อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 244

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 244 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 244 ทำให้เห็นภาพ
เมื่อต้องตอบคำถามของพิธีกร เฉินเจิ้นหนิงจึงตอบไปว่า
“ถ่ายรูปหกใบส่งไป พวกปัญญาประดิษฐ์จะได้เข้าใจสักที ปัญหามันชักจะเยอะไปแล้ว”
ช่างจากฝั่งกูเกิลมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนี้เพราะถ้าต้องทำตามที่เฉินเจิ้นหนิงว่า การจดจำสำหรับปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขาจะมีปัญหาแน่
และเขาก็พูดขึ้นด้วยความรีบร้อน “เดี๋ยวผมจะทำข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบของลูกบาศก์ เดี๋ยวนายส่งข้อมูลแบบมาให้ฉันด้วย”
พิธีกรเจ้าภาพมองไปยังเฉินเจิ้นหนิง ก่อนจะถามว่าเขาทำได้หรือเปล่า เพื่อให้การแข่งยุติธรรมเหมือนๆกัน
“พวกเราไม่ได้สนใจอยู่แล้ว พวกเขาชอบตีกลองอย่างงั้นใช่ไหม ก็ให้เล่นไป เอาล่ะ คุณช่วยถ่ายรูปหกใบใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์เราทีครับ”
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้ฝ่ายช่างของกูเกิลตกที่นั่งลำบาก ถ้าทำสร้างรูปแบบข้อมูลขึ้นมา พวกเขาก็อาจจะทำผิดพลาดได้ และแม้ว่าจะชนะ ก็ดูเป็นชัยชนะที่ไม่สมเกียรติเอาเสียเลย
“เอาไงดีครับ ผมกลัวว่าแองเจิลของเราจะจดจำมันไม่ได้ถ้าผมส่งรูปไปที่คอมพิวเตอร์”
ชมิดท์จึงพูดขึ้น “โอเคแล้วน่า แค่ฝ่ายของเราจดจำไม่ได้ ในกรณีแบบนี้ ฝ่ายของพวกเขากลับทำได้ อย่าใจเสียให้เสียใจเลย”
“คุณพิธีกรครับ พวกเราก็ใช้กระบวนการแบบนี้ ถ่ายรูปส่งไปคอมพิวเตอร์”
“ฉันคิดว่านายควรจะไปสร้างรูปแบบข้อมูลมานะ แล้วนี่ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกนาย แต่ปัญญาประดิษฐ์แองเจิลนั่นดูเป็นหุ่นที่ยังสร้างไม่สมบูรณ์เลย จะจดจำสถานการณ์ก็ยังไม่ได้จริงๆ” เฉินเจิ้นหนิงออกความเห็น
เขาพูดผ่านเครื่องส่งสัญญาณจึงทำให้ใครๆก็ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมหรือที่กำลังชมการถ่ายทอดนี้ พวกเขาต่างรู้สึกเหมือนกันว่าเขากำลังเยาะเย้ยคนจากกูเกิล
เมื่อนึกไปถึงในสิ่งที่กูเกิลได้พูดก่อนเกมจะเริ่ม รวมถึงรายงานมากมายบนอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว และถ้ามองจากสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาต่างรู้สึกว่ากูเกิลกำลังทำให้ตัวเองดูเป็นตัวตลกในการแข่งครั้งนี้
“ไม่ต้องพูดย้ำนักหรอก เราต่างรู้ดีว่านี่ก็ยุติธรรมทั้งสองฝ่าย”
เฉินเจิ้นหนิงส่ายหน้า เขาก็แค่พูดด้วยความหวังดี ไม่ได้เจตนาอื่นใดแฝง
แม้จะบอกว่าเพื่อนก็คือศัตรู แถมพวกเขายังแข่งกันอยู่ แต่ทว่าการวิจัยปัญญาประดิษฐ์นั้นมีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งบนโลก
เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายตัดสินใจที่จะใช้วิธีนี้ พิธีกรจึงกล่าวขึ้น “ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างตัดสินใจที่จะถ่ายรูปทั้งหกรูปอัพโหลดลงในคอมพิวเตอร์และจากนั้นก็จะให้ปัญญาประดิษฐ์แยกมันออกมา”
ผมเองก็ไม่ทราบว่า ในกรณีนี้ปัญญาประดิษฐ์จะจดจำและแก้ปริศนาคิวบิคนี้ได้หรือไม่ มารอดูกันครับ”
เขาเดินไปหาชายและเด็กน้อยคนดังกล่าวซึ่งรออยู่ตรงนั้น “คุณนอร์ทครับคุณเลือกรูปเองได้เลยครับ แม็กซ์ครับ มาหาลุงนี่มา แล้วก็บอกให้พ่อเลือกรูปนะลูก แล้วถ้าเลือกเสร็จก็กดปุ่มสีเขียวได้เลยครับ”
นอร์ทรู้สึกชอบใจที่ได้ใช้อุปกรณ์ที่ได้มาจากทางผู้จัดและเริ่มถ่ายรูป เมื่อรูปทั้งหกถ่ายเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงนำไปแสดงบนหน้าจอใหญ่
ทางพิธีกรจึงพูดขึ้น “มานี่สิ แม็กซ์ ตาหนูแล้ว กดปุ่มสีเขียวนะครับ แล้วเดี๋ยวเรามาดูลูกคิวบิคของหนูกัน ดูซิว่าเราจะหมุนมันได้สำเร็จไหม”
หนูแม็กซ์เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับกดปุ่มสีเขียว หลังจากที่ภาพได้ถูกส่งไปแล้วนั้น ภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เริ่มเปลี่ยน
นี่ล่ะคือกระบวนการที่ใช้แยกแยะ สองวินาทีต่อมา หมายเลขศูนย์จากฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ให้คำตอบได้แล้ว
ส่วนแองเจิลจากกูเกิลก็กำลังแยกแยะอยู่ และดูเหมือนว่ากำลังเจอกับปัญหาบางอย่างที่ทำให้ช่างในกูเกิลต่างกังวล
เมื่อมองไปที่หมายเลข 0 จากฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อ และในเวลาเดียวกัน ก็มีความคิดบางอย่างที่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ
นาทีต่อมา พิธีกรเจ้าบ้านมองสีหน้าของแองเจิลจากกูเกิลที่ยังดูเหมือนเดิม ก่อนจะกล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าแองเจิลของเราจะทำไม่สำเร็จนะครับ เขาไม่สามารถจำรูปทั้งหกใบได้ ถ้าอย่างงั้น เดี๋ยวเรามาดูของหมายเลข 0 จากฟิวเจอร์กรุ๊ปกันบ้างนะครับว่าเขาสามารถไขปริศนาลูกบาศก์แสนกลนี้ได้หรือเปล่า”
รูปภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่เปลี่ยนไปโดยทันที ถัดจากย่อหน้าข้อความนั้นปรากฏวิดีโอฉายขึ้นมาเป็นภาพการหมุนรูบิคนั่นเอง
นี่เป็นการผสมผสานกันระหว่างการใช้ข้อความอธิบายและการสาธิตด้วยวิดีโอ เพียงสามวินาที ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่เพียงแค่มีขั้นตอนแต่ยังทำเป็นวิดีโอออกมา สิ่งนี้ช่างน่าเหลือเชื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม หมายเลขรวมถึงที่นอร์ทกับแม็กเลือกขึ้นดู ไม่ได้เป็นสิ่งที่เตรียมไว้มาก่อนล่วงหน้า
“จริงๆหรือนี่ พระเจ้า ปัญญาประดิษฐ์หมายเลข 0นี่ฉลาดสุดๆไปเลยครับ ในกรณีนี้ ไม่ใช่แค่แก้กลคิวบิคได้ แต่ยังทำวิดีโอออกมาให้ดูได้อีก”
“ผมล่ะหวังจริงๆเลยครับว่าจะมีปัญญาประดิษฐ์แบบนี้บ้าง เขาคงช่วยผมแก้ปัญหาได้หลายเรื่อง”
“เรื่องที่คุณหวังคงอีกไม่ไกลหรอกครับ ทางกลุ่มเราจะสร้างปัญญาประดิษฐ์และผลักดันผลิตภัณฑ์ตัวนี้ แต่ตอนนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องใช้ฐานข้อมูลสนับสนุนเป็นจำนวนมาก”
“และนั่นก็จะสามารถเปิดฟังก์ชันออนไลน์ได้ ให้เราจ่ายเงินเพื่อได้ปัญญาประดิษฐ์แบบนี้ก็ถือว่าคุ้มเลยนะครับ”
“ดูกูเกิลท่าจะแย่แล้วนะครับ พวกเขาไปต่อไม่ได้แล้วในเกมนี้ แบบนี้ผมเองก็เดาเกมหน้าพวกเขาได้เลยล่ะครับ”
“ใช่แล้ว แต่ก่อนที่การแข่งจะเริ่ม ดูเหมือนว่าทางกูเกิลเองก็มีการโปรโมตอย่างแข็งขัน แต่ฟิวเจอร์กรุ๊ปกลับไม่ได้โปรโมตอะไรเลย ผมเองก็คิดนะว่ากลุ่มนี้ยังไงก็ต้องแพ้กลับไปแน่ แต่ว่าตอนนี้ ผมก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้”
ในตอนนี้ ช่างจากฝั่งกูเกิลเริ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขามองวิดีโอที่ฉายอยู่บนหน้าจอ ซึ่งนั่นไม่ต่างกับการถูกตบหน้าอย่างแรง
ภายในฟิวเจอร์กรุ๊ป หวังหลานเชื่อในสิ่งที่ เฉินเจิ้นหนิงพูดไว้แล้วในตอนนี้ และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมผู้บริหารถึงไม่มา บางทีนี่อาจจะเป็นอย่างที่ท่านผู้บริหารพูดไว้ว่านี่เป็นแค่เกม เขาจึงไม่ได้สนใจอะไร
ชมิดท์ไม่สามารถข่มใจให้เย็นลงได้แล้วในตอนนี้ เขาจ้องมองไปที่ช่างจากฟิวเจอร์กรุ๊ปพลางรู้สึกว่าการทดสอบในครั้งนี้นั้นไม่มีความหมาย
เพราะการแข่งขันครั้งนี้ในลักษณะแบบนี้นั้นไม่มีวันที่จะทดสอบปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้หรอกว่ามันทรงพลังแค่ไหน
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง เขาก็เปลี่ยนเกมในครั้งนี้ไม่ได้ มีแต่ต้องลองเสี่ยงดู
มาถึงตอนนี้ พิธีกรจึงกล่าวขึ้นว่า “เอาล่ะครับ ผลออกมาแล้ว และเวลานี้ ก็คงไม่จำป็นต้องโหวตอีก ผมขอประกาศว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปของประเทศจีนเป็นฝ่ายได้ชัยชนะนี้ไปครับ”
“เป็นการแข่งที่สุดยอดจริงๆ ฉันสามารถเห็นพลังของปัญญาประดิษฐ์ได้ด้วย และที่คาดไม่ถึงอ่ะนะ ในกรณีนี้ ปัญญาประดิษฐ์สามารถแยกแยะเองได้และตอบคำถามโดยใช้เวลาแค่สามวินาทีเท่านั้น ฉันล่ะอยากมีปัญญาประดิษฐ์แบบนี้มั่งจัง หวังว่ากลุ่มที่สร้างปัญญาประดิษฐ์จะสร้างพวกนี้ขึ้นมาให้เราได้ใช้ไวๆในอนาคตนะ”
“แล้วตอนนี้ เราจะมาจับฉลากผู้โชคดีจากในนี้กันนะครับ เอาล่ะ ผู้ชม 1698 มาดูกันนะครับว่าเขาจะถามอะไร”
“เอ่อ ท่านผู้ชมท่านนี้ไม่ต้องการขึ้นเวที แต่เขาได้ให้คำถามมาแล้วครับ ตายจริง เขาถามคำถามแบบนี้มาได้อย่างไรกัน ผมไม่รู้ว่าปัญญาประดิษฐ์จะไปเป็นไหมนะครับกับคำถามแบบนี้ นี่เป็นคำถามเชิงปรัชญา และเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ขึ้นมาบนนี้ก็คงจะเป็นเพราะกลัวว่าจะโดนคนจากสองทีมฆ่าเอาน่ะครับ”
เมื่อได้เห็นคำถามบนหน้าจอใหญ่ ก็เกิดแรงกระตุ้นที่อยากจะตามตัวเขาให้พบแล้วอัดสักป้าบ
“ขอโทษนะครับ ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อน”
แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาเองก็อยากจะรู้ว่าปัญญาประดิษฐ์จะตอบคำถามนี้เช่นไร
ถ้าเป็นความเห็นแค่จากมุมมองเชิงชีววิทยา ผมเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นสามารถตอบได้
แต่เห็นได้ชัดว่า คนที่ตั้งคำถามนี้ไม่ได้ต้องการคำตอบในมุมมองของชีววิทยา แต่เป็นปรัชญาต่างหาก
——————–

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด