืนนั้น ข่าวก็ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นความจริง และเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงไปตรวจสอบแล้ว

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกแปลกๆ เหมือนพวกเขาอุดหูขโมยกระดิ่ง พวกเขาได้ส่งคนมาขโมยเครื่องจักรไปเมื่อคืน แล้วตอนนี้ก็ ส่งคนมาคุยกับเขาเรื่องการสั่งจองอีก

ถ้าเกิดเขาสัญญาว่าจะเปิดการสั่งจองให้, แล้วพวกเขาจะส่งคนมาขโมยเมื่อคืนอีกทำไม?

คราวนี้, คนที่มาไม่ใช่เจ้าหน้าที่, แต่เป็นหลี่เหวินหัว ที่อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้เจอหน้าเขานานมากแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าที่ช่วงที่ผ่านมานี้เขาหายไปทำอะไรอยู่

“ผมไม่เจอคุณมาที่บริษัทของเราได้สักพักแล้วนะ หายไปทำอะไรมารึ?”

หลี่เหวินหัวมองไปที่อู๋ฮ่าวเหรินและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี มันเป็นเพราะชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขานี่แหละ ที่ทำให้เขาสามารถบรรลุผลสำเร็จอันนี้ได้

“ผมไปรับการอบรมและการฝึกต่อต้านการจารกรรม และทันทีที่ผมกลับมาถึงที่นี่, พวกเขาก็ให้ผมเริ่มงานเลยทันทีโดยไม่ให้พักบ้างเลย”

“ดูเหมือนคุณจะได้เลื่อนขั้นนะ แต่ในเมื่อคุณยังถูกส่งมาทำงานนี้อยู่ ผมสงสัยแล้วว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่ที่กำลังจะมาที่นี่ มันคืออะไรกันแน่นะ? อย่าบอกผมว่าเขามาเพื่อเจรจาเรื่องการสั่งจองนะ เพราะผมเชื่อว่าพวกเขาเนี่ยน่าจะเป็นประเทศที่อยากจะมาคุยเรื่องการสั่งจองกับผมน้อยที่สุดแล้วในเวลานี้”

หลี่เหวินหัวมองดูอู๋ฮ่าวเหรินอย่างประหลาดใจและพูดขึ้น, “ผมว่าตอนนี้คุณอาจจะเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ พวกเขามาที่นี่เพื่อที่จะคุยเรื่องการสั่งจองกับคุณจริงๆ หรือจะให้พูดง่ายๆก็คือ, พวกคนที่มาที่นี่พวกเขาไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย ดูเหมือนว่าจะอยู่กันคนละขั้วฝ่ายล่ะนะ”

“โอ้, เป็นอย่างนี้นี่เอง, หมายความว่า คนพวกนี้เป็นคนละพวกกับที่มาขโมยงั้นสินะ”

“ใช่, พวกเขาคือคนที่ไม่เห็นด้วยในตอนนั้น, แต่เสียงของพวกเขาไม่แข็งพอในตอนนั้น ตอนนี้สถานการณ์ในประเทศนั้น ประชาชนเริ่มมีเสียงเรียกร้อง พวกเขาจึงอาศัยเหตุนี้เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จึงได้มาทำการเจรจาครั้งนี้”

อู๋ฮ่าวเหรินคิดถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐนั้นเป็นประเทศที่หลากเชื้อชาติ ในเมื่อมีคนที่เห็นด้วย ก็ย่อมต้องที่จะมีคนที่ไม่เห็นด้วยในตอนนั้นเหมือนกัน

“แล้วคุณมีข้อมูลอะไรบ้างมั๊ย? อย่างเรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเจรจาว่าเขาต้องการให้ผมเปิดการสั่งจอง หรือจะให้ผมยืดเวลาออกไปอีกดี”

“เท่าที่พวกเราได้สืบทราบมา, มันดูเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจที่จะมาเจรจาเรื่องการสั่งจองจริงๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ ผู้คนในหลายประเทศ ต่างประสบปัญหาเพราะเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่า,อาจจะมีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่ก็ได้ คุณควรตั้งใจให้ดี และอย่าตกหลุมพรางที่พวกเขาวางเอาไว้ล่ะ”

กับดักเหรอ, อู๋ฮ่าวเหรินคิด ฉันไม่กังวลเรื่องพวกเขาจะวางกับดักหรอก แต่ถ้าพวกเขากล้าที่จะหลอกฉันล่ะก็ จะทำให้รู้ว่าพวกเขามีชีวิตอยู่นานเกินไปแล้ว

ในเมื่อหลี่เหวินหัวไม่มีข้อมูลอะไรมากกว่านี้, อู๋ฮ่าวเหรินก็คงทำได้เพียงแค่ให้จี้ช่วยวิเคราะห์ให้เท่านั้น

ซึ่งผลลัพท์ของมันแปลกมาก พวกคนที่มานั้นเหมือนกับว่าต้องการที่จะขอความร่วมมือมากกว่าที่จะคุยเรื่องกำหนดแผนวางขาย

กลุ่มคนพวกนี้นั้นหวังที่จะให้เขายืดเวลากำหนดการขายออกไปอีก เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้มีเวลามากพอที่จะใช้สู้กับฝ่ายตรงข้ามได้

สำหรับกลุ่มคนอเมริกาที่มาแล้ว หากเจรจายืดเยื้อสำเร็จ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว, เมื่อใดที่ความไม่พอใจของประชาชนมาถึงจุดๆหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะบรรลุเป้าหมายที่พวกเขาต้องการ

เมื่อถึงตอนนั้น, คนพวกนี้ได้จะกลับมาเพื่อคุยกับเขาเรื่องกำหนดการวางจำหน่ายกันใหม่

ไม่เพียงพวกเขาจะสามารถชนะใจคนในประเทศได้แล้ว ยังทำให้ประชาชนสงบลงได้ด้วย

หลังจากที่เขามองดูหลี่เหวินหัวจากไป อู๋ฮ่าวเหรินก็ส่ายหัว ถ้าอยากจะรู้เรื่องให้กระจ่างก็คงต้องรอหลังจากคนพวกนั้นมาตกลงเจรจาในวันพรุ่งนี้

เมื่อเขากลับมาถึงที่บ้านในตอนเย็น, เขาก็ได้ยินเสียงของน้องสาวทันทีที่มาถึงที่ประตูบ้าน

“พี่ชาย”

“เสี่ยวชาน, น้องกลับมาแล้วรึ”

“ค่ะ, ช่วงนี้พี่อู๋เชิงได้มารับฉันกับน้องจวนจวนกลับบ้านพร้อมกันทุกวันค่ะ”

อู๋ฮ่าวเหรินลูบหัวของเธอและพูดขึ้น, “ดีแล้วๆ บ้านเราจะได้ครึกครื้นยิ่งขึ้น”

ตอนนี้ อู๋จวนจวน ออกมาจากห้องบ้าง เมื่อเธอเห็นอู๋ฮ่าวเหริน เธอก็กระซิบกับเขาด้วยเสียงที่เบาๆและตื่นๆ, “พี่ฮ่าวเหริน…”

“ถ้าจวนจวนต้องการอะไร ก็บอกพี่ได้เลยนะ, หรือบอกเสี่ยวชานก็ได้ ตอนนี้พี่รวยแล้วนะรู้มั๊ย?”

อู๋จวนจวนผงกหัวแล้วยิ้ม

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูเสื้อผ้าของพวกเธอแล้วส่ายหัว ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ครอบครัวบ้างซะแล้ว

เมื่อฉันเข้ามาในบ้าน, ฉันก็พบป้าของฉันกำลังเสิร์ฟอาหารออกมาจากในครัว

“คุณป้าก็อยู่ด้วย”

“ฮ่าวเหรินกลับมาแล้วรึ ไปล้างหน้าล้างตา แล้วมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ”

ตอนนี้เหมือนปมในใจของป้าได้ถูกคลายออก สีหน้าของคุณป้าดูมีความสุขมากกว่าแต่ก่อน และเมื่อคิดถึงคุณลุงแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้แต่ส่ายหัว ถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาจะรู้สึกยังไงบ้างนะ

หลังจากทานข้าวเสร็จ, เด็กทั้งสองคนก็พากันเข้าห้องของตัวเองเพื่อไปเล่นคอมพิวเตอร์, ส่วนอู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าระบบซองแดง

“มาแล้วรึพ่อค้าของเก่า รีบเข้าไปที่กลุ่มพ่อครัวเลย หลิงหยิ่งเข้ามาแล้วนะ”

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูซองแดงที่เขาเพิ่งได้รับ และพบว่าถูกส่งมาโดยลุงชาวจีน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสำรับแมนจูฮั่นครบสูตร ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังจำได้, เขาทำเผื่อไว้ให้ฉันชุดนึงจริงๆด้วย ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาเวลาจัดการพวกนี้ทีหลัง

“โอ้, เธอเข้ากลุ่มพ่อครัวได้แล้วงั้นรึ เร็วดีนะ” อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกอิจฉา ดาราใหญ่นี่ช่างแตกต่างจริงๆ เกรงว่าต่อให้เธอส่งเศษดินไป คงยังมีคนรอฉกแน่นอน

มิสเตอร์เรดาร์ไม่ได้พูดอะไร วันนี้เขาดูสงบเสงี่ยมผิดปกติ มันทำให้เขาสงสัยเพศของคนๆนี้ขึ้นมา

แต่ระบบซองแดงนั้นมีระบบยืนยันเพศอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่น่ามีอะไรผิด หรือว่าจะมีอะไรผิดปกติกับเขา ให้ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์มาดูอาการให้เขาดีไหมนะ? บางทีเขาอาจจะสามารถรักษาได้

ถ้ามิสเตอร์เรดารู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังคิดอะไรอยู่, เขาจะต้องโดนฆ่าแน่นอน

หลังจากที่ทักทายกับที่นี่เสร็จ เขาก็ย้ายไปเข้ากลุ่มพ่อครัว และพบว่ามีเชฟมากมายอยู่ที่นี่ในวันนี้

หลังจากที่มองดู เขาก็พบผู้เฒ่าหอยเม่น บุรุษเฒ่าลึกลับอยู่ด้วย และกำลังคุยอยู่กับผีสาว

“น้องชายออนไลน์แล้ว”

เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินเข้ามา ผู้เฒ่าหอยเม่นก็ได้เข้ามาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว “เจ้าหนุ่มช่วยผีสาวด้วย เธอนั้นเป็นเด็กที่น่าสงสาร แล้วข้าผู้เฒ่าหอยเม่นขอสัญญาว่า ข้าจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าแย่ๆอีก และดูเหมือนว่าเจ้าจะมีปัญหาเรื่องการอัพเลเวลใช่มั๊ย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินของเจ้าพวกในเทียนหยูกรุ๊ปได้ แต่ข้าพอจะช่วยพูดเรื่องค่าแลกเปลี่ยนของเก่าให้เจ้าได้”

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ ที่ผู้เฒ่าพูดหมายความว่าอย่างไร? ใครน่าสงสาร? ถึงแม้เธอจะสูญเสียพ่อ, แต่ตอนนี้เธอก็เป็นดาราใหญ่, เป็นหลานของเทพสงคราม มันไม่สามารถพูดได้ว่า”เธอน่าสงสาร”ได้เลยนะ!”

“เอาล่ะ, หลิงหยิ่งน้อย, ข้าขอตัวก่อน เล่าเรื่องของเธอให้เขาฟัง คุณลุงที่อยู่ที่นี่จะดูแลเธอเอง”

โดยไม่มีโอกาสให้อู๋ฮ่าวเหรินได้ถาม ผู้เฒ่าก็หายไป

“พ่อค้าของเก่า, สวัสดีค่ะ ฉันคือหลิงหยิ่ง ฉันขอโทษด้วยกับข่าวที่ออกมารบกวนคุณแบบนี้ ฉันขอโทษด้วยจริงๆค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ, ข่าวพวกนั้นไม่มีผลอะไรกับผม แต่สำหรับคุณ, ที่เป็นดาราใหญ่, ตัวตนของคุณนั้นพิเศษมาก คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรงั้นเหรอครับ?”

“ฉันได้ยินมาว่าคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โลกยุคโบราณมาก, และคุณก็มีข้อมูลเกี่ยวกับโลกยุคโบราณมากมาย ฉันจึงอยากจะขอร้องคุณให้ช่วยหาเบาะแสของเรื่องนี้ให้หน่อยค่ะ”

“โอ้, มันเป็นเรื่องของในยุคโบราณงั้นเหรอ พอจะมีเบาะแสระบุช่วงเวลามั๊ย มันจะช่วยให้ผมหาข้อมูลได้ไวขึ้นด้วย”

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกสนใจขึ้นมา แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะตามหาตัวเขาด้วยจุดประสงค์นี้

ซึ่งมันทำให้เขาสงสัยว่า ถ้าเป็นเรื่องแค่นี้ ใช้ระบบสมองแสงของสหพันธรัฐที่โลกนั้น ก็น่าจะหาทุกอย่างได้อยู่แล้ว ทำไมเธอถึงต้องตามหาตัวเขาด้วย
———————

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด