The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่27 เจอต้นไม้ดีๆแต่ดันมีสัตว์อสูรเฝ้าแล้วสิ

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Great Geneticist in Apocalypse ตอนที่ 27 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่27 เจอต้นไม้ดีๆแต่ดันมีสัตว์อสูรเฝ้าแล้วสิ

กลุ่มลับวันนี้อาจลงถึงตอนที่30นะ

“เอาละไปที่หอพักหญิงดีกว่า” เบลซพึมพำกับตัวเองในใจ

เบลซและพวกเข้าไปในถนนย่อย เนื่องจากพวกผมไม่รู้ว่าเพื่อนของเอลลี่อยู่ตึกไหนเลยให้เธอนำทางไป เบลซสังเกตไปรอบทิศทางของถนน

“แปลกจังแฮะไม่เจอสัตว์อสูรเลย?” ชินขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดเบาพอให้ได้ยินแค่เฉพาะในกลุ่ม

“อืม” เบลซพยักหน้ารับเขาก็ว่ามันแปลกจริงๆ และก็มีลางสังหรณ์แปลกๆด้วย

แต่ตอนนั้นเองเขาก็นึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมาตอนที่เขาเจอกับราชสีห์อเวจีเพลิงกัลป์

“สาเหตุที่ไม่มีสัตว์อสูรอยู่เพราะว่านี้เป็นอาณาเขตของสัตว์อสูรที่แกร่งมาก”

“แต่ว่านี้มันช่วงแรกของการวิวัฒนาการยังไงก็มีแค่สิ่งมีชีวิตสีขาวตัวอะไรกันถึงได้แกร่งขนาดนั้น? แถวในเมืองสัตว์สายเลือดโหดๆก็น่าจะย้ายไปหมดแล้วจะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่เฝ้าพื้นที่คล้ายๆหัวหน้าเขต……หรือว่าแถวนี้จะมีอะไรดีๆ?”

เบลซสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วบอกเพื่อนๆให้รีบมุ่งหน้า ไปยังหอพักหญิง

“เย่! ตึกตรงนั้นไงจะถึงแล้วหละ” เอลลี่พูดก่อนที่จะชี้ไปที่ทางๆหนึ่ง

ตอนนั้นเองเบลซสังเกตเห็นว่าตรงข้ามกับตึกมันมีสวนอยู่แล้วก็มีต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่เกือบๆตรงกลางของสวนต้นไม้สูง4-5เมตรมีใบสีขาวขุ่นต้นโคนลำต้นของมันเจริญเติบโตจนเป็นหนามใหญ่ๆเต็มไปหมดทังลำต้นและใบของมันสะท้อนแสงออกมาเป็นสีรุ้งและมีม่านรูปทรงเป็นส่วนหนึ่งของทรงกลมคล้ายๆบาเรียแสดงถึงความพิเศษอย่างชัดเจน

ถ้าคนอื่นมาเห็นก็คงแค่คิดว่ามันพิเศษแต่ว่าเบลซรู้ว่ามันคืออะไร

มันคือต้นคริสตัลแบรีเออร์ เป็นต้นไม้ที่เวลาเอาเข้าไปในฐานแล้วจะสามารถสร้างบาเรียออกมาได้

จะบอกว่าในโลกของจางหลงตอนแรกๆจะมีคนเข้าไปผิดระหว่างฐาน,ที่มั่น,และแหล่งกบดานเยอะ ทั้งสามถึงโดยรวมมันก็คือฐานที่มั่นแต่ว่ามันก็ต่างกัน

คือฐานโดยรวมแล้วคือฐานที่เราไปยึดมาจากระบบซึ่งพอมันเป็นของมนุษย์มันจะสร้างบาเรียออกมาป้องกันฐานทำให้สัตว์อสูรไม่สามารถเข้ามาโจมตีเมืองได้ แต่ว่าก็จะมีช่วงที่ต้องพักเบรกบาเรียเหมือนกันซึ่งช่วงนั้นจะเป็นช่องว่างให้เราต้องป้องกันสัตว์อสูร

และแน่นอนว่าต้นไม้คริสตัลแบรีเออร์สามารถสร้างบาเรียครอบทั้งฐานได้ถึงมันจะไม่แข็งแรงเท่ากับบาเรียที่สร้างจากฐานซึ่งไม่มีทางถูกทำลายแต่ว่าก็สามารถต้านการโจมตีได้เยอะอยู่ มีประโยชน์มหาศาลในตอนที่ฐานไร้การปกป้องจากบาเรีย

แน่นอนว่าเบลซที่มีช่องเก็บของสามารถเก็บมันไปได้อย่างแน่นอน

แต่ว่าตรงต้นแบรีเออร์ต้นนั้นก็ดันมีตัวอะไรบางอย่างเนี่ยสิ

มันมีรูปร่างคล้ายๆจิ้งจกแต่ว่ามันตัวใหญ่มากมันมีความยาวประมาณ3เมตรสีเขียวมีเกล็ดเล็กๆเต็มไปหมดและลวดลายสีดำที่ดูเหมือนเวทมนต์บางอย่าง

มีแค่หนึ่งตัว ร่างของมันดูกลมกลืนอยู่รอบๆต้นไม้ หัวของมันส่ายไปมารอบๆ เมื่อมันเหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเบลซและพรรคพวกเพราะมันหันหน้าจ้องหาพวกเขาทันทีตั้งแต่อยู่ไกลๆ

“เดี๋ยวหยุดก่อน” เบลซยกมีทำสัญญาณหยุดแล้วก็ชี้ให้เพื่อนๆเห็นจิ้งจกยักษ์ที่อยู่ตรงข้ามกับหอพักที่จะไปตรงนั้น

“นั้นตัวอะไรหนะ” เอลลี่ถามด้วยความตกใจ คนอื่นก็ดูจะอึ้งๆเหมือนกัน

“เอ๋? พวกนายไม่เห็นหรอ? แล้วต้นไม้ต้นนั้นหละ”

“ต้นไหน?หละมีอะไรรึปล่าว” จางมู่สงสัย

“ที่อยู่ตรงกลางไงที่มีใบสีขาวสะท้อนแสงสีรุ้งหนะ”

“นายสายตาผิดปกติรึปล่าวเราไม่เห็นอะไรเลยนะเอาจริงๆนายตาดีมากที่เห็นเจ้าจิ้งจกนั้นแต่ต้นไม้มันใหญ่มากนะ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะไม่เห็น”

เบลซหันไปหาเจ้าดาบน้อยแล้วถาม “นายเห็นรึปล่าว”

“หงึก หงึก” เจ้าดาบน้อยพยักหน้า

“ชิบหายละสัตว์อสูรธาตุขั้นสูงแหงมๆไม่มืดก็แสงหละ”

เบลซคำนวนเอาจากความสามารถการที่เพื่อนๆของเขาไม่เห็นแต่เขาเห็นแสดงว่าไม่ใช่ภาพลวงตาตามธรรมชาติแต่ว่าเกิดจากพลังธาตุที่ใช้Spiritualityสร้างขึ้นมาเพราะว่าเบลซและเจ้าดาบน้อยที่มีระดับสูงขึ้นมาหน่อยจะมีคุณภาพของพลังจิตวิญญาณที่เข้มข้นกว่าถึงสามารถมองเห็นมันได้ แต่ว่าเพื่อนของพวกเขาระดับน้อยเกินไปเลยไม่เห็นอะไรเลย และมันก็เกิดจากการบิดเบือนของแสงทำให้สิ่งที่เห็นไม่ใช่ความจริงแต่ว่ามันเหมือนจะไม่สามารถเปลี่ยนสภาพตัวเองได้หรือจงใจก็ไม่รู้แต่ว่าเปลี่ยนสภาพรอบๆตัวของมันได้แน่นอน

“ที่สำคัญคือมันเป็นธาตุมืดหรือธาตุแสง” เบลซคิดในใจ

จริงๆแล้วสองธาตุนี้ถึงจะดูต่างกันสุดขั้วแต่ว่าความจริงแล้วมันก็มีส่วนที่แทบจะเหมือนกับธาตุเดียวกันด้วยซ้ำ

ถ้าพูดง่ายๆแสงก็คือแสงสว่างหมายความว่ามีปริมาณแสงที่มาพอให้เราสามารถมองเห็นได้

ส่วนความมือคือที่ๆไม่มีปริมาณแสงหรือมีแต่ว่าไม่มากพอที่จะทำให้มองเห็นได้

ความสามารถของสองธาตุนี้มันมีคุณสมบัติการบิดเบือนแสงเหมือนกันที่เพียงแต่ว่าส่วนที่ต่างกันคือเมื่อรวบรวมแสงจะได้พลังงานหรือก็คือความร้อนสุดขั้ว

แต่ความมืดถ้ารวบรวมมันจะได้ความเย็นสุดขั้ว นี้คือส่วนที่ต่างแต่ในด้านการบิดเบือนหรือหักเหแสงมีเหมือนกันทั้งคู่มันไม่จำเป็นว่าธาตุมืดจะไม่สามารถหักเหแสงในตอนเช้าได้หรือธาตุแสงไม่สามารถบิดเบือนแสงในตอนกลางคืนได้ เพียงแต่ว่าถ้าสภาพแวดล้อมเป็นธาตุเดียวกันก็จะประหยัดพลังจิตวิญญาณและมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ฉะนั้นโดยรวมแล้วนอกจากทักษะ คุณสมบัติด้านการควบคุมแสงของมันแทบจะไม่ต่างกันเลย

“ดูจาก ลายที่ตัวคงจะธาตุมืดหละมั้ง”

“แต่แน่นอนว่ายิ่งมันเก่งของที่ได้ก็ยิ่งดี ถึงระดับมันน่าจะสูงแต่ก็ไม่เกิน8ถ้าเรากับเจ้าดาบน้อยรุมหละก็พอไหวแล้วก็อาจจะให้เพื่อนรุมในบางครั้ง”

“ทุกคนอยู่ตรงนี้ก่อนนะให้ฉันเข้าไปลุยก่อนพอสัญญาณแล้วก็ค่อยตามมาสมทบ” แล้วเบลซก็ขี่หลังเจ้าดาบน้อยก็ที่จะพูดกับมันว่า “บุก!”

เอารูปต้นไม้กับจิ้งจกไป

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด