อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 224

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 224 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 224 ดาราต้องการพูด
อู๋ฮ่าวเหรินอยากรู้ว่าถ้าเขาสามารถพัฒนาอาหารของเขาได้และถ้ามันทำเงินให้แก่เขาได้ เขาก็คงไม่มีความสุขนักเพราะเขาต้องยุ่งอยู่กับการทำอะไรแบบนี้ในทุกๆ วัน
ดูพวกคนรวยนั่นสิ พวกเขามีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันๆ ลองคิดดูสิ อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าชีวิตของเขาช่างลำบากนิดหน่อย
หลังจากที่คิดได้ดังนั้น เขาเดินกลับไปที่ห้องของเขาและถ่ายเอกสารสูตรอาหารง่ายๆ บางอย่าง เมื่อแม่กลับมาเขาก็จะเอาสูตรให้กับแม่
เขาออกมาจากบ้านและมองดูเสี่ยวซานและจวนจวนเล่นกับหลิงเหมิงเสวี่ยในสนาม อู๋ฮ่าวเหรินมองดูหลิงเหมิงเสวี่ยอยู่ชั่วครู่และส่ายหัว และเขาก็กลับเข้ามาในบ้าน เขาเปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มเลือกหาเมืองที่มีอู่เรือ มีเพียงสองเมืองที่อยู่ใกล้ๆ นี้ คือเมืองเหวินจ้าว และเมืองไถจ้าว
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูและในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะตั้งอู่เรือในเมืองเหวินจ้าว ในตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องตัดสินใจคือพวกเราจะได้มาซึ่งอู่เรือทีนี่หรือไม่
มันคงจะยากสักหน่อย ถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปกำลังจะซื้อมันเช่นกัน อู่ฮ่าวเหรินคิดว่ามันคงจะยากมากที่จะซื้ออู่เรือ เพราะว่าทันที่ที่ข่าวสะพรัดออกไปพวกที่ต้องการที่จะทำเงิน รับรองได้ว่าจะต้องรีบมาที่นี่อย่างทันที เหมือนกับหมาป่าที่ได้กลิ่นเนื้อ
ความรู้สึกที่ว่าขณะนี้ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้มอบให้ใครก็ได้ทำตราบใดที่เป็นสิ่งที่พวกเขาลงทุนอยู่ ไม่จำเป็นต้องถามเลยว่ามันจะได้ข้อมูลมาภายในกำหนดเวลาเพื่อติดตามและรับประกันการทำเงินของบริษัท
“จะดีกว่าไหมถ้าจะสร้างอู่เรือเองแทนที่จะซื้อ?”
“จริงๆ แล้ว คุณไม่เห็นต้องสร้างอู่เรือเลยด้วยซ้ำ คุณไม่ต้องสร้างเอง ยิ่งกว่านั้นคุณไม่สามารถใช้เทคโนโลยีการสร้างเรือที่บรรจุอยู่ในข้อมูลในตอนนี้”
“หา คุณว่าไงนะ?”
“คุณจะอธิบายต่อรัฐบาลกลางยังไงเกี่ยวกับเรือที่จะสร้าง? เทคโนโลยีนี้มีช่วงที่กว้างมาก ยิ่งไปกว่านี้คุณก็เพียงแค่จะกู้สมบัติซึ่งจะต้องซื้อเรือมาเพื่อสร้างใหม่ ทำไมคุณถึงไม่บอกให้อู่เรือทหารแห่งชาติช่วยคุณสร้างใหม่ไปเลยล่ะ? เผื่อว่ามันจะเร็วขึ้นและไม่มีปัญหาตามมา”
“ให้รัฐมาช่วยฉันสร้างใหม่งั้นหรือ!”
“ใช่แล้ว”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดอยู่ชั่วครู่ ดูเหมือนว่าวิธีนี้เป็นหนทางที่เร็วที่สุด ตามแผนของเขาแล้วการกู้เรือน้ำหนัก 10000 ตัน และถ้าเป็นเรือที่ใหญ่กว่านี้ก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดี
ถ้าเป็นไปได้เขาอาจจะขอเรียนรู้จากประเทศ โดยการซื้อผู้ให้บริการขนเครื่องบินเก่าๆ มาที่นี่และขนออกไปหลังการแปรรูป
แน่นอนว่าถ้าเขาซื้อผู้ให้บริการขนส่งเครื่องบิน มันก็จำเป็นที่จะต้องนำไปหารือกับทางรัฐ
ยิ่งไปกว่านี้ เทคโนโลยีการกู้นี้ไม่ค่อยทันสมัยนัก แต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง รัฐไม่ได้สงสัยเทคโนโลยีพวกนี้
“งั้นก็ให้รัฐช่วย ยังไงก็ตามพวกเขาก็ต้องขอให้ช่วยอยู่แล้ว”
สำหรับอู่เรือ อู่ฮ่าวเหรินรู้สึกว่ามันคงจะสะดวกมากขึ้นถ้าที่นั่นมีหุ่นยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นมันคงจะเป็นการดีที่จะโชว์อยู่บนเกาะที่เขาซื้อ
คิดได้เช่นนั้นเขาจึงโทรศัพท์ไปหาหลี่เหวินหัว และบอกเรื่องนี้แก่เขา ซึ่งขอให้เขาตอบรับเรื่องนี้และคอยดูว่าผลจะเป็นอย่างไร
วันถัดมาเมื่อเพิ่งมาถึงบริษัท ฉันเห็นลิ่วหมิงเยว่รอเขาอยู่ที่หน้าประตูบริษัท ดูเหมือนว่าเธอมีบางอย่างเพื่อมาหาเขา
“เกิดอะไรขึ้น ใครปล่อยให้เธอมาขวางประตูฉันแต่เช้าขนาดนี้ ผู้จัดการทั่วไปไม่อยู่งั้นหรือ?”
“ฉันไม่คุ้นเคยกับผู้จัดการทั่วไปสักเท่าไร แต่มันก็ง่ายมากที่จะมาหาเจ้านายได้โดยตรง ดูนี่สิ นี่คือสิ่งที่ฉันเพิ่งได้รับมา ทุกๆ วันตัวแทนดารามากมายต่างพากันติดต่อมาที่บริษัทของเรา”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูสิ่งที่เธอพูด ในตอนนี้คำเชิญทั้งหมดมาจากบริษัทดาราต่างๆ
หลายบริษัทในจำนวนนั้นเป็นบริษัทใหญ่อีกด้วย คำเชิญนั้นก็คลุมเครือมากทำให้อู๋ฮ่าวเหริมพูดไม่ออก
“คุณหมายความว่าอย่างไร?”
หลิวหมิงเยว่กล่าวอย่างภูมิใจ “แน่นอนว่าการที่จะปล่อยให้ดาราจากบริษัทพวกนี้มารับรองอุปกรณ์ทางการรักษาไฟฟ้าชีวภาพของเรา มันยังคงสามารถทำเงินได้”
อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาต้องการที่จะช่วยให้ดาราของพวกเขาได้รับชื่อเสียงด้วยการช่วยเหลือของกิตติศัพท์ของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
ในทางกลับกันผู้คนกำลังไว้วางใจในชื่อเสียงของดาราที่จะช่วยในการรับรองผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เขาเองก็เก่งในเรื่องนี้ ดาราต้องการใช้ชื่อเสียงของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดให้เป็นอีกกระบอกเสียง
ดังนั้นในตอนนี้จำนวนของคนที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดเกือบจะถึง 300 ล้านคนแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกๆ สองสัปดาห์ จำนวนก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสิบๆ ล้านคน ซึ่งเป็นวิธีการโฆษณาและเผยแพร่ที่ดี
“พวกเราไม่ต้องการโฆษกสำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเรา พวกนั้นปฏิเสธไปให้หมด”
“เจ้านาย คุณไม่อยากจะพบดาราหรือคะ?” ลิ่วหมิงเยว่ถามด้วยความสงสัย
“ผมไม่อยากเจอหรอก บางทีผมอาจจะเคยอยากที่จะใกล้ชิดพวกเขา แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างผมคิดว่าตัวผมเองยังมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าพวกดาราซะอีก” ลิ่วหมิงเยว่พูดไม่ออก นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ดูที่พาดหัวข่าวทุกวันนี้บนอินเตอร์เน็ตสิ เกินกว่าครึ่งเป็นข่าวของฟิวเจอร์กรุ๊ป
แม้แต่พนักงานระดับเล็กที่ประดิษฐ์สิ่งของเล็กๆ ก็ยังถูกนำไปรายงานข่าวเลย
ลิ่วหมิงเยว่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าถ้าเจ้านายและดารายืนอยู่คู่กัน นักข่าวทั้งหลายจะต้องสัมภาษณ์เจ้านายของเขาก่อนเป็นแน่และดาราคนนั้นก็จะถูกเมินไป
ในฐานะแฟนๆ เมื่อมองดูที่สภาเว็บไซต์หลักของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วคุณจะเข้าใจ ในสิบผู้เข้าใช้ที่ลงทะเบียนจะต้องมีอย่างน้อยห้าคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเจ้านายของเธอ และที่เหลือก็อาจจะเป็นแฟนปลอมๆ
ยิ่งไปกว่านี้ นี่คือโลกทั้งใบ ไม่ใช่แต่เพียงประเทศจีน
“แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการที่จะเป็นดารา ผมสามารถช่วยคุณได้นะ ยังไงก็ตามบริษัทจะต้องเปิดตัวเกมส์ในอนาคต ผมสามารถที่จะลงทุนสร้างหนังหลายเรื่อง” อู่ฮ่าวเหรินกล่าวต่อลิ่วหมิงเยว่ด้วยรอยยิ้ม
ลิ่วหมิงเยว่ส่ายหัวและกล่าวว่า “ฉันไม่อยากเป็นหรอกดารา ชีวิตของฉันตอนนี้มันก็ดีมากอยู่แล้ว แต่ถ้าบริษัทต้องการที่จะทำหนังจริงๆ ฉันขอแนะนำใครสักคนได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา เราจะตัดสินใจว่าใครจะได้ทำหนังของบริษัท ถึงเวลานั้นถ้าคุณอยากจะมีส่วนร่วม คุณก็สามารถที่จะเข้ามามีบทบาทได้”
ลิ่วหมิงเยว่ยิ้มและกล่าวว่า “เจ้านายคุณจำสิ่งที่คุณพูดในวันนี้ให้ได้นะคะ อย่ากลับคำซะล่ะ” เขามองดูลิ่วหมิงเยว่ออกไปอย่างมีความสุข อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว อย่างไรก็ตามเขาก็ยังต้องการที่จะตกลงกับเทคนิคพิเศษของหนัง ซึ่งมันไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนเล่น
มีดารามากมายที่ต้องการที่จะมาโฆษณาให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ป โดยที่ไม่ต้องการเงินสักแดงเดียวแต่พวกเขาจะถอนทุนคืนในภายหลัง
เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าทันทีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดได้รับการรับรองจะต้องมีการโฆษณาที่เป็นที่นิยมเผยแพร่ไปทั่วโลก และชื่อเสียงของมันก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายระดับในทันที
เมื่อลิ่วหมิงเยว่ส่งอีเมล์ปฏิเสธออกไปแล้ว บริษัทบันเทิงพวกนั้นก็หมดหนทาง สิ่งที่ทำได้คือให้เงินแก่ฟิวเจอร์กรุ๊ป
แต่ปัญหาก็คือฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่ได้ขัดสนเรื่องการเงิน ถ้าจะพูดถึงเรื่องเงินต่อหน้าคนอื่นก็เหมือนกับการตบหน้าตัวเอง
“นี่คืออีเมล์ที่เราเพิ่งได้รับ บริษัทของเราพลาดแล้ว ถ้าคุณมีหนทางอื่นที่บริษัทของพวกเราจะมีโอกาสได้รับใช้ ตราบใดที่คุณยังรับหน้าที่โฆษกของฟิวเจอร์กรุ๊ป ชื่อเสียงของคุณจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้ว” หัวหน้าของบริษัทบันเทิงกล่าวในที่ประชุม
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับหลายบริษัท บางคนเริ่มพยายามติดต่อและต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์
บางคนคิดว่าพวกเขาอยากจะลองเสี่ยงโชคที่นี่ ในมณฑลหยุนหลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาราหญิงทั้งหลายที่คิดว่าพวกเธอนั้นสวย คิดว่าบางทีอู๋ฮ่าวเหรินอาจจะหลงใหลในตัวของพวกเธอและพวกเธอก็จะโบยบินไปเกาะกิ่งก้านและกลายเป็นนกฟีนิกซ์
บางหน่วยงานในเมืองหลี่ฉุยก็ยุ่งขึ้นมาทันใด
ทันใดนั้นตัวแทนของดาราหลายคนโทรศัพท์มาและต้องการที่จะเช่าสนามกีฬาเพื่อจัดคอนเสริ์ต
บางพวกก็ไปที่มณฑลหยุนหลงเพื่อถ่ายทำหนังหรือละครทีวี
เมื่อสถานการณ์ปัจจุบันไม่ถูกต้อง พวกเขารายงานสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรีบร้อน เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะการมีอยู่ของฟิวเจอร์กรุ๊ป อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องถูกรายงานข่าว
——————–

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด