อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 227

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 227 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 227 บริษัทเป็นพิษ
นักข่าวทำงานอย่างรวดเร็วมาก ก่อนที่ตู้เฟยจะจากมณฑลหยุนหลงไป เขาถูกจับตามองจากนักข่าวทั้งหลาย
บางทีอาจจะเป็นเพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ ไม่มีใครใส่ร้ายฟิวเจอร์กรุ๊ปในอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม ความคิดทุกสิ่งอย่างถูกแสดงทัศนะออกมาอย่างท่วมท้น
ในตอนนี้ บริษัทบันเทิงอยู่ในฐานะตกต่ำที่สุด มันไม่ง่ายเลยที่จะคว้าโอกาสนี้เพื่อพาดหัวข่าว ตอนนี้เป็นเพราะการลาออกของตู้เฟย ซึ่งเขาถูกบีบจากพาดหัวข่าวทั้งหลาย
ตู้เฟยที่ถูกทำให้หมอบโดยนักข่าว เพิ่งออกมาจากที่พักอาศัย รายล้อมไปด้วยผู้สื่อข่าวราวกับผู้มีชื่อเสียง
“คุณตู้ ช่วยบอกพวกเราได้ไหมครับว่าทำไมถึงลาออกจากฟิวเจอร์กรุ๊ป?”
“คุณตู้ ทำไมคุณถึงได้ลาออกหลังจากที่เพิ่งเริ่มงานได้เพียงสองสามวันเองครับทั้งๆ ที่งานในฟิวเจอร์กรุ๊ปมีทั้งสวัสดิการที่ดีและเงินเดือนก็สูง?”
ตู้เฟยมองไปที่วงล้อมของผู้สื่อข่าวเห็นว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปช่างมีอิทธิพลอะไรเช่นนี้
“ผมต้องไปถามเกี่ยวกับการลาออกจากฟิวเจอร์กรุ๊ปซะก่อนที่ผมจะสามารถให้คำตอบกับพวกคุณได้”
เขาแหวกวงล้อมของพวกนักข่าวออกมาและก้าวขึ้นรถยนต์ เขามองออกไปที่นักข่าวด้านนอก ตอนนี้เขากำลังจะไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อจัดการเรื่องพิธีการ
เซี่ยซิ้วดำเนินการด้านพิธีการให้แก่ตู้เฟยและกล่าวว่า “เจ้านายขอให้ฉันบอกคุณว่าถ้าหากนักข่าวขอสัมภาษณ์คุณ คุณสามารถตอบได้ว่านักข่าวกลุ่มนี้ช่างน่ารำคาญจริงๆ”
“ผมรู้แล้ว ขอบคุณนะ”
เมื่อเขากลับไปยังที่พัก เขาก็ถูกขวางไว้ด้วยนักข่าวคนหนึ่ง ตู้เฟยจึงกล่าวว่า “สาเหตุหลักของการลาออกคือแนวคิดการบริหารจัดการของฟิวเจอร์กรุ๊ปซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่น ผลประโยชน์ของพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปเยี่ยมยอดที่สุดในโลกแล้ว บรรยากาศการทำงานก็เป็นบริษัทที่สะดวกสบายที่สุดในโลก”
“อย่างไรก็ตามส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่ควรจะมีตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในฟิวเจอร์กรุ๊ป เพราะสองสามวันที่ผ่านมาตอนที่ผมเป็นผู้จัดการทั่วไปของฟิวเจอร์กรุ๊ปผมพบว่าตัวเองเป็นวัตถุที่น่าเบื่อสำหรับพวกพนักงาน”
“คุณตู้ทำไมคุณถึงคิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ควรมีผู้จัดการทั่วไป และทำไมถึงโดนเกลียดครับ?” นักข่าวถาม
“ในฐานะผู้จัดการเราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของพนักงานในบริษัท แต่ทว่าในฟิวเจอร์กรุ๊ปดูเหมือนว่าบริษัทจะไม่ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ ตราบใดที่คุณทำงานได้สำเร็จคุณก็มีอิสระ นี่คือทัศนคติการทำงานของคุณอู๋ฮ่าวเหริน”
“ในกรณีนี้มันขัดแย้งกับตำแหน่งผู้จัดการอย่างพวกเรา ถ้าเราไม่จัดการอะไรมันก็เป็นเหมือนการละทิ้งหน้าที่”
“คุณคิดอย่างไรกับบรรยากาศการทำงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ คุณตู้?”
“ดีมากเลยครับ ในฟิวเจอร์กรุ๊ป คุณเคยได้ยินพนักงานของบริษัทเคยบ่นว่าพวกเขาเหนื่อยหรือไม่มีความสุขบ้างไหม? ไม่เลย ผมคิดว่าบริษัทประเภทนี้เป็นสิ่งที่มีความสุขสำหรับพนักงานธรรมดาในนั้น แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นพนักงานในฝ่ายการเงินคุณก็ต้องเป็นคนจิตใจดี”
คำพูดสุดท้ายของตู้เฟยย้ำเตือนเหล่าผู้สื่อข่าวว่าถึงแม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพียงไม่กี่วัน แต่เขาก็ต้องรู้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปมีเงินมากเท่าไร
“คุณตู้ คุณช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปทำรายได้ได้มาสักเท่าไร?”
ตู้เฟยส่ายหัวและกล่าวว่า “ผมตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอก ผมรู้แค่ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปรวยมาก”
นักข่าวต่างพากันผิดหวัง
พวกเขาต้องการทราบว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปมีเงินมากเท่าไร แต่สำหรับคำถามนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยากรู้อยากเห็นสักเท่าไรก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่แม่นยำสักที
“ท้ายสุดนี้ ผมอยากจะบอกบรรดาผู้สมัครว่าให้รอบคอบในการสมัคร บริษัทนี้เป็นพิษ นอกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแล้ว ถ้าคุณสมัครตำแหน่งอื่นในบริษัทตราบใดที่คุณได้เข้าไปทำงานคุณจะไม่คิดที่จะลาออกบริษัทนี้เลย”
ตู้เฟยเดินจากไป พวกผู้สื่อข่าวเริ่มตัดต่อคำพูดของเขาและใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเผยแพร่ข่าวออกมา
ผู้สื่อข่าวจับคำพูดสุดท้ายของตู้เฟยที่ว่า: บริษัทนี้เป็นพิษ และคนที่เข้าไปแล้วจะไม่อยากออก
เมื่อพวกเขาเริ่มสืบจากพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป แม้แต่พนักงานในร้านค้าพิเศษ พวกเขาต่างก็พยายามหาวิธีที่จะติดต่อและสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานการสืบข้อมูลที่แปลกว่า พนักงานทั้งหลายของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะไม่ลาออกจากฟิวเจอร์กรุ๊ปถึงแม้ว่าจะมีที่อื่นที่ให้ค่าจ้างสูงกว่า
นอกจากบรรยากาศการทำงานที่มีความสุข เหตุผลสำคัญที่สุดที่พวกเขาเต็มใจที่จะอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็คือสวัสดิการของฟิวเจอร์กรุ๊ป เมื่อนักข่าวเผยแพร่ผลสำรวจนี้ทางออนไลน์ บางคนก็เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสวัสดิการของฟิวเจอร์กรุ๊ป
แท้จริงแล้วมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร เมื่อพวกเขาเห็นผลประโยชน์ที่จะได้รับ พวกเขาต่างก็คิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนี้เป็นพิษ และเป็นพิษสูงมาก แน่นอนว่าเป็นบริษัทที่ใครก็ตามที่ได้เข้ามาทำงานจะไม่อยากออกไปไหนเลย
ในโลกอินเตอร์เน็ตผู้คนต่างจับจ้องประกาศรับสมัครงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปและต้องการที่จะพยายามหาโอกาสเพื่อเข้ามาทำงานในฟิวเจอร์กรุ๊ป
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทจะยังคงมีประกาศรับสมัครงาน นายหน้าจัดหางานส่วนมากเป็นผู้มีความสามารถทางด้านการวิจัย ดังนั้นคนพวกนั้นก็ถึงคราวต้องผิดหวัง
ไม่นานหลังการสัมภาษณ์ของอู๋ฮ่าวเหรินพร้อมด้วยตู้เฟยถูกรายงานออกไป การรับสมัครในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปถูกยกเลิกไปโดยปริยาย และบริษัทก็ไม่มีตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแล้ว
สำหรับการรายงานข่าวในโลกออนไลน์ เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับข่าวพวกนั้นและไม่ได้ให้ลิ่วหมิงเยว่ตอบโต้ใดๆ
อย่างไรก็ตาม เขากลับใส่พื้นที่หอพัก สำหรับพนักงานที่ขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แจ้งไว้บนเว็บไซต์หลักได้เลย
“ดูสิ มีประกาศรับสมัครงานอีกแล้ว คราวนี้เป็นพนักงานบริการจ้างให้ทำงานในพื้นที่หอพักของฟิวเจอร์กรุ๊ป”
“โค้ชสร้างร่างกาย นี่เขาจะเปิดยิมในฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างนั้นหรือ?”
“ข้อมูลของเธอนี่มันช่างล้าหลังจริง ฉันไม่รู้ว่ามันมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างในหอพักที่ถูกสร้างโดยบริษัทให้แก่พนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป ไม่นะ ฉันจะลองพยายามดู มันดึงดูดใจมากๆ เลย”
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะการให้สัมภาษณ์ของตู้เฟยและการรายงานข่าว ถึงสวัสดิการของพนักงานในฟิวเจอร์กรุ๊ป การประกาศรับสมัครงานตราบใดที่มันเหมาะสม ไม่ว่าจะมีงานหรือไม่ก็ตาม พวกเขาก็ยังจะพยายามต่อไป
อู๋ฮ่าวเหรินเข้าในโอกาสนี้เป็นอย่างดี ถ้าเขาไม่ปล่อยข่าวประกาศรับสมัครงานในตอนนี้ก็จะไม่มีผู้สมัครมากมายถึงเพียงนี้
เดิมทีแล้วเขาออกจากออฟฟิศเพื่อไปที่ห้องทดลอง ทันใดนั้นเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจื่อหยง ขอให้เขาไปดูหุ่นยนต์ต่อสู้ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่ต้องการที่เดินหน้าไกลเกินไปในตอนนี้ แค่ไปที่เขตทหาร
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คาดหวังว่าพวกมันจะมีความเร็วมากและเขาก็ไม่รู้ว่าหุ่นยนต์ต่อสู้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
เมื่อเขาไปถึงที่ค่ายที่ภูเขาด้วยรถยนต์ ก็พบว่ามีเครื่องบินจอดรอเขาอยู่
“คุณอู๋ มีสิ่งพิเศษบางอย่างอยู่ที่จุดหมายปลายทาง อย่างเพิ่งตื่นเต้นเกินไปนะครับ”
พิเศษ ตื่นเต้น อู๋ฮ่าวเหรินมีข้อสงสัยว่ามันคืออะไรและเขาดูไม่ค่อยอยากจะไปดูหุ่นยนต์
จุดหมายปลายทางในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้วโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ไปที่เขตฐานทัพ
ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ลงจอดบนพื้นหญ้าและเขาก็มองไปรอบๆ เขาไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน
“เชิญทางนี้ครับคุณอู๋ ผมชื่อหม่าลี หัวหน้าของกองกำลังภาคสนาม”
“สวัสดีครับหัวหน้าหม่า”
ภายในรถจี๊ปของทหาร ภายใต้การคุ้มกันของกองทหาร อู๋ฮ่าวเหรินก็มาถึงที่หมายในไม่ช้า ฐานฝึกกองกำลังภาคสนาม
———————-

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด